Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระเจ้าแทจง (เกาหลี: 태종; ฮันจา: 太宗; อาร์อาร์: Taejong; เอ็มอาร์: T'aejong; 13 มิถุนายน ค.ศ. 1367 – 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1422) พระนามเดิม อี พังว็อน (เกาหลี: 이방원; ฮันจา: 李芳遠) เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์โชซ็อนของประเทศเกาหลี เป็นพระราชบิดาของพระเจ้าเซจงมหาราช[1] ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์มีพระนามว่า เจ้าชายช็องอัน (เกาหลี: 정안군; ฮันจา: 靖安君)
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระเจ้าแทจงแห่งโชซ็อน 朝鮮太宗 조선 태종 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
มกุฎราชกุมารโชซ็อน | |||||||||
ดำรงตำแหน่ง | 8 มีนาคม ค.ศ. 1400 – 7 ธันวาคม ค.ศ. 1400 | ||||||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าช็องจง | ||||||||
ถัดไป | เจ้าชายยังนย็อง | ||||||||
พระมหากษัตริย์แห่งโชซ็อน | |||||||||
ครองราชย์ | 7 ธันวาคม ค.ศ. 1400 – 19 กันยายน ค.ศ. 1418 | ||||||||
ราชาภิเษก | แคซ็อง อาณาจักรโชซ็อน | ||||||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าช็องจงแห่งโชซ็อน | ||||||||
ถัดไป | พระเจ้าเซจงแห่งโชซ็อน | ||||||||
พระเจ้าหลวงแห่งโชซ็อน | |||||||||
ดำรงตำแหน่ง | 19 กันยายน ค.ศ. 1418 – 8 มิถุนายน ค.ศ. 1422 | ||||||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าช็องจงแห่งโชซ็อน | ||||||||
ถัดไป | พระเจ้าทันจง | ||||||||
พระราชสมภพ | 13 มิถุนายน ค.ศ. 1367 พระตำหนักส่วนพระองค์ Yi Seong-gye, Gwiju-dong, ฮัมฮึง, อาณาจักรโครยอ | ||||||||
สวรรคต | มิถุนายน 8, 1422 ปี) หอ Yeonhwabang, พระราชวังชังกย็อง, ฮันซ็อง, อาณาจักรโชซ็อน | (54||||||||
ฝังพระศพ | สุสาน Heonneung, ฮ็อนอินลึง, เขต Seocho, โซล, ประเทศเกาหลีใต้ | ||||||||
พระมเหสี | พระราชินีว็อนกย็อง | ||||||||
พระราชบุตร | พระเจ้าเซจงมหาราช | ||||||||
| |||||||||
ราชวงศ์ | สกุลอี ราชวงศ์โชซ็อน | ||||||||
พระราชบิดา | พระเจ้าแทโจแห่งโชซ็อน | ||||||||
พระราชมารดา | พระนางชินอึย | ||||||||
ศาสนา | พุทธแบบเกาหลี ภายหลังนับถือลัทธิขงจื๊อใหม่ | ||||||||
ลายพระอภิไธย |
พระเจ้าแทจง มีพระนามเดิมว่า “อีบังวอน” (이방원, 李芳遠) พระราชสมภพในปี ค.ศ. 1367 เป็นบุตรชายคนที่ห้าของอี ซ็อง-กเย (태조, 太祖) สอบผ่านเข้ารับราชการในราชวงศ์โครยอในปี ค.ศ. 1382 ในช่วงแรกเขาช่วยบิดาหาการสนับสนุนจากประชาชนและผู้มีอิทธิพลในรัฐบาล และยังมีส่วนช่วยบิดาในการปราบดาภิเษกก่อตั้งราชวงศ์ใหม่โดยลอบสังหารข้าราชการทรงอิทธิพลอย่างจอง มงจู (정몽주, 鄭夢周) ที่ยังคงภักดีกับราชวงศ์โครยอ อีบังวอนก็ได้รับพระยศเป็นเจ้าชายช็องอัน (정안대군, 靖安大君)
หลังช่วยบิดาโค่นล้มราชวงศ์เก่าและก่อตั้งโชซอนได้แล้ว พระองค์ก็คาดว่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้สืบราชสมบัติ ทว่าพระราชบิดาและอัครเสนาบดีช็อง โด-จ็อนกลับเลือกอีบังซอก (이방석, 李芳碩) พระราชโอรสพระองค์ที่ 8 ที่พระราชสมภพแด่พระราชินีชินด็อก (신덕왕후, 神德王后) พระมเหสีพระองค์ที่สองในพระเจ้าแทโจ เป็นมกุฎราชกุมารแทน เหตุผลหลักของความขัดแย้งนี้เป็นเพราะช็อง โด-จ็อน ผู้วางรากฐานทางอุดมการณ์ สถาบันและกฎหมายคนสำคัญของราชวงษ์ใหม่ เห็นควรให้โชซอนเป็นอาณาจักรที่มีเสนาบดีบริหารราชการโดยมีพระมหากษัตริย์แต่งตั้ง ขณะที่อี บังวอนเห็นควรว่าพระมหากษัตริย์ควรปกครองโดยตรงแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ความแตกต่างนี้จึงนำไปสู่บรรยากาศความตึงเครียดทางการเมือง หลังพระราชินีซินด็อกเสด็จสวรรคตอย่างกระทันหันใน ค.ศ. 1398 อี บังวอนเป็นผู้นำรัฐประหารระหว่างที่พระเจ้าแทโจกำลังไว้ทุกข์ให้กับพระมเหสี เหตุการณ์นี้ทำให้ช็อง โด-จ็อนและผู้สนับสนุนเสียชีวิต รวมทั้งพระโอรสของพระราชินีซินด็อกสองพระองค์กับมกุฎราชกุมาร เหตุการณ์ดังกล่าวมีคำเรียกว่า "สามัคคีเภทของเจ้าชายครั้งที่หนึ่ง" (First Strife of Princes)
พระเจ้าแทโจทรงหวาดกลัวเมื่อพระราชโอรสเข่นฆ่ากันเองเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ อีกทั้งยังหน่ายพระทัยหลังพระมเหสีสวรรคต จึงทรงสละราชบัลลังก์และแต่งตั้งพระโอรสพระองค์ที่สอง อี บังกวา (เป็นพระโอรสที่มีพระชนมายุมากที่สุดที่ยังทรงพระชนม์ชีพ) หรือพระเจ้าช็องจง เป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อมา พระราชกรณียกิจแรก ๆ ของพระเจ้าช็องจง กคือการย้ายเมืองหลวงกลับไปยังแคซ็อง เพราะทรงเชื่อว่าสะดวกสบายมากกว่า แต่อี บังวอนเป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริง และไม่ช้าก็กลับมาขัดแย้งกับอี บังกัน (이방간, 李芳幹) หรือเจ้าชายฮวีอัน (회안대군, 懷安大君) พระเชษฐาอีกพระองค์หนึ่ง ที่ใฝ่อำนาจเช่นกัน ใน ค.ศ. 1400 แม่ทัพพักโบ ซึ่งผิดหวังที่อี บังวอนไม่มอบบำเหน็จให้แก่เขาจากการกระทำในสามัคคีเภทของเจ้าชายครั้งที่หนึ่ง เข้ากับอี บังกันและก่อกบฏในเหตุการณ์ที่เรียกว่า "สามัคคีเภทของเจ้าชายครั้งที่สอง" อี บังวอนเป็นฝ่ายชนะ จึงประหารชีวิตพักโบ และเนรเทศอี บังกัน ฝ่ายพระเจ้าช็องจงทรงหวาดกลัวพระอนุชาที่มีอำนาจมากมายของพระองค์ จึงทรงตั้งอี บังวอนเป็นมกุฎราชกุมารและสละราชสมบัติในปีเดียวกัน อี บังวอนจึงสืบราชสมบัติเป็นพระเจ้าแทจง พระมหากษัตริย์พระองค์ที่สามของราชวงศ์โชซ็อน
พระราชกรณียกิจแรก ๆ ของพระเจ้าแทจงคือการยกเลิกอภิสิทธิ์ของขุนนางผู้ใหญ่และชนชั้นอภิชนในการมีกองทัพส่วนตัว ซึ่งเป็นการลดทอนอำนาจของกลุ่มคนเหล่านี้ในการก่อกบฏขนาดใหญ่ และเพิ่มจำนวนทหารในกองทัพประจำชาติอย่างมาก ต่อมาทรงทบทวนกฎหมายภาษีที่ดินและการจดบันทึกคนในบังคับ ผลทำให้ค้นพบที่ดินที่ถูกเบียดบังไว้และรายได้ของอาณาจักรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า[2] นอกจากนี้ยังทรงริเริ่มระบบโฮเป (호패) ซึ่งเป็นแผ่นป้ายระบุชื่อและภูมิลำเนา เพื่อควบคุมการเดินทางของประชาชน[3]
รัชกาลของพระองค์มีการตั้งระบบราชการรวมศูนย์ที่เข้มแข็งและระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ใน ค.ศ. 1399 พระเจ้าแทจงทรงมีบทบาทสำคัญในการยุบเลิกสมัชชาโดพยอง (Dopyeong Assembly) อันเป็นสภาบริหารราชการแผ่นดินแบบเดิมที่มีอำนาจผูกขาดในราชสำนักในช่วงปลายราชวงศ์โครยอ แล้วตั้งสภาอีจอง (의정부, 議政府) เป็นองค์การบริหารราชการแผ่นดินส่วนกลางใหม่ที่พระมหากษัตริย์และพระราชกฤษฎีกามีอำนาจสูงสุด หลังผ่านกฎหมายเกี่ยวกับเอกสารของคนในบังคับและกฎหมายภาษีแล้ว พระเจ้าแทจงยังออกกฤษฎีกาใหม่ให้การตัดสินใจของสภาอีจองต้องได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระมหากษัตริย์เสียก่อนจึงมีผล นับเป็นคราวสิ้นสุดของประเพณีที่เสนาบดีและที่ปรึกษาตัดสินใจโดยถกเถียงและเจรจากันเอง และทำให้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์เพิ่มมากขึ้นมาก ต่อมาพระเจ้าแทจงทรงตั้งสำนักงานซินมุนเพื่อรับฟ้องคดีความที่คนในบังคับร้องทุกข์ต่อข้าราชการหรืออภิชนที่ล่วงละเมิดหรือปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
พระเจ้าแทจงยังทรงแบ่งอาณาจักรโจซอนออกเป็นแปดมณฑล รัชสมัยของพระเจ้าแทจงเป็นสมัยแห่งการวางรากฐานของอาณาจักร ในค.ศ. 1401 ทรงนำเงินกระดาษมาใช้เป็นครั้งแรกในเกาหลี พระเจ้าแทจงทรงดำเนินนโยบายส่งเสริมลัทธิขงจื้อใหม่ (Neo-Confucianism) ซึ่งเข้ามาในเกาหลีตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และกดขี่ศาสนาพุทธ ทรงปิดวัดวาอารามไปหลายร้อยแห่ง ทรงยึดที่ดินและทรัพย์ของสถาบันพระพุทธศาสนามาใช้จ่ายในการบริหารบ้านเมือง[ต้องการอ้างอิง]
พ.ศ. 1961 พระเจ้าแทจงก็สละบัลลังก์ ให้เจ้าชายชุงนยอง (วังเซจา) ครองราชย์เป็นพระเจ้าเซจงมหาราช แม้ทรงสละบัลลังก์แล้ว แต่ก็ทรงจัดการกิจการบ้านเมืองอยู่ในฐานะพระเจ้าหลวง (太上王 태상왕) คอยตัดสินพระทัยในกิจการสำคัญ ๆ พระองค์ตัดสินประหารชีวิตหรือเนรเทศอดีตผู้สนับสนุนพระองค์ขึ้นสู่อำนาจบางคนที่ต้องการความชอบ เพื่อเสริมสร้างพระราชอำนาจและลดการฉ้อราษฎร์บังหลวง เพื่อจำกัดอิทธิพลของครอบครัวพระมเหสีและตระกูลสำคัญ พระองค์ยังทรงประหารชีวิตพระสัสสุระ (พ่อตา) และญาติพี่น้องของพระมเหสีรวมสี่คน หลังพระเจ้าแทจงทรงพบว่าพระราชินีและตระกูลกำลังแทรกแซงการเมือง
ใน พ.ศ. 1962 สลัดญี่ปุ่นจากเกาะสึชิมะไปบุกปล้นจีน ระหว่างทางไปจีนก็ได้บุกปล้นมณฑลชุงชองและฮวางแฮของโชซ็อน ทำให้พระเจ้าแทจงทรงส่งลีจองมูไปบุกยึดเกาะซึชิมา และล้อมเกาะไว้จนในพ.ศ. 1965 ตระกูลโซเจ้าปกครองเกาะซึชิมาก็ยอมจำนน และใน พ.ศ. 1986 ก็ได้ให้เอกสิทธิ์ในการค้ากับโชซ็อนให้แก่ตระกูลโซ โดยต้องส่งบรรณาการเป็นการแลกเปลี่ยน (แต่เกาะซึชิมานั้นเป็นท่าเรือให้สองชาติเสมอมา ปัจจุบันเป็นของญี่ปุ่น แต่เกาหลีใต้ก็ได้อ้างสิทธิ ปัจจุบันจึงเป็นปัญหาขัดแย้งกันอยู่)
พระเจ้าแทจงทรงเป็นบุคคลที่เป็นที่ถกเถียง เพาะฆ่าคู่แข่งไปหลายคน แต่ทรงปกครองอย่างมีประสิทธิภาพช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎร ทำให้การป้องกันประเทศเข้มแข็งขึ้น และวางรากฐานให้แก่พระเจ้าเซจงสืบต่อมา[4]
เนื้อหาในบทความนี้ไม่ถูกต้องแม่นยำ โปรดช่วยกันตรวจสอบ และปรับปรุง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพิ่มแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ด้วย |
พระมเหสี พระสนม พระโอรสและพระธิดา
พงศาวลีของพระเจ้าแทจง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.