Remove ads
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วิสเทียเรีย/วีสเตียเรีย (อังกฤษ: Wisteria, Wistaria หรือ Wysteria) เป็นพืชในสกุลไม้ดอก ในพืชวงศ์ถั่ว, พืชที่มีฝัก ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบ ของสายพันธุ์ไม้เถาวัลย์ มีต้นกำเนิดในจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, และฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา บางสายพันธุ์นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนและญี่ปุ่น แต่สำหรับไม้น้ำที่มีชื่อว่า 'water wisteria' ที่จริงแล้วคือพืช Hygrophila difformis ในวงศ์ Acanthaceae
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
วีสเตียเรีย | |
---|---|
ช่อดอกของ Wisteria sinensis | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Rosids |
อันดับ: | Fabales |
วงศ์: | Fabaceae |
วงศ์ย่อย: | Faboideae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Inverted repeat-lacking clade |
เผ่า: | Millettieae |
สกุล: | Wisteria Nutt. |
สปีชีส์ | |
ดูในบทความ | |
ชื่อพ้อง | |
|
นักพฤกษศาสตร์ Thomas Nuttall ตั้งชื่อสกุล Wisteria เพื่อระลึกถึงนายแพทย์ Caspar Wistar (ค.ศ. 1761–1818)[1][2] มีข้อสงสัยในภายหลังในการสะกด Nuttall กล่าวว่าการตั้งชื่อ Wisteria จะได้ฟัง "ไพเราะ"กว่า แต่ผู้เขียนชีวประวัติของเขาให้ข้อสังเกตว่า อาจมาจาก เพื่อนของ Nuttall ที่ชื่อว่า Charles Jones Wister, Sr. ซึ่งเป็นหลานชายของ John Wister ผู้สร้างอาคาร กมเบทอร์ป Grumblethorpe ในเมืองเยอรมันในฟิลาเดลเฟีย Germantown, Philadelphia (ซึ่งเป็นแหล่งโบราณสถานแห่งชาติของสหรัฐฯ)[3] โดยหลักฐานของทางการเมืองฟิลาเดลเฟียบางส่วนระบุว่าพืชชนิดนี้มีการตั้งชื่อจากชื่อสกุล Wister[4][5] การสะกดดังกล่าวได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จึงไม่มีตัดสินการเปลี่ยนแปลงชื่อสกุลจากสถาบัน International Code of Botanical Nomenclature แต่อย่างใด[6] อย่างไรก็ตามพืชชนิดนี้ก็มีชื่อว่า "Wistaria" ด้วย[7][8]
การจำแนกประเภทแสดงให้เห็นว่า Callerya , Afgekia และ Wisteria ต่างเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกันที่สุดแต่ก็ค่อนข้างแตกต่างกันกับสมาชิกในเผ่า Millettieae ซึ่ง Callerya , Afgekia และ Wisteria มีแปดโครโมโซม[9][10]
เถาของวีสเตียเรีย จะเลื้อยโดยใช้กิ่งก้านพันเกี่ยวเวียนไปรอบหลักยึด โดยวีสเตียเรียญี่ปุ่นจะเวียนเป็นวงตามเข็มนาฬิกาเมื่อมองจากด้านบน และวีสเตียเรียจีนจะเวียนเป็นวงทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวแบ่งแยกสายพันธุ์ทั้งสอง วีสเตียเรียสามารถเลื้อยได้สูงถึง 20 เมตรจากพื้นและแผ่ขยายทางด้านข้างได้ถึง 10 เมตร เถาวีสเตียเรีย ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันคือ วีสเตียเรียในเมืองเซียร์รามาเดร Sierra Madre แคลิฟอร์เนีย ซึ่งวัดขนาดได้มากกว่า 1 เอเคอร์ (0.40 เฮกเตอร์) มีน้ำหนักมากกว่า 250 ตัน โดยปลูกเมื่อปี ค.ศ. 1894 เป็นชนิดวีสเตียเรียจีนที่มีสีม่วงอ่อน[14]
เส้นใบทแยง ยาว 15-35 ซม. คล้ายขนนก ใน 1 ก้านจะมีใบย่อยประกอบ 9-19 ใบ ดอกเป็นพุ่ม ช่อดอกยาว 10-80 ซม.ซึ่งคล้ายกับพืช วงศ์ Laburnum หรือวงศ์ราชพฤกษ์ แต่จะมีสีม่วง สีม่วงเข้ม สีชมพูหรือสีขาว และไม่มีสีเหลืองบนใบ ออกดอกในฤดูใบไม้ผลิ (อาจจะก่อนหรือพร้อมกับใบไม้อื่น ๆ เริ่มผลิใบ) ในบางสายพันธุ์เอเชีย และออกดอกกลางหรือปลายฤดูร้อนในสายพันธุ์อเมริกาและสายพันธุ์ W. japonica วีสเทเรียเป็นไม้ที่กลีบดอกบอบบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวีสเตียเรียจีน เมล็ดของวีสเตียเรียเป็นฝักคล้ายกับต้นคูณ (ราชพฤกษ์) Laburnum และเมล็ดในวงศ์นี้เป็นเมล็ดที่มีพิษ
วีสเตียเรียเป็นพืชที่เพาะพันธุ์ง่ายมากจึงจัดอยู่ในสายพันธุ์ผู้รุกรานในพื้นที่ต่าง ๆ ใน สหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปลูกแทนที่พืชสายพันธุ์พื้นถิ่น
วีสเตียเรียมักจะเป็นอาหารของตัวอ่อน (หนอน) ของผีเสื้อกลางวัน และผีเสื้อราตรี Brown-tail
วีสเตียเรีย โดยเฉพาะพันธุ์ Wisteria sinensis เป็นพันธุ์ที่ทนทานและโตเร็วมาก สามารถปลูกได้บนดินที่ธาตุอาหารค่อนข้างต่ำ แต่ยังต้องการปุ๋ย ความชื้นและ ดินที่ระบายน้ำได้ดี เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีแดดตลอดทั้งวัน วีสเตียเรีย สามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งการตอนกิ่งแข็ง การตอนกิ่งอ่อน หรือเพาะเมล็ด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเพาะเมล็ดจะใช้เวลานานถึง 10 ปีกว่าจะออกดอก จึงทำให้ นักจัดสวน มักจะตอนรากหรือ ต่อกิ่งพันธุ์พืช เพื่อให้ออกดอกได้ดี[15] ปัญหาหนึ่งของการออกดอกคือการได้รับปุ๋ยที่มากเกินไป (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไนโตรเจน) วีสเตียเรีย มีประสิทธิภาพในการหาไนโตรเจนได้เอง (ได้รับจากแบคทีเรียไรโซเบียมในปมราก) ดังนั้นวีสเตียเตียเรียจึงต้องการสารอาหารเพิ่มเติมจากโปแตสเซียมและฟอสฟอรัส แต่ไม่ต้องการไนโตรเจน วีสเตียเรีย ที่ไม่ยอมออกดอกนั้นเพราะว่าการเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ วีสเตียเรียสามารถเจริญเติบโตเต็มที่โดยใช้เวลาไม่กี่ปีสำหรับ สำหรับพันธุ์ วีสเตียเรีย เคนทักกี หรือ เกือบ 20 ปีสำหรับพันธุ์ วีสเตียเรียจีน วีสเตียเรียสามารถบังคับให้เติบโตเต็มที่ได้โดยการตัดลำต้นหลัก การตัดแต่งราก หรือการให้ต้นอดน้ำ
วีสเตียเรีย ขึ้นได้เองบนพื้นดินโดยไม่ต้องการการดูแล แต่จะเติบโตได้ดีที่สุดหากได้ไต่ไปบนต้นไม้ ซุ้มไม้เลื้อย กำแพง หรือโครงสร้างอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม โครงที่รองรับวีสเตียเรียควรจะมั่นคงมากเพราะเมื่อวีสเตียเรียเติบโตจะมีลำต้น และกิ่งก้าน ที่แข็งแรงและแผ่ขยายใหญ่มาก ดังนั้นมันสามารถเลื้อยทะลุไม้ระแนง เบียดเสาไม้บาง ๆ และสามารถคลุมต้นไม้ใหญ่ได้ วีสเตียเรียที่ขึ้นบนตัวบ้านสามารถทำความเสียหายกับรางน้ำ รางน้ำทิ้ง และโครงสร้างอื่น ๆ แต่จะดูสวยมากหากช่อดอกห้อยลงมา
วีสเตียเรีย ออกดอกจากตาใกล้กับตาเดิมที่เคยออกในปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นการแต่งกิ่ง เพื่อให้เหลือตาเดิมบ้าง ควรจะเริ่มทำเมื่อใกล้เข้าถึงฤดูใบไม้ผลิเพื่อทำให้ออกดอกได้ดีขึ้น หากต้องการควบคุมขนาดของต้นวีสเตียเรีย ควรจะตัดกิ่งด้านข้างให้สั้นลงเหลือประมาณ 20 ถึง 40 ซม. ในช่วงกลางฤดูร้อน และตัดเหลือ 10 ถึง 20 ซม.ในฤดูใบไม้ร่วง สำหรับต้นวีสเตียเรียที่มีอายุหลายปีแล้ว สามารถออกดอกชุกเป็นกลุ่มได้ โดยการตัดแต่งยอดไม้เลื้อยที่งอกใหม่ สามครั้งในระหว่างฤดูกาลที่ต้นเจริญเติบโต ในเดือนมิถุนายน กรกฎาคม และเดือนสิงหาคม ในซีกโลกเหนือ ดอกในบางสายพันธุ์สามารถรับประทานได้ และบางชนิดสามารถนำมาหมักไวน์ได้ สายพันธุ์อื่นนอกจากนั้นมีพิษ[16] ดังนั้นการรับประทานควรจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เช่นเดียวกับพืชป่าอื่น ๆ
สาววีสเตียเรีย (ญี่ปุ่น: 藤娘, Fuji Musume; Wisteria Maiden) เป็นหัวเรื่องในภาพวาดท้องถิ่นในเมืองโอตสึ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อกันว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากการฟ้อนรำยอดนิยมบางประเภท ภาพวาดเหล่านี้มักขายเป็นเครื่องรางในงานวิวาห์ นอกจากนี้ สาววีสเตียเรียยังเป็นชื่อการฟ้อนรำแบบโบราณประเภทหนึ่งในจำพวกคะบุกิด้วย[17]
ส่วนในนิยายเรื่อง เดอะบีนทรีส์ (The Bean Trees) ของบาร์บารา คิงโซฟเวอร์ (Barbara Kingsolver) เจ้าเต่าเรียกเถาวีสเตียเรียว่า ต้นถั่ว เพราะดอกวีสเตียเรียที่ยังไม่ผลิบานนั้นรูปคล้ายถั่ว แต่เจ้าเต่ากับ เทย์เลอร์ ตัวเอกของเรื่อง มารู้ทีหลังว่าวีสเตียเรียอยู่ในวงศ์ถั่ว และวีสเตียเรียกับสายพันธุ์อื่นในวงศ์ถั่ว มีความสัมพันธ์กันในเชิงสัญลักษณ์เช่นเดียวกับที่ตัวละครทั้งหลายมี
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.