คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

มิเชล โหย่ว

นักแสดงชาวมาเลเซีย (เกิด พ.ศ. 2505) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

มิเชล โหย่ว
Remove ads

มิเชล โหย่ว ชูเค็ง (อักษรโรมัน: Michelle Yeoh Choo-Kheng; เกิด 6 สิงหาคม ค.ศ. 1962) มีชื่อจริงว่า โหย่ว ชูเค็ง (จีนตัวย่อ: 杨紫琼; จีนตัวเต็ม: 楊紫瓊; พินอิน: yáng zǐ qióng) หรือ หยาง จื่อฉยง ในภาษาจีนกลาง มีชื่อในการแสดงว่า มิเชล โหย่ว (อักษรโรมัน: Michelle Yeoh) เป็นนักแสดงหญิงชาวมาเลเซีย กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นผู้ชนะเลิศการประกวดมิสมาเลเซียเวิลด์ และเป็นตัวแทนของประเทศมาเลเซียในการเข้าประกวดมิสเวิลด์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1983 จากนั้นเธอได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ฮ่องกงจนมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติโดยเฉพาะจากการแสดงบทโลดโผนและภาพยนตร์กำลังภายในที่ประสบความสำเร็จหลายเรื่องในยุคคริสต์ทศวรรษ 1990 เช่น โอ้โฮ!...ซือเจ๊ (1985), โคตรอันตราย...คู่คู่ (1986), ดุดุดุ (1987), แผนโหดเจ๊ดุ (1987), วิ่งสู้ฟัด 3 (1992), สวยประหาร (1993), วิ่งสู้ฟัด ตอน ซือเจ้ฟัดเอง (1993), หย่งชุน หมัดสั้นสะท้านบู๊ลิ้ม (1994) และ 3 พี่น้องตระกูลซ่ง (1997)

ข้อมูลเบื้องต้น มิเชลล์ โหย่ว, เกิด ...
Remove ads

หลังจากมีชื่อเสียงในทวีปเอเชีย เธอก็ได้รับโอกาสในการแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูด โดยได้แสดงใน ภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ ภาค 007 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย (1997) และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากเรื่อง พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก (2002) ที่ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแบฟตาและรางวัลม้าทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รวมทั้งมีผลงานในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องอื่น ๆ เช่น นางโลม โลกจารึก (2005), ยุทธการสยบพระอาทิตย์ (2007), เดอะมัมมี่ 3 คืนชีพจักรพรรดิมังกร (2008), มอร์แกน ยีนส์มรณะ (2016), เหลี่ยมโบตั๋น (2018), ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ (2021), โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว (2022) และประสบความสำเร็จอย่างมากกับบทบาทการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส (2022) ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 95 โดยเธอได้รับการบันทึกว่าเป็นนักแสดงชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขานี้และเป็นชาวมาเลเซียคนแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์[2][3][4][5][6] นอกจากนี้จากบทบาทดังกล่าวยังทำให้เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ, รางวัลแซกอวอร์ดส์และอินดิเพนเดนต์สปิริตอะวอดส์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รวมถึงได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลแบฟตา

ชื่อเธอ Yeoh Choo-Kheng นั้นมาจากการถอดชื่อจีน 杨紫琼 ตามเสียงภาษาจีนฮกเกี้ยน อ่านตามภาษาจีนฮกเกี้ยนว่า "เอีย จู๊ขิง" (เป่อ่วยยี: Iôⁿ Chú-khêng, IPA: /iɔ̃³³ t͡su⁴⁴ kʰiɪŋ²⁴/)

Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

มิเชล โหย่ว เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1962 ในเมืองอีโปะฮ์ รัฐเประ สหพันธรัฐมาลายา (ปัจจุบันคือประเทศมาเลเซีย) มีชื่อจริงว่า โหย่ว ชูเค็ง หรือ หยาง จื่อฉยง ตามสำเนียงจีนกลาง เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน โดยครอบครัวเป็นชาวฮกเกี้ยนและชาวกวางตุ้ง[7][8] บิดาชื่อ โหย่ว เคียนเต๊ก หรือ หยาง เจี้ยนเต๋อ (สำเนียงจีนกลาง) และมารดาชื่อ เจเนต โหย่ว หรือ ถัน ฮุ้ยเจิน บิดาเป็นนักกฎหมายและเป็นนักการเมืองของพรรคสมาคมชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน (Malaysian Chinese Association หรือ MCA) ซึ่งเธอเป็นบุตรคนสุดท้องในพี่น้องทั้งหมด 3 คน เติบโตขึ้นมาด้วยการพูดภาษามลายูและภาษาอังกฤษเป็นหลัก โดยเธอเริ่มมาเรียนรู้ภาษาจีนกวางตุ้งและภาษาจีนกลางเมื่อเริ่มเป็นนักแสดงแล้ว

เธอชื่นชอบการเต้นมาตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มเรียนบัลเลต์ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และเข้ารับการศึกษาในชั้นประถมที่โรงเรียนเมนคอนแวนต์ อีโปะฮ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วน ก่อนที่จะย้ายตามครอบครัวไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ เมื่ออายุได้ 15 ปี และเข้าเรียนในโรงเรียนประจำหญิงล้วน จากนั้นเธอได้เข้าเรียนที่ราชบัณฑิตยสถานนาฏศิลป์ กรุงลอนดอน เอกวิชาบัลเลต์ อย่างไรก็ตามเธอต้องหยุดการเป็นนักบัลเลต์มืออาชีพไว้เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เธอจึงเปลี่ยนไปให้ความสนใจกับการออกแบบท่าเต้นและศิลปะด้านอื่น เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต สาขานฤมิตศิลป์ จากวิทยาลัยครูว์แอนด์อัลเซเจอร์ ที่มณฑลเชชเชอร์[9](ต่อมาวิทยาลัยดังกล่าวถูกรวมเป็นวิทยาเขตหนึ่งของมหาวิทยาลัยนครแมนเชสเตอร์)

Remove ads

อาชีพ

สรุป
มุมมอง

หลังเรียนจบจากอังกฤษ เธอกลับมายังประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าประกวดมิสมาเลเซียเวิลด์ และสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้ในปี ค.ศ. 1983 ขณะอายุได้เพียง 20 ปี ก่อนจะได้เป็นนางงามตัวแทนของประเทศมาเลเซียไปประกวด[[มิสเวิลด์]] ที่กรุงลอนดอน

จากการได้ตำแหน่งนางงามของประเทศมาเลเซียและได้เป็นตัวแทนไปประกวดมิสเวิลด์ ที่ลอนดอน ทำให้เธอได้รับความสนใจและมีผลงานทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในปี 1984 ด้วยการได้แสดงโฆษณานาฬิกายี่ห้อ กี ลาร็อช ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ โดยเป็นการร่วมถ่ายโฆษณาร่วมกับเฉินหลงและโจว เหวินฟะ จากนั้นเธอได้เซ็นสัญญาแสดงภาพยนตร์กับค่าย ดีแอนด์บี ฟีลม์ ของฮ่องกง โดยมีชื่อในการแสดงช่วงแรกว่า "มิเชล ข่าน" และมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในฐานะนักแสดงสมทบคือ คู่ซ่าส์จอมแสบ (1984) ที่แสดงนำแสดงโดย หลิน จื่อเสียง และหง จินเป่า [10]

ราชินีนักบู๊

หลังจากได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรก เธอก็ได้ปรากฏตัวในฐานะนักแสดงรับเชิญในเรื่องภาพยนตร์เรื่อง ขอน่า อย่าซ่าส์ (1985) ที่นำแสดงโดยเฉินหลง, หง จินเป่า และ หยวน เปียว ต่อมาเธอได้รับบทนักแสดงนำเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์แอคชันเรื่อง โอ้โฮ!...ซือเจ๊ (1985) ซึ่งเธอรับบทเป็น "สารวัตรอู๋" ตำรวจสายสืบหญิง โดยแสดงร่วมกับ ซินเธีย ร็อทร็อก และ ฉีเคอะ ซึ่งบทดังกล่าวถือเป็นบทบาทที่สร้างชื่อให้เธอเป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์ฮ่องกง โดยตัวภาพยนตร์ประสบความสำเร็จทำรายได้มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ส่งผลให้เธอได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกง สาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม

ในปี 1986 เธอยังคงได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง โคตรอันตราย..คู่คู่ โดยรับบทเป็น "สารวัตรมิเชลล์" ตำรวจหญิงที่เชี่ยวชาญด้านกังฟู แสดงร่วมกับ ฮิโรยูกิ ซานาดะ และ ไมเคิล หว่อง, Magnificent Warriors ดุ ดุ ดุ หรือ โอ้โห..ซือเจ๊ 2 รับบทนักผจญภัยต่อกรกับกองทัพญี่ปุ่นช่วงทศวรรษที่ 1930s จากบทบาทการแสดงบทบู๊ที่โดดเด่น มิเชล โหย่ว ได้ฉายาว่า ราชินีนักบู๊[11] และซือเจ๊[12]

หลังจากแต่งงานโหย่วได้งดการแสดง ก่อนจะกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้งในปี พ.ศ. 2535 และประสบความสำเร็จสูงในภาพยนตร์ตำรวจชุดอย่าง วิ่งสู้ฟัด 3 รับบทตำรวจสาวจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มาร่วมภารกิจกับตำรวจจากฮ่องกง ที่รับบทโดย เฉินหลง ซึ่งได้มาถ่ายทำที่ประเทศมาเลเซียบ้านเกิดของเธอด้วย ทำให้ชื่อเสียงของเธอดังไปทั่วโลก เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่พูดภาษาจีนที่มีรายได้สูงสุดของโลก เป็นหนึ่งในดารานำหญิงเพียงคนเดียวที่เฉินหลงยินยอมให้แสดงบทเสี่ยงภัย โดยเฉพาะฉากเสี่ยงตายบนรถไฟเป็นฉากที่คนดูจดจำ[10] ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้มีโอกาสไปฉายที่สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2539 ในชื่อ Supercop[13]

จากนั้นมิเชล โหย่ว ได้มีงานแสดงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่แล้วเป็นแนวแอกชันและแนวกำลังภายใน เรื่องที่โดดเด่นได้แก่ The Heroic Trio สวยประหาร และ Executioners : สวยประหาร 2 ภาพยนตร์ที่รวมนางเอกฮ่องกงแห่งยุค ร่วมกับ เหมย ยั่นฟาง และ จางม่านอวี้ [14], Butterfly and Sword กระบี่ผีเสื้อบารมีสะท้านภพ ภาพยนตร์กำลังภายใน ร่วมกับ เหลียงเฉาเหว่ย เจินจื่อตัน หลินจื้ออิ่ง และหวังจู่เสียน, Tai Chi Master : มังกรไท้เก็ก คนไม่ยอมคน ภาพยนตร์กังฟูร่วมกับ หลี่ เหลียนเจี๋ย, ภาคแยกของวิ่งสู้ฟัด 3 คือ Supercop 2 วิ่งสู้ฟัด ตอน ซือเจ้ฟัดเอง โดยมีตัวละครของเธอเป็นตัวละครหลัก[15], ภาพยนตร์แอกชันกังฟู Wing Chun หย่งชุน หมัดสั้นสะท้านบู๊ลิ้ม รับบท เหยียน หย่งชุน ผู้ให้กำเนิดมวยหย่งชุน และแสดงร่วมกับ เจินจื่อตัน[16]

นอกจากนั้นยังมีภาพยนตร์ดราม่าได้แก่ The Soong Sisters รับบท ซ่ง อ้ายหลิง ซึ่งทำให้มิเชล โหย่ว ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมเวทีฮ่องกง ฟิล์ม อะวอร์ด (Hong Kong Film Award)

สู่ระดับนานาชาติ

พ.ศ. 2540 มิเชล โหย่ว มีผลงานแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดครั้งแรกในเจมส์ บอนด์ ตอนที่ 18 ที่มีชื่อว่า Tomorrow Never Dies ผลงานกำกับของ โรเจอร์ สปอตติสวู้ด โดยร่วมแสดงกับ เพียร์ซ บรอสแนน, เทรี่ แฮทเชอร์ และ โจนาธาน ไพรซ์ กับบท ไหว่หลิน เป็นที่รู้จักกับการเป็นสาวบอนด์ที่บู๊ได้ และเป็นนักแสดงเอเชียเพียงไม่กี่คนที่เป็นนางเอกในแฟรนไชส์นี้[12]

ตามด้วยการประสบความสำเร็จอย่างสูงกับหนังแอ็คชั่น-กำลังภายในเรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก ของอั้งลี่ ในบทจอมยุทธ์หยูซูเหลียน ร่วมแสดงกับ โจวเหวินฟะ, จาง จื่ออี๋, จางเจิ้น และ เจิ้งเพ่ยเพ่ย โดยสามารถทำเงินผ่านหลักร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ และคว้า 4 รางวัลออสการ์ รวมถึงภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม สำหรับเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเวที BAFTA Film Award, Saturn Award, TFCA Award, Golden Horse Award, Hong Kong Film Award และ VFCC Award [10]

นอกจากผลงานการแสดง มิเชล โหย่ว ได้เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ฮ่องกงร่วมกับแสดงนำ ในภาพยนตร์แอกชันเรื่อง The Touch ฟัดสัมผัสพิสดาร และ Sliver Hawk เหยี่ยวเหิร ฟัดมหากาฬ

Thumb
มิเชล โหย่ว ในปี 2009

ปี พ.ศ. 2548 มิเชล โหย่ว ได้แสดงในภาพยนตร์ฮอลลิวูด Memoirs of a Geisha นางโลมโลกจารึก ผลงานของ ร๊อบ มาร์แชลล์ โดยร่วมแสดงกับ จาง จื่ออี๋, กงลี่ และ เคน วาตานาเบ้ [17]จากนั้นมีผลงานภาพยนตร์ตะวันตกอีกหลายเรื่อง ได้แก่ Sunshine : ยุทธการสยบพระอาทิตย์ ร่วมกับ คิลเลียน เมอร์ฟี และ คริส อีแวนส์, The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor เป็นการกลับมาร่วมงานกับนักแสดงแอกชัน หลี่ เหลียนเจี๋ย และเบรนแดน เฟรเซอร์ [18]รวมถึงยังมีภาพยนตร์ทางฝั่งตะวันออก ได้แก่ Reign of Assassins นักฆ่าดาบเทวดา ซึ่งได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวที Asian Film Award for Best Actress ในปี พ.ศ. 2554 ได้รับบท ออง ซาน ซูจี สตรีผู้นำการต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าในภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่อง The Lady : อองซานซูจี ผู้หญิงท้าอำนาจ และเธอได้ถูกทางการพม่าขึ้นบัญชีดำในช่วงเวลาหนึ่ง[19]

ในปี พ.ศ. 2558 มิเชล โหย่ว ได้แสดงในซีรีส์ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก ในซีรีส์อเมริกันเรื่อง Strike Back สองพยัคฆ์สายลับข้ามโลก ซีซัน 5 Legacy ในปี พ.ศ. 2559 โหย่วได้กลับมารับบทจอมยุทธ์หยูซูเหลียน ใน Crouching Tiger, Hidden Dragon II - The Green Destiny : พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก 2 ชะตาเขียว และกลับมาร่วมแสดงอีกครั้งกับ เจินจื่อตัน[20] จากนั้นได้เข้าสู่จักรวาลมาร์เวลในภาพยนตร์ Guardians of the Galaxy Vol. 2 : รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล 2 รับเชิญในบทหนึ่งในผู้นำราเวนเจอร์ Aleta Ogord[21]

Thumb
มิเชล โหย่ว ในเทศกาลภาพยนตร์กาน ปี 2017

ในปี พ.ศ. 2560-2563 มิเชล โหย่ว ได้แสดงซีรีส์ไซไฟในแฟรนไชส์ Star Trek คือ Star Trek: Discovery สตาร์ เทรค: ดิสคัฟเวอรี่ ในบท ฟิลลิปา จอร์จู[22] จากทั้งสองมิติจักรวาล ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงรับเชิญยอดเยี่ยมจากเวที Saturn Award ในปี พ.ศ. 2561 มิเชล โหย่ว ได้ร่วมนำแสดงในภาพยนตร์ Crazy Rich Asians เหลี่ยมโบตั๋น ในบท เอลินอร์ ยัง[23] ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งรายได้ ในฐานะภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่ทำรายได้สูงสุดในทศวรรษนี้ และเข้าชิงรางวัลจากภาพยนตร์คอเมดีจาก รางวัลลูกโลกทองคำ, Critics' Choice Awards, Satellite Awards[24] รวมถึงกลับมาแสดงบทแอกชันกังฟูในภาพยนตร์ในจักรวาลยิปมัน Master Z: Ip Man Legacy ยิปมัน ตำนานมาสเตอร์ Z ในบทเจ้าแม่หัวหน้าแก๊งมาเฟีย

ปัจจุบัน

มิเชล โหย่ว ได้รับอีกบทบาทหนึ่งในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ในบทผู้นำดินแดนถาโหล ใน ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ [21]นอกจากนี้มีการประกาศว่ามิเชล โหย่ว จะร่วมแสดงในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ภาคต่อทั้งสองภาคของ อวตาร ในบทนักวิทยาศาสตร์ ดร. แคริน่า โมค[25]

ใน ปี พ.ศ. 2565 มิเชล โหย่ว ได้แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once ซือเจ๊..ทะลุมัลติเวิร์ส ซึ่งประสบความสำเร็จทางรายได้และคำวิจารณ์ ส่งให้มิเชล โหย่ว ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 80[26], Critics' Choice Awards, Satellite Awards ได้เข้าชิงและได้รับรางวัลอีกหลายเวที และได้รับ รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประจำปี 2566 ไป ทำให้เธอเป็นนักแสดงหญิงชาวเอเชียนและมาเลเซียคนแรก และคนผิวสีอันดับสองที่ได้รับรางวัลนี้ในรอบศตวรรษ

มิเชล โหย่ว ได้รับเลือกให้เป็นไอคอนแห่งปี 2022 (2022 ICON OF THE YEAR) จากนิตยสารไทม์ ในฐานะดาราดังระดับเมเจอร์สตาร์แห่งเอเชีย มีผลงานมากมาย มีชื่อเสียงมานานหลายทศวรรษ[9]

Remove ads

ชีวิตส่วนตัว

ในปี พ.ศ. 2531 หยางได้สมรสกับ ดิกสัน พูน ประธานบริษัทภาพยนตร์ D&B Films จากนั้นอีก 2 ปี ทั้งคู่ก็ได้หย่าขาดกัน[27]

เกียรติยศที่ได้รับ

  • ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544 หยางได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Darjah Datuk Paduka Mahkota Perak (DPMP) จากสุลต่านแห่งรัฐเประในฐานะที่เป็นชาวเประที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้หยางมีคำนำหน้าว่า ดาโต๊ะ[28][29]
  • ในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2550 ฌัก ชีรัก ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสในขณะนั้น ได้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ชั้นเบญจมาภรณ์ให้หยาง[30][31]
  • ในปี พ.ศ. 2555 หยางได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Darjah Seri Paduka Mahkota Perak (SPMP) ทำให้หยางมีคำนำหน้าว่า ดาโตะก์ เซอรี[32]
  • ในปี พ.ศ. 2556 หยางได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Darjah Yang Mulia Setia Mahkota Malaysia (PSM) ทำให้หยางมีคำนำหน้าว่า ตันซรี[33][34]
Remove ads

ผลงานแสดงภาพยนตร์

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, ภาพยนตร์ ...
Remove ads

ผลงานแสดงซีรีส์

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, ซีรีส์โทรทัศน์ ...
Remove ads

อ้างอิง

Loading content...

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading content...
Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads