Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การบุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐ พ.ศ. 2564 เป็นเหตุจลาจลและการโจมตีโดยใช้ความรุนแรงต่อรัฐสภาสหรัฐในสมัยประชุมที่ 117 เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 โดยเกิดจากความพยายามของบรรดาผู้สนับสนุนประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี พ.ศ. 2563[2] หลังเข้าร่วมการชุมนุมที่ทรัมป์จัดขึ้น ผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคน[20] เดินขบวนไปตามถนนเพนซิลเวเนียก่อนที่หลายคนจะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางการนับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งระหว่างการประชุมร่วมของรัฐสภา และเพื่อขัดขวางกระบวนการรับรองชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดิน อย่างเป็นทางการ[21][22] ผู้ก่อจลาจลได้ฝ่าวงล้อมของตำรวจ จากนั้นได้เข้ายึด ทำลาย[23][24] ฉกชิง และรื้อค้นข้าวของ[25] ในพื้นที่หลายส่วนของอาคารรัฐสภาเป็นเวลาหลายชั่วโมง[26][27][28] การบุกเข้าไปในอาคารนำไปสู่การอพยพหลบภัยและการปิดอาคารรัฐสภา และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย[29][30]
การบุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐ พ.ศ. 2564 | |
---|---|
ส่วนหนึ่งของ การประท้วงผลการเลือกตั้งในสหรัฐ พ.ศ. 2563–2564 และความพยายามพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563 | |
วันที่ | 6 มกราคม 2021 |
สถานที่ | อาคารรัฐสภาสหรัฐ วอชิงตันดีซี สหรัฐ 38°53′23.3″N 77°00′32.6″W |
สาเหตุ |
|
เป้าหมาย |
|
วิธีการ |
|
ผล | |
ผู้บาดเจ็บและถูกดำเนินคดี | |
เสียชีวิต | เสียชีวิต 5 คน (ถูกยิง 1 คน, กินยาเกินขนาด 1 คน, เสียชีวิตตามธรรมชาติ 3 คน)[14][15] |
บาดเจ็บ | |
ถูกตั้งข้อหา | 668 คน[19] |
หลังจากที่ได้รับการกระตุ้นจากทรัมป์[31] บรรดาผู้สนับสนุนเขาก็มารวมตัวกันในวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 5 และ 6 มกราคมเพื่อสนับสนุนคำอ้างเท็จของเขาที่ว่า การเลือกตั้ง พ.ศ. 2563 ถูก "ปล้น" ไปจากเขา[32] และเพื่อเรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ และรัฐสภาปฏิเสธชัยชนะของไบเดิน[33][34][35] ในการชุมนุม "เซฟอเมริกา" ที่สวนสาธารณะดิอีลิปส์เมื่อวันที่ 6 มกราคม ทรัมป์,[36][37] ดอนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์, รูดี จูลีอานี และสมาชิกรัฐสภาหลายคนกล่าวปลุกระดมกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์กลุ่มหนึ่ง[38] ทรัมป์บอกให้พวกเขา "สู้สุดชีวิต" เพื่อ "เอาประเทศของพวกเรากลับคืนมา"[39][40] โดยยุให้พวกเขาเดินขบวนไปยังรัฐสภา[28] จูลีอานีเรียกร้องให้มี "การไต่สวนด้วยการประลอง"[41] และทรัมป์ จูเนียร์ ข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามประธานาธิบดีโดยกล่าวว่า "พวกเรากำลังไปหาพวกคุณ" (เขาได้เรียกร้องให้มี "สงครามเบ็ดเสร็จ" เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเหตุจลาจล)[42][43] หลังจากเดินขบวนไปที่อาคารรัฐสภาและฝ่าแผงกั้นของตำรวจซึ่งในขณะนั้นมีจำนวนคนน้อยกว่า ผู้ประท้วงหลายคนก็เริ่มใช้ความรุนแรง พวกเขาทำร้ายตำรวจและผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ก่อตะแลงแกงในพื้นที่อาคารรัฐสภา ร้องตะโกนว่า "แขวนคอไมก์ เพนซ์" และพยายามหาตัวผู้บัญญัติกฎหมายเพื่อจับเป็นตัวประกันและทำร้าย ซึ่งรวมถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร แนนซี เพโลซี (พรรคเดโมแครตแคลิฟอร์เนีย) และเพนซ์ เนื่องจากเพนซ์ปฏิเสธที่จะพลิกความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของทรัมป์อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย[44][45][46][47][48]
ขณะที่ผู้ก่อจลาจลเข้ามาในอาคารรัฐสภาโดยพังประตูและหน้าต่าง หน่วยรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาได้อพยพผู้คนออกจากห้องประชุมต่าง ๆ ของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร อาคารทั้งหมดในหมู่อาคารรัฐสภาถูกปิด[49] ผู้ก่อจลาจลฝ่าด่านรักษาความปลอดภัยภายในและเข้ายึดห้องประชุมวุฒิสภาที่ว่างเปล่าในขณะที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางชักปืนพกเพื่อป้องกันห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีการอพยพผู้คนออกไปแล้ว[50][51][52] ข้าวของในห้องทำงานของสมาชิกรัฐสภาหลายคนรวมทั้งเพโลซีถูกฉกชิงและทำลาย[53][54][55] มีการพบอุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่อาคารรัฐสภาเช่นเดียวกับที่ห้องทำงานของคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคดิโมแครต คณะกรรมการแห่งชาติของพรรคริพับลิกัน และในยานพาหนะใกล้เคียง[56][57] มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ห้าคนซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาหนึ่งนาย ในขณะที่มีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน[58]
ในตอนแรก ทรัมป์ไม่ยอมส่งกองกำลังพิทักษ์ชาติประจำดิสตริกต์ออฟโคลัมเบียไปปรามปรามฝูงชนที่ก่อความวุ่นวาย[59] ในวิดีโอหนึ่งทางทวิตเตอร์ เขาเรียกผู้ก่อจลาจลว่าเป็น "ผู้รักชาติผู้ยิ่งใหญ่" และบอกให้พวกเขา "กลับบ้านอย่างสงบ" พร้อมกับย้ำคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ้ำ ๆ[60][61] ท่ามกลางแรงกดดันจากฝ่ายบริหารของเขา การขู่จะถอดถอน และการลาออกของเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ทรัมป์ยืนยันว่าจะเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างเป็นระเบียบในแถลงการณ์ที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์[62][63][64][65] ฝูงชนได้สลายตัวไปจากอาคารรัฐสภาในเย็นวันนั้นและการนับคะแนนเลือกตั้งก็กลับมาดำเนินต่อและเสร็จสิ้นในช่วงเช้ามืด เพนซ์ประกาศชัยชนะของไบเดินและว่าที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และกล่าวยืนยันว่าทั้งสองจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม สามวันต่อมาในวันที่ 9 มกราคม มีรายงานว่าทรัมป์บอกกับผู้ช่วยในทำเนียบขาวว่า เขารู้สึกเสียใจที่ได้แถลง "การเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างเป็นระเบียบ" ออกไป และเขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง[66]
เหตุการณ์ดังกล่าวถูกประณามอย่างกว้างขวางจากผู้นำและองค์การทางการเมืองทั้งในสหรัฐและในระดับนานาชาติ มิตช์ แม็กคอนเนลล์ (พรรคริพับลิกันเคนทักกี) ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา แถลงหลังจากกลับสู่ที่ประชุมรัฐสภาทันทีโดยเรียกการบุกเข้าอาคารรัฐสภาว่าเป็น "การก่อการกำเริบที่ล้มเหลว" และยืนยันว่าคำกล่าวอ้างของทรัมป์เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งนั้นเป็นเท็จ เพโลซีและชัก ชูเมอร์ (พรรคเดโมแครตนิวยอร์ก) ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา เรียกร้องให้มีการถอดถอนทรัมป์ผ่านการใช้อำนาจตามบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 หรือผ่านการฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่ง[67] เฟซบุ๊กล็อกบัญชีต่าง ๆ ของทรัมป์และลบข้อความที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนทวิตเตอร์ได้ล็อกบัญชีของเขาเป็นเวลา 12 ชั่วโมงในตอนแรก ก่อนที่จะระงับเป็นการถาวร[68][69]
การบุกเข้าอาคารรัฐสภาได้รับการบรรยายอย่างหลากหลาย เช่นว่าเป็นการกบฏ[70] การก่อการกำเริบ การปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง การก่อการร้ายในประเทศ[71] และความพยายามของทรัมป์ที่จะก่อรัฐประหารตัวเอง[72] หรือก่อรัฐประหาร[73][74] เพื่อต่อต้านฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมีอำนาจเท่าเทียมกันและรองหัวหน้าฝ่ายบริหารของเขาเอง เป็นต้น ผลการหยั่งความคิดเห็นแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการบุกเข้าอาคารรัฐสภาและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของทรัมป์ที่นำไปสู่เหตุการณ์ดังกล่าว แต่ผู้สนับสนุนพรรคริพับลิกันบางคนก็สนับสนุนการโจมตีหรือไม่เห็นว่าทรัมป์เป็นต้นเหตุ[75][76][77][78] หนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุจลาจล สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติฟ้องให้ขับทรัมป์ออกจากตำแหน่งในข้อหา "ยุยงให้ก่อการกำเริบ" ทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ถูกฟ้องร้องถึงสองครั้ง[79]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.