คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

พระเจ้าเซจงมหาราช

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Remove ads

พระเจ้าเซจงมหาราช (เกาหลี: 세종대왕; ฮันจา: 世宗大王 , พ.ศ. 1940 ถึง พ.ศ. 1993) พระนามเดิมว่า อี โด (เกาหลี: 이도) เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่สี่แห่งราชวงศ์โชซ็อน เดิมทีมีพระอิสริยยศว่า เจ้าชายชุงนย็อง (เกาหลี: 중녕대군) พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 3 ของพระเจ้าแทจงแห่งโชซ็อนและพระราชินีว็อนกย็อง ในปี ค.ศ. 1418 พระองค์ได้รับการสถาปนาให้เป็นรัชทายาทต่อจากพระเชษฐาของพระองค์คือเจ้าชายรัชทายาทอี เจ (เกาหลี: 왕세자이제) ซึ่งถูกถอดจากพระอิสริยยศ ปัจจุบัน พระเจ้าเซจงมหาราชได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี

ข้อมูลเบื้องต้น พระเจ้าเซจงมหาราช, พระมหากษัตริย์แห่งโชซ็อน ...
Remove ads
ข้อมูลเบื้องต้น ฮันกึล, ฮันจา ...

แม้จะขึ้นครองราชบัลลังก์หลังจากการสละราชบัลลังก์โดยสมัครใจของพระราชบิดาในปี ค.ศ. 1418 แต่พระเจ้าเซจงก็เป็นเพียงกษัตริย์หุ่นเชิดในขณะที่พระเจ้าแทจงยังคงกุมพระราชอำนาจที่แท้จริงและปกครองประเทศจนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1422 พระเจ้าเซจงจึงเป็นกษัตริย์แต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 28 ปี แม้ว่าหลังจากปี ค.ศ. 1439 พระองค์จะประชวรหนักมากขึ้น[1] และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1442 พระราชโอรสองค์โตของพระองค์คือเจ้าชายรัชทายาทอี ฮยาง (เกาหลี: 왕세자이향, พระเจ้ามุนจงแห่งโชซ็อนในอนาคต) จึงทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

พระเจ้าเซจงได้สนับสนุนและส่งเสริมลัทธิขงจื๊อแบบเกาหลีและลัทธิขงจื๊อใหม่และออกกฎหมายแก้ไขกฎหมายที่สำคัญ พระองค์สร้างและประกาศใช้อักษรเกาหลี (ปัจจุบันเรียกว่าอักษรฮันกึล)[2][3] ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และแนะนำมาตรการเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ พระองค์ส่งทัพไปทางเหนือและก่อตั้ง Samin Jeongchaek (นโยบายการย้ายถิ่นฐานของชาวนา) เพื่อดึงดูดผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ทางใต้ พระองค์ช่วยปราบโจรสลัดญี่ปุ่นระหว่างการรุกรานโอเออิ

Remove ads

พระราชประวัติ

อี โด (เกาหลี: 이도; ฮันจา: 李裪) เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สามของพระเจ้าแทจงกับพระราชินีว็อนกย็อง เมื่อพระชนมายุ 16 พรรษาได้รับสถาปนาเป็น เจ้าชายชุงนย็อง (충녕대군; 忠寧大君) และทรงอภิเษกกับพระชายาชิม ซึ่งภายหลังได้รับสถาปนาเป็นพระนางโซฮ็อน พระเชษฐาทั้งสองของพระองค์คือเจ้าชายยังนยอง และเจ้าชายฮโยรยองเห็นถึงความสามารถของเจ้าชายชุงนยองแต่ยังเยาว์ จึงคิดจะยกบัลลังก์ให้โดยการประพฤติตนเหลวแหลกในราชสำนัก ทำให้เจ้าชายทั้งสองถูกขับออกจากวัง ต่อมาเจ้าชายชุงนย็องได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระรัชทายาท หรือ วังเซจา (王世子 왕세자) เมื่อพระเจ้าแทจงสละบัลลังก์ใน พ.ศ. 1961 ก็ได้ให้เจ้าชายรัชทายาทชุงนย็องครองราชย์เป็นพระเจ้าเซจง

Remove ads

ฮันกึล

สรุป
มุมมอง

ราชกิจอย่างแรกของพระเจ้าเซจงคือการก่อตั้งชิบฮย็อนจอน สำนักปราชญ์ขงจื้อที่เป็นแหล่งรวมผู้มีความรู้เกี่ยวกับปรัชญาขงจื้อของประเทศ และยังเป็นแหล่งการศึกษาของนักปราชญ์ขงจื้อที่สำคัญอีกหลายท่านในอนาคต

ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานชาวเกาหลีไม่มีอักษรเป็นของตนเองแต่ใช้อักษรจีนที่รับมา เรียกว่าฮันจา ซึ่งอักษรจีนเป็นอักษรที่สลับซับซ้อนในการเขียน การเรียนรู้และการจดจำ ดังนั้นในสมัยโชซ็อนจึงมีแต่ยังบันที่เป็นชนชั้นขุนนางเท่านั้นที่เขียนฮันจาเป็น ชาวบ้านสามัญชนทั่วไปจึงอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ อีกทั้งอักษรจีนยังใช้แทนเสียงในภาษาเกาหลี ได้ไม่ลื่นนัก ใน พ.ศ. 1989 พระเจ้าเซจงจึงทรงให้นักปราชญ์และนักประดิษฐ์ชื่อ จางยองชิล เดิมเป็นทหารองครักษ์ แต่พระเจ้าเซจงทรงเล็งเห็นในความสามารถจึงแต่งตั้งให้เป็นขุนนางขั้นชอง 3 พุม พระราชทานกำลังทรัพย์และอำนาจที่จะประดิษฐ์อะไรก็ได้ จางยองชิลได้ชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์มาตรวัดน้ำฝน อันแรกของโลกในปี พ.ศ. 1984 และยังสร้างนาฬิกาน้ำ นาฬิกาแดด และลูกโลกจำลองท้องฟ้า สำหรับโหรหลวงใช้ในการศึกษาดวงดาว แต่ชางยองชิลนั้นได้รับการต่อต้านจากขุนนาง เพราะชางยองชิลเป็นชอนมิน ชนชั้นต่ำสุดในสังคมโชซ็อน ต่ำแหน่งสูง ๆ ของขุนนางสงวนไว้สำหรับยังบันเท่านั้น จนในที่สุดชางยองชิลก็ถูกปลดใน พ.ศ. 1985

พระเจ้าเซจงทรงเห็นถึงปัญหาของชาวนา ในการทำเกษตรกรรม แล้วไม่ได้ผล และได้รับความลำบากเมื่อน้ำท่วม หรือแห้งแล้ง จึงทรงให้มีการแต่งหนังสือนงซาจิกซอล รวบรวมความรู้ประสบการณ์ในการทำการเกษตรจากเกษตรกรอาวุโสทั่วอาณาจักร และยังทรงลดภาษีเกษตรกร เพื่อมิให้เกษตรกรต้องลำบากและมีทรัพย์ในการทำเกษตรกรรมมากขึ้น[4]

Remove ads

ป้องกันประเทศ

พระเจ้าเซจงยังทรงดำเนินนโยบายต้านทานผู้รุกรานต่างชาติอีกด้วย โดยพระเจ้าแทจงซึ่งเป็นแทซังวังอยู่นั้นได้แนะนำให้พระเจ้าเซจงส่งอีจองมูไปบุกเกาะซึชิมาที่เป็นแหล่งของโจรสลัดญี่ปุ่น จน พ.ศ. 1962 ตระกูลโซเจ้าครองเกาะซึชิมาได้ยอมจำนนและส่งบรรณาการไปยังฮันซอง และพ.ศ. 1963 เกาะซึชิมาก็ขึ้นตรงต่อมณฑลคยองซังของโชซ็อน

ทางเหนือพระเจ้าเซจงก็ทรงก่อตั้ง สี่ป้อมหกปราการ (เกาหลี: 사군육진; ซากุนยุกจิน) เพื่อป้องกันการรุกรานของพวกแมนจูทางเหนือ และใน พ.ศ. 1976 ทรงส่งคิมจงซอ ไปบุกขยายอาณาเขตทางเหนือ จนโชซ็อนมีอาณาเขตติดแม่น้ำยาลู

พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของพระเจ้าเซจงนั้นยังคุณประโยชน์มากมายต่ออาณาจักรโชซ็อน และรวมไปถึงประเทศเกาหลีทั้งเหนือและใต้ในปัจจุบันด้วย เพราะทรงส่งเสริมวัฒนธรรมเกาหลี ทำให้ชาวเกาหลีมีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตนเองในทุกวันนี้ และพระสาทิสลักษณ์ของพระองค์ยังปรากฏบนธนบัตร 10,000 วอนของเกาหลีใต้ เมื่อพระนางโซฮ็อนสวรรคต พระเจ้าเซจงทรงเศร้าโศกพระราชหฤทัย จนสวรรคตใน พ.ศ. 1993 มีพระเจ้ามุนจง สืบต่อราชบัลลังก์

พระนามเต็ม

  • พระเจ้าเซจง จางฮอน ยองมุน เยมู อินซอง มยองฮโย
  • 세종장헌영문예무인성명효대왕
  • 世宗莊憲英文睿武仁聖明孝大王

พระบรมวงศานุวงศ์

พระอัครมเหสี พระสนม พระราชโอรส พระธิดา

  • พระนางโซฮ็อน สกุลซิม แห่งช็องซง (เกาหลี: 소헌왕후 심씨; ฮันจา: 昭憲王后 沈氏, 28 กันยายน 1395-24 มีนาคม 1446)
  • พระสนมเอกฮเยบิน สกุลยาง แห่งชองจู (เกาหลี: 혜빈 양씨; ฮันจา: 惠嬪 楊氏, ?-9 พฤศจิกายน 1455)
    • อี โอ, เจ้าชายฮันนัม
    • อี ฮย็อน, เจ้าชายซูช็อน
    • อี จอน, เจ้าชายย็องพุง
  • พระสนมเอกยองบิน สกุลคัง แห่งจินจู (เกาหลี: 영빈 강씨; ฮันจา: 令嬪 姜氏)
    • อี ยอง, เจ้าชายฮวาอึย
  • พระสนมเอกซินบิน สกุลคิม แห่งชองจู (เกาหลี: 신빈 김씨; ฮันจา: 慎嬪 金氏, 1406-4 กันยายน 1464)
    • เจ้าหญิงไม่ทราบพระนาม
    • อี จอง, เจ้าชายคเยยาง
    • อี คง, เจ้าชายอึยชาง
    • เจ้าหญิงไม่ทราบพระนาม
    • อี ชิม, เจ้าชายมิลซ็อง
    • อี ยอน, เจ้าชายอิกฮย็อน
    • อี ทัง, เจ้าชายย็องแฮ
    • อี โก, เจ้าชายทัมยาง
  • พระสนมควีอิน สกุลปาร์ค (เกาหลี: 귀인 박씨; ฮันจา: 貴人 朴氏)
  • พระสนมควีอิน สกุลชเว (เกาหลี: 귀인 최씨; ฮันจา: 貴人 崔氏)
  • พระสนมโซยอง ตระกูลฮง (เกาหลี: 소용 홍씨)
  • พระสนมซุกวอน ตระกูลลี (เกาหลี: 숙원 이씨)
    • เจ้าหญิงจองอัน
  • ซังชิม ตระกูลซง (เกาหลี: 상침 송씨; ฮันจา: 尙寢 宋氏, ค.ศ. 1396-ค.ศ. 1463)
    • เจ้าหญิงจองฮย็อน
  • พระสนมซากี ตระกูลชา (เกาหลี: 사기 차씨; ฮันจา: 司記 車氏, ?-10 กรกฎาคม 1444)
    • เจ้าหญิงไม่ทราบพระนาม
Remove ads

พงศาวลี

ข้อมูลเพิ่มเติม พงศาวลีของพระเจ้าเซจงมหาราช ...
Remove ads

อ้างอิง

Loading content...
Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads