Remove ads
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อานเต ปาเวลิช (โครเอเชีย: Ante Pavelić; 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1889 – 28 ธันวาคม ค.ศ. 1959) เป็นนักการเมืองชาวโครเอเชีย ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าองค์กรชาตินิยมสุดโต่งฟาสซิสต์ที่รู้จักกันในชื่อ "อูสตาเช" ใน ค.ศ. 1929 และเป็นผู้นำเผด็จการของรัฐเอกราชโครเอเชีย (NDH) รัฐหุ่นเชิดฟาสซิสต์ที่ก่อตั้งขึ้นในพื้นที่บางส่วนของเขตยึดครองยูโกสลาเวียของนาซีเยอรมนีและฟาสซิสต์อิตาลีตั้งแต่ ค.ศ. 1941 ถึง ค.ศ. 1945 ปาเวลิชและอูสตาเชได่ข่มเหงชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติและฝ่ายค้านทางการเมืองจํานวนมากในสมัยรัฐเอกราช ซึ่งรวมถึงชาวเซิร์บ ชาวยิว ชาวโรมานี และกลุ่มต่อต้านฟาสซิสต์ เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่มีส่วนในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเซิร์บ ชาวโรมานี และฮอโลคอสต์ในรัฐเอกราชโครเอเชีย[1][2][3]
ปอกลาฟนีก อานเต ปาเวลิช | |
---|---|
ปาเวลิชในเครื่องแบบอูสตาเชเมื่อ ค.ศ. 1942 | |
ปอกลาฟนีกแห่งรัฐเอกราชโครเอเชีย | |
ดำรงตำแหน่ง 10 เมษายน ค.ศ. 1941 – 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าตอมิสลัฟที่ 2 (ค.ศ. 1941–1943) |
นายกรัฐมนตรี |
|
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | ยกเลิกตำแหน่ง |
นายกรัฐมนตรีรัฐเอกราชโครเอเชีย คนที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 16 เมษายน ค.ศ. 1941 – 2 กันยายน ค.ศ. 1943 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าตอมิสลัฟที่ 2 |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | นิกอลา มันดิช |
รัฐมนตรีว่าการกองทัพรัฐเอกราชโครเอเชีย คนที่ 2 | |
ดำรงตำแหน่ง 4 มกราคม ค.ศ. 1943 – 2 กันยายน ค.ศ. 1943 | |
นายกรัฐมนตรี | ตัวเอง |
ก่อนหน้า | สลาฟกอ กวาเตร์นีก |
ถัดไป | มิรอสลัฟ นาฟราติล |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐเอกราชโครเอเชีย คนที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 16 เมษายน ค.ศ. 1941 – 9 มิถุนายน ค.ศ. 1941 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าตอมิสลัฟที่ 2 |
นายกรัฐมนตรี | ตัวเอง |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | มลาเดน ลอร์กอวิช |
สมาชิกรัฐสภายูโกสลาเวีย | |
ดำรงตำแหน่ง 11 กันยายน ค.ศ. 1927 – 7 มกราคม ค.ศ. 1929 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าอาเล็กซานดาร์ที่ 1 |
นายกรัฐมนตรี |
|
เขตเลือกตั้ง | ซาเกร็บ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1889 บราดินา บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี |
เสียชีวิต | 28 ธันวาคม ค.ศ. 1959 ปี) มาดริด ประเทศสเปน | (70
สาเหตุการเสียชีวิต | ภาวะแทรกซ้อนจากบาดแผลกระสุนปืน |
ที่ไว้ศพ | สุสานซานอิซิโดร มาดริด |
เชื้อชาติ | โครเอเชีย |
พรรคการเมือง | อูสตาเช (ค.ศ. 1929–1945) |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น |
|
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยซาเกร็บ |
อาชีพ | นักการเมือง |
วิชาชีพ | นักกฎหมาย |
ลายมือชื่อ | |
ปาเวลิชเริ่มต้นอาชีพการงานของเขาด้วยการเป็นนักกฎหมายและนักการเมืองของพรรคแห่งสิทธิในราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย เขาเป็นที่รู้จักจากความเชื่อในชาตินิยมและการสนับสนุนเอกราชของโครเอเชีย โดยในช่วงปลายทศวรรษ 1920 กิจกรรมทางการเมืองของเขาเริ่มมีความหัวรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการเรียกร้องให้ชาวโครแอตก่อกบฏต่อต้านยูโกสลาเวีย และได้วางแผนให้อิตาลีแยกโครเอเชียเป็นรัฐในอารักขาออกจากยูโกสลาเวีย หลังจากสมเด็จพระเจ้าอาเล็กซานดาร์ที่ 1 ทรงประกาศระบอบเผด็จการ 6 มกราคม เมื่อ ค.ศ. 1929 และสั่งห้ามพรรคการเมืองทั้งหมด ปาเวลิชจึงเดินทางออกนอกประเทศและได้วางแผนร่วมกับองค์กรปฏิวัติมาซิโดเนียภายใน (IMRO) ในการบ่อนทําลายรัฐยูโกสลาเวีย ซึ่งกระตุ้นให้ทางการยูโกสลาเวียได้พิจารณาคดีและตัสินประหารชีวิตเขา ในระหว่างนี้ ปาเวลิชย้ายไปยังอิตาลีและได้ก่อตั้งอูสตาเช ซึ่งเป็นขบวนการชาตินิยมโครเอเชียที่มีเป้าหมายในการจัดตั้งเอกราชของโครเอเชียไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ซึ่งรวมถึงการใช้ความรุนแรง[4][5][6][7] ปาเวลิชได้รวมกิจกรรมก่อการร้ายไว้ในโครงการของอูสตาเชด้วย เช่น การระเบิดรถไฟและการลอบสังหาร การก่อจลาจลที่เมืองลิกาใน ค.ศ. 1932 จนถึงการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าอาเล็กซานดาร์ใน ค.ศ. 1934 ปาเวลิชถูกตัดสินประหารชีวิตอีกครั้งหลังจากถูกพิจารณาคดีในฝรั่งเศส แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อพิจารณาคดีก็ตาม แต่เนื่องจากแรงกดดันจากนานาชาติ ทางการอิตาลีจึงจําคุกเขาเป็นเวลา 18 เดือน และกิจกรรมของอูสตาเชส่วนใหญ่ถูกปิดกั้นในช่วงเวลานี้
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1941 สลาฟกอ กวาเตร์นีก สมาชิกอาวุโสอูสตาเช ประกาศจัดตั้งรัฐเอกราชโครเอเชียในนามของปาเวลิชตามคำสั่งของเยอรมนี โดยเขาเรียกตนเองว่า "ปอกลาฟนีก" (โครเอเชีย: Poglavnik) หรือผู้นำสูงสุด ปาเวลิชเดินทางกลับจากอิตาลีและเข้าควบคุมรัฐบาลหุ่นเชิด เขาได้ก่อตั้งระบบทางการเมืองที่คล้ายคลึงกับฟาสซิสต์อิตาลีและนาซีเยอรมนี แม้ว่ารัฐเอกราชจะก่อตัวขึ้นในพื้นที่เกรตเทอร์โครเอเชีย แต่อิตาลีก็บังคับให้สละดินแดนหลายแห่งเป็นสัมปทานให้กับฝ่ายหลัง หลังจากการขึ้นสู่อำนาจ ปาเวลิชได้กำหนดนโยบายต่อต้านชาวเซอร์เบียและชาวยิว ซึ่งทำให้มีชาวเซอร์เบียและชาวยิวมากกว่า 100,000 รายเสียชีวิตในค่ายกักกันและค่ายสังหาร[2][3] นอกจากนี้ยังมีการสังหารและทรมานชาวเซอร์เบียหลายแสนคน[8][9] รวมถึงชาวโรมานีและชาวยิวอีกหลายหมื่นคน[10][11] เหตุการณ์เหล่านี้ถูกเรียกว่า "โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโกสลาเวีย"[12]
ใน ค.ศ. 1945 ปาเวลิชสั่งประหารนักการเมืองคนสำคัญของรัฐเอกราชอย่างมลาเดน ลอร์กอวิช และอานเต วอกิช ในข้อหากบฏ เมื่อทั้งสองถูกจับในข้อหาวางแผนขับไล่เขาและจัดแนวร่วมรัฐเอกราชกับฝ่ายสัมพันธมิตร ภายหลังการยอมจำนนของเยอรมนีในเดือนพฤษภาคม ปาเวลิชสั่งให้กองทหารของเขาต่อสู้ต่อไป จากนั้นเขาจึงย้ายรัฐบาลรัฐเอกราชไปที่ออสเตรียเพื่อยอมจํานนต่อต่อกองทัพอังกฤษที่กำลังรุดหน้าเข้ามา แต่ทางอังกฤษปฏิเสธและได้สั่งให้พวกเขายอมจํานนต่อพลพรรคยูโกสลาเวีย
ปาเวลิชลี้ภัยไปยังออสเตรียก่อนที่จะได้หนังสือเดินทางปลอมจากวาติกันและหลบหนีไปยังอาร์เจนตินา เขายังคงมีส่วนร่วมในกิจกรรมฟาสซิสต์[13] ต่อมาเขาทําหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยของฆวน เปรอน ประธานาธิบดีอาร์เจนตินาผู้ให้ที่พักพิงแก่อาชญากรสงครามฟาสซิสต์จํานวนมาก ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1957 เจ้าของโรงแรมชาวเซอร์เบียพยายามสังหารปาเวลิช อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในที่สุดทําให้เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 1959 ด้วยอายุ 70 ปี
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.