Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซีรีส์อนิเมะโทรทัศน์เรื่องกินทามะ ฤดูกาลที่ 4 กำกับโดยโยอิจิ ฟูจิตะ ผลิตโดยซันไรส์ ออกอากาศทางทีวีโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553 ภาพยนตร์การ์ตูนมีต้นแบบมาจากผลงานการ์ตูนของฮิเดอากิ โซราจิ ชื่อเรื่องเดียวกัน [1][2] เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอดีตซามูไรนามว่าซากาตะ กินโทกิ และลูกจ้างของเขาสองคนคือ ชิมูระ ชินปาจิ และคางุระ ทั้งสามทำงานเป็นนักรับจ้างสารพัดเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน
ในประเทศญี่ปุ่น บริษัทอะนิเพล๊กซ์ได้จำหน่ายดีวีดีภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะภาค 4 ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553 [3][4]
สำหรับในประเทศไทย บริษัทไรท์บิยอนด์ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์การ์ตูนกินทามะ ภาค 4 และวางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดี 25 ชุด และ ดีวีดี 13 ชุด โดยในรูปแบบดีวีดีนั้นวางจำหน่ายระหว่างวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556 ถึงวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556 [5][6]
ตอนที่ (ของเรื่อง) |
ตอนที่ (ของภาค) |
ชื่อตอน | วันออกอากาศ | |
---|---|---|---|---|
151 | 01 | "การสนทนากับช่างผมระหว่างตัดผมเป็นการคุยที่ไร้จุดหมายที่สุดในโลก" (髪切りながら交わされる美容師との会話は世界で一番どうでもいい) | 2 เมษายน 2552 | |
กินโทกิไปตัดผมที่ร้านตัดผมเก่าแก่ร้านหนึ่งในคาบุกิโจซึ่งกิจการกำลังย่ำแย่เพราะมีร้านตัดผมเปิดใหม่อยุ่ฝั่งตรงข้าม โดยมีชินปาจิและคางุระติดตามไปด้วย ระหว่างการตัดผม ทั้งสามได้สนทนาเรื่องต่างๆ กับเจ้าของร้าน จนกระทั่งเกิดปัญหาขึ้นเมื่อคางุระต้องการจะอ่านหนังสือการ์ตูนที่อยู่ในร้านแต่เผอิญว่าหนังสือการ์ตูนชุดนั้นขาดไปเล่มหนึ่ง เจ้าของร้านจึงออกไปซื้อการ์ตูนมาให้โดยทิ้งร้านไว้กับกลุ่มนักรับจ้างสารพัด กลุ่มนักรับจ้างสารพัดเลยจำใจต้องรับหน้าเป็นช่างตัดผมดูแลร้าน และต้องรับมือกับปัญหาจากลูกค้า 2 คน คือ คอนโด้กับคาซึระ ซึ้งเป็นศัตรูกัน เข้ามาใช้บริการตัดผมพร้อมกัน | ||||
152 | 02 | "สวรรค์ไม่ได้สร้างให้ทรงผมอยู่เหนือมนุษย์" (天は人の上に人をつくらず髷をつくりました) | 9 เมษายน 2552 | |
ผู้บัญชาการตำรวจมัตสึไดระพาท่านโชกุนมาเที่ยวในคาบุกิโจโดยปลอมตัวเป็นสามัญชนและได้มาแวะที่ร้านตัดผมร้านนี้เพื่อเอาหนังสือการ์ตูนมาคืนให้กับเจ้าของร้านตัดผม ท่านโชกุนสนใจในการตัดผมของสามัญชนจึงขอแวะใช้บริการมัดทรงผมใหม่ ชาวร้านรับจ้างสารพัดที่รับหน้าเสื่อดูแลร้านตัดผมจึงเครียดหนักกับการแก้ปัญหาเรื่องการให้บริการแก่ท่านโชกุน เพราะถ้าเกิดพลาดพลั้งแล้ว ทั้งหมดจะต้องรับโทษประหารชีวิตอย่างแน่นอน | ||||
153 | 03 | "การนอนจะช่วยให้เด็กเติบโตเนี่ย พูดเก่งจังแฮะ" (寝る子は育つ) | 16 เมษายน 2552 | |
ในคืนหนึ่งคางุระนอนไม่หลับ เธอจึงปลุกกินโทกิและขอปรึกษาวิธีการนอนให้หลับหลายวิธี แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนคางุระก็หลับไม่ลง กินโทกิที่เหนื่อยล้าเพราะต้องการนอนเอาแรงสำหรับการทำงานในวันรุ่งขึ้น จึงยอมให้คารุงะเปิดละครวิทยุเพื่อกล่อมให้หลับได้ ทว่าละครวิทยุดังกล่าวหักมุมจบจากละครเศร้ากลายเป็นละครสยองขวัญ กินโทกิจึงนอนไม่หลับเสียเองในขณะที่คางุระหลับสนิทตั้งแต่ก่อนที่ละครวิทยุจะจบ | ||||
154 | 04 | "= เห็นหมอนั่นต่างไปจากเดิมในงานวันเกิด" (誕生日会はいつものアイツが違う奴に見える) | 23 เมษายน 2552 | |
โทโจจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้กับคิวเบ และได้เชิญคนหลายคนมาร่วมงาน รวมไปถึงนักรับจ้างสารพัด, คาซึระ, ฮาเซงาว่า, และโอทาเอะ | ||||
155 | 05 | "ด้านหลังของด้านหลังของด้านหลังก็คือด้านหลัง" (裏の裏の裏は裏) | 30 เมษายน 2552 | |
ฮาเซงาว่าพยายามแข่งพนันม้าให้ชนะกินโทกิ เพื่อหลีกหนีจากชีวิตของมาดาโอะซึ่งแปลว่าคนไม่ได้ความให้ได้ | ||||
156 | 06 | "การจะเข้าร้านแผงลอย ต้องใช้ความกล้าเล็กน้อย" (屋台に入るには微妙に勇気がいる) | 7 พฤษภาคม 2552 | |
เรื่องราวในร้านแผงลอย "งุจิริยะ" ที่รับฟังการบ่นของลูกค้าทุกรูปแบบ | ||||
157 | 07 | "พอผู้ชายมาพร้อมรวมกัน ที่นั่นจะกลายเป็นสนามรบ" (男が揃えばどんな場所でも戦場になる) | 14 พฤษภาคม 2552 | |
ภาคศึกชิงจ้าวแฟนคลับโอซือ: กองกำลังพิทักษ์โอซือของชินปาจิมีสมาชิกเหลืออยู่เพียง 4 คน เพราะถูกกลุ่มแฟนคลับโอซือกลุ่มใหม่ที่มีชื่อว่า "ซือเซ็นกุมิ" ของทชชี่ (ฮิจิคาตะในร่างโอตาคุ) แย่งสมาชิกไปเกือบหมดและก้าวขึ้นมามีความสำคัญอันดับหนึ่งแทนกลุ่มของชินปาจิ เมื่อโอซือประกาศแข่งขันสุดยอดแฟนคลับโอซือขึ้น งานนี้ทั้งสองกลุ่มจึงลงแข่งขันโดยมีคำว่า "แฟนคลับอย่างเป็นทางการ" เป็นเดิมพัน | ||||
158 | 08 | "หากเพื่อนได้รับบาดเจ็บ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาล" (友達がケガしたらすぐに病院へ) | 21 พฤษภาคม 2552 | |
ภาคศึกชิงจ้าวแฟนคลับโอซือ: ชินปาจิจับได้ว่าทชชี่ที่ตนเห็นอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ทซชี่ที่เป็นโอตาคุ แต่เป็นตัวฮิจิคาตะซึ่งเป็นเจ้าของร่างตัวจริง ฮิจิคาตะจึงเปิดเผยว่าที่ตนคิดจะเขาร่วมการแข่งขันสุดยอดแฟนคลับครั้งนี้ก็เพื่อจะหาทางให้ทชชี่ซึ่งอยู่ในร่างของตนไปสู่สุคติด้วยการก้าวไปอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าโอตาคุทั้งมวลให้ได้ เมื่อการแข่งขันศึกชิงจ้าวแฟนคลับโอซือเริ่มขึ้น การแข่งขันรอบแรกคือการวิ่งมาราธอนรอบเมือง 10 กิโลเมตร ชินปาจิ ทากะจิน กินโทกิ และคางุระได้รวมทีมแข่งขันในนามกองกำลังพิทักษ์โอซือ แผนการแข่งขันของทีมกองกำลังพิทักษ์ทำท่าจะไปได้สวยจากการที่ส่งให้คางุระวิ่งนำหน้ารวดเดียวจนถึงเส้นชัยแล้วให้ทั้งสามคนที่เหลือตามไปทีหลัง แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดเมื่อคอนโด้ โซโกะ และยามาซากิเข้าร่วมแข่งขันในนามทีมซือเซ็นงุมิของฮิจิคาตะ ทากะจินถูกรถแท๊กซี่ที่โซโกะนั่งมาชนจนบาดเจ็บสาหัส ซ้ำร้ายยังมียามาซากิตามตามประกบทำให้ไม่สามารถพาตัวทากะจินส่งโรงพยาบาลได้ | ||||
159 | 09 | "หากส้มในลังกระดาษเน่าไปลูกหนึ่งก็จะทำให้ที่เหลือเน่าตามโดยไม่ทันรู้ตัว" (みかんは一個腐るといつの間にかダンボール中のみかんを腐らせる) | 28 พฤษภาคม 2552 | |
ภาคศึกชิงจ้าวแฟนคลับโอซือ: ระหว่างที่กินโทกิกับชินปาจิหาทางปิดบังอาการบาดเจ็บของยามาซากิไม่ให้ยามาซากิรู้ เรื่องราวกลับแย่ลงไปอีกเมื่อทั้งสองได้รู้ว่าคอนโด้วิ่งแข่งกับคางุระชิงความเป็นที่หนึ่งจนออกนอกเส้นทางทั้งคู่ ด้านทากะจินก็อยู่ในอาการขั้นตรีทูตไม่อาจทนการแข่งขันได้อีกต่อไป กินโทกิจึงพาทากะจินเข้าโรงพยาบาลและว่าจ้างชาวต่างชาติคนหนึ่งให้ใช้ชื่อทากาทีนลงแข่งขันแทนทากะจิน พร้อมทั้งปิดปากยามาซากิด้วยการจับกล้อนผมเป็นทรงโมฮ็อก ด้านชินปาจิก็พยายามวิ่งแข่งขันและฝ่าการขัดขวางจากบรรดาโอตาคุในความควบคุมของฮิจิคาตะจนมาถึงสะพานแห่งหนึ่ง สะพานนั้นก็ถูกกินโทกิกับทากาทีนทำลายทำให้ชินปาจิกับเหล่าโอตาคุส่วนหนึ่งตกน้ำไปตามๆ กัน | ||||
160 | 10 | "ในมุมมองชาวต่างจะมองเราเป็นชาวต่างชาติ ในมุมมองมนุษย์ต่างดาวก็จะมองเราเป็นมนุษย์ต่างดาว" (外国人から見たらこっちも外国人 宇宙人から見たらこっちも宇宙人) | 4 มิถุนายน 2552 | |
ภาคศึกชิงจ้าวแฟนคลับโอซือ: การแข่งขันวิ่งมาราธอนจบลงด้วยการเข้าเส้นชัยของสองทีมสำคัญคือ ทีมซือเซ็นงุมิที่ประกอบด้วยฮิจิคาตะ คอนโด้ โซโกะ และยามาซากิ กับทีมกองกำลังพิทักษ์โอซือของชินปาจิ กินโทกิ ทากาทีน และคางุระ ทั้งหมดผ่านเข้าสู่รอบสองคือการตอบคำถามเกี่ยวกับโอซือ ระหว่างการแข่งขันปรากฏว่ามีเหตุที่ทำให้ชินปาจิกับฮิจิคาตะซึ่งเป็นหัวหน้าทีมของทั้งสองทีมต้องถูกคัดออกจากการแข่งขัน ทำให้การแข่งขันตอบคำถามของทั้งสองทีมต้องอาศัยโชคช่วยเท่านั้นเพราะนอกจากสองคนนี้แล้วก็ไม่มีใครในทีมของฝ่ายตนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับโอซือดีเลยสักคน อาการท้องเสียของระหว่างการแข่งขันทากาทีนช่วยให้กองกำลังพิทักษ์โอซือสามารถตอบคำถามได้อย่างโชคช่วยหลายข้อ แต่สุดท้ายแล้วทีมซือเซ็นงุมิกลับพลิกล็อกเอาชนะได้ด้วยคำตอบเพียงข้อเดียวของคอนโด้ | ||||
161 | 11 | "ไม่ว่าจะมองสักกี่ครั้ง LAPUNA ก็ยังดีอยู่ดี" (何回見てもラピュタはいい) | 11 มิถุนายน 2552 | |
ภาคศึกชิงจ้าวแฟนคลับโอซือ: รอบที่สามของการแข่งขันคือการแข่งแสดงละครเพื่อชักชวนให้โอซือสามารถเข้าโรงแรมได้ ทีมซือเซ็นงุมิของฮิจิคาตะสามารถชักชวนให้โอซือเข้าโรงแรมได้โดยการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องแอนิเมชั่นของสตูติโอจิบลิ เพื่อสร้างบรรยากาศของหนุ่มสาวที่โดดเดี่ยวจากการไม่มีส่วนร่วมในวงสนทนา ส่วนทีมกองกำลังพิทักษ์โอซือของชินปาจิก็สามารถชักชวนให้โอซือสามารถเข้าโรงแรมได้จากวิธีการสร้างบรรยากาศร่วมเกี่ยวกับมิตรภาพโดยใช้ฉากในท้องเรื่องเลียนแบบเรื่องไซอิ๋ว ผลการตัดสินของรอบนี้ปรากฏว่าโอซือชี้ขาดให้ทีมกองกำลังพิทักษ์โอซือเป็นฝ่ายชนะ | ||||
162 | 12 | "อันว่า "รัก" ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน" (愛とは無償のものなり) | 18 มิถุนายน 2552 | |
ศึกชิงจ้าวแฟนคลับโอซือตอนที่ 6 | ||||
163 | 13 | "เรือสีดำ ยังคงดูสะดุดตาแม้ในตอนจม" (黒船は沈む時も派手) | 25 มิถุนายน 2552 | |
ภาคศึกชิงจ้าวแฟนคลับโอซือ: การโจมตีสวนกลับด้วยการ์ดเกมของชินปาจิทำให้ฮิจิคาตะอยู่ในสภาพที่ใกล้จะพ่ายแพ้ทันที ทชชี่ซึ่งเป็นร่างโอตาคุของฮิจิคาตะจึงตัดสินใจออกมาควบคุมร่างของฮิจิคาตะเพราะฮิจิคาตะทำทุกอย่างเพื่อให้ตนไปสู่สุคติมากพอแล้ว การตัดสินครั้งสุดท้ายตนจึงขอทำเอง เมื่อการโจมตีสิ้นสุดลงปรากฏว่าทั้งสองล้มลงกองกับพื้นเพราะค่าพลังชีวิตในเกมหมด แต่ทั้งชินปาจิกับทชชี่ต่างก็ลุกขึ้นมาสู้กันอีกครั้งด้วยมวยเพื่อตัดสินกันอย่างลูกผู้ชาย หลังจากการแข่งขันจบลง ทชชี่ก็ได้ออกจากร่างของฮิจิคาตะไปสู่สุคติ ชินปาจิซึ่งเป็นผู้ชนะนั้นไม่ขอรับชื่อกลุ่มแฟนคลับโอซืออย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งได้ยกตำแหน่งสมาชิกอันดับหนึ่งของกลุ่มดังกล่าวให้แก่ทชชี่ หลังจากนั้นจึงได้เรียกตัวอดีตสมาชิกกองกำลังพิทักษ์โอซือกลับมารวมกันเป็นกลุ่มเดิมอีกครั้งหนึ่ง | ||||
164 | 14 | "เอาเห็ดมัทซึชิตะมาทำซุปมีรสชาติ ดีกว่ากินเห็ดเปล่าๆ" (松茸のお吸い物ってアレ ホンモノよりうまいよね) | 2 กรกฎาคม 2552 | |
"คนที่ตายไปแล้ว ไม่สามารถกลับมามีชีวิตได้อีก" (人は死んだら生き返らない) | ||||
165 | 15 | "ใต้ต้นหลิว..มีปลาโดะโจอยู่มากมาย" (柳の下にどじょうは沢山いる) | 9 กรกฎาคม 2552 | |
กินโทกิเกิดเป็นไข้กลางฤดูร้อน ชินปาจิจึงมาเฝ้าไข้และเล่าความหลังตอนที่ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ระบาดทั่วเอโดะ ทั้งโอทาเอะ กินโกกิ และคางุระต่างก็ติดไข้หวัดชนิดนี้ จึงมีเพียงชินปาจิคนเดียวที่ดูแลทุกคน ซ้ำอีกไม่นานต่อมาเขายังต้องรับมือกับคนป่วยที่เพิ่มขึ้นมาอีก 2 คน คือคอนโด้กับซัจจังซึ่งคอยลอบตามตื้อโอทาเอะกับกินโทกิอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ในวันนั้นมีคนภายนอกอีก 2 คนมาเยี่ยมคือฮาเซงาว่ากับคาซึระ (ในสภาพของวิล สมิธ) ซึ่งนำพาเรื่องราวต่างๆ ให้ยุ่งเหยิงเข้าไปอีก | ||||
166 | 16 | "สองดีกว่าหนึ่ง สองคนดีกว่าคนเดียว" (一つより二つ 一人より二人) | 16 กรกฎาคม 2552 | |
สองคู่กัด กินโทกิและฮิจิคาตะต้องมาถูกล่ามกุญแจมือด้วยกัน | ||||
167 | 17 | "รูปโพลีกอนที่ราบลื่นจะทำให้หัวใจคนพลอยราบเรียบ" (なめらかなポリゴンは人の心もなめらかにする) | 23 กรกฎาคม 2552 | |
ภาคราชาเม็ดเลือดขาว ตอนที่ 1 ทามะโดนไวรัสเล่นงาน คณะกินโทกิเลยถูกส่งเข้าไปในร่างของทามะเพื่อจัดการกับปัญหา | ||||
168 | 18 | "ร่างกายของมนุษย์ก็เหมือนกับจักรวาลย่อยๆ" (人の身体は小宇宙) | 30 กรกฎาคม 2552 | |
ภาคราชาเม็ดเลือดขาว ตอนที่ 2 | ||||
169 | 19 | "พวกได้รับการแต่งตั้งบ้า" (導かれしバカたち) | 7 สิงหาคม 2552 | |
ภาคราชาเม็ดเลือดขาว ตอนที่ 3 | ||||
170 | 20 | "และแล้วก็เข้าสู่ตำนาน" (そして伝説へ) | 14 สิงหาคม 2552 | |
ภาคราชาเม็ดเลือดขาว ตอนที่ 4 | ||||
171 | 21 | "เพิ่งรู้คุณค่าเมื่อสิ่งนั้นหายไป" (なくなって初めてわかるいとおしさ) | 21 สิงหาคม 2552 | |
"เอาแต่ลอกเลียนแบบอาจโดนฟ้องเอาได้" (真似ばかりしていると訴えられる) | ||||
อยู่ๆ ชาวร้านรับจ้างสารพัดต้องมาเผชิญกับภาวะผมร่วงอย่างรุนแรงแบบไม่คาดฝัน ทั้งสามคนจึงต้องหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้จงได้
ตอนพิเศษฉลองครบรอบ 30 ปีของแอนิเมชั่นชุด กันดั้ม: เมื่อขโมยลอบขึ้นร้านรับจ้างสารพัด พวกเขาจะต้องเจอกับสิ่งต่างๆ ที่คาดไม่ถึงหลายอย่าง การดำเนินเรื่องราวในตอนนี้จะแทรกมุขล้อเลียนภาพยนตร์แอนิเมชั่นชุดกันดั้มด้วยการอ้างอิงชื่อบุคคล ท่าทาง และประโยคเด่นที่ปรากฏอยู่ในแอนิเมชั่นชุดดังกล่าว | ||||
172 | 22 | "= มาใช้การปกครองแบบไม้อ่อนกับไม้แข็งกันเถอะ" (アメとムチは使いよう) | 28 สิงหาคม 2552 | |
คอนโด้ ฮิจิคาตะ โอคิตะ และยามาซากิต้องมาปวดกะโหลกอีกครั้ง กับการสอบสวนผู้ต้องหาฆาตกรสุดโฉด | ||||
173 | 23 | "สิ่งสำคัญไม่ใช่ภายนอกที่เห็น แต่เป็นเนื้อในต่างหาก" (大事なのは見た目ではなく中身) | 4 กันยายน 2552 | |
"แต่ต่อให้เป็นเนื้อในที่เป็นสิ่งสำคัญ มันก็ยังมีข้อจำกัดอยู่" (見た目ではなく中身といっても限度がある) | ||||
อลิซาเบธเปลี่ยนไป เกิดอะไรขึ้นกับอลิซาเบธกันแน่ เหล่านักรับจ้างสารพัดจึงทำการสืบโดยด่วน
กินโทกิกับซาดะฮารุสลับร่างกัน | ||||
174 | 24 | "คนที่ออกไปทะเลแล้วตะโกนว่า "เจ้าบ้าเอ๊ย"..ยังคงมีอยู่" (海に向かってバカヤローとか言う人ってまだいるのだろうか) | 11 กันยายน 2551 | |
"คนเราเมื่อถูกปิดกั้น ประตูของตนเองก็จะเปิดออก" (人は閉じ込められると自分の中の扉が開く) | ||||
เหล่ารับจ้างสารพัดกับฮาเซงาว่าต้องมาชดใช้หนี้โดยการตกปลามากุโร่
เหล่ารับจ้างสารพัดเกิดติดลิฟท์ขึ้นมา | ||||
175 | 25 | "ไม่ว่าจะรุ่นไหน ก็ล้วนเกลียดหมอฟันทั้งนั้น" (幾つになっても歯医者は嫌) | 18 กันยายน 2551 | |
กินโทกิกับฮิจิคาตะซึ่งไม่ถูกกันอยู่แล้วกลับต้องมาพบหมอฟันพร้อมกัน ต่างฝ่ายต่างทำท่าทางข่มอีกฝ่ายว่าตนเองไม่กลัวการทำฟันเพื่อกลบเกลื่อนว่าแท้จริงแล้วตนเองเกลียดการมาพบหมอฟันอย่างที่สุด เมื่อหมอฟันเรียกทั้งสองคนให้เข้าไปทำกันพร้อมกัน พวกเขาจึงต้องพบกับประสบการณ์การทำฟันที่จะลืมไม่ลงไปอีกนาน | ||||
176 | 26 | "เริ่มนับถอยหลัง" (カウントダウン開始) | 24 กันายายน 2552 | |
สมาชิกร้านรับจ้างสารพัดจัดอันดับ 10 สุดยอดประโยคที่กินใจที่สุดในเรื่องกินทามะ (ในตอนนี้ตัวละครทุกตัวถูกวาดเป็นภาพ CG) | ||||
177 | 27 | "เจอแมงมุมยามค่ำคืน จะโชคร้าย" (夜の蜘蛛は縁起が悪い) | 1 ตุลาคม 2552 | |
บทเพลิงเหนือโยชิวาระ บทที่ 2 ตอนที่ 1 ภัยอันตรายมาเยือนโยชิวาระอีกครั้ง ซึคุโยะกับกินโทกิจึงร่วมกันตามจับตัวการให้ได้ | ||||
178 | 28 | "โดนใยแมงมุมมัดตัวครั้งหนึ่งแล้วยากนักที่จะคลายมัด" (蜘蛛の糸は一度絡まるとなかなかとれない) | 8 ตุลาคม 2552 | |
บทเพลิงเหนือโยชิวาระ บทที่ 2 ตอนที่ 2 | ||||
179 | 29 | "เจ้าพวกส่งเดชพอมันโกรธ น่ากลัวน่าดู" (チャランポランな奴程怒ると恐い) | 15 ตุลาคม 2552 | |
บทเพลิงเหนือโยชิวาระ บทที่ 2 ตอนที่ 3 | ||||
180 | 30 | "สัมภาระยิ่งหนักเท่าใด ภาระที่ต้องแบกรับยิ่งยากเท่านั้น" (大切な荷ほど重く背負い難い) | 22 ตุลาคม 2552 | |
บทเพลิงเหนือโยชิวาระ บทที่ 2 ตอนที่ 4 | ||||
181 | 31 | "นารีกับสุราคือเซ็ตคู่ที่ต้องระวัง" (酒と女はワンセットで気をつけろ) | 29 ตุลาคม 2552 | |
หลังจากการปราบจิไรอะ ฮิโนวะ โอยรันแห่งโยชิวาระ จึงหาอุบายให้ซึคุโยะได้พักผ่อนจากงานบ้างด้วยการให้ซึคุโยะดื่มเหล้ากับกินโทกิ | ||||
182 | 32 | "การลงคะแนนวัดความนิยมอะไรนั่นก็แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง" (人気投票なんて糞食らえ) | 5 พฤศจิกายน 2552 | |
สรุปผลการจัดอันดับความนิยมของตัวละครในเรื่องกินทามะ ซินปาจิพบว่ามีใครบางคนทำร้ายยามาซากิเพื่อลดคะแนนนิยมของยามาซากิและเลื่อนอันดับของตนขึ้นมาแทนที่ จึงคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากกินโทกิซึ่งได้คะแนนนิยมอันดับที่ 1 ทว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้กลับถูกตัดจบไปดื้อๆ เพราะผู้เขียนเรื่องต้นฉบับ (ฮิเดอากิ โซราจิ, ได้คะแนนนิยมอันดับที่ 16) ถูกโอทาเอะจัดการไปเรียบร้อยแล้ว | ||||
183 | 33 | "การลงคะแนนวัดความนิยมอะไรนั่นจงไหม้เป็นเถ้าไปเสีย" (人気投票なんて燃えて灰になれ) | 12 พฤศจิกายน 2552 | |
แอนิเมชั่นเรื่องกินทามะกลับมาออกอากาศได้อีกครั้ง ชินปาจิพบว่าเมืองทั้งเมืองได้เป็นศัตรูกับเขาซึ่งมีคะแนนนิยมอันดับที่ 8 งานนี้ชินปาจิจึงต้องลี้ภัยไปอยู่รวมกับกินโทกิ, คางุระ, คาซึระ, คอนโด้, ฮิจิคาตะ, โซโกะ, ฮาเซงาว่า, ซาดาฮารุ และเอลิซาเบธ ที่กำลังซ่อนตัวจากการไล่ล่า ด้านดัวละครเอกฝ่ายหญิงซึ่งประกอบด้วยโอทาเอะ คิวเบ ซัจจัง และสึคุโยะ ได้รวมกลุ่มกันตามหาพวกกินโทกิจนกระทั่งพบที่ซ่อน | ||||
184 | 34 | "การลงคะแนนเสียงอะไรนั่น..." (人気投票なんて・・・) | 19 พฤศจิกายน 2552 | |
เหล่าตัวละครทั้งชายและหญิงในเรื่องกินทามะต่างปะทะกันเพื่อแย่งชิงอันดับที่ 1 ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว ด้านชินปาจิและกินโทกิก็ได้พบกับตัวการสำคัญของความวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้น | ||||
185 | 35 | "บ้านเกิดกับหน้าอกคือสิ่งที่คิดว่าอยู่ไกลตัว" (故郷とおっぱいは遠くにありて思うもの) | 26 พฤศจิกายน 2552 | |
"ที่ว่า "โดนผึ้งต่อยแล้วให้ฉี่รดซะ" คือความเชื่อที่ผิดระวังเหอะเดี๋ยวจะติดเชื้อเอา" (蜂に刺されたら小便かけろってアレは迷信です バイ菌が入るから気をつけようね!!) | ||||
เมื่อฮิจิคาตะต้องการชิงตั๋วเยือนโรงงานผลิตมายองเนสในฝัน เหล่าชินเซ็นกุมิจึงต้องเผชิญกับฝันร้ายแห่งมายองเนส
ร้านรับจ้างสารพัดถูกจ้างให้ไปกำจัดรังต่อในช่วงฤดูร้อน | ||||
186 | 36 | "โปรดระวังคำพูดก่อนตาย" (死亡フラグに気をつけろ) | 3 ธันวาคม 2552 | |
โซโกะถูกเด็กหญิงคิริเอะแทงระหว่างกลับจากไปซื้อขนมเค้ก เพื่อเป็นการล้างแค้นให้แก่พ่อของเธอที่เสียชีวิตเพราะถูกลุกหลงในระหว่างการปราบกลุ่มขับไล่ต่างแดนของชินเซ็นงิมิ แต่โซโกะไม่ตายและจับเด็กหญิงคนนั้นไปให้ร้านรับจ้างสารพัดจัดการส่งตัวกลับบ้านต่อ กลุ่มร้านรับจ้างสารพัดรู้สึกสงสัยว่าเรื่องนี้จะมีเงื่องำอะไรบางอย่างแอบแฝงจึงเรื่องสืบเรื่องราวเกี่ยวกับคดีโรงแรมรคคาเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นเหตุจูงใจที่ทำให้คิริเอะเคียดแค้นโซโกะ ด้านโซโกะเมื่อกลับไปที่สำนักงานชินเซ็นงุมิก้ได้รื้อแฟ้มคดีดังกล่าวออกมาดูพร้อมกำชับลูกน้องของตนที่ทำคดีนี้ด้วยกันให้ปิดเป็นความลับ | ||||
187 | 37 | "เมื่อผ่านบทเด่นไปแล้วก็เตรียมบอกลา" (フラグを踏んだらサヨウナラ) | 10 ธันวาคม 2552 | |
โซโกะถูกกลุ่มขับไล่ต้างแดนโซไกจับตัวพร้อมกับคางุระซึ่งออกไปถามความจริงเรื่องคดีรคคาคุกับโซโกะ และคิริเอะซึ่งถูกกลุ่มโซไกหลอกใช้ให้ล่อโซโกะอีกทีหนึ่ง ด้านกินโทกิกับชินปาจิก็ได้เค้นเอาความจริงเรื่องคดีจากปากของคามิยาม่าจนได้รู้สาเหตุของเรื่องทั้งหมด เมื่อทั้งหมดได้รู้เรื่องว่าโซโกะถูกกลุ่มโซไกจับตัวไปจึงได้ตามไปช่วยโชโกะ ด้านโซโกะและคางุระสามารถแก้มัดตนเองได้และพยายามจะพาคิริเอะหนีไปด้วยกัน ซึ่งทั้งสามต้องพบกับการขัดขวางอย่างหนักจากกลุ่มโซไก | ||||
188 | 38 | "บันทึกสังเกตการณ์..มันต้องทำจนถึงที่สุด" (観察日記は最後までやりきろう) | 17 ธันวาคม 2552 | |
เรื่องราวของมาดาโอะผู้ไม่ได้ความจากบันทึกการสังเกตประจำวันของเด็กชายไดโกโร่ | ||||
189 | 39 | "พวกเรารู้ว่าหากทำงานให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้จะดีที่สุด แต่หลังจากนั้นคุณก็จะได้เลื่อนการเริ่มตันใหม่ไปปีหน้าแทน แล้วอย่างนี้จะให้จบงานสิ้นปีนี้ได้อย่างไร" (我々はこの年の終わりまでに年間タスクを完了する最もよいのは分かるけど、その後、あなたは新鮮なスタートは来年までに延期した。それはどのように今年の終わり行くの) | 24 ธันวาคม 2552 | |
"ออกกำลังกายประกอบเพลงคือที่สมาคมของหนุ่มสาว" (ラジオ体操は少年少女の社交場) | ||||
ตอนพิเศษฉลองครบรอบ 30 ปีของแอนิเมชั่นชุด กันดั้ม: นักหนังสือพิมพ์คนหนึ่งได้ไปพบกับอดีตนักข่าวสงครามในช่วงสงครามขับไล่ต่างแดน เพื่อสอบถามถึงตำนานอสูรสีขาวแห่งสนามรบ อันเป็นตำนานที่ไม่ปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ของสงครามขับไล่ต่างต่างแดน เรื่องราวดำเนินไปในทำนองว่าอสูรสีขาวในสงครามครั้งนั้นคือกินโทกิ ซึ่งมีฉายาในอดีตว่า "ชิโร่ยาฉะ" แต่สุดท้ายกลับจบด้วยการเฉลยว่าอสูรสีขาวนั้นคือหุ่นรบโมบิลสูทกันดั้มรุ่น RX-78-2 (ฉายาในภาษาญี่ปุ่นของหุ่นรบ RX-78-2 คือ "ชิโร่อาคุม่า" ซึ่งแปลความหมายได้ในทำนองเดียวกัน)
กิจวัตรประจำวันทุกเช้าของคางุระคือการไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ ณ ที่นั้น เธอได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งซึ่งมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกับเธอ | ||||
190 | 40 | "ตอนจะหาอะไรสักอย่าง ให้หาจากการคาดหมายของสิ่งเหล่านั้น" (捜しものをする時はそいつの目線になって捜せ) | 7 มกราคม 2553 | |
กินโทกิกับคาซึระกลายเป็นแมว คอนโด้กลายเป็นกอริล่า ราชาแมวพเนจรไวจจิจึงต้องสอนวิธีหาอาหารแบบแมวให้กับน้องใหม่ทั้งสามตัว | ||||
191 | 41 | "สิ่งที่เรียกว่าอิสระคือการมีชีวิตอยู่ด้วยความเป็นตัวเองไม่ใช่กฎ" (自由とは無法ではなく己のルールで生きること) | 14 มกราคม 2553 | |
หลังจากที่ราชาแมวพเนจรไวจจิสอนวิธีหาอาหาร กินโทกิ คาซึระ และคอนโด้ในร่างแมว (และกอริล่า) ก็ได้รู้ความจริงจากปากของไวจจิว่าตนเองเคยเป็นมนุษย์มาก่อนและสาเหตุที่ตนต้องกลายเป็นแมว ไวจจิฝากให้กินโทกิช่วยรับตำแหน่งราชาแมวพเนจรแทนตน กินโทกิปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะได้ทำอะไรต่อไป ไวจจิก็ถูกแก๊งโนบุเนสุมิซึ่งออกตระเวนจับแมวทั่วเมืองเพื่อไปทำหมันจับตัวไปพร้อมกับแมวพเนจรตัวอื่นๆ ทั้งสามจึงต้องหาช่วยเหลือไวจจิและแมวพเนจรที่ถูกจับตัวไปให้ได้ | ||||
192 | 42 | "แมวบลูส์จรจัดแห่งเมืองคาบูกิโจ" (かぶき町野良猫ブルース) | 21 มกราคม 2553 | |
กินโทกิ คาซึระ และคอนโด้บุกสถานทูตดาวมาทาทาบิซึ่งอยู่เบื้องหลังการว่าจ้างให้แก๊งโนบุเนสุมิทำการจับแมวพเนจรทั่วเมืองมารวมกัน ณ ที่นั้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเพื่อจะรวบรวมเอาอัณฑะแมวมาทำเป็นยาชูกำลังให้กับราชาแห่งดาวมาทาทาบิ กินโทกิบุกเข้าไปช่วยไวจจิที่กำลังจะเสียท่าให้กับสัตว์ประหลาดที่ราชาแห่งดาวมาทาทาบิปล่อยให้ไล่ฆ่ากลุ่มแมวพเนจรได้ทันกาล และพูดปลุกใจให้พวกแมวช่วยกันล้มสัตว์ประหลาดได้สำเร็จ หลังจากนั้นกินโทกิและคาซึระก็ได้กลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคอนโด้จะยังเป็นลิงกอริล่าอยู่อย่างเดิม | ||||
193 | 43 | "การปรุงอาหารคือความมานะอดทน" (料理は根性) | 28 มกราคม 2553 | |
เพื่อปรับปรุงฝีมือการทำอาหาร คางุระ ชินปาจิ โอทาเอะ คิวเบ และซัทจัง มาเรียนทำอาหารที่โรงเรียนสอนทำอาหารของคิตาโอจิ เรซังโกะ | ||||
194 | 44 | "พอได้ยินคำว่า "ลีเวียนเอธาน" ใบหน้าคุณซาซาเอะก็แว่บเข้ามาจนทำให้ผมจะเป็นบ้า" (リヴァイアサンってきいたらどうしてもサザエさんがチラつく俺のバカ!!) | 4 กุมภาพันธ์ 2553 | |
ระหว่างออกปฏิบัติการของชินเซ็นงุมิ ฮิจิคาตะดันพบน้ำมูกไหลจากจมูกคอนโด้ จึงต้องรีบตามกำจัดก่อนเรื่องบ้าๆจะเกิดขึ้นตามมา | ||||
195 | 45 | "อย่ายอมแพ้สายฝน" (雨ニモ負ケズ) | 11 กุมภาพันธ์ 2553 | |
กินโทกิได้พบกับผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศ เคซึโนะ คริสเทล โดยบังเอิญ จึงได้รู้ว่าผู้ประกาศเคซึโนะกำลังมีเรื่องทุกข์ใจที่พยากรณ์อากาศผิดพลาด และได้รู้ความจริงที่ว่าผู้ประกาศเคซึโนะนั้นแท้จริงเป็นองเมียวจิ และมีองเมียวจิคนอื่นกำลังทำให้การพยากรณ์อากาศของผู้ประกาศเคซึโนะผิดพลาด | ||||
196 | 46 | "อย่ายอมแพ้สายลม" (風ニモ負ケズ) | 18 กุมภาพันธ์ 2553 | |
ศึกองเมียวจิภาคที่หนึ่ง | ||||
197 | 47 | "อย่ายอมแพ้แม้แต่พายุ" (嵐ニモ負ケズ) | 25 กุมภาพันธ์ 2553 | |
ศึกองเมียวจิภาคที่สอง | ||||
198 | 48 | "ไม่เคยสูญเสียรอยยิ้มนั้น" (イカナル時ニモ笑顔ヲ絶ヤサナイ) | 4 มีนาคม 2553 | |
ศึกองเมียวจิภาคที่สาม | ||||
199 | 49 | "ฉันอยากสวยและแข็งแกร่งแบบนั้นจัง" (ソンナ強ク美シイモノニ私ハナリタイ) | 11 มีนาคม 2553 | |
ศึกองเมียวจิภาคที่จบ | ||||
200 | 50 | "สีเลือดของซานตาครอสตัวแดง" (サンタクロースの赤は血の色) | 18 มีนาคม 2553 | |
อุมิโบซุแอบมาเซอร์ไพรส์ฉลองวันคริสต์มาสให้คางุระ แต่กลับพบมีเหล่าคนบ้าที่แต่งซานต้าคลอสแบบเดียวกับตนเหมือนกัน | ||||
201 | 51 | "ทุกคนล้วนเป็นซานตาครอส!" (人類みなサンタ! ) | 25 มีนาคม 2553 | |
การประกวดซานต้าคลอสหาซานต้าตัวจริงของอุมิโบซุ กินซานต้า คิวตาคลอส มังกี้ซานตาคลอสและหุ่นยนต์ซานต้าใส่แว่น |
ในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องกินทามะในชุดนี้ ใช้เพลงเปิดและเพลงปิดรายการรวม 6 เพลง เป็นเพลงเปิด 2 เพลง และเพลงปิด 4 เพลง ดังนี้
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.