คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

กิเลส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Remove ads
Remove ads

กิเลส ( Defilements ) (บาลี: กิเลส; สันสกฤต: क्लेश เกฺลศ) แปลว่า มลทิน รอยเปื้อน รอยด่าง ความสกปรก ความเศร้าหมอง หมายถึง สภาพที่ทำให้จิตเศร้าหมอง[1]

กิเลสมี 3 ระดับ คือได้แก่

  • อนุสัยกิเลส (Latent Defilements) กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน
  • ปริยุฏฐานกิเลส (Internally Active Defilements) กิเลสอย่างกลางคือกิเลสที่เกิดขึ้นจากการปรุงแต่งทางความคิด ได้แก่ กิเลสประเภทนิวรณ์ 5
  • วีติกกมกิเลส (Externally Active Defilements) กิเลสอย่างหยาบคือกิเลสที่ทะลักออกมาทำให้สัตว์สร้างกรรมขึ้นมาทางกายและวาจา ได้แก่ อุปาทาน 4 คือ 1.กามุปาทาน การหวงแหนและแสวงหาในกาม 2.ทิฏฐุปาทาน การกระทำตามความคิดความเชื่อ 3.สีลัพพัตตุปาทาน แก้ทุกข์ที่เกิดขึ้นตามความเคยชินด้วยสามารถแห่งศีลและพรตที่มี 4.อัตตวาทุปาทาน ความยึดมั่นในขันธ์และสิ่งทั้งหลายว่าเป็นของตน

กิเลสอย่างละเอียด สงบได้ด้วยปัญญา, กิเลสอย่างกลาง สงบได้ด้วยสมาธิ และ กิเลสอย่างหยาบ สงบได้ด้วยศีล

กิเลสนั้นต่างก็มีอาหารของตน การจะดับกิเลสนั้นท่านให้ดับที่ไม่ให้อาหาร โดยเฉพาะกิเลสต่าง ๆ นั้น มักจะมีกิเลสด้วยกันเองนั้นแหล่ะเป็นอาหารของกันและกัน เรียกว่าอุปกิเลส ดังนั้น การจะกำจัดกิเลสบางอย่าง จำเป็นต้องกำจัดกิเลสที่เป็นอาหารของมันก่อน มีอุปมาว่าการจะโจมตีเมืองหลวง จะโจมตีเมืองหลวงโดยตรงเลยไม่ได้ ไม่งั้นเมืองรองต่าง ๆ จะเข้ามาช่วยจากรอบทิศทาง ทำให้เราพ่ายแพ้ ดังนั้นจึงต้องโจมตีค่ายเล็ก ๆ และเมืองเล็ก ๆ ที่เป็นบริวาร แล้วจึงตีเมืองรองให้หมดก่อน จึงค่อยบุกเมืองหลวงในตอนท้ายสุด จึงจะสำเร็จลงได้ ดังนั้น การจะกำจัดอวิชชาที่ดุจเป็นเมืองหลวง ก็ต้องกำจัดอนุสัยสังโยชน์ที่เปรียบเสมือนเมืองรองลงเสียก่อน เเละการจะกำจัดอนุสัยสังโยชน์ก็ต้องกำจัดอุปกิเลสที่เป็นอาหารของอนุสัยสังโยชน์ลงเสียก่อน เปรียบเสมือนการตีเมืองเล็ก ๆ ที่เป็นบริวารของเมืองรอง เป็นต้น การจะบรรลุธรรมจึงขาดนามรูปปัจจยปริคหญาณไม่ได้เลย

Remove ads

วจนัตถะ

กิเลเสนฺติ อุปตาเปนฺตีติ = กิเลสา แปลว่า ธรรมชาติใดย่อมทำให้เร่าร้อน เศร้าหมอง ธรรมชาตินั้นชื่อว่า กิเลส

กิลิสฺสติ เอเตหีติ = กิเลสา แปลว่า สัมปยุตธรรม คือ จิต เจตสิก ย่อมเศร้าหมอง เร่าร้อน ด้วยธรรมชาติใด ฉะนั้นธรรมชาติที่เป็นเหตุแห่งความเศร้าหมองเร่าร้อนของสัมปยุตนั้น จึงชื่อว่า กิเลส

กิเลสวัตถุ

ในวิภังคปกรณ์ระบุว่า กิเลสวัตถุ 10 ได้แก่[2]

  1. โลภะ (Greed) ความอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตนอย่างไม่ชอบธรรม
  2. โทสะ (Anger/Hatred) ความคิดประทุษร้าย ทำลาย ขุ่นเคือง ความเกลียดชัง
  3. โมหะ (Delusion/Ignorance) ความหลง มัวเมา ความไม่รู้ ความเข้าใจผิด
  4. มานะ (Conceit/Pride) ความถือตัว การสำคัญตน การเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น
  5. ทิฏฐิ (Wrong Views) ความเห็นผิด ความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง
  6. วิจิกิจฉา (Doubt/Skeptical Uncertainty) ความลังเลสงสัยในพระธรรมคำสอนและผลของการปฏิบัติ
  7. ถีนะ (Sloth) ความหดหู่ ท้อแท้ เกียจคร้าน
  8. อุทธัจจะ (Restlessness) ความฟุ้งซ่าน ความกระวนกระวายของจิตใจ
  9. อหิริกะ (Shamelessness) ความไม่ละอายใจต่อการกระทำความชั่ว
  10. อโนตตัปปะ (Fearlessness of Reproach) ความไม่เกรงกลัวต่อผลของบาป
Remove ads

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads