Loading AI tools
หมายเลขประจำตัวที่กำหนดให้กับเรือ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หมายเลขตัวเรือ[1] (อังกฤษ: Hull number) คือหมายเลขประจำเรือที่กำหนดให้กับเรือต่าง ๆ หมายเลขมีการกำหนดความหมายและการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามประเภทของเรือและประเทศผู้กำหนดหมายเลขเหล่านั้น บางครั้งใช้ในความหมายอื่นนอกจากเรือ เช่น บนพาหนะทางทหาร
สำหรับเรือของกองทัพ หมายเลขที่มีจำนวนน้อยกว่า สามารถบ่งบอกได้ถึงอายุการเข้าประจำการของเรือที่ยาวนานกว่าเรือที่มีชุดหมายเลขมากกว่า สำหรับเรือของพลเรือนนั้น หมายเลขประจำตัวของเรือ (Hull Identification Number: HIN) ใช้สำหรับติดตามประวัติการใช้งานของเรือลำนั้น
ในยุโรป เรือจะได้รับหมายเลขประจำตัวเรือ (Craft Identification Number: CIN หรือ Hull Identification Number: HIN) ซึ่งกำหนดเป็นมาตรฐาน EN ISO 10087:2006 โดยตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวระบุตัวเลขและตัวอักษรจำนวน 14 หลัก ที่จัดสรรให้โดยไม่ซ้ำกันและใช้งานถาวร ออกให้กับเรือเดินทะเลทุกลำในยุโรป จัดสรรโดย European Recreational Craft Directive ซึ่งใช้รูปแบบมาจากของอเมริกา
สำหรับเรือขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน 300 ตันกรอสจะได้รับหมายเลข IMO ประจำตัวเรือระหว่างประเทศแบบถาวร และเรือยุโรปที่มีความยาวมากกว่า 20 เมตร จะได้รับหมายเลข ENI (European Number of Identification หรือ European Vessel Identification Number) แบบถาวร
ตัวอย่างหมายเลขประจำตัวเรือ CID/HIN อาจจะมีรูปแบบ GB-ABC00042-A8-99 โดยที่
ในสหราชอาณาจักร British Marine Federation จะเป็นผู้ออกรหัสประจำตัวผู้ผลิตในนามของกระทรวงยุทธศาสตร์ธุรกิจ พลังงานและอุตสาหกรรม[2] โดยสำหรับผู้สร้างเรือท้องถิ่นหรือมือสมัครเล่นนั้นสามารถขอรับหมายเลขประจำตัวเรือ HIN แบบครั้งเดียวได้จาก Royal Yacht Association ซึ่งจะออกหมายเลขในช่วงช่วง GB-RYAxxxxx ซึ่งเป็นรหัสประจำตัวผู้ผลิตของตน[2]
หมายเลขตัวเรือ ในภาษารัสเซียเรียกว่า bortovoi nomer ระหว่างการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี พ.ศ. 2557 หมายเลขประจำพาหนะทั้งหมดของยานเกราะและรถถังถูกทาสีทับ เพื่อปกปิดการมีอยู่ของกองกำลังรัสเซียในยูเครน และในการรุกรานยูเครนในปี พ.ศ. 2565 กองกำลังรัสเซียที่วางกำลังในเบรารูสก็ปิดบังหมายเลขประจำพาหนะเช่นกัน[3]
สำหรับเรือที่จดทะเบียนเป็นเรือไทยนั้น จะต้องมีการแสดงเครื่องหมายถาวรอยู่ที่ตัวเรือ คือหมายเลขทะเบียนเรือ (Official Nubmer)[note 1][5] รวมถึงอาจจะต้องแสดงหมายเลขประจำเรือ (Ship's identification number: IMO Number)[note 2][6] ด้วย ตามกฎกระทรวงของกรมเจ้าท่า ในบริเวณตำแหน่งต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามขนาดของเรือแต่ละประเภท ประกอบไปด้วย
ในประเทศไทยได้กำหนดให้เรือประมงนั้นมีการติดตั้ง เครื่องหมายประจำเรือประมง[note 3][7] บริเวณหัวเรือภายนอกทั้งสองฝั่ง ใกล้เคียงกับชื่อเรือตามที่ได้ลงทะเบียนกับกรมเจ้าท่าเอาไว้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าได้รับอนุญาตในการทำประมงพาณิชย์ในประเทศไทย[8] และนอกน่านน้ำไทย[9] ตามประกาศของกรมประมง โดยแบ่งอักขระออกเป็น 4 ชุด ดังนี้
ซึ่งเครื่องหมายประจำเรือประมงดังกล่าว ให้เลือกใช้ได้ 2 รูปแบบ คือ
กองทัพเรือไทยมีระเบียบในการกำหนดหมายเลขเรือ ในรูปแบบตัวเลข 3 หลัก ร่วมกับสัญลักษณ์การจัดประเภทตัวเรือ (Hull classification symbol) เช่นเดียวกับกองทัพเรือสหรัฐ โดยด้านข้างตัวเรือจะถูกติดเพียงตัวเลขเท่านั้น ไม่ได้ติดสัญลักษณ์การจัดประเภทตัวเรือลงไปด้วย
สำหรับความหมายของหมายเลขตัวเรือแต่ละหลัก ประกอบไปด้วย[10]
ในอดีตกองทัพเรือเคยใช้หมายเลขเรือตัวเดียมาก่อน แต่มาให้หลังเริ่มใช้หมายเลขเรือ 3 หลัก
เรือหลวงคราม | เรือหลวงสุโขทัย | เรือหลวงตาปี |
เรือหลวงปิ่นเกล้า | เรือหลวงมกุฎราชกุมาร |
ในประเทศสหรัฐ การใช้งานหมายเลขตัวเรือของพลเรือนที่ผลิตในสหรัฐ หมายเลขตัวเรือจะถูกจัดสรรให้กับเรือตั้งแต่ผลิตและเป็นส่วนหนึ่งของหมายเลขประจำตัวของเรือ (HIN) ซึ่งใช้ระบุตัวตนของเรือและถูกติดอยู่กับตัวเรืออย่างถาวรอย่างน้อย 2 ตำแหน่ง โดยหมายเลขประจำตัวของเรือ (HIN) จะประกอบไปด้วยชุดอักขระ 12 ตัวที่จัดสรรโดยไม่ซ้ำกัน คล้ายกับหมายเลขทะเบียนรถยนต์
ในปี พ.ศ. 2515 หน่วยยามฝั่งของสหรัฐอเมริกาได้ขอให้สร้างรูปแบบที่เป็นมาตรฐานสำหรับหมายเลขประจำตัวของเรือ เพื่อให้สามารถระบุรูปพรรณเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้และติดตามประวัติของเรือได้ดียิ่งขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยมีรูปแบบดังต่อไปนี้
หมายเลขประจำตัวของเรือมักจะถูกติดไว้บริเวณท้ายเรือที่มุมขวาบนสุด นอกจากนี้หมายเลขประจำตัวของเรือ อาจถูกระบุไว้ในชื่อเรือ การลงทะเบียนเรือ และถูกระบุอยู่ในเอกสารการประกันภัย
กองทัพเรือสหรัฐ หน่วยยามฝั่งสหรัฐ และองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาตินั้น ใช้รูปแบบของหมายเลขตัวเรือร่วมกันกับ สัญลักษณ์การจัดประเภทตัวเรือ (Hull classification symbol) เพื่อความสะดวกในการระบุตัวตนของเรือ ซึ่งชุดรูปแบบเหล่านี้จะไม่ถูกนำมาใช้งานซ้ำ ทำให้สามารถระบุตัวตนของเรือแต่ละลำได้อย่างเจาะจง อาทิ มีเรืออย่างน้อยแปดลำ ใช้ชื่อว่า ยูเอสเอส เอนเทอร์ไพรซ์ แต่ CV-6 สามารถเจาะจงได้ว่าเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จากบรรดาเรือทั้งหมดที่ใช้งานชื่อเดียวกัน ซึ่งด้านข้างตัวเรือจะถูกติดเพียงตัวเลขเท่านั้น ไม่ได้ติดสัญลักษณ์การจัดประเภทตัวเรือลงไปด้วย จึงมักจะถูกเรียกว่า หมายเลขตัวเรือ
ในบางครั้ง กองทัพเรือสหรัฐก็มีข้อยกเว้นในการเรียงลำดับหมายเลขตัวเรือ อาทิ กองทัพเรือสหรัฐได้สร้างเรือดำน้ำชั้นลอสแองเจลิสลำสุดท้ายชื่อว่า ยูเอสเอส ไชเอนน์ (SSN-773) จากนั้นได้สร้างเรือดำน้ำชั้นซีวูล์ฟจำนวน 3 ลำ กำหนดให้ใช้หมายเลขตัวเรือ SSN-21 ถึง SSN-23 หลังจากนั้นก็กลับมาใช้ลำดับต่อจากเดิมในเรือดำน้ำชั้นถัดไป คือเรือดำน้ำ ยูเอสเอส เวอร์จิเนีย (SSN-774) เรือลำแรกในเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนีย
นอกจากนี้ เรือรบที่ถูกต่อขึ้นในสหรัฐสำหรับประจำการหรือใช้งานในประเทศอื่นมักจะถูกละเว้นการใช้งานซ้ำหมายเลขตัวเรือเช่นกัน แม้ว่าประเทศปลายทางที่ได้รับจะนำไปกำหนดหมายเลขใหม่ก็ตาม
ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย หมายเลขประจำเรือ (Hull Identification Number: HIN) จะประกอบด้วยชุดตัวอักษรและตัวเลขที่ไม่ซ้ำกัน จำนวน 14 หลัก[13] ประทับแสดงอยู่บนแผ่นโลหะที่ติดอยู่กับที่ท้ายเรือ สามารถขึ้นรูปหรือแกะสลักก็ได้ไว้ท้ายเรือก็ได้ โดยผู้ผลิตเรือจำเป็นต้องทำเครื่องหมายของเลขประจำเรือให้กับเรือใหม่ทุกลำตามมาตรฐาน (ISO 10087:1995(E)) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544[14]
การลงทะเบียนขอรับหมายเลขประจำเรือ ผู้ให้บริการรหัสเรือจะออกใบรับรองหมายเลขประจำเรือให้กับเจ้าของเรือ ซึ่งเป็นหมายเลขที่ถูกรันไว้ก่อนแล้วโดยกระทรวงคมนาคม โดยข้อมูลการลงทะเบียนจะถูกอัพเดทเพิ่มเติมเข้าไปในฐานข้อมูลของรัฐบาล
สำหรับการขอรับหรือตรวจสอบหมายเลขประจำเรือ สามารถติดต่อได้ที่ตัวแทนผู้ให้บริการที่รู้จักกันในชื่อว่า โบทโค้ด (BoatCode) ซึ่งผ่านการรับรองจากกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีตั้งกระจายให้บริการอยู่ทั่วทุกรัฐ ซึ่งให้บริการในการ
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.