คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Remove ads

ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ (ญี่ปุ่น: スーパー戦隊シリーズ; โรมาจิ: Sūpā Sentai Shirīzu) เป็นชื่อละครโทรทัศน์ชุดโทกูซัตสึในประเทศญี่ปุ่น ที่มีการออกอากาศยาวนานเช่นเดียวกับอุลตร้าซีรีส์และมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์ โดยจุดเด่นหลักคือเป็นกลุ่มฮีโร่ที่สวมชุดพร้อมอาวุธต่อสู้และหน้ากากหลากสีรวมตัวกันเป็นทีมหนึ่ง ซึ่งตรงกับคำว่า กลุ่มขบวนการ ในภาษาไทยนั่นเอง ทั้งนี้ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ออกอากาศระยะเวลายาวนานถึง เช่นเดียวกับ มาสค์ไรเดอร์ซีรีส์ และ อุลตร้าซีรีส์ ที่ยังออกอากาศในปัจจุบัน

ข้อมูลเบื้องต้น ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์, สร้างโดย ...
Remove ads
Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

ส่วนประกอบ

ลักษณะเด่นทั่วไปที่มีร่วมกันของ ซูเปอร์เซ็นไต ทุกเรื่อง ได้แก่

  • เนื้อหากล่าวถึง "กลุ่มนักสู้หรือนักรบ" ที่มีสมาชิก 5 คน (หรือ 3 คน หรือมากกว่า) ที่ได้รับพลังซึ่งมาจากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป (ขึ้นอยู่กับการกำหนดของเนื้อเรื่องในภาพยนตร์) ใช้วิชาการต่อสู้ในหลากหลายรูปแบบต่างกัน มาร่วมมือกัน เพื่อต่อสู้กับ "กลุ่มผู้ร้าย" ที่หวังจะครองโลก (หรือทำลายโลก)
    • กลุ่มผู้ร้าย จะพ่ายแพ้ในตอนสุดท้ายเรื่องเสมอ
  • สมาชิกกลุ่มนักสู้ ปกติเป็นคนธรรมดา (หรือมีร่างคล้ายคนปกติ) แต่สามารถ "แปลงร่าง" ได้ เพื่อมาต่อสู้กับเหล่าอธรรม เมื่อแปลงร่างจะมีเครื่องแบบพิเศษที่มีประสิทธิภาพทำให้แข็งแกร่งและเก่งขึ้น (จึงจัด ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ อยู่ในกลุ่ม โทกูซัตสึ)
  • ชุดเครื่องแบบ แต่ละคนเป็นรูปแบบหลักเดียวกัน แต่ต่างสีไม่ซ้ำกัน (อาจต่างลายด้วย) ถ้าสมาชิก 5 คน ก็เป็น 5 สี (อาจน้อยกว่าหรือมากกว่า ตามจำนวนสมาชิก, จะซ้ำกันต่อเมื่อเป็นสมาชิกสีนั้น รุ่นก่อนกับรุ่นหลัง เท่านั้น)
    • สีเครื่องแบบของสมาชิกหลัก ที่มีทุกเรื่องคือ สีแดง และ สีน้ำเงิน และสีเครื่องแบบของสมาชิกหลัก ที่มักมีบ่อยในเรื่องส่วนใหญ่ ได้แก่ สีเหลือง สีชมพู สีดำ สีเขียว สีขาว และสีอื่นๆ มีบ่อยรองลงไป
    • หัวหน้าทีม มักมีบทสำคัญกว่าคนอื่น และมักใช้ชุดสีแดง (แม้บางเรื่องจะมีสีอื่นเป็นหัวหน้าทีมแทนสีแดงก็ตาม) และ สมาชิกผู้หญิง มักใช้ชุดสีชมพู หรือขาว (สีอื่นมีบ่อยรองลงไป เช่น สีน้ำเงิน สีฟ้า สีเหลือง)
  • กลุ่มนักสู้ มักเป็นองค์กรเดียวกัน หรือสำนักเดียวกัน (บางเรื่องมีหลายองค์กร หรือหลายสำนัก ก็ได้) มักนำเสนอในรูปของ มนุษย์ (หรือ มนุษย์ต่างดาว หรือ แอนดรอยด์)
    • เรื่องส่วนใหญ่มักมี หัวหน้าขององค์กร หรือ ผู้ชี้นำแนะนำสมาชิกกลุ่ม เสมอ และมีผู้ร่วมงาน หรือเพื่อนที่ช่วยเหลือบ้าง
    • (ตั้งแต่เรื่องที่ 16 เป็นต้นมา) มี นักสู้เสริม หรือ นักรบเสริม ที่แปลงร่างได้เช่นกัน (บางเรื่องเป็นสมาชิกที่เพิ่มขึ้น หรือบางเรื่องปรากฏตัวขึ้นเฉพาะตอน หรือบางเรื่องเป็นศัตรูกลับใจ ก็ได้, นักรบเสริมมี 1 คน หรือมากกว่า ก็ได้)
  • (ตั้งแต่เรื่องที่ 3 เป็นต้นมา) กลุ่มนักสู้มี หุ่นยนต์ยักษ์ ของตนเอง เพื่อต่อสู้กับอสูรกายยักษ์หรือหุ่นยนต์ยักษ์ (ซึ่งมักเป็นกลุ่มผู้ร้ายสามารถขยายร่างหรือขับ)
    • ขบวนการแรกที่มีคือ แบทเทิลฟีเวอร์ เจ ขณะที่ 2 ขบวนการก่อนหน้า โกเรนเจอร์ และ แจ็คเกอร์ เด็นเกคิไต ใช้เพียงยานรบในการต่อสู้เท่านั้น
    • (ตั้งแต่เรื่องที่ 4 เป็นต้นมา) หุ่นยนต์ยักษ์ เกิดจาก ยานยนต์หรือหุ่นยนต์ ประกอบร่างเข้าด้วยกัน โดยกลุ่มนักสู้เป็นผู้ขับ (บางเรื่องที่่โครงสร้างเหนือธรรมชาติ กลุ่มนักสู้เข้าสิงหรือแปลงร่างเป็นหุ่น ก็มี)
    • (ตั้งแต่เรื่องที่ 10 เป็นต้นมา) หุ่นยนต์มักมีมากกว่า 1 หุ่น โดยหุ่นยนต์ตัวที่ 1 (คนไทยมักเรียก "หุ่นยนต์หลัก") มักประกอบร่างจากยานยนต์หรือหุ่นยนต์หลายลำ (ขณะที่ หุ่นตัวที่ 2 เป็นต้นไป อาจแปลงร่างจากยานยนต์ลำเดียว หรือนักรบแต่ละคนมียานยนต์ประจำตัวหรือหุ่นยนต์ประจำตัวลำใหม่คนละยานประกอบร่างกัน ก็ได้)
    • (ตั้งแต่เรื่องที่ 11 เป็นต้นมา) กลุ่มนักสู้มักมี ยานยนต์ประจำตัวหรือหุ่นยนต์ประจำตัว คนละ 1 ยาน เพื่อประกอบเป็นหุ่นยนต์หลัก 1 ตัว
    • (ตั้งแต่เรื่องที่ 25 เป็นต้นมา) กลุ่มนักสู้มักมี ยานยนต์ประจำตัวหรือหุ่นยนต์ประจำตัว คนละหลายลำ ในลักษณะที่ประกอบร่างได้หลายแบบ ทำให้หุ่นยนต์เปลี่ยนระยางค์ได้หลากหลาย
  • กลุ่มผู้ร้าย มีรูปลักษณ์ ไม่ใช่มนุษย์ หรือเหมือนมนุษย์เพียงบางส่วน มักนำเสนอในรูปของ มนุษย์ต่างดาว หรือ ปิศาจ หรือ อสูรกาย หรือ องค์กรลับที่ดัดแปลงสิ่งมีชีวิต มาจากแหล่งกบดาน เช่น ในโลก หรือจากอวกาศ หรือจากต่างมิติ
  • กลุ่มผู้ร้าย มีระบบขององค์กร (คนไทยมักเรียก "ตัวร้าย" หรือ "องค์กรร้าย") ที่มีลำดับชั้นปกครอง ประกอบด้วย
    • (ระดับ) ราชาหรือหัวหน้า
    • (ระดับ) แม่ทัพหรือรองหัวหน้า มักมี 2-4 คน (อาจมีระดับขั้นมากกว่านี้)
    • (ระดับ) สมุนเอก (คนไทยมักเรียก "ศัตรูประจำตอน" หรือ "สัตว์ประหลาดประจำตอน") มักปรากฏตัวมา ตอนละตัว และถูกกำจัดในตอนนั้น (หรือตอนถัดไป) และมีตัวใหม่ในตอนต่อไปเรื่อย ๆ โดยแต่ละตัวมีความสามารถและแผนการที่ต่างกันไปในแต่ละตอน
    • ลูกสมุนระดับล่างสุด ปรากฏตัวทุกตอนและมีจำนวนมาก เพื่อช่วยงานจิปาถะให้สมุนเอกและคอยรุมกลุ่มนักสู้ แม้ด้อยฝีมือกว่ามากแต่จำนวนที่มากกว่าก็ทำให้กลุ่มนักสู้ทำงานยากขึ้น
      โดยเรื่องส่วนใหญ่ลูกสมุนระดับล่างไม่พูดและส่งเสียงแปลก ๆ สื่อสารกันแทน เป็นที่มาของคำแสลงเฉพาะในหมู่คนไทยว่า "กีกี้" ตามเสียงร้อง มีความหมายเชิงเหยียดต่อผู้ถูกกล่าวถึงว่า "เป็นเพียงลูกสมุนปลายแถว"
  • กลุ่มผู้ร้าย อาจมีกลุ่มเดียว หรือหลายกลุ่ม ก็ได้ ตามแต่ความซับซ้อนของแต่ละเรื่อง
  • ท้ายเรื่อง (หรือท้ายช่วง) พวกแม่ทัพจะทะยอยถูกจำกัด และตอนจบเรื่อง (หรือตอนจบช่วง) หลังราชาถูกกำจัด เป็นสัญลักษณ์ว่าองค์กรร้ายถูกทำลายและโลกกลับมาสงบสุข (แต่บางเรื่อง องค์กรร้ายแรกถูกทำลาย ตอนจบช่วงแรก แต่ช่วงหลังของเรื่อง มีองค์กรร้ายใหม่ปรากฏแทน ก็ได้ อย่างไรก็ตาม องค์กรร้ายใหม่จะถูกกำจัดตอนจบเรื่อง)
  • (เช่นเดียวกับ ซีรีส์แปลงร่างอื่น) ระหว่างฉายซีรีส์ ธุรกิจของเล่นจะจัดจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับซีรีส์ (เช่น หุ่นของหุ่นยนต์ประกอบร่าง อุปกรณ์แปลงร่าง หุ่นตัวละครนักสู้ หน้ากากตัวละครนักสู้ ฯลฯ)

และ หลังจบซีรีส์ จะมีภาพยนต์ภาคเสริมขยายเนื้อเรื่อง

  • (ตั้งแต่เรื่องที่ 24 เป็นต้นมา) แต่ละซีรีส์ จะสามารถเชื่อมโยงถึงกัน เช่น ผ่านการข้ามมิติ หรืออยู่ในจักรวาลเดียวกันตั้งแต่แรก และภาพยนตร์ภาคเสริมมักเชื่อมโยงระหว่างซีรีส์อย่างชัดเจน โดยภาพยนตร์ภาคเสริม
Remove ads

รายชื่อผลงาน

สรุป
มุมมอง
ข้อมูลเพิ่มเติม #, ชื่อเรื่อง ...
ข้อมูลเพิ่มเติม ชื่อ, ระยะเวลาออกอากาศวันเริ่มออกอากาศ วันที่สิ้นสุดออกอากาศ ...
Remove ads

การขยายตัวของซีรีส์

สรุป
มุมมอง

กลุ่มตลาดผู้ชม

ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและกลุ่มครอบครัว แต่เนื่องจาก แบทเทิลฟีเวอร์เจ เป็นซีรีส์ที่อายุมานานกว่า 40 ปีหลังจากที่เว้นวรรคไป 1 ปี ทำให้ตั้งแต่เด็กในยุคนั้นกลายเป็นรุ่นพ่อแม่แล้วดังนั้นการเจาะเข้าไปในกลุ่มอายุที่หลากหลายทำให้เด็กในยุคต่อ ๆ มารู้จักขึ้นเรื่อย ๆ และพ่อแม่บางคนถึงกับนั่งดูกับลูก และมีอารมณ์ร่วมได้ด้วยทีเดียว

การเปลี่ยนแปลงของนักแสดง

สำหรับนักแสดงของซูเปอร์เซ็นไต ในยุคสมัยต่าง ๆ ถูกแบ่งเปลี่ยนในแต่ละยุค ในช่วงแรกนักแสดงส่วนใหญ่ที่รับบทในช่วงนั้นมีอายุถึง 20 ปีขึ้นไป น้อยที่สุดคือ 13 และ 14 ปี แต่ในปัจจุบันกลุ่มนักแสดงหลักของซูเปอร์เซ็นไตแต่ละเรื่องเน้นไปที่นักแสดงวัยรุ่น เช่นเดียวกันกับมาสค์ไรเดอร์ยุคเฮเซย์ และกลายเป็นผลงานประตูสู่เข้าวงการบันเทิงไปอีกด้วย

การเปลี่ยนแปลงของ โกเรนเจอร์ และ แจ็คเกอร์

ฮิมิทสึเซ็นไต โกเรนเจอร์ และ แจ็คเกอร์ เด็นเกคิไต ทั้ง 2 เรื่องเคยถูกตั้งข้อสันนิฐานว่าถูกนับสารบบเป็นซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ด้วยกันหรือไม่

หลังจากที่แจ็คเกอร์ออกอากาศสิ้นสุดลง โตเอะได้ร่วมมือกับมาร์เวลโปรดักชันส์โดยได้นำตัวละครจากมาร์เวลคอมิกส์มาทำผลงานใหม่นั่นก็คือสไปเดอร์แมนซึ่งเป็นผลงานหนังสือการ์ตูนคอมิกของอเมริกัน ซึ่งได้ถูกปรับรูปแบบเป็นภาพยนตร์สเปเชียลเอฟเฟกต์หรือโทคุซัทสึ รูปแบบฮีโร่แปลงร่างของญี่ปุ่นรวมถึงมีการเพิ่มหุ่นรบต่อสู้ทำให้มีความนิยมและรู้จักมากขึ้น และด้วยการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมจากอเมริกันคอมิกเป็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาร์เวลจึงทำผลงานร่วมกับโตเอะอีกครั้งซึ่งเรื่องที่ 2 ที่ทำคือ แบทเทิลฟีเวอร์ เจ ซึ่งได้นำหุ่นยนต์ยักษ์มาต่อสู้อีกครั้งรวมถึงเป็นผลงานต้นฉบับของโตเอะพร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อผู้บทประพันธ์จาก อิชิโนโมริ โชทาโร่ เป็น ฮัตเตะ ซาบุโร่ และด้วยเหตุดังกล่าวทำให้โกเรนเจอร์และแจ็คเกอร์ ถูกตั้งเป็นฮีโร่กลุ่มทีมแทน [6]

ชื่อ ซูเปอร์เซ็นไต ถูกใช้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1981 ในช่วงที่ ขบวนการสุริยะ ซันวัลคัน ยังออกอากาศในขณะนั้น ซึ่งสื่อถูกนำไปตีพิมพ์และถูกใช้ชื่อนี้ในสื่ออื่น ๆ แต่ก็ยังไม่ได้มีการระบุว่าโกเรนเจอร์หรือแบทเทิลฟีเวอร์ เจ เรื่องไหนเป็นผลงานเรื่องแรก แต่อย่างไรก็ตามในช่วงยุคปี 1980 เมื่อแบทเทิลฟีเวอร์ เจ เริ่มมีการพูดถึงมากขึ้น ทำให้ในปี ค.ศ. 1988 ในช่วงที่ โจจูเซ็นไต ไลฟ์แมน ออกอากาศ ได้มีโลโก้เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ซูเปอร์เซ็นไต (スーパー戦隊10th) และได้ถูกประกาศว่า แบทเทิลฟีเวอร์ เจ เป็นผลงานเรื่องแรกของซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์

แต่ว่าในช่วงยุค 1990 โกเรนเจอร์ และ แจ็คเกอร์ ได้ถูกเรื่มนับเป็นผลงานซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์อย่างเป็นทางการ ในช่วงที่ ขบวนการห้าดาว ไดเรนเจอร์ ออกอากาศเมื่อปี ค.ศ. 1993 ประกอบกับครบรอบ 15 ปีของซูเปอร์เซ็นไต ทำให้ผลงานทั้งสองถูกเรียกเป็น สุดยอดขบวนการในศตวรรษทั้งหมด (超世紀全戦隊) จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1995 ขบวนการพลังมหัศจรรย์ โอเรนเจอร์ ได้มีตัวอย่างภาพยนตร์และประกาศว่าเป็นผลงานครบรอบ 20 ปีซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ โดยนับรวมปีที่โกเรนเจอร์ออกอากาศเป็นครั้งแรก ทำให้ทั้ง 2 เรื่องถูกนับรวมกันเป็นผลงานของซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์อย่างเป็นทางการ และในปี ค.ศ. 2000 ช่วงที่ ขบวนการอนาคต ไทม์เรนเจอร์ ออกอากาศ ได้มีโลโก้ของซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ที่ปรากฏในเพลงโอเพนนิงของเรื่อง (หรือเริ่มเรื่อง) ทำให้ซีรีส์ทั้งสองถูกนับอย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบัน

Remove ads

ตัวละคร

สรุป
มุมมอง

ชุดแปลงร่างของสีและบทบาทที่ปรากฏ

จากผลงานเรื่องแรก ขบวนการห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์ ได้ตั้งกำหนดอุปลักษณ์นิสัยของสมาชิกของขบวนการ ซึ่งจะมีความสดใสและมีชีวิตชีวาตามเนื้อหาของเรื่อง ประกอบกับช่วงปี ค.ศ. 1975 ที่เริ่มมีการออกอากาศทางโทรทัศน์ด้วยจอสีทำให้ผู้ชมเริ่มสนใจและน่าติดตามมากขึ้น

สมาชิกของโกเรนเจอร์แต่ละคนมีบทบาทต่อไปนี้

  •   สีแดง → หัวหน้า
  •   สีน้ำเงิน → รองหัวหน้า
  •   สีเหลือง → พละกำลัง
  •   สีชมพู → นางเอก
  •   สีเขียว → นักรบใสซื่อ

ในผลงานเรื่องที่ 3 แบทเทิลฟีเวอร์ เจ ก็ได้ทำส่วนหน้ากากที่มีลักษณะใบหน้าคนขึ้นมา ตามด้วย ขบวนการไฟฟ้า เด็นจิแมน ที่ได้แก้ไขรูปแบบหน้ากาก

สีพื้นฐาน

  สีแดง หรือ เรด
สีหลักของเรื่อง มีลักษณะภาพลักษณ์ของตัวละครคือมักจะเป็นลีดเดอร์หรือหัวหน้าทีมของขบวนการแต่ละขบวนการรวมถึงเป็นตัวเอกของเรื่อง แต่มีบางขบวนการที่สีอื่นรับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมแทนสีแดงอย่าง ขบวนการนินจา คาคุเรนเจอร์ ที่มีสีขาวเป็นหัวหน้าทีม, ขบวนการแม่เหล็กไฟฟ้า เมกะเรนเจอร์ ที่มีสีดำเป็นหัวหน้าทีม, ขบวนการจอมยุทธสรรพสัตว์ เกคิเรนเจอร์ ที่มีสีเหลืองเป็นหัวหน้าทีม
ใน ขบวนการอนาคต ไทม์เรนเจอร์ ไทม์ไฟเยอร์ที่มีชุดสีแดงเหมือนกับไทม์เรด ที่เป็นนักรบเสริม เป็นเรื่องแรกที่ใช้สีเดียวกัน[7]
ใน ขบวนการซามูไร ชินเคนเจอร์ ได้ปรากฏนักรบสีแดงที่เป็นผู้หญิงในช่วงท้ายเรื่อง
ใน ขบวนการผู้พิทักษ์อวกาศ คิวเรนเจอร์ มีชิชิเรดกับโฮโอโซลเจอร์ ที่เป็นสีแดงเหมือนกัน แต่ว่าเฉดสีของทั้ง 2 นั้นจะต่างกันโดยโฮโอโซลเจอร์เป็นสีแดงเข้ม[8]
นอกจากนี้ ขบวนการจอมโจร ลูแปงเรนเจอร์ VS ขบวนการมือปราบ แพทเรนเจอร์ ที่มีสองขบวนการในเรื่องมีทั้ง ลูแปงเรด และ แพทเรนหมายเลข 1 ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมของขบวนการทั้ง 2
อย่างไรก็ตาม ขบวนการโลกจักรกล เซ็นไคเจอร์ ได้ใช้สีขาวเป็นหัวหน้าทีม โดยสีแดงอย่าง เซ็นไคจูรัน เป็นนักรบคนแรกที่ไม่ได้อยู่ตรงกลาง[9]
  สีน้ำเงิน หรือ บลู
สีหลักของเรื่องเช่นเดียวกับสีแดง บทบาทหลักส่วนใหญ่มักจะเป็นซับลีดเดอร์หรือรองหัวหน้าทีมของขบวนการ ยกเว้น ขบวนการมือปราบ แพทเรนเจอร์ ที่ไม่มีสีนี้ รวมถึงมีคาร์แรคเตอร์ภาพลักษณ์ที่มีความเท่และเฉียบคม รวมถึงมีความสามารถต่อสู้ด้วยความเร็วเป็นหลัก
ในขบวนการสุดยอดสรรพสัตว์ ไลฟ์แมน สีน้ำเงินถูกใช้เป็นนักรบหญิงเป็นคนแรก
ชุดสีน้ำเงินที่ปรากฏมี 2 สีหลักคือสีน้ำเงินเข้ม   และสีฟ้า   ซึ่งชุดสีน้ำเงินเข้มคือสีมาตรฐานของทีมหลัก ส่วนชุดสีฟ้ามีอยู่ด้วยกันถึง 4 คนคือ บลูสวอลโล่ จากขบวนการวิหคสายฟ้า เจ็ทแมน, นินจาบลู จากขบวนการนินจา คาคุเรนเจอร์, เฮอร์ริเคนบลู จากขบวนการนินจาวายุ เฮอร์ริเคนเจอร์, มาจิบลู จากขบวนการเวทมนตร์ มาจิเรนเจอร์ แต่หลังจากที่มีเคียวริวไซอันทำให้ชุดสีฟ้าถูกแยกสีจากสีน้ำเงินไปในที่สุด
  สีเหลือง หรือ เยลโล่
สีหลักของเรื่องในช่วงที่โกเรนเจอร์ใช้มีความหมายภาพรวมคือชอบแกงกะหรี่ซึ่งตรงกับตัวละคร โออิวะ ไดตะ / คิเรนเจอร์ จากขบวนการห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์ และ เฮียว อาซาโอะ / วัลแพนเธอร์ จากขบวนการสุริยะ ซันวัลแคน นอกจากนี้ภาพลักษณ์ของนักรบสีเหลืองยังมีรูปลักษณ์ที่มีลักษณะอ้วนท้วมซึ่งก็มาจากคิเรนเจอร์เช่นกันซึ่งมีตัวละครที่ใช้รูปแบบนี้ตามมาอย่าง คิจิมะ ฟุโตชิ / โกกุลเยลโล่ จากขบวนการอันยิ่งใหญ่ โกกุลไฟว์ และ โออิชิ ไรตะ / เยลโล่โอลว์ จากขบวนการวิหคสายฟ้า เจ็ทแมน
ในขบวนการซูเปอร์อิเล็กตรอน ไบโอแมน สีเหลืองถูกตั้งให้เป็นนักสู้หญิงคนแรกและทำให้มีฮีโร่หญิงในทีมถึงสองคน และเป็นสีที่คู่กับสีชมพูมากที่สุด และในยุคช่วงปี ค.ศ 2000 ถึง ค.ศ. 2010 สีเหลืองส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แต่ว่าในเคียวริวเจอร์กลับไม่มีสีเหลืองที่เป็นสมาชิกหลักเนื่องจากว่า เพื่อเพิ่มอัตราส่วนของสมาชิกชาย เพราะภาพรวมของนักสู้หญิงสีเหลืองที่จัดขึ้นในปีที่ผ่านมายังไม่เหมาะสม[10][11]
  สีชมพู หรือ พิงค์
สีหลักของเรื่องมีลักษณะคาร์แรคเตอร์จะเป็นผู้หญิงนุ่มนวลอ่อนหวานแต่มีพลังต่อสู้ แต่ถ้ามีสีเหลืองผู้หญิงที่มีลักษณะตัวละครที่เน้นทางพลังจะสีชมพูจะเป็นคาร์แรคเตอร์ที่มีลักษณะมีความเป็นผู้ใหญ่ หรือถ้าเป็นสีน้ำเงินผู้หญิง ลักษณะตัวละครของสีชมพูก็จะกลายเป็นคนมีน้ำใจและอ่อนโยน
สีนี้เป็นสีเฉพาะของตัวละครที่เป็นผู้หญิง ยกเว้นตัวละครของ ขบวนการจ้าวสรรพสัตว์ จูโอเจอร์ ที่เป็นชุดคอสเพลย์ของ โมริ มาริโอะ ที่ใช้ชื่อว่า จูโอฮิวแมน จนกระทั่งได้มี คิจิบราเธอร์ จาก ขบวนการอวาทาโร่ ดงบราเธอร์ส เป็นนักรบสีชมพูผู้ชายคนแรกในประวัติศาสตร์ของซีรีส์อย่างเป็นทางการ[12]
สีชุดแรกของสีชมพูจะเป็นสีชมพูอ่อน   แต่ในขบวนการอันยิ่งใหญ่ โกกุลไฟว์เป็นต้นไปได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสีชมพูบานเย็น   แทน
  สีเขียว หรือ กรีน
สีหลักของเรื่อง ในอดีตนั้นสีเขียวไม่เข้ากับสีดำ เนื่องจากในการสร้างเคยเลือกสีดำเป็นสีหลักมาก่อน ซึ่งสีโทนเข้มในตอนนั้นมีสีเขียวและสีดำ สุดท้ายถูกใช้เป็นสีเขียวเนื่องจากเป็นสีเข้มที่มีความสดใสกว่าสีดำ[13] ใน แฟลชแมน กรีนแฟลชได้ถูกเป็นตำแหน่งรองหัวหน้าทีม แทนสีดำ ที่ถูกใช้ต่อเนื่องมาแล้ว ยกเว้นไบโอแมนที่ใช้สีเขียว
ในขบวนการสุดยอดสรรพสัตว์ ไลฟ์แมน ได้มีนักรบที่เพิ่มเติมถึง 2 คนและได้ลองสิ่งที่ไม่เคยทำมานั่นก็คือได้นำสีเขียวและสีดำมาปรากฏตัวพร้อมกัน
ในด้านลักษณะภาพลักษณ์ของตัวละครในแต่ละเรื่อง จะเน้นทางอิสระไม่ตายตัวแบบสีอื่น ๆ
คาเมเลียนกรีน จากขบวนการผู้พิทักษ์อวกาศ คิวเรนเจอร์ เป็นนักรบสีเขียวผู้หญิงคนแรก
ด้านชุดสีเขียวมีเฉดสีหลักคือสีเขียวปกติ   และ สีเขียวมะนาว   ซึ่งสีเขียวมะนาวถูกใช้ครั้งแรกในทคคิวเจอร์ ชื่อทคคิวหมายเลข 4 และถูกใช้ต่ออีกคือจูโออิเลฟเฟนท์ จากจูโอเจอร์, คาเมเลียนกรีน จากคิวเรนเจอร์ ต่อมาขบวนการมือปราบ แพทเรนเจอร์ เฉดสีเขียวปกติได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง
  สีดำ หรือ แบล็ค
ปรากฏตัวครั้งแรกใน แบทเทิลฟีเวอร์ J ชื่อแบทเทิลเคนย่า แต่ว่าในช่วงนั้นแบทเทิลเคนย่าไม่ได้ถูกจัดเป็นสีดำแต่ได้ถูกกำหนดว่าเป็นสีเขียว และถูกประกาศไว้ว่าโกกุลแบล็คแห่งขบวนการอันยิ่งใหญ่ โกกุลไฟว์เป็นนักรบสีดำเป็นคนแรก[14] โดยภาพลักษณ์ของนักรบสีดำคือตรงกันข้ามกับสีแดง และบางครั้งจะเป็นซับลีดเดอร์หรือรองหัวหน้าทีม
  สีขาว หรือ ไวท์
ปรากฏตัวครั้งแรกใน แจ็คเกอร์ ชื่อบิ๊กวัน[15] เป็นสีหลักที่ใช้น้อยที่สุดเนื่องจากว่าเป็นสีที่ทำให้เห็นคราบสกปรกเยอะที่สุดในการถ่ายทำในตอนกลางวัน และโดยเฉพาะนางเอกอย่างนินจาไวท์จาก ขบวนการนินจา คาคุเรนเจอร์ ต้องเขียนบทบาทที่ให้เด่นและชัดเพื่อหลีกเลี่ยงในการถ่ายทำ
บทบาทของสีขาวมักจะพิเศษกว่าสีหลักและเป็นที่น่าจดจำ นอกจากนี้นักรบที่เป็นสีขาวบางคนไม่ไม่ใส่ชื่อ ไวท์ เช่น บิ๊กวัน เชนจ์เมอร์เมด คิบะเรนเจอร์ อาบะเรคิลเลอร์ เดกะเบรก มาจิมาเธอร์ จูโอไทเกอร์ และเซ็นไคเซอร์

สีเมทาลิค

  สีเงิน หรือ ซิลเวอร์
  สีทอง หรือ โกลด์
สีเงินปรากฏตัวครั้งแรกในเมกะเรนเจอร์ ชื่อเมกะซิลเวอร์ ส่วนสีทองปรากฏตัวครั้งแรกในมาจิเรนเจอร์ชื่อมาจิไชน์
ทั้งสองสีส่วนมากเป็นนักรบที่เพิ่มเติม แต่ไม่ได้ถูกใช้มากเท่าไรนักในยุค 2000 อย่างไรก็ตาม ขบวนการอวกาศ คิวเรนเจอร์ ได้มี เท็นบิงโกลด์ และ เฮบิสึไคซิลเวอร์ เข้ามาเป็นนักรบหลักอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีนักรบที่สีมากกว่า 1 สีเพียงคนเดียวด้วยอย่าง โกไคซิลเวอร์ โกลด์โหมด จาก ขบวนการโจรสลัด โกไคเจอร์, จูโอเดอะเวิลด์ จากขบวนการสัตว์ป่า จูโอเจอร์, ลูแปงเอ็กซ์ / แพทเรนเอ็กซ์ จาก ขบวนการจอมโจร ลูแปงเรนเจอร์ VS ขบวนการมือปราบ แพทเรนเจอร์

สีอื่น ๆ

  สีส้ม หรือ ออเรนจ์
ปรากฏตัวครั้งแรกใน แบทเทิลฟีเวอร์ ชื่อแบทเทิลครอสแซค เคยเป็นสีที่ถูกใช้แทนสีเหลือง แต่ไม่ค่อยใช้เท่าไร อย่างไรก็ตามสีส้มได้กลับมาใช้อีกครั้งในขบวนการรถไฟ ทคคิวเจอร์ ชื่อทคคิวหมายเลข 6[16] และ ขบวนการผู้พิทักษ์อวกาศ คิวเรนเจอร์ ชื่อ ซาโซริออเรนจ์ ทั้งนี้ชื่อออเรนจ์ถูกใช้อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก[17]
นอกจากนี้ยังมี เดกะสวอน จาก ขบวนการมือปราบผู้พิทักษ์ เดกะเรนเจอร์ แต่เป็นสีชุดเป็นสีส้มและสีขาว[18]
  สีม่วง หรือ ไวโอเลต
ปรากฏตัวครั้งแรกใน เกคิเรนเจอร์ ชื่อเกคิไวโอเลต นอกจากนี้นักรบสีม่วงที่ถูกเรียกว่าเพอเพิลมีอยู่นั่นก็คือซูเปอร์ ทคคิวหมายเลข 7 จากขบวนการรถไฟ ทคคิวเจอร์[19] และปาปิญองโอเจอร์ จากขบวนการราชัน คิงโอเจอร์ โดยเป็นสีม่วงโทนอ่อน[20]
  สีแดงม่วง หรือ คริมสัน
ปรากฏตัวครั้งแรกใน เฮอร์ริเคนเจอร์ ชื่อคาบุโตะไรเจอร์ แต่เดิมนั้นเคยถูกกำหนดว่าเป็นสีแดง แต่ว่ากลับเป็นสีที่เข้มกว่าเฮอร์ริเคนเรด ทำให้ถูกแยกสีเป็นสีใหม่[7]
  สีกรมท่า หรือ เนวี่
ปรากฏตัวครั้งแรกใน เฮอร์ริเคนเจอร์ ชื่อคุวากะไรเจอร์ เคยอยู่เป็นกลุ่มสีน้ำเงินมาก่อน แต่สีต่างกับเฮอร์ริเคนบลูเพราะสีโทนเข้มมืดกว่า[7] นอกจากนี้โฮโอโซลเจอร์ จากคิวเรนเจอร์ ยังใช้ชุดนี้ควบกับสีแดงอีกด้วย[8]
  สีเทา หรือ เกรย์
ปรากฏตัวครั้งแรกใน เคียวริวเจอร์ ชื่อเคียวริวเกรย์
  สีฟ้าอ่อน หรือ ไซอันและสกายบลู
ปรากฏตัวครั้งแรกใน เคียวริวเจอร์ ชื่อเคียวริวไซอัน
  สีน้ำตาล หรือ บราวน์
ปรากฏตัวครั้งแรกใน ริวโซลเจอร์ ชื่อริวโซลบราวน์
สีที่ไม่ระบุชัดเจน
มีชุดสีที่ไม่ระบุชัดเจนคือเดกะมาสเตอร์ จาก เดกะเรนเจอร์ เดิมเคยถูกนับเป็นนักรบสีสตีลบลู   แต่ทว่าในเกมกลับถูกนับเป็นสีดำแทน[21]

อุปกรณ์แปลงร่าง

ในการแปลงร่างของขบวนการต่าง ๆ จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป โดยขบวนการแรกอย่างโกเรนเจอร์จะเป็นการแปลงร่างด้วยการซ่อนชุดไว้ที่ใดที่หนึ่งเพื่อทำการแปลงร่าง และไม่มีอุปกรณ์ในการแปลงร่างแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขบวนการที่ 2 แจ็คเกอร์ได้มีรูปแบบการแปลงร่างนั่นก็คือตู้แคปซูลเพิ่มพลัง ซึ่งก็ไม่ใช่อุปกรณ์แปลงร่าง[22]

ในขบวนการที่ 3 แบทเทิลฟีเวอร์ เจ ได้เริ่มมีอุปกรณ์แปลงร่างเป็นครั้งแรก โดยการแปลงร่างจะพูดว่า ฟีเวอร์ เพื่อเรียกชุดในการสวมใส่ซึ่งจะมาในการพุ่งจากตัวเครื่องมือสื่อสารจากแขน และขบวนการที่ 4 เด็นจิแมนก็มีชื่ออุปกรณ์แปลงร่างว่า เด็นจิริงก์

ในขบวนการที่ 4 ซันวัลคันมีอุปกรณ์แปลงร่างที่ชื่อว่า วัลคันเบรซ ซึ่งมีลักษณะเป็นกำไลข้อมือและกลายเป็นอุปกรณ์แปลงร่างแบบมาตรฐานของซูเปอร์เซ็นไต เนื่องจากว่าในของเล่นมีฟังก์ชันเกี่ยวกับนาฬิกาทำให้เด็กสนใจ โดยสินค้าของเล่นที่ออกมาครั้งแรกคือ โกกุลเบรซจากขบวนการอันยิ่งใหญ่ โกกุลไฟว์ ในปี ค.ศ. 1982 อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ. 1988 ขบวนการสุดยอดสรรพสัตว์ ไลฟ์แมน ก็มีอุปกรณ์แปลงร่างกำไลข้อมือสองข้างทั้งด้านซ้ายด้านขวาเรียกว่า ทวินเบรซ ซึ่งเริ่มมีการปรับเปลี่ยนลูกเล่นให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

ในปี ค.ศ. 1997 ขบวนการแม่เหล็กไฟฟ้า เมกะเรนเจอร์ ได้มีนักรบที่ชื่อว่าเมกะซิลเวอร์ ที่มีอุปกรณ์แปลงร่างที่ชื่อว่า เคย์ไทเซอร์ ซึ่งมีรูปร่างเป็นโทรศัพท์มือถือรูปแบบบานพับ[22] ทำให้ขบวนการในปี ค.ศ. 2001 อย่างขบวนการสรรพสัตว์ กาโอเรนเจอร์ ก็ได้มีอุปกรณ์แปลงร่างรูปแบบโทรศัพท์มือถือรุ่นบานพับตามมาอย่าง G โฟน[23] ในปี ค.ศ. 2005 ขบวนการจอมเวทย์ มาจิเรนเจอร์ ก็มีมาจิโฟนตามมาอีก นอกจากนี้มีโทรศัพท์มือถือรูปแบบสมาร์ตโฟนเข้ามาเป็นอุปกรณ์หลักอย่างขบวนการผู้กล้าไดโนเสาร์ เคียวริวเจอร์ ในปี ค.ศ. 2013 มีอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า จูเด็นโมบัคเคิล, ขบวนการรถไฟ ทคคิวเจอร์ ของปี ค.ศ. 2014 มีเรนโบว์พาส และมีอุปกรณ์แปลงร่างของทคคิวหมายเลข 6 และ 7 ที่มีชื่อว่าแอปพลิเชนเจอร์

นางเอก

นางเอกปกติไม่มีความตายตัวของเนื้อเรื่อง แต่ในเรื่อง ขบวนการวิหคสายฟ้า เจ็ทแมน แบ่ง Position ชัดเจนตำแหน่งนี้ใครเป็นประเภทไหน ซึ่งตกอยู่ที่ไวท์สวอน หลังจากนั้นไม่มีขบวนการไหนที่มีนางเอกแบบตายตัว

การเปลี่ยนตัวสมาชิก

เกิดขึ้นครั้งแรกจาก ขบวนการห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์ ตัวละครคิเรนเจอร์คนแรก รู้สึกไม่ค่อยสบายจึงทำให้รักษาตัวชั่วขณะ จึงทำให้คนที่ 2 ต้องแสดงแทนแต่ว่าต้องตายในเรื่อง เพื่อคิเรนเจอร์คนแรกกลับมาแสดงจนจบเรื่อง หลังจากนั้น คนแสดงคิเรนเจอร์คนแรกก็เสียชีวิตอย่างสงบ แบทเทิลฟีเวอร์ ก็มีตัวละครเปลี่ยน 2ตัว แบทเทิลคอนเซ็ท และ มิสอเมริกา ขบวนการสุริยะ ซันวัลคัน เคยมีเปลี่ยนตัวนักแสดงสีแดง เพราะค่าตัวนักแสดงน้อยกว่าความเป็นจริง และที่เห็นล่าสุดก็คือ ขบวนการซูเปอร์อิเล็กตรอน ไบโอแมน ที่ เยลโล่โฟร์คนแรกขอถอนตัวและรีไทร์จากวงการเพื่อทำอาชีพอื่น จนต้องเปลี่ยนเนื้องเรื่องแบบกะทันหัน และเปลี่ยนตัวคนที่2 ก่อนเปิดตัวมาก่อนหน้านี้

นักรบเสริม

นักรบเสริมคือนักรบที่ถูกเพิ่มเติมจากกลุ่มหลักและมีความสามารถที่แตกต่างกับสมาชิกกลุ่มหลักหรือสมาชิกเริ่มต้น[24] และถ้ามีขบวนการที่มีสมาชิกหลักทั้ง 5 คนจะถูกเรียกว่า นักรบคนที่ 6 (6人目の戦士) [25][26]

ในผลงานลำดับที่ 2 แจ็คเกอร์ เด็นเงคิไต ได้มีนักรบเสริมที่ปรากฏตัวนั่นก็คือบิ๊กวันจากเดิมทีมีนักรบถึง 4 คนและในผลงานลำดับที่ 12 ขบวนการสุดยอดสรรพสัตว์ ไลฟ์แมน ได้เพิ่มแบล็คไบซันกับกรีนไซ จากเดิมที่มีนักรบ 3 คนซึ่งนักรบที่ถูกกล่าวมาเป็นนักรบเสริมที่เป็นจุดเริ่มต้นที่มีการเพิ่มสมาชิกหลักของทีม[24]

แนวคิดนักรบคนที่ 6 เริ่มถูกใช้ในผลงานลำดับที่ 8 ขบวนการซูเปอร์อิเล็กตรอน ไบโอแมน ชื่อนักรบแม็กเน่[27] แต่ว่านักรบแม็กเน่เป็นนักรบที่ถูกสร้างจากฝ่ายอธรรมซึ่งต่างจากฝ่ายธรรมะ[28] นอกจากนี้ผลงานลำดับที่ 11 ขบวนการแสง มาสค์แมน ก็ได้มี X1 มาสค์ ปรากฏตัวเป็นนักรบคนที่ 6 เป็นครั้งแรก แม้ว่าจะถูกยอมรับว่าเป็นนักรบคนที่ 6 แต่ก็ปรากฏตัวเพียงแค่ตอนเดียวเท่านั้น[27]

อย่างไรก็ตามนักรบคนที่ 6 ได้ถูกกลับมาใช้จริง ๆ เป็นครั้งแรกนั่นก็คือ ขบวนการไดโนเสาร์ จูเรนเจอร์ ผลงานลำดับที่ 16 ในปี ค.ศ. 1992 มีชื่อว่า ดราก้อนเรนเจอร์ ซึ่งในการปรากฏตัวครั้งแรกได้ปรากฏตัวต่อสู้กับสมาชิกหลักทั้ง 5 คนก่อน แต่ด้วยความนิยมของดราก้อนเรนเจอร์ทำให้กระแสนักรบคนที่ 6 เริ่มนิยมมากขึ้นและนอกจากนี้รูปแบบนักรบหลักทั้ง 5 คนได้ถูกปรับเปลี่ยนจากเดิมนั่นก็คือการมีนักรบเสริมคนที่ 6 เข้ามาเพิ่มด้วย[25]

ทั้งนี้คุณสมบัติหลักของนักรบเสริมมีดังต่อไปนี้

การออกแบบที่แตกต่างจากสมาชิกหลัก
ดราก้อนเรนเจอร์ จากขบวนการไดโนเสาร์ จูเรนเจอร์ สวมชุดเกราะเพื่อแยกความแตกต่างกับสมาชิกหลัก[29] ซึ่งนักรบเสริมคนต่อมาได้มีการทำแนวคิดนี้เป็นหลัก
ยกเว้นอัศวินดำ จากขบวนการคอสมิก กิงกะแมน ที่ไม่ใช่ชุดแบบเดียวกับสมาชิกหลัก[24]
นอกจากนี้ซิกนอลแมนจากขบวนการรถซิ่ง คาร์เรนเจอร์ เป็นนักรบที่ไม่มีร่างแปลงและมีร่างคนตั้งแต่แรก ได้ถูกนับว่าเป็น บังไกฮีโร่ (番外ヒーロー) ซึ่งถูกประกาศในช่วงสเปเชียลไฟล์ของโบเคนเจอร์ ปัจจุบันนักรบที่ไม่ได้เป็นตัวละครปกติจะถูกถือว่าเป็น นักรบพิเศษ (番外戦士)[30]
Remove ads

เบื้องหลังในการสร้างผลงานซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์

ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ มีการเขียนโครงเรื่อง ธีมเรื่องเฉพาะ และการเขียนบทประจำตอนต่างๆ ใช้เวลาต่อเรื่องประมาณหลายปี กว่าจะออดิชั่นตัวละครให้เหมาะสมตัวนั้นๆ ผู้เขียนบทส่วนใหญ่ น้อยนักที่จะเป็นผู้หญิง หรือ สลับเขียนบทในแต่ละตอนเช่น คนเขียนเมนหลักไปตอนนี้ และคนถัดไปโครงเรื่องจะเป็นแบบไหน แต่ถ้าเหตุที่มีนักแสดงถอนตัวกะทันหัน ทีมงานต้องเปลี่ยนเนื้อเรื่องโดยที่ไม่ได้ทันตั้งตัว

การถ่ายทำ ส่วนมากจะเริ่มถ่ายทำฤดูหนาว และเปิดตัวนักแสดงในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และถ่ายทำไป ฉายไปเช่นกัน ส่วนฉากต่อสู้ มักจะใช้สูทแอทเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านแอคชั่นโดยตรง จากสถาบันชั้นนำ ทั้งฮีโร่ในเรื่อง สัตว์ประหลาดประจำตอน และลูกสมุนประจำขบวนการนั้นๆที่ขายความจุดเด่นของคอนเซ็ปต์แต่ละเรื่อง และ มีแผนกต่างๆอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการสร้างซูเปอร์เซนไตซีรีส์ เช่น ออกแบบตัวละคร กำกับคิวแอคชั่น กำกับเทคนิคพิเศษ เทคนิคพิเศษเฉพาะทาง ฯลฯ ซึ่งมีองค์กรทำเทคนิคพิเศษสัญชาติไทยได้ทำเทคนิคพิเศษเกี่ยวกับซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์มาแล้ว

Remove ads

ผลงานที่เกี่ยวข้องกับซีรีส์

ภาพยนตร์

ข้อมูลเพิ่มเติม ชื่อเรื่อง, อยู่ช่วงโปรแกรม ...

วีซินีม่า

  • โจริคิเซ็นไต โอเรนเจอร์ โอเร VS คาคุเรนเจอร์ (超力戦隊オーレンジャー オーレVSカクレンジャー)
  • เกคิโซเซ็นไต คาร์เรนเจอร์ VS โอเรนเจอร์ (激走戦隊カーレンジャーVSオーレンジャー)
  • เด็นจิเซ็นไต เมกะเรนเจอร์ VS คาร์เรนเจอร์ (電磁戦隊メガレンジャーVSカーレンジャー)
  • เซย์จูเซ็นไต กิงกะแมน VS เมกะเรนเจอร์ (星獣戦隊ギンガマンVSメガレンジャー)
  • คิวคิวเซ็นไต โกโกไฟว์ ตื่นตะลึง! สุดยอดนักรบคนใหม่ (救急戦隊ゴーゴーファイブ 激突!新たなる超戦士)
  • คิวคิวเซ็นไต โกโกไฟว์ VS กิงกะแมน (救急戦隊ゴーゴーファイブVSギンガマン)
  • มิไรเซ็นไต ไทม์เรนเจอร์ VS โกโกไฟว์ (未来戦隊タイムレンジャーVSゴーゴーファイブ)
  • เฮียคจูเซ็นไต กาโอเรนเจอร์ VS ซูเปอร์เซ็นไต (百獣戦隊ガオレンジャーVSスーパー戦隊)
  • นินปูเซ็นไต เฮอร์ริเคนเจอร์ VS กาโอเรนเจอร์ (忍風戦隊ハリケンジャーVSガオレンジャー)
  • บาคุริวเซ็นไต อาบะเรนเจอร์ VS เฮอร์ริเคนเจอร์ (爆竜戦隊アバレンジャーVSハリケンジャー)
  • โทคุโซเซ็นไต เดกะเรนเจอร์ VS อาบะเรนเจอร์ (特捜戦隊デカレンジャーVSアバレンジャー)
  • มาโฮเซ็นไต มาจิเรนเจอร์ VS เดกะเรนเจอร์ (魔法戦隊マジレンジャーVSデカレンジャー)
  • โกโกเซ็นไต โบเคนเจอร์ VS ซูเปอร์เซ็นไต (轟轟戦隊ボウケンジャーVSスーパー戦隊)
  • จูเคนเซ็นไต เกคิเรนเจอร์ VS โบเคนเจอร์ (獣拳戦隊ゲキレンジャーVSボウケンジャー)
  • การกลับมาของ ซามูไรเซ็นไต ชินเคนเจอร์ ฉบับพิเศษ (帰ってきた侍戦隊シンケンジャー 特別幕)
  • การกลับมาของ เท็นโซเซ็นไต โกเซย์เจอร์ LAST EPIC ~เมื่อเหล่าเทพสวรรค์กลายเป็นไอดอล?!~ (帰ってきた天装戦隊ゴセイジャー last epic ~護星天使が国民的アイドルに?!~)
  • การกลับมาของ โทคุเมย์เซ็นไต โกบัสเตอร์ส VS โดบุทสึเซ็นไต โกบัสเตอร์ส (帰ってきた特命戦隊ゴーバスターズ VS 動物戦隊ゴーバスターズ)
  • นินปูเซ็นไต เฮอริเคนเจอร์ 10 YEARS AFTER (忍風戦隊ハリケンジャー 10 YEARS AFTER)
  • การกลับมาของ จูเดนเซ็นไต เคียวริวเจอร์ 100 YEARS AFTER (帰ってきた獣電戦隊キョウリュウジャー 100 YEARS AFTER)
  • การกลับมาของ เรชฉะเซ็นไต ทคคิวเจอร์ ซูเปอร์ทคคิวหมายเลข 7 แห่งความฝัน (行って帰ってきた烈車戦隊トッキュウジャー 夢の超トッキュウ7号)
  • โทคุโซเซ็นไต เดกะเรนเจอร์ 10 YEARS AFTER (特捜戦隊デカレンジャー 10 YEARS AFTER)
  • การกลับมาของ ชูริเคนเซ็นไต นินนินเจอร์ นินนินเกิลส์ VS บอยส์ FINAL WARS (帰ってきた手裏剣戦隊ニンニンジャー ニンニンガールズVSボーイズ FINAL WARS)
  • การกลับมาของ โดบุทสึเซ็นไต จูโอเจอร์ มอบชีวิตเธอให้ฉัน! ศึกตัดสินจ้าวแห่งโลก (帰ってきた動物戦隊ジュウオウジャー お命頂戴!地球王者決定戦)

ออริจินอลวิดีโอพิเศษ

ซีรีส์เว็บ

Remove ads

การออกอากาศ

ในการออกอากาศของละครชุดซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮิ แทนซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ยุคโชวะที่ย้ายออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ทีวีโตเกียว และ TBS ในช่วงเวลาขณะนั้น ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 19:30 น. - 20:00 น. ตั้งแต่โกเรนเจอร์ถึงแจ็คเกอร์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เว้นวรรคในการออกอากาศ 1 ปี แบทเทิลฟีเวอร์ เจ ได้ออกอากาศวันเดิมในเวลา 18:00 น. - 18:30 น. จนกระทั่ง ไดน่าแมนออกอากาศตอนที่ 9 ถูกลดเวลาลงเป็น 18:00 น. - 18:25 น. จากเดิมที่ออกอากาศเพียง 30 นาที (รวมเวลาของโฆษณา) เหลือเพียง 25 นาที

ในปี พ.ศ. 2533 ช่วงที่เทอร์โบเรนเจอร์ออกอากาศได้ย้ายวันและเวลาออกอากาศเป็นทุกวันศุกร์ เวลา 17:30 น. - 17:55 น. จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2540 ในช่วงที่เมกะเรนเจอร์ตอนที่ 8 ออกอากาศ ได้ย้ายวันและเวลาเป็นทุกวันอาทิตย์ เวลา 7:30 น. - 8:00 น. และด้วยกระแสของซีรีส์ซูเปอร์เซ็นไตที่เริ่มมีสปอนเซอร์เข้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เพิ่มเวลาออกอากาศเป็น 30 นาทีอีกครั้ง และกลายเป็นเวลาหลักในการออกอากาศรายการวันอาทิตย์ตอนเช้าไปในที่สุด

อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2560 ได้ถูกย้ายเวลาอีกครั้งเนื่องจากมีรายการข่าวสารชื่อว่า ซันเดย์ LIVE! ที่ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 5:50 น. - 8:30 น. ทำให้ย้ายเวลาเป็นเวลา 9:30 น. - 10:00 น. ตั้งแต่คิวเรนเจอร์ตอนที่ 32 จนถึงปัจจุบัน[31][32]

Remove ads

ซูเปอร์เซ็นไตที่ออกอากาศในต่างประเทศ

สรุป
มุมมอง

อเมริกา

ในปี พ.ศ. 2528 มาการ์เร็ต รอร์ช (ประธานมาร์เวล โปรดักชัน) และ สแตน ลี เคยมีความคิดที่จะนำซูเปอร์เซ็นไตนำมาออกอากาศในประเทศสหรัฐอเมริกาจากการแลกเปลี่ยนผลงานร่วมกับโตเอะตั้งแต่สไปเดอร์แมน, แบทเทิลฟีเวอร์เจ, เด็นจิแมน และซันวัลคัน มีแผนที่จะออกอากาศทางบริษัทแพร่สัญญาณโทรทัศน์ในอเมริกาทั้ง ABC, NBC, CBS ซึ่งทั้งนี้ได้ซื้อไว้แล้ว แต่ไม่ได้ออกอากาศเนื่องจาก รูปแบบวัฒนธรรมของเรื่องต่างประเทศ [33]

ในช่วงปี พ.ศ. 2530 ขบวนการวิทยาศาสตร์ ไดน่าแมน ได้ถูกนำดัดแปลงเป็นละครสั้นในส่วนหนึ่งของช่วงรายการ Night Flight ของสถานี USA Network

ในปี พ.ศ. 2536 ได้เปิดตัว พาวเวอร์เรนเจอร์ จากผลงานอาฮิม ซาบัน โดยนำขบวนการไดโนเสาร์ จูเรนเจอร์มาทำใหม่ ซึ่งสามารถขายออกอากาศได้ในประเทศเนื่องจากว่า "เด็ก ๆ ในสหรัฐฯชอบงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น"[34] และได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน

บราซิล

ฉายตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988 ถึง ค.ศ. 1995 ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ Rede Manchete, Rede Record, Rede Bandeirantes เรื่องแรกที่ออกอากาศมาพากย์เป็นภาษาโปรตุเกสคือ เชนจ์แมน ซึ่งพอออกอากาศก็ได้รับความนิยมเท่ากับซีรีส์เมทัลฮีโร่ จิ้งจอกอวกาศจัสเปี้ยน ที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน[35] ในปี ค.ศ. 2013 และ ค.ศ. 2014 เชนจ์แมนและแฟลชแมน ได้ออกอากาศอีกครั้งทางสถานีโทรทัศน์ Ulbra TV, Rede Brasil

ซีรีส์ที่ออกอากาศ

โปรตุเกส

ฝรั่งเศส

ออกอากาศทางช่องเตแอ็ฟเอิง เมื่อปี พ.ศ. 2528 เรื่องแรกที่นำออกอากาศมาพากย์เป็นภาษาฝรั่งเศสคือขบวนการซูเปอร์อิเล็กตรอน ไบโอแมน ซึ่งได้รับความนิยมมากในประเทศฝรั่งเศส จนทำให้เรื่องต่อมาถูกเรียกเป็นไบโอแมนภาคต่อ ๆ มาแทน ซึ่งในประเทศฝรั่งเศสฉายซีรีส์ซูเปอร์เซ็นไตมาแล้วถึง 6 เรื่องได้แก่

นอกจากนี้ประเทศฝรั่งเศสยังทำผลงานรูปแบบซูเปอร์เซ็นไตของตัวเองชื่อว่า จูชิเซ็นไต ฟรองซ์ไฟว์

เอเชีย

ประเทศไต้หวัน

ในประเทศไต้หวันเรื่องแรกที่ออกอากาศคือ ขบวนการนินจา คาคุเรนเจอร์ ในชื่อ 影子神兵 หลังจากนั้นกาโอเรนเจอร์เป็นต้นไปได้ออกอากาศในประเทศไต้หวันอีกครั้ง

ประเทศเกาหลีใต้

ในประเทศเกาหลีใต้ได้มีการออกอากาศซูเปอร์เซ็นไตเรื่องแรกคือ ขบวนการนักรบไดโนเสาร์ อาบะเรนเจอร์ แต่ชื่อเรื่องกลับใช้ชื่อ พาวเวอร์เรนเจอร์ เนื่องจาก ประเทศเกาหลีใต้เคยนำซีรีส์พาวเวอร์เรนเจอร์มาออกอากาศทางทีวีมาก่อน โดยก่อนหน้านั้น ขบวนการซูเปอร์โนวา แฟลชแมน เคยถูกวางจำหน่ายในรูปแบบวิดีโอ VHS พากย์ภาษาเกาหลีมาก่อนที่จะฉายทางโทรทัศน์

รายชื่อซีรีส์ที่ออกอากาศในเกาหลีใต้
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2004
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2005
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2006
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2007
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2008
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2009
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2010 ออกอากาศแทน ขบวนการซามูไร ชินเคนเจอร์ ที่โดนข้ามไปด้วยเหตุผลทางวัฒนธรรม แต่อย่างไรก็ตามก็มีชื่อเวอร์ชันเกาหลีอยู่ทั้ง 2 ชื่อคือ พาวเวอร์เรนเจอร์ ซามูไรฟอร์ซ และ พาวเวอร์เรนเจอร์ เบลดฟอร์ซ โดยชื่อดังกล่าวถูกปรากฏในมาสค์ไรเดอร์ดีเคดและ พาวเวอร์เรนเจอร์ กัปตันฟอร์ซ (ขบวนการโจรสลัด โกไคเจอร์) ที่ออกอากาศในประเทศเกาหลีใต้
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2011
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2012
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2013
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2014
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2015
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2016
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2017 เป็นผลงานที่ร่วมมือกันระหว่างประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่น โดยใช้นักแสดงเกาหลีใต้เป็นตัวหลักของเรื่อง
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2017
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2018
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2019
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2020
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2021
ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2022

ประเทศไทย

ในประเทศไทยซูเปอร์เซ็นไตได้ออกสื่อเฉพาะในสื่อของนิตยาสารหนังสือการ์ตูนก่อน และเรื่องที่ฉายทางโทรทัศน์ครั้งแรกคือ ขบวนการไฟฟ้า เด็นจิแมน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2523 ด้วยกระแสภาพยนตร์ชุดซูเปอร์เซ็นไตที่ออกอากาศในประเทศไทยทำให้สถานีโทรทัศน์อื่น ๆ มาฉายตามด้วยอย่าง สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. ได้นำ ขบวนการอันยิ่งใหญ่ โกกุลไฟว์ มาออกอากาศ ตามด้วย สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่ฉายเรื่อง ขบวนการแสง มาสค์แมน และได้รับความนิยมเช่นเดียวกับที่ช่อง 7 ออกอากาศ ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นสถานีโทรทัศน์ได้ออกอากาศซีรีส์ซูเปอร์เซ็นไตมาหลายเรื่องและฉายเกือบทุกช่อง แต่อย่างไรก็ตามมีบางเรื่องที่ไม่ได้ออกอากาศในประเทศไทยอย่าง แจ็คเกอร์ เด็นเงคิไต, ขบวนการกู้ภัย โกโกไฟว์, ขบวนการเทพสวรรค์ โกเซย์เจอร์ ด้วยสาเหตุบางประการ

ในสื่อรูปแบบวิดิโอ, วีซีดี ได้มีการวางจำหน่ายในรูปแบบพากย์ไทยทั้ง วิดีโอสแควร์, EVS และ ไรท์พิคเจอร์ส เป็นหลักในช่วงปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตามในช่วงปี พ.ศ. 2543 บริษัททีไอจีเอ (TIGA) ได้เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ชุดซูเปอร์เซ็นไตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องแรกที่นำมาจำหน่ายคือ ขบวนการอนาคต ไทม์เรนเจอร์ ซึ่งได้วางจำหน่ายในรูปแบบวิดีโอและ VCD แต่หยุดทำชั่วคราวด้วยเหตุผลบางประการ จึงทำให้นำขบวนการคอสมิก กิงกะแมน นำวางจำหน่ายและออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์ไอทีวี แทน หลังจากนั้น โรส วิดิโอ (ปัจจุบันคือ โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์) บริษัทที่จำหน่ายในส่วนแผ่นวีซีดีของทีไอจีเอได้มาเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ เริ่มตั้งแต่โกโกไฟว์ ไปจนถึง นินนินเจอร์ รวมถึงตอนพิเศษทั้งภาพยนตร์และวิซินีม่าบางเรื่อง ปัจจุบันผู้ถือลิขสิทธิ์ในการฉายซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์คือ บริษัทเอฟฟ์ จำกัด และ บริษัทการ์ตูนคลับ มีเดีย จำกัด ซึ่งได้นำ ขบวนการจ้าวสรรพสัตว์ จูโอเจอร์, ขบวนการผู้พิทักษ์อวกาศ คิวเรนเจอร์ และ ขบวนการโจรสลัด โกไคเจอร์[38] ซึ่งได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ดิจิทัล, โทรทัศน์ดาวเทียมรวมถึงรูปแบบสตรีมมิ่งทางอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ช่องเคเบิลทีวีอย่างทรู ช่อง ทรูสปาร์ก ก็ได้ซื้อลิขสิทธิ์เช่นกัน ซึ่งในรูปแบบของทรูจะทำตามของการ์ตูนคลับทั้งหมดยกเว้นบทพากย์และนักพากย์

ในส่วนภาพยนตร์ที่ฉายในประเทศไทยมีเพียง 2 เรื่องคือ ขบวนการมือปราบ เดกะเรนเจอร์ เดอะมูวี่ ฟูลบลาสท์ แอคชั่น ฉายควบกับมาสค์ไรเดอร์เบลด: มิซซิ่งเอช แต่ฉายไม่กี่วันถูกถอดออก โดยผู้นำเข้าฉายคือบริษัท เมย์เซเวนมีเดีย และ ขบวนการอวาทาโร่ ดงบราเธอร์ส THE MOVIE รักแรกนั้นคือฮีโร่ แต่ภายหลังภาพยนตร์ซูเปอร์เซ็นไตผู้ซื้อลิขสิทธิ์หลักในการฉายและวางจำหน่ายในรูปแบบ VCD และ DVD คือโรส และ DEX ส่วนตอนพิเศษวีซินีม่าโรส, ดรีมวิชั่น, ทีไอจีเอ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ในการวางจำหน่ายในรูปแบบ VCD และ DVD

ข้อมูลเพิ่มเติม ชื่อ, ออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ ...
รายชื่อซีรีส์ที่ออกอากาศในประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติม ชื่อ, ผู้ถือลิขสิทธิ์ ...
รายชื่อภาพยนตร์และวิซินีม่าที่วางจำหน่ายในไทย
สื่อในประเทศไทย

ในประเทศไทยมีซูเปอร์เซ็นไตในแบบฉบับของตัวเอง ทั้งละครโทรทัศน์, แอนิเมชัน และ โฆษณา

  • ขบวนการสปอร์ตเรนเจอร์
ผลิตโดย บริษัท ดีพี โปรมีเดีย จำกัด อำนวยการผลิต บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ฉายเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม - 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 และวันที่ 2 กุมภาพันธ์ - 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555
  • คริสตัลไนท์
ผลงานของนิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์ (น้าต๋อย เซมเบ้) ผลิตโดย ทูนทาวน์ เอนเตอร์เทนเมนต์
ออกอากาศทางททบ. 5 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.35 น. - 7.50 น. ฉายเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม - 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
  • โจ๋เรนเจอร์
ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโฆษณาสำหรับบริการโทรศัพท์มือถือที่มีชื่อว่า ZAD ของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC
  • ริวจิไฟว์
แอนิเมชันไทย ที่มีพื้นฐานของเล่นมาจาก ริวจิไฟว์ ของ Apex Toys วางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีโดยทีไอจีเอ
Remove ads

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading content...
Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads