คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

จอมโจรคิด

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

จอมโจรคิด
Remove ads

จอมโจรคิด (ญี่ปุ่น: 怪盗キッド; โรมาจิ: Kaitō Kiddo; ทับศัพท์: Kaito Kid) ; (อังกฤษ: Kid the Phantom Thief[4]) เป็นฉายาของตัวละครในมังงะเรื่อง จอมโจรอัจฉริยะ แต่งโดย โกโช อาโอยามะ จอมโจรคิดเป็นที่รู้จักมากจากบทบาทในมังงะและอนิเมะเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ที่แต่งโดยผู้เขียนคนเดียวกัน จอมโจรคิดในปัจจุบันมีทั้งหมด 2 รุ่น โดยชื่อจริงของจอมโจรคิดรุ่นแรกคือ คุโรบะ โทอิจิ (ญี่ปุ่น: 黒羽 盗一; โรมาจิ: Kuroba Tōichi) แต่หลังจากโทอิจิเสียชีวิตจากการถูกสังหาร[5] บุตรชายของเขา คุโรบะ ไคโตะ (ญี่ปุ่น: 黒羽 快斗; โรมาจิ: Kuroba Kaito) ได้สืบทอดตำแหน่งจอมโจรคิดต่อเป็นรุ่นที่ 2 โดยหวังว่าจะพบเบาะแสของบุคคลที่สังหารพ่อของเขา[6] ซึ่งจอมโจรอัฉริยะเล่ม 5 ตอน มิดไนท์โครว์ อาจจะมีเบาะแสว่า คุโรบะโทอิยังนั้นยังไม่ตาย ในปัจจุบันเมื่อกล่าวถึงจอมโจรคิด จะหมายถึงจอมโจรคิดรุ่นที่ 2 คือ คุโรบะ ไคโตะ ยกเว้นจะมีการกล่าวว่าเป็นโทอิจิโดยเฉพาะ

ข้อมูลเบื้องต้น คุโรบะ ไคโตะ, ปรากฏครั้งแรก ...
Remove ads
Remove ads

การออกแบบตัวละคร

ในจอมโจรอัจฉริยะเล่ม 4 ได้นำเสนอบทสัมภาษณ์ของโกโช อาโอยาม่า ผู้วาดจอมโจรคิด เขากล่าวว่าตัวละครที่วาดนี้เขาต้องการสื่อถึงภาพลักษณ์ของคนที่ "แว่บไปแว่บมา หาตัวจับยาก ห้าวหาญไม่มีใครเปรียบ หน้าตาหล่อเหลาเหมือนอาร์แซน ลูแปง และเป็นคนเจ้าเล่ห์" ตัวการ์ตูนนี้ให้ความสนุกในแบบของผู้ถูกล่าที่ต้องหนี[1] อย่างไรก็ตามเขายังกล่าวถึงการวาดชุดคลุมของไคโตะนั้นว่า "ลำบากเอาการ"

ประวัติ

สรุป
มุมมอง
ไฟล์:Toichi Kuroba Eps.473.jpg
คุโรบะ โทอิจิ จอมโจรคิดรุ่นที่ 1 และพ่อของคุโรบะ ไคโตะ จอมโจรคิดคนปัจจุบัน

คุโรบะ โทอิจิ ซึ่งเป็นจอมโจรคิดรุ่นพ่อปรากฏตัวในฐานะนักมายากลและอาชญากรเมื่อ 8 ปีก่อนที่จะเกิดเรื่องในมังงะเรื่อง จอมโจรอัจฉริยะ โดยปรากฏตัวครั้งแรกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส[7] พร้อมด้วยผู้ติดตามชื่อจิอิ โคโนะสึเกะ โทอิจิมีชื่อเสียงมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็นนักมายากลมือหนึ่งของโลก[8] 10 ปีต่อมาหลังจากการปรากฏตัวครั้งแรก โทอิจิถูกสังหารระหว่างการแสดงโดยองค์กรองค์กรหนึ่งที่ต้องการชิง แพนโดร่า อัญมณีที่จะมีสีแดงและหลั่งน้ำตาในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ที่เชื่อว่าผู้ที่ได้ดึ่มน้ำตาจากแพนโดร่าจะเป็นอมตะ[5][6] หลังจากนั้นเมื่อเริ่มเรื่องจอมโจรอัจฉริยะ จิอิ ซึ่งเป็นผู้ติดตามของโทอิจิได้ปลอมตัวเป็นจอมโจรคิดโดยหวังจะให้องค์กรที่สังหารโทอิจิปรากฏตัว โดยการปรากฏตัวในครั้งนี้เน้นการขโมยอัญมณีที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น เป็นหลัก ต่างจากครั้งอื่น ๆ ที่มีการขโมยอัญมณีนอกประเทศญี่ปุ่นด้วย[7] เป็นเวลาเดียวกับที่ คุโรบะ ไคโตะ ซึ่งเป็นบุตรของโทอิจิได้ค้นพบความจริงว่าพ่อของเขาเป็นจอมโจรคิดและถูกสังหารโดยองค์กรดังกล่าว ไคโตะจึงรับหน้าที่เป็นจอมโจรคิดเพื่อล่อให้องค์กรที่สังหารพ่อของเขาปรากฏตัวเพื่อสืบทอดหน้าที่ต่อจากจิอิ[5] และเพื่อป้องกันไม่ให้องค์กรชิงอัญมณีแพนโดร่าไปด้วย

จอมโจรคิดไม่ว่าในรุ่นพ่อหรือรุ่นลูก ต่างก็ปรากฏตัวในยอดนักสืบจิ๋วโคนันเช่นกัน ทั้งในร่างบุคคลธรรมดาหรือจอมโจรคิด โดยคุโรบะ โทอิจิ เคยปรากฏตัวครั้งหนึ่งกับยูกิโกะและไคโตะในฉากรำลึกถึงอดีตในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ส่วนคุโรบะ ไคโตะ ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน "โคนัน VS จอมโจรคิด" และต่อมาก็ได้กลายเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องนั้น รวมถึงตัวละครเสริมผู้ขัดขวางจอมโจรคิด เช่น สารวัตรนากาโมริ กินโซ ฮาคุบะ ซางุรุ[9] ก็ได้กลายเป็นตัวละครในเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน ในทางกลับกันตัวละครจากยอดนักสืบจิ๋วโคนันก็เคยปะทะกับจอมโจรคิดมาแล้ว เช่น ในคดีแบล็กสตาร์ในจอมโจรอัจฉริยะ คุโด้ ชินอิจิ เคยปะทะกับคุโรบะ ไคโตะมาแล้ว และเชื่อกันว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเหตุที่ทำให้จอมโจรคิดและโคนันทราบตัวจริงซึ่งกันและกัน[10]

ที่มาของชื่อ

Thumb
รหัสอาชญากรซึ่งถูกเขียนอย่างหวัด

แม้ว่าจอมโจรคิดจะมีฉายามากมาย เช่น ลูแปงแห่งเฮเซ นักมายากลใต้แสงจันทร์ เป็นต้น แต่ชื่อเรียกที่เป็นทางการตามที่ทั้ง ตำรวจสากล FBI และ CIA ตั้งไว้เป็นชื่อรหัส (Code Name) ที่เรียกว่า 1412 เดิมข้อมูลนี้ถูกเก็บไว้เป็นความลับแต่ก็รั่วไหลออกมา[7] อย่างไรก็ดีชื่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นชื่อที่เกิดจากการตั้งขึ้นของคุโด้ ยูซากุ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับโทอิจิ ตอนที่ยูซากุเป็นผู้ล่าและโทอิจิเป็นจอมโจรคิด และสนใจเรื่องจอมโจร 1412 ที่สามารถปั่นหัวตำรวจได้ทั่วโลก ครั้งหนึ่งยูซากุหยิบหนังสือพิมพ์ที่มีเรื่องจอมโจรคิดมาอ่านดู แต่นักข่าวเขียนเลข 1412 เป็นหวัดๆ ทำให้เขาอ่านแบบเล่นคำ ปรากฏว่าสามารถอ่านได้เป็นตัวอักษร KID ยูซากุจึงตั้งชื่อของจอมโจรคนนี้ว่า "คิด"[7]

ข้อมูลจำเพาะ

ในคดี "ของขวัญจากอาคาโกะ" (จอมโจรอัจฉริยะ เล่ม 3) ฮาคุบะ ซางุรุ ได้เปิดเผยข้อมูลจำเพาะที่เกิดจากการเก็บรวบรวมได้ว่าจอมโจรคิดสูง 174 เซนติเมตร หนัก 58 กิโลกรัม อายุ 15-17 ปี หมู่เลือด B เชื้อสายญี่ปุ่น ผมดำ ตาซ้ายขวา 2.0[11] ระดับ ไอคิว 400 เล่นกีฬาเก่งโดยเฉพาะสกีแต่ไม่ถนัดสเก็ตน้ำแข็ง[9] เมื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปเปรียบเทียบพบว่าตรงกับคุโรบะ ไคโตะ ทำให้ฮาคุบะกล่าวว่าจอมโจรคิดกับไคโตะเป็นบุคคลเดียวกัน[11] แม้ตัวไคโตะจะปฏิเสธว่าไม่ใช่คิดก็ตาม นอกจากนี้ในเนื้อเรื่องพบว่าคิดชอบไอศกรีมช็อกโกแลต[12]แต่กลัวปลา[5]

ความสามารถและอุปกรณ์พิเศษ

ความสามารถหลักของจอมโจรคิดไม่ว่าจะเป็นรุ่นพ่อหรือลูกคือการที่คิดสามารถปลอมตัวเป็นคนที่ไม่รู้จักและรู้จักได้เนียนมาก แม้กระทั่งเสียงก็สามารถปลอมได้โดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องแปลงเสียง[7] ในยอดนักสืบจิ๋วโคนันมีการกล่าวว่า ยูกิโกะซึ่งเป็นแม่ของชินอิจิได้ฝากตัวกับโทอิจิ[13]ซึ่งครั้งนั้นทำให้ยูกิโกะรู้จักกับ ชารอน วินยาร์ด และทำให้เกิดเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างขึ้น ด้วยความได้เปรียบนี้ทำให้คิดสามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งของอัญมณีก่อนที่จะโจรกรรมได้โดยง่าย หรือในบางครั้งก็ทำการโจรกรรมทั้งที่ปลอมตัวอยู่ก็มีให้เห็น

อย่างไรก็ดี คิดก็ยังใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยในการโจรกรรมด้วย เช่นใช้นกพิราบที่ติดกับดักฟังเสียงเพื่อช่วยในการดักฟังข้อมูลจากระยะไกล โดยใช้แว่นตาขาเดียว ใช้แฮงไกลเดอร์ในการหลบหนี ใช้ปืนที่ยิงออกมาเป็นรูปไพ่เพื่อป้องกันตัว ซึ่งเมื่อยิงออกไปไพ่กลายเป็นระเบิดควัน[14] โดยไม่ใช้ปืนจริงเป็นอันขาด[8] และใช้ผู้ช่วยในบางกรณี ดังจะสังเกตได้จากในอนิเมะเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 387 ซึ่งโคนันกล่าวว่าคิดมีผู้ช่วยแสดงกลเดินบนอากาศ[15] และต่อมาก็ได้รับการยืนยันเมื่อปรากฏว่าคิดได้จับเอาพวกของตนที่แฝงตัวเป็นนักข่าวหลบหนีไปด้วยกันในคดีเล่ม 61[16] แต่ถึงจะใช้อุปกรณ์ดีเพียงใดก็ตาม ก็ปรากฏในเนื้อเรื่องว่าคิดได้รับบาดเจ็บบ้างเช่นกันไม่ว่าจะเป็นจากผู้ขัดขวางเช่นโคนัน หรือบุคคลที่สามที่ไม่พอใจ เป็นต้น[17]

นอกจากความสามารถในการโจรกรรม คิดยังมีความสามารถในการสืบสวนเช่นกัน ดังจะเห็นได้ในมูฟวี่ตอน บทเพลงมรณะแด่เหล่านักสืบ ที่คิดไปช่วยโคนันและเฮย์จิสึบสวนอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วจึงไปปิดบัญชีกับนายมิยามะซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้สนับสนุนตัวการขโมยรถขนเงินที่คิดบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์ ซึ่งผู้ที่ขโมยนั้นก็คือรุ่นน้องที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยทางทะเลโยโกฮามะ ที่เดียวกับตัวประธานมิยามะนั่นเอง[18]

ลักษณะการโจรกรรม

Thumb
สัญลักษณ์ของจอมโจรคิดที่ส่งมาจากสาส์นเตือน

ก่อนทำการโจรกรรม จอมโจรคิดจะส่งสาส์นเตือนถึงเหยื่อหรือตำรวจก่อน โดยสาส์นมีรูปแบบเป็นข้อความที่ต้องไขปริศนาอีกที รวมถึงมีรูปหน้าของจอมโจรคิด ซึ่งจอมโจรคิดจะวาดใหม่ทุกครั้งที่โจรกรรม[19] เมื่อส่งสาส์นเตือนและตรวจสอบสถานที่โจรกรรมในบางครั้งเสร็จแล้ว จึงทำการโจรกรรมตามวิธีที่เขียนไว้ในสาส์นเตือน เช่น ทำการปลอมตัวเป็นผู้เกี่ยวข้องหรือตัวเหยื่อเพื่อตบตาตำรวจ และนำของหนีไป ทำให้เกิดความสับสนระหว่างของจริงและของปลอม แล้วชิงของจริงหนีไป เป็นต้น โดยในระหว่างการโจรกรรมคิดจะไม่ฆ่าคน ไม่ใช่ปืนจริง[8] แต่จะขโมยของไปเพียงอย่างเดียว และไม่ลักพาตัวคนเป็นอันขาด[20] โดยปกติแล้วในระหว่างการหลบหนีหรือการโจรกรรมนั้น คิดจะสวมชุดสูทสีขาวที่ทำจากผ้าไหม มีผ้าคลุมข้างหลังและหมวกสีขาว เนคไทสีแดง เสื้อเชื้ตตัวในสีน้ำเงิน และแว่นตาขาเดียว แต่ในบางครั้งเขาก็มิได้สวมชุดนี้อันเนื่องจากการปลอมตัวและเหตุผลอื่น ๆ เช่น เพื่อมิให้ถูกสังเกตได้โดยง่ายหากมีการใช้อุบายขโมยหรือหลบหนี[16] เป็นต้น

ตามรายงานของตำรวจก่อนที่คิดจะลงมือโจรกรรมไข่อิมพีเรียล อีสเตอร์ในมูฟวี่ตอนที่ 3 ปริศนาพ่อมดคนสุดท้ายแห่งศตวรรษ จอมโจรคิดก่อคดีรวมทั้งสิ้น 134 คดี โดย 15 คดีในจำนวนคดีทั้งหมดเป็นคดีที่เกิดขึ้น ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมัน และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 12 ประเทศ รวมอัญมณีที่ขโมยไปได้ 152 รายการ คิดเป็นมูลค่า 38,725 ล้านเยน[17]

แต่ตามความเป็นจริงแล้ว จอมโจรคิดนั้นไม่ใช่เป็นคนที่เห็นแก่เงิน เขาได้ขโมยของไปแล้วก็จริงแต่มักจะนำมาคืนเสมอโดยไม่ใช้สอยเลยแม้แต่น้อย คุโรบะ โทอิจิ รุ่นแรกนั้นได้หาเงินตนเองด้วยการเป็นนักมายากลที่มีชื่อเสียง แต่ไม่รู้ว่ามาเป็นจอมโจรคิดได้อย่างไร คนที่รู้ก็มีแต่คุโรบะ ชิคาเงะ ผู้เป็นภรรยาของโทอิจิและแม่ของไคโตะและคูณปู่อิจิ คนแก่ที่รับใช้โทอิจิเท่านั่น ส่วนคุโรบะ ไคโตะ รุ่นที่ 2 ต้องการตามหาเพชรแพนโดร่าเท่านั้น เพื่อสืบหาบุคคลที่สังหารพ่อของเขาและองค์กรปริศนาที่ต้องการแพนโดร่า บางครั้งไคโตะขโมยของมาได้สำเร็จได้แต่มักจะหลุดมือไปด้วยเหตุผลบางประการ เช่น โดนเอโดงาวะ โคนันหรือสารวัตรนากาโมริที่เป็นคู่ปรับคอยไล่ล่าอยู่ แต่เขาก็ไม่สนใจและพูดได้ประโยดหนึ่งว่า "ของสิ่งนั้น ไม่ใช่ของสิ่งที่ฉันต้องการหรอก"

Remove ads

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น

สรุป
มุมมอง

ในจอมโจรอัจฉริยะ

จอมโจรคิดมีความสัมพันธ์กับบุคคลในจอมโจรอัจฉริยะหลายคน ตั้งแต่รุ่นแรกของจอมโจรคิด (โทอิจิ) ซึ่งสารวัตรนาคาโมริ กินโซ ผู้รับผิดชอบคดีจอมโจรคิด เคยกล่าวว่าจอมโจรคิดเป็นเป้าหมายในชีวิตของเขาเลยทีเดียว[5] ความสัมพันธ์นั้นสืบทอดมาสู่รุ่นลูกเช่นเดียวกัน เนื่องจากไคโตะเป็นเพื่อนของลูกสาวของสารวัตรนาคาโมริที่ชื่ออาโอโกะ สารวัตรกับไคโตะจึงสนิทสนมกันพอสมควร[21] ทำให้สารวัตรกับไคโตะเป็นผู้ล่ากับผู้ถูกล่าไปในตัว โดยไคโตะก็ยังสามารถหนีได้ทุกครั้งเหมือนครั้งที่พ่อเขาเคยทำ สำหรับความสัมพันธ์กับเพื่อนในห้องเรียนของจอมโจรคิด มีดังนี้

กับนาคาโมริ อาโอโกะ

อาโอโกะชอบไคโตะอยู่[22] แต่ก็ไม่รู้ว่าจอมโจรคิดก็คือคุโรบะ ไคโตะ ที่เป็นเพื่อนและคู่ปรับในห้องเรียนเดียวกันของเธอนั่น ในขณะที่ตัวคุโรบะ ไคโตะเองก็ชอบอาโอโกะอยู่เช่นกันแต่ไม่แสดงออก

กับฮาคุบะ ซางุรุ

ฮาคุบะซึ่งเป็นนักสืบที่ไปศึกษายังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ[9] เป็นคู่ปรับกับจอมโจรคิดในด้านการโจรกรรมที่ฮาคุบะพยายามจะจับตัวคิดให้ได้ แต่ก็ถูกคิดซ้อนแผนกลับบ้างหรือขัดขวางบ้าง ไม่เพียงแต่ด้านโจรกรรมเท่านั้น ฮาคุบะพยายามจะเอาชนะใจอาโอโกะให้ได้ ถึงขนาดว่าคิดต้องพยายามขัดขวางไม่ให้แผนที่ฮาคุบะวางไว้สำเร็จ[23] ฮาคุบะเป็นอีกคนที่รู้ตัวจริงของคิดจากข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลเด็กนักเรียนของประเทศญี่ปุ่น[11]

กับโคอิสึมิ อาคาโกะ

ตามเนื้อเรื่อง มีการบรรยายลักษณะของอาคาโกะว่า อาคาโกะเป็นผู้หญิงที่สวยจนทำให้ชายอื่นหลงเสน่ห์ได้หมด ยกเว้นจอมโจรคิด อาคาโกะซึ่งเป็นแม่มดจึงพยายามหาทางที่จะทำให้คิดมาสยบแทบเท้าให้ได้ แต่ไม่ว่าวิธีไหน ๆ ก็ไม่สำเร็จ[11] อย่างไรก็ดีเธอเองเคยบอกว่าเธอชอบจอมโจรคิด และในบางครั้งก็ช่วยจอมโจรคิด เช่นในคดีแบล็กสตาร์[10]แต่ถูกขัดจังหวะเสียก่อนด้วยเหตุผลเรื่องการห้ามใช้มนตราในที่สาธารณะ

ในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน

จอมโจรคิดมีความสัมพันธ์กับครอบครัวคุโด้และได้รับการเฉลยว่า พวกเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คุโรบะ โทอิจิพ่อของจอมโจรคิดเป็นพี่ชายของ คุโด้ ยูซากุ และเป็นลุงของชินอิจิ ตั้งแต่จอมโจรคิดรุ่นโทอิจิ โดยคุโด้ ยูซากุ เป็นผู้ตั้งฉายา KID ให้กับโทอิจิ สาเหตุมาจากกระดาษที่เขียนหมายเลข1412(รหัสที่FBIใช้เรียกจอมโจรคิด)เกิดเปียก ทำให้เพี้ยนไปเป็นคำว่า KID และ คุโด้ ยูกิโกะ เรียนการปลอมตัวกับโทอิจิมาพร้อม ๆ กันกับ ชารอน วินยาร์ด[13] สำหรับ คุโด้ ชินอิจิ นั้นเคยถูกท้าทายปริศนาจากโทอิจิในสมัยเด็กมาแล้ว[24]

กับ เอโดงาวะ โคนัน

ความสัมพันธ์นั้นยังคงสืบต่อมาถึงจอมโจรคิดรุ่นปัจจุบัน แต่เน้นไปที่เอโดกาวะ โคนันมากกว่า เนื่องจากโคนันเคยเผชิญหน้ากับจอมโจรคิดมาแล้วในตอนแบล็กสตาร์[10] การเผชิญหน้าแต่ละครั้งระหว่างคิดกับโคนันจึงเป็นไปในทางที่โคนันพยายามขัดขวางไม่ให้แผนการโจรกรรมสำเร็จ หรือเพียงแต่ปรากฏตัวเฉย ๆ โดยมีการพูดคุยบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นการที่โคนันจะอธิบายถึงกลของคิดโดยอาจมีการเย้ยหยันกันเล็กน้อย และแม้กระทั่งการช่วยกันเพื่อให้พ้นจากวิกฤตก็มีให้เห็น ซึ่งโคนันเองก็รู้ดีว่าคิดไม่ใช่คนเลว แต่ด้วยหน้าที่ของนักสืบและความท้าทายจึงมักเข้าขัดขวางและพยายามจับกุมคิดให้ได้ (แต่อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถในการสืบแกะรอยและขัดขวางจอมโจรคิดของโคนันทำให้มีผู้จำนวนมากยอมรับนับถือจนได้แต่งตั้งฉายาว่า '''คิดคิลเลอร์''')

ในบางคดีที่คิดช่วยเหลือคนรอบข้างเช่นพวกแก๊งนักสืบจิ๋ว โคนันก็ทำปิดตาไม่รู้ไม่เห็นปล่อยคิดไป หรือในเดอะมูฟวี่ ที่โคนันประจันหน้ากับคิดบนตึกระฟ้า ขณะที่โคนันหลบไพ่ของคิดก็พลัดตกลงไป คิดจึงกางแฮงไกลเดอร์บินลงไปช่วยอย่างไม่ลังเล หรืออีกครั้งหนึ่งคือการช่วยขับเครื่องบินที่ต้องลงจอดทันทีก่อนที่จะตกร่วมกับโคนันในเดอะมูฟวี่8 มนตราแห่งรัตติกาลสีเงิน และยังลงจากเครื่องไปก่อนเพื่อล่อให้ตำรวจตามมา โดยใช้แสงไฟรถตำรวจสีแดงแทนแสงรันเวย์ฉุกเฉิน ทำให้เครื่องบินที่มีผู้โดยสารนับร้อยลงจอดได้อย่างปลอดภัย ที่เด่นชัดที่สุดคือในเดอะมูฟวี่14 ปริศนามรณะเหนือน่านฟ้า เมื่อโคนันถูกผู้ก่อการร้ายโยนลงไปจากเรือเหาะ คิดได้กระโดดลงไปช่วยและยังร่วมมือกับโคนันปลอมเป็นคุโด้ ชินอิจิเพื่อขอขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตำรวจกลับขึ้นไปบนเรือเหาะ

คิดเองรู้จักตัวจริงของโคนันว่าคือคุโด้ ชินอิจิ ทั้งยังมีหน้าตาคล้ายกันมากจนเหมือนฝาแฝด ซึ่งเป็นเพราะทั้งสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน ทั้งความฉลาดเฉลียว ทักษะและไหวพริบการเอาตัวรอดก็ใกล้เคียงกัน ดังนั้นการปลอมตัวเป็นชินอิจิโดยไม่ต้องสวมหน้ากากจึงเป็นข้อได้เปรียบมากหากคิดต้องการหลบเลี่ยงการพิสูจน์ว่าเป็นตัวจริงหรือปลอมจากคนที่เข้ามาดึงหน้า อีกทั้งยังได้รับความเชื่อถือจากใครหลายๆคนเสียอีก

ความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างจอมโจรคิดกับตัวละครในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน คือความสัมพันธ์กับตระกูลสึสึกิ ตามท้องเรื่องปรากฏว่าจอมโจรคิดโจรกรรมสมบัติที่อยู่ในความครอบครองของตระกูลไปหลายครั้ง เช่น อัญมณีแบล็กสตาร์ ไข่อิมพีเรียลอีสเตอร์ของฟาเบลเจ และรองเท้า "เล็บสีม่วง" เป็นต้น สึสึกิ โซโนโกะ ซึ่งเป็นบุตรสาวในตระกูลสึสึกิเองมีความคลั่งไคล้ในจอมโจรคิดเป็นอย่างมาก และมักจะเชียร์จอมโจรคิดให้ประสบความสำเร็จในการโจรกรรมอยู่ร่ำไป[25] เป็นต้น

อีกคนหนึ่งที่จอมโจรคิดมีความสัมพันธ์ด้วยคือที่ปรึกษาประจำบริษัทสึสึกิ สึสึกิ จิโรคิจิ ผู้เป็นลุงของโซโนโกะ ซึ่งได้เดินทางไปรอบโลกเพื่อหาสมบัติทั่วโลกและรางวัลต่างๆ เขาได้โกรธแค้นจอมโจรคิดเพราะเนื่องจากเขาชอบให้ตนเองเป็นข่าวหน้าหนึ่งเสมอ แต่หนังสือพิมพ์ก็ได้พิมพ์ข่าวที่มีจอมโจรคิด แม้แต่หน้าสองก็มี ทำให้จิโรคิจิตัดสินใจว่าจะจับคิดให้ได้ โดยใช้สมบัติต่างๆที่หามาได้เป็นเหยื่อล่อ และส่งสารไปยังจอมโจรคิดเพื่อท้าทายเสมอ[26] แต่จอมโจรคิดก็ไม่ได้นำไปจริง ๆ เพียงแต่มาตามคำท้าเพียงหอมปากหอมคอเท่านั้น ส่วนในกรณีของไข่ฟาเบลเจ จอมโจรคิดได้ขโมยเพื่อจะนำกลับไปคืนเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งก็คือหลานสาวของผู้สร้างไข่กลขึ้นมา แต่ก็ถูกสกอร์เปียนทำร้ายไปเสียก่อน[17] แต่ครั้งหนึ่งจิโรคิจิได้แอบส่งสารขอความช่วยเหลือไปยังจอมโจรคิด เพราะลูแปงหมาเลี้ยงของเขาได้ถูกขังไว้ในตู้เซฟที่ที่แข็งแกร่งที่สุดยากนักที่จะไขออกได้ จอมโจรคิดก็ยอมช่วยเหลือจนสามารถไขตู้เซฟพร้อมช่วยลูแปงได้ในที่สุด

Remove ads

ผลกระทบต่อยอดนักสืบจิ๋วโคนัน

สรุป
มุมมอง

เดิมทีแล้วอาโอยาม่าวาดการ์ตูนเรื่องจอมโจรอัจฉริยะและไยบะมาพร้อม ๆ กัน ลงพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นซันเดย์และได้รับความนิยมทั้งคู่ จนกระทั่งมีครั้งหนึ่งในจอมโจรอัจฉริยะที่ได้มีการนำจอมโจรคิดมาเขียนร่วมกับไยบะ และลงตีพิมพ์ในจอมโจรอัจฉริยะฉบับรวมเล่มเล่ม 3[27] อย่างไรก็ดีเมื่ออาโอยาม่ามาวาดเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนันซึ่งก็ได้รับความนิยมในทันทีที่มีการวางตลาด อาโอยาม่าก็จำเป็นต้องหยุดเขียนเรื่องจอมโจรอัจฉริยะ แต่อาโอยาม่าก็มิได้ปล่อยให้จอมโจรคิดหายไปจากมังงะแต่อย่างใด จอมโจรคิดได้กลับมาปรากฏตัวในโคนันเล่ม 16 โดยเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างโคนันกับจอมโจรคิด ครั้งนั้นเองมีการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยในจอมโจรอัจฉริยะ[7] เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของชื่อ ซึ่งในประเทศไทยปรากฏว่ามีผู้ติดตามเรื่องตั้งข้อสังเกตเมื่อได้อ่านยอดนักสืบจิ๋วโคนันเล่ม 55 ว่าที่มาของชื่อของจอมโจรคิดไม่ตรงกัน จนสามารถพิสูจน์ได้ว่าอาจเป็นการแปลผิดของสำนักพิมพ์[28] หลังจากเล่ม 16 ก็ยังมีการปรากฏตัวของจอมโจรคิดในยอดนักสืบจิ๋วโคนันอยู่เรื่อย ๆ ในขณะที่อาโอยาม่าก็เขียนจอมโจรอัจฉริยะซึ่งเป็นเรื่องหลักของจอมโจรคิดต่อด้วยเช่นกัน แต่ก็เขียนได้อีกแค่เล่มเดียวก็ต้องไปเขียนในยอดนักสืบจิ๋วโคนันต่อ อย่างไรก็ดีทางผู้สร้างอนิเมะของยอดนักสืบจิ๋วโคนันก็ได้นำเรื่องในจอมโจรอัจฉริยะมาดัดแปลงและทำเป็นเรื่องของยอดนักสืบจิ๋วโคนันแทน โดยต่อไปนี้คือรายการปรากฏตัวส่วนหนึ่งของจอมโจรคิดในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน

หมายเหตุ ชื่อตอนที่กำกับด้วยภาษาญี่ปุ่น ยังไม่มีการแปลอย่างเป็นทางการที่ได้รับอนุญาตจากผู้ถือลิขสิทธิ์

การปรากฏตัวอนิเมะและเดอะมูฟวี่

ข้อมูลเพิ่มเติม ตอนที่ (ญี่ปุ่น), ตอนที่ (ไทย) ...

การปรากฏตัวในโอวีเอ

ข้อมูลเพิ่มเติม ตอนที่, ชื่อไทย ...

สินค้าอื่น ๆ

ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่าจอมโจรคิดเป็นที่รู้จักในบทบาทการปรากฏตัวในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน สินค้าที่ทำออกมาที่เกี่ยวกับจอมโจรคิดจึงเป็นสินค้าของยอดนักสืบจิ๋วโคนันแทบทั้งสิ้น ตัวอย่างสินค้าที่ทำออกมาและมีจอมโจรคิดออกมาด้วย เช่น

  • ปฏิทินยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ประจำ พ.ศ. 2552 สำหรับปฏิทินประจำ พ.ศ. 2552 นั้น จอมโจรคิดจะปรากฏตัวในแผ่นของเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน[32]
  • หนังสือเล่มพิเศษของโชเน็นซันเดย์ 2 เล่ม เนื้อหาเกี่ยวกับจอมโจรคิดและโคนัน ได้แก่
    • ดีเทคทีฟโคนัน VS คิดเดอะแฟนธอมธีฟ (ญี่ปุ่น: 名探偵コナンVS怪盗キッド 完全版; โรมาจิ: Meitantei Konan VS Kaitou Kiddo Kanzenban)[33]
    • เมทันเตโคนัน ไทเค็ทสึ ไคโตคิดโดะเฮ็น (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 対決怪盗キッド編; โรมาจิ: Meitantei Konan Taiketsu Kaitou kiddo hen)[34]
  • กรมไปรษณีย์ญี่ปุ่นเคยจัดทำชุดแสตมป์ "ANIME HERO-HEROIN SERIES" ซึ่งเป็นแสตมป์ที่ระลึกอนิเมะ และมังงะ ที่ได้รับความนิยมสูงมาหลายชุด โดบชุดที่เกี่ยวกับยอดนักสืบจิ๋วโคนันและจอมโจรคิด ได้แก่ชุดที่ 4 และชุดที่ 10 โดยชุดที่ 4 ภาพของจอมโจรคิดจะเป็นภาพขณะเผชิญหน้ากับโคนันครั้งแรกในยอดนักสืบจิ๋วโคนันมาบรรจุลงในแสตมป์[35] และในชุดที่ 10 ที่วางจำหน่ายในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552 ซึ่งเป็นแสตมป์แนวคิด "สี่ฤดู" เป็นภาพจอมโจรคิดกับโคนัน โดยมีแฮงไกเดอร์ของจอมโจรคิดบินตัดพระจันทร์[36][37]
  • บริษัทบันไดเคยผลิตฟิกเกอร์รูปจอมโจรคิดออกมาวางจำหน่าย ในฐานะส่วนหนึ่งของฟิกเกอร์ขนาดเล็กของยอดนักสืบจิ๋วโคนัน[38]
  • นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่เกี่ยวกับจอมโจรคิดอีกหลายหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นไฟฉาย[39] โปสเตอร์ เป็นต้น
Remove ads

ข้อสังเกตด้านที่มาของชื่อในประเทศไทย

สรุป
มุมมอง

มีผู้ติดตามเรื่องในประเทศไทยส่วนหนึ่งตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับที่มาของจอมโจรคิด ตามที่ปรากฏในมังงะเล่ม 16 และเล่ม 55 ที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ เนื่องจากที่มาของชื่อ "คิด" ที่คุโด้ ยูซากุเป็นคนตั้งตามที่ระบุไว้ในทั้งสองเล่มระบุไม่ตรงกัน โดยในเล่มที่ 16 ดอกเตอร์อากาสะกล่าวว่า "เขา (ยูซากุ) บังเอิญทำเหล้าหกใส่ตัว 1412 เลยอ่านใหม่ได้ว่า เค ไอ ดี KID (คิด)"[7] ในขณะที่เล่มที่ 55 มีการยกคำพูดของคุโด้ ยูกิโกะที่พูดกับโคนันทางโทรศัพท์ว่า "เขา (ยูซากุ) บอกว่านักหนังสือพิมพ์เขียน 1412 หวัด ๆ เขาก็เลยอ่านมันว่าคิด" ผู้ติดตามเรื่องกลุ่มหนึ่งได้สอบทานกับต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น และ Case Closed ซึ่งเป็นหนังสือการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับสหรัฐอเมริกา และพบว่าที่มาของชื่อ "คิด" ที่ถูกต้องคือที่มาที่ว่านักหนังสือพิมพ์เขียนหวัดจึงอ่านว่าคิด ดังที่ระบุไว้ในเล่ม 55[40] เนื่องจากปรากฏในต้นฉบับทั้งสองว่า

1412のナンバーを洒落てこう読んだのじゃ
(1412 no Number wo sharetekou kouyon danoja)

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ฉบับภาษาญี่ปุ่น เล่ม 16

He took the number 1412 and redesigned it to look like K-I-D

Case Closed เล่ม 16[41]

ในต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นประกอบด้วยคำว่าชาเรรุ (ญี่ปุ่น: 洒落る; โรมาจิ: Shareru) ที่แปลว่าเล่นคำ ซึ่งในต้นฉบับของ Case Closed ใช้คำว่า Redesign ซึ่งตรงกับความหมายเดิมในภาษาญี่ปุ่น แต่ผู้แปลภาษาไทยแยกคำนี้ออกเป็นสองคำ โดยแยกเป็นคำว่า สะเกะ (ญี่ปุ่น: ; โรมาจิ: Sake) ที่แปลว่าเหล้าและ โอชิรุ (ญี่ปุ่น: 落ちる; โรมาจิ: Ochiru) ที่แปลว่าตก, หล่น ทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไป[28]

Remove ads

ดูเพิ่ม

บรรณานุกรม

Loading content...

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading content...
Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads