คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
หูกวาง
ชนิดของพืช จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
หูกวาง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Terminalia catappa; อังกฤษ: tropical almond) เป็นไม้ยืนต้นประเภทผลัดใบ มีความสูงประมาณ 8–25 เมตร มีเปลือกเรียบ กิ่งแตกรอบลำต้นตามแนวนอนเป็นชั้น ๆ คล้ายฉัตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่ตอนปลายกิ่ง ใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลมเป็นติ่งสั้น ๆ โคนใบสอบแคบ เว้า ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ ขนาดเล็ก มีสีขาวนวล ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ผลเป็นรูปไข่หรือรูปรีป้อม ๆ แบนเล็กน้อยคล้ายเมล็ดแอลมอนด์ มีขนาดกว้างประมาณ 2–5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3–7 เซนติเมตร มีสีเขียว เมื่อแห้งมีสีดำคล้ำ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
Remove ads

Remove ads
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นต้นไม้ยืนต้นอายุยาวนาน สูงได้ถึง 15–25 เมตร เปลือกสีน้ำตาลแกมดำ ลอกออกตามยาว กิ่งก้านแผ่ออกเป็นชั้น กิ่งสีน้ำตาลแกมน้ำตาลหนาแน่นใกล้ยอด[3]
ใบออกสลับ อัดแน่นที่ปลายกิ่ง ก้านใบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5–2 เซนติเมตร รูปไข่แกมขอบขนาน ปลายใบแคบ ยาวประมาณ 12–30 เซนติเมตร กว้าง 8–15 เซนติเมตร ผิวทั้งสองด้านเกลี้ยงเกลาหรือมีขนเบาบางตามแนวแกน เมื่อยังอ่อน ฐานใบแคบ ตัดปลายหรือปลายทู่ เส้นใบ 10–12 คู่[3]
ช่อดอกออกตามซอกใบ เรียบง่าย ยาว แหลมเรียว 15–20 เซนติเมตร ออกดอกจำนวนมาก ดอกสีขาวในระยะเวลาสั้น ๆ มีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยงกลีบเลี้ยงปลายกลีบดอก 0.7–0.8 เซนติเมตร รังไข่หนาแน่นมาก รูปถ้วยบาง กลีบดอก 5 กลีบ เกสรตัวผู้ 10 แฉก ยาว 0.2–0.3 เซนติเมตร[3]
ผลไม่แตกลาย เมื่อสุกสีแดงหรือเขียวอมดำ ทรงรี แบนข้างเล็กน้อย มี 2 ปีก (ปีกกว้าง 3 มม.) ผลยาว 3–5.5 เซนติเมตร กว้าง 2–3.5 เซนติเมตร เกลี้ยงเกลา เมื่อแก่จัดเปลือกผลแบบเปลือกไม้ออกดอกช่วง มี.ค.–มิ.ย. ออกผลช่วง พฤษภาคม, ก.ค.–ก.ย.[3]
สถานะเกือบอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในบางพื้นที่[4][ต้องการคำอ้างอิงเพื่อยืนยัน] โดยทั่วไปอยู่สถานะความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์ (LC)[5]
Remove ads
ถิ่นกำเนิด
เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในเขตร้อนของอนุทวีปอินเดีย, เอเชียอาคเนย์ ไปจนถึงภูมิภาคโอเชียเนียและหมู่เกาะฮาวาย[6] โดยมักจะพบประจำที่บริเวณชายหาดหรือป่าชายหาดริมทะเล[7][4] เพราะเป็นไม้ที่ขึ้นได้ดีในดินแบบดินร่วนปนทราย
การใช้ประโยชน์
มีประโยชน์โดยเปลือกและผลมีรสฝาดมาก ใช้แก้อาการท้องเสีย ย้อมหนังสัตว์ ทำหมึก
เมล็ดในผลรับประทานได้ และให้น้ำมันคล้ายน้ำมันอัลมอนด์
นอกจากนี้แล้วใบของหูกวางโดยเฉพาะใบแห้ง เป็นที่รู้จักดีของผู้นิยมเลี้ยงปลาสวยงามหรือปลากัด เนื่องจากใช้ใบแห้งหมักน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาได้ เพราะสารแทนนินในใบหูกวาง จะทำให้สภาพน้ำมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) สูงขึ้น เหมาะสำหรับใช้เลี้ยงปลาที่มาจากแหล่งน้ำที่มีค่าความเป็นกรดสูง ทั้งนี้ยังช่วยลดการสะท้อนแสงของน้ำ เพื่อให้ปลาสบายตา ไม่เสียสายตา รู้สึกปลอดภัย ไม่ใช้ปากคีดกระจก และใช้รักษาอาการบาดเจ็บของปลากัดได้เป็นอย่างดี เพราะมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี[8]
ข้อเสีย
ไม่ควรปลูกในบริเวณลานจอดรถเนื่องจากผลที่แข็งและใบร่วงมาก หรือมีระบบรากที่ใหญ่และแผ่กว้างซึ่งอาจสามารถทำความเสียหายให้กับสิ่งก่อสร้างโดยรอบ เช่น อาคารหรือพื้นคอนกรีตได้ แต่อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน ระบบรากที่แข็งแรงนี้เป็นโครงสร้างทางวิศวกรรมทางธรรมชาติชั้นดีในการช่วยยึดเกาะกันระหว่างต้นไม้และตลิ่งไม่ให้ถูกน้ำทะเลกัดเซาะได้โดยง่าย นับได้ว่าว่าเป็นต้นไม้ที่สำคัญต่อระบบนิเวศริมทะเลและพื้นที่ชายหาดที่มีลมและคลื่นแรง[4]
ในประเทศไทย
สรุป
มุมมอง
ในยุคหนึ่งนิยมใช้ปลูกในงานภูมิทัศน์ที่มีขนาดโครงการค่อนข้างใหญ่มากเช่น รีสอร์ตริมทะเล และสวนสาธารณะ เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่โตเร็วและแข็งแรงคงทน สามารถเติบโตได้ในพื้นที่แห้งแล้งและดินทุกชนิด โดยเฉพาะในดินปนทรายที่มีพืชน้อยชนิดที่สามารถเติบโตได้ดี อีกทั้งยังมีความสวยงามในแง่ของรูปทรงพุ่มที่ค่อนข้างกลมหรือรูปพีระมิดหนาทึบ นอกจากนั้นยังผลัดใบจากสีเขียวอ่อนเป็นสีส้มแดงดูสดใสสวยงามในฤดูหนาว ช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน[4]
หูกวางเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดตราด และเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยสยาม
หูกวางยังมีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามแต่ละจังหวัดหรือภูมิภาคด้วย เช่น โคน (นราธิวาส), ดัดมือ หรือ ตัดมือ (ตรัง), ตาปัง (พิษณุโลก, สตูล), ตาแปห์ (มลายู-นราธิวาส), หลุมปัง (สุราษฎร์ธานี) เป็นต้น[9]
ภูมิทัศน์บริเวณริมชายหาดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่มีการปลูกต้นหูกวาง ได้แก่ ชายหาดเมืองพัทยา บางส่วนมีอายุตั้งแต่หลายสิบปีไปจนถึงหลักร้อยปี[4][ต้องการคำอ้างอิงเพื่อยืนยัน] จากบันทึกข้อมูลพบว่าต้นหูกวางที่หาดพัทยาปลูกไว้ 2 ครั้ง คือ พ.ศ. 2508 และ พ.ศ. 2512[10] ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 มีการดำเนินการเข้าไปรื้อถอนและทำลายต้นหูกวางในบริเวณชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ ตลอดระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตรของโครงการ Pattaya New look เพื่อปลูกพืชตระกูลปาล์มแทนตลอดแนว[4][11] ซึ่งเกิดกระแสวิจารณ์ต่อต้านอย่างหนัก และผู้รับเหมาได้หยุดตัดแต่งถอนโค่น “ต้นหูกวาง” ริมหาดพัทยาเป็นการชั่วคราว[12]
Remove ads
ระเบียงภาพ
- ใบและช่อดอกตูม
- ดอก
- ช่อผลอ่อน
- ผลหูกวาง ซึ่งมีความหลากหลายของขนาดตามระยะความสุกของผล (ไล่ตามสี จากดิบถึงสุก คือ เขียว เหลือง ส้ม แดง น้ำตาล และเปลือกแห้งออกดำ)
- ทรงพุ่ม ที่ Midway Atoll
- ผลัดใบ ในฤดูหนาว (หน้าแล้ง) ใบเปลี่ยนเป็นสีแดง
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ Terminalia catappa
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads