Remove ads
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชูศรี มีสมมนต์ (26 มกราคม พ.ศ. 2472 – 4 ธันวาคม พ.ศ. 2535) นักแสดงชื่อดังชาวไทย เจ้าของฉายา "ราชินีแห่งบทตลก" เป็นคู่ขวัญคู่ฮากับล้อต๊อก และมีผลงานการแสดงทางด้านภาพยนตร์และละครโทรทัศน์มากมายหลายเรื่อง ทั้งบทตลก บทดรามา
ชูศรี มีสมมนต์ | |
---|---|
เกิด | 26 มกราคม พ.ศ. 2472 อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร อาณาจักรสยาม |
เสียชีวิต | 4 ธันวาคม พ.ศ. 2535 (63 ปี) โรงพยาบาลนนทเวช จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย |
ชื่ออื่น | ชู |
อาชีพ | นักแสดง, พิธีกร, นักร้อง, ตลก |
ปีปฏิบัติงาน | พ.ศ. 2484 - 2535 |
คู่สมรส | เชิด โรจนประดิษฐ์ (หย่า) |
บุตร | 1 คน |
รางวัล | พระสุรัสวดี นักแสดงตลกหญิงยอดเยี่ยม – อ้อนกระล่อนเต็มสูตร (2534) สุพรรณหงส์ นักแสดงอาวุโสดีเด่น – เงินปากผี (2524) |
ชูศรี มีสมมนต์ เกิดวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2472[ต้องการอ้างอิง] ณ บ้านพระญาณเวช ผู้เป็นตา ตั้งอยู่หลังกำแพงวัดรังษีสุทธาวาส (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร)[1] เจ้าตัวเคยเล่าว่าพื้นเพดั้งเดิมมาจากภาคอีสาน[ต้องการอ้างอิง] สำเร็จการศึกษาที่โรงเรียนนาฏศิลป์ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 5 และต่อมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนขัตติยานีผดุง โดยทางครอบครัวอยากให้เรียนพยาบาลแต่เธอรักการร้องรำทำเพลงมากกว่า ชูศรีเคยสมรสกับบุคคลร่วมวงการ คือ เชิด โรจนประดิษฐ์ ซึ่งรักกันมาตั้งแต่อายุ 17 ก่อนจะหย่าร้างกัน และกลับมาใช้นามสกุลมีสมมนต์เหมือนเดิม
ชูศรีเริ่มเข้าสู่วงการเมื่อ อ.ลัดดา สารตายนต์ แห่งโรงเรียนนาฏศิลป์ได้ตั้งขณะละครเวทีขึ้นแสดงที่โรงละครแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2484 โดยเรื่องแรกที่ทำคือ ผกาวลี มีอุโฆษ จันทร์เรืองเป็นพระเอก ชูศรีเป็นตัวตามนางเอก โดยผู้สอนบทบาทการแสดงให้เธอคืออบ บุญติด ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมมากจนอ.ลัดดา นำชื่อละครเรื่องนี้มาตั้งเป็นชื่อคณะละครว่า"คณะผกาวลี"
ชูศรีมีชื่อเสียงมากในช่วงปี พ.ศ. 2484 - พ.ศ. 2497 มีโอกาสร่วมแสดงละครเวทีกับคณะที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น เช่น คณะเทพศิลป์การละคร คณะศิวารมณ์, คณะอัศวินการละคร, คณะวิจิตรเกษม, คณะชื่นชุมนุมศิลปิน และคณะลูกไทย เป็นต้น และยังเป็นนักร้องบันทึกเสียงเพลงหลายเพลงด้วยกัน โดยในช่วงหลังเธอเป็นนักร้องรับเชิญให้วงเชาว์ แคล่วคล่อง วงพยงค์ มุกดา เป็นต้น
ชูศรีมีชื่อเสียงรุ่นเดียวกันกับ ส.อาสนจินดา, ดอกดิน กัญญามาลย์, ล้อต๊อก, ท้วม ทรนง, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, สมควร กระจ่างศาสตร์, ก๊กเฮง, สมพงษ์ พงษ์มิตร, กัณฑรีย์ นาคประภา, สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต เป็นต้น
หลังจากละครเวทีเริ่มได้รับความนิยมน้อยลงชูศรีหันมารับงานแสดงจอเงินแทนโดยแสดงเรื่องแรกคือเรื่องแม่ค้าหาบเร่ซึ่งเธออำนวยการสร้าง มีเติม โมรากุล และกรองจิตต์ เตมีย์ศิลปินเป็นนางเอก ต่อมาเธอมีงานการแสดงภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากมีผลงานการแสดงมากกว่า 500 เรื่อง ในยุคมิตร - เพชราเธอเป็นนักแสดงคิวทองอีกคนที่มีผลงานทั้งทางโทรทัศน์และภาพยนตร์
ชูศรี เคยสร้างภาพยนตร์โดยใช้ชื่อผู้สร้างว่า"สองสาวภาพยนตร์" เรื่องแรกคือแม่ค้าหาบเร่ เรื่องถัดมาคือในฝูงหงส์โดยจับรวงทอง ทองลั่นธม นักร้องดังมาประกบกับมิตร ชัยบัญชา แต่หนังก็ได้เงินน้อย แต่ชูศรีก็ไม่ละความพยายามมีผลงานต่อมาคือสามเกลอเจอล่องหน โดยจับมิตร-เพชรา ประกบกันแต่ก็เจ๊งตามเคย แต่เธอก็ยังมีผลงานอำนวยการสร้างต่อมาอีกหลายเรื่อง โดยเธอเคยผลิตรายการชูศรีจู๋จี๋และศาลาชวนหัวทางโทรทัศน์อีกด้วย
ชูศรีป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบทำให้เธอเป็นอัมพาตครึ่งซีกทางฝั่งซ้าย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 โดยเธอไปไหนก็ต้องใช้ไม้เท้าหรือนั่งรถเข็นแต่ยังทำงานไม่ขาดสาย ในช่วงบั้นปลายเธอยังมีการรับการแสดงช่วงกลางคืนในคาเฟ่อีกด้วย
ในวันที่เสียชีวิตชูศรีกำลังเดินทางไปถ่ายทำละครเรื่อง "เจ้าจอม" โดยมีหลานเป็นผู้ขับรถไปให้ชูศรีเกิดอาการหมดสติขณะอยู่บนรถ หลานปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นจึงนำชูศรีส่งโรงพยาบาลทันที ทางแพทย์พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตชูศรีไว้ได้ ชูศรีเสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2535 ที่โรงพยาบาลนนทเวช มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2536 ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.