Remove ads
เมืองขนาดใหญ่ในประเทศสวีเดน จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
57.708870°N 11.974560°E กอเทนเบิร์ก (อังกฤษ: Gothenburg) หรือ เยอเตอบอร์ย (สวีเดน: Göteborg ) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศสวีเดน เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 5 ของกลุ่มนอร์ดิก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวีเดน ในเมืองมีประชากรประมาณ 580,000 คน หากนับในเขตมหานครจะมีทั้งหมดประมาณหนึ่งล้านคน[1]
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
กอเทนเบิร์ก เยอเตอบอร์ย Göteborg | |
---|---|
ตามเข็มจากบน: เยอตาแอลว์ และ บาร์เกินไวกิงทางซ้าย, บ้านยุนเนอโบ, โกเตียทาวเวอส์กับสแวนสกาแมสซัน, ปราสาทแอลวสบอร์ย, สนามกีฬาอูลเลอวี, รถรางกอเทนเบิร์ก, รูปปั้นโพไซดอนที่เยอตาพลัตเซิน, โรงอุปรากรเยอเตอบอร์ย | |
สมญา:
| |
พิกัด: 57°42′31.9320″N 11°58′28.4160″E | |
ประเทศ | สวีเดน |
จังหวัด | เวสตราเยอตลันด์ และ บูฮุสแลน |
มณฑล | มณฑลเวสตรา เยอตาลันด์ |
เทศบาล | เมืองเยอเตอบอร์ย |
ก่อตั้ง (เมือง) | ค.ศ. 1621 |
พื้นที่[1] | |
• ตัวเมือง | 447.76 ตร.กม. (172.88 ตร.ไมล์) |
• พื้นน้ำ | 14.5 ตร.กม. (5.6 ตร.ไมล์) 3.2% |
• เขตเมือง | 203.67 ตร.กม. (78.64 ตร.ไมล์) |
• รวมปริมณฑล | 3,694.86 ตร.กม. (1,426.59 ตร.ไมล์) |
ประชากร | |
• ตัวเมือง | 572,779 คน |
• ความหนาแน่น | 1,300 คน/ตร.กม. (3,300 คน/ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 581,822[3] คน |
• รวมปริมณฑล | 1,001,032[4] คน |
เดมะนิม | Göteborgare/Gothenburger |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+2 (CEST) |
รหัสไปรษณีย์ | 40xxx – 41xxx – 421xx – 427xx |
รหัสพื้นที่ | (+46) 31 |
เว็บไซต์ | goteborg.se |
กอเทนเบิร์กถูกก่อตั้งใน ค.ศ. 1621 โดยได้รับหนังสือแต่งตั้งจากสำนักพระราชวังตามคำสั่งของกษัตริย์กุสตาฟที่ 2 อดอล์ฟ ซึ่งมีความตั้งใจให้เป็นนิคมการค้าซึ่งมีระบบป้องกันที่แข็งแรง กษัตริย์ได้ให้เอกสิทธิ์พิเศษ เช่น การลดหย่อนภาษี กับชาวดัตช์ซึ่งเป็นพันธมิตรจากสงครามสามสิบปี และยังเชิญชวนพันธมิตรทั้งชาวเยอรมันและชาวสกอตให้มาอยู่ในเมืองหนึ่งเดียวของเขาบนชายฝั่งตะวันตก เมืองตั้งอยู่ปากแม่น้ำเยอตาซึ่งเป็นที่ลุ่มน้ำไหลกลับสู่ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย กอเทนเบิร์กเป็นเมืองท่าทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มนอร์ดิก[5] มีการทำประมง และมีรถยนต์กับผลิตภัณฑ์ไม้เป็นสินค้าส่งออก
กอเทนเบิร์กมีประชากรเป็นนักศึกษาจำนวนมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเยอเตอบอร์ยและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชามเมอร์ส์ บริษัทรถยนต์ วอลโว่ ก่อตั้งในเมืองกอเทนเบิร์กเมื่อปี ค.ศ. 1927[6] บริษัทหลักอื่น ๆ ได้แก่ SKF และ แอสตราเซเนกา ก็ถูกก่อตั้งใจเมืองนี้เช่นกัน
สนามบินที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน คือ ท่าอากาศยานเยอเตอบอร์ย-ลันด์เวตเตร์ ตั้งอยู่ 30 กิโลเมตรจากกลางเมือง ส่วนสนามบินอีกที่ชื่อว่า ท่าอากาศยานเมืองเยอเตอบอร์ย มีขนาดเล็กกว่า และตั้งอยู่ 15 km (9.3 mi) จากใจกลางเมืองถูกเลิกใช้ใน ค.ศ. 2015
เมืองเป็นเจ้าภาพงานหลายงานประจำปีซึ่งใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย เทศกาลหนังกอเทนเบิร์กที่จัดในเดือนมกราคมมาตั้งแต่ ค.ศ. 1979 เป็นเทศกาลหนังแนวหน้าของแถบสแกนดิเนเวียที่มีผู้เข้าชมกว่า 155,000 คนต่อปี[7] ในช่วงหน้าร้อน มักมีการจัดเทศกาลดนตรีขึ้นในเมือง เช่น Way Out West และ Metaltown
เมืองถูกตั้งชื่อตามชนเผ่ากีทส์ (อังกฤษ: Geats, สวีเดน: Götar, อังกฤษเก่า: Gēatas, นอร์สเก่า: Gautar, รูปแบบอื่น: Goths, Gotar, Gøtar) ผู้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเยอตาลันด์ (Götaland) ซึ่งปัจจุบันอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสวีเดน[8][9][10] เมืองตั้งอยู่บนปากแม่น้ำเยอตาหรือแม่น้ำกอเทีย เยอตาบอร์ย หรือ "ป้อมปราการกอเทีย" เป็นป้อมปราการบนแม่น้ำเยอตา ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันท่าเรือ
ในภาษาดัตช์ ภาษาสกอต และภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาที่มีประวัติร่วมกับเมืองนี้เป็นเวลายาวนาน ล้วนใช้ชื่อกอเทนเบิร์ก
ใน ค.ศ. 2009 สภาเทศบาลนครได้เปิดตัวสัญลักษณ์ใหม่ของกอเทนเบิร์ก ด้วยความที่ชื่อ "เยอเตอบอร์ย (Göteborg)" มีตัวอักษรภาษาสวีเดน "ö" จึงเกิดความคิดที่จะทำให้ชื่อมีความสากลมากขึ้นด้วยการหันตัว "ö" ไปข้าง ๆ ชื่อเมืองจึงมักถูกเขียนว่า "Go:teborg" บนป้ายในเมือง[11]
ในช่วงต้นยุคใหม่ รูปทรงของเขตแดนประเทศสวีเดนทำให้กอเทนเบิร์กมีความสำคัญทางชัยภูมิ โดยเป็นประตูสู่ทะเลเหนือและมหาสมุทรแอตแลนติกของประเทศสวีเดนซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตก โดยเป็นพื้นที่แคบ ๆ ระหว่างเขตฮาลันด์ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์กทางทิศใต้ และเขต บูฮุสแลน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของนอร์เวย์ทางทิศเหนือ กอเทนเบิร์กก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1621 โดยกษัตริย์กุสตาฟที่ 2 อดอล์ฟ หลังความพยายามที่ล้มเหลวหลายครั้ง[12] สถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์แห่งแรกในเมืองกอเทนเบิร์ก ซึ่งต่อมาถูกทำลายโดยผู้บุกรุกชาวเดนมาร์กตอนนี้มีหินเป็นเครื่องหมาย อยู่ใกล้กับปลายฝั่งเหนือของสะพาน Älvsborg ในสวน Färjenäs โบสถ์ถูกสร้างใน ค.ศ. 1603 และถูกทำลายใน ค.ศ. 1611[13] เมืองได้รับอิทธิพลจากชาวดัตช์ ชาวเยอรมัน และชาวสกอต และนักวางแผนกับวิศวกรชาวดัตช์เป็นผู้ถูกรับจ้างให้สร้างเมือง ด้วยความที่พวกเขามีทักษะในการดูดน้ำออก และก่อสร้างบนพื้นที่ซึ่งเป็นแอ่งน้ำ เมืองถูกออกแบบคล้ายกับเมืองของชาวดัตช์ เช่น อัมสเตอร์ดัม, ปัตตาเวีย (จาการ์ตา), และ นิวอัมสเตอร์ดัม (แมนแฮตตัน)[12] รูปแบบของถนนและคลองของกอเทนเบิร์กมีความคล้ายกับของเมืองจาการ์ตาซึ่งถูกสร้างในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน[14] แต่เดิมชาวดัตช์เป็นผู้กุมอำนาจทางการเมืองกระทั่ง ค.ศ. 1652 เมื่อนักการเมืองชาวดัตช์คนสุดท้ายในสภาเมืองได้เสียชีวิตลง ชาวสวีเดนจึงได้รับอำนาจทางการเมืองของกอเทนเบิร์ก[15] ในช่วงที่เมืองถูกปกครองโดยชาวดัตช์ กฎหมายดัตช์ถูกนำมาใช้และภาษาดัตช์ถูกใช้เป็นภาษาทางการของเมือง กำแพงเมืองถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ใน ค.ศ. 1807 ได้มีคำสั่งให้ทำลายกำแพงเมืองส่วนใหญ่ลง งานทำลายเริ่มเมื่อ ค.ศ. 1810 ดำเนินการโดยทหาร 150 นาย[16]
นอกจากชาวดัตช์ เมืองยังได้รับอิทธิพลจากชาวสกอตซึ่งเข้ามาตั้งรกรากในกอเทนเบิร์ก โดยหลายคนได้กลายเป็นผู้มีชื่อเสียง[17] วิลเลียม ชามเมอร์ส์ ผู้เป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวสกอต ได้บริจาคทรัพย์สินของเขาเพื่อสร้างมหาวิทยาลัยซึ่งตอนนี้ใช้ชื่อว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชามเมอร์ส์[18] ใน ค.ศ. 1841 อเล็กซานเดอร์ เคลเลอร์ ได้ก่อตั้ง บริษัทต่อเรือ Götaverken ซึ่งดำเนินกิจการจนถึง ค.ศ. 1989[19] ลูกชายของเขาได้บริจาคสวนเคลเลอร์ให้เมืองในค.ศ. 1906[20]
ตราอาร์มกอเทนเบิร์กมีฐานมาจากเสือของตราแผ่นดินของสวีเดน โดยถือโล่ซึ่งมีสัญลักษณ์ประจำชาติ มงกุฎ 3 อัน เพื่อปกป้องเมืองจากศัตรู[21]
ภายใต้สนธิสัญญาโรสกิลด์ (ค.ศ. 1658) เดนมาร์ก–นอร์เวย์ ได้สละอาณาเขตฮาลันด์ทางใต้ซึ่งในตอนนั้นเป็นของเดนมาร์ก รวมถึงอาณาเขตปูฮุสแลนของนอร์เวย์ซึ่งอยู่ทางเหนือ ให้โอกาสกอเทนเบิร์กได้เติบโตเป็นเมืองท่าและศูนย์การค้าที่สำคัญบนชายฝั่งตะวันตก ด้วยความที่เป็นเมืองบนชายฝั่งตะวันตกร่วมกับมัสตรันด์ (Marstrand) ที่มีสิทธิ์ค้าขายกับพ่อค้าจากประเทศอื่น[15]
ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 การตกปลาเป็นอุตสาหกรรมซึ่งมีความสำคัญมากที่สุด อย่างไรก็ตามใน ค.ศ. 1731 Swedish East India Company ถูกก่อตั้งขึ้น เป็นผลให้เมืองเฟื่องฟูจากการค้าขายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการค้าขายกับประเทศจีนซึ่งให้กำไรสูง[22]
ท่าเรือของเมืองได้พัฒนาเป็นท่าเรือหลักของประเทศสวีเดนในการค้าขายกับฝั่งตะวันตก และเมื่ออัตราการอพยพของชาวสวีเดนไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น กอเทนเบิร์กกลายเป็นจุดหลักที่คนเหล่านี้จะออกเดินทาง จนทำให้มีเมืองในรัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา ที่ชื่อว่ากอเทนเบิร์ก เช่นกัน[23]
กอเทนเบิร์กพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยประชากรเมืองได้เพิ่มขึ้นสิบเท่าภายในหนึ่งศตวรรษ จาก 13,000 คนใน ค.ศ. 1800 เป็น 130,000 คนใน ค.ศ. 1900[24][25][26] ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 บริษัทหลักที่ถูกพัฒนาขึ้นได้แก่ SKF (ค.ศ. 1907)[27] และ วอลโว่ (ค.ศ. 1927)[28]
กอเทนเบิร์กตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสวีเดน อยู่กึ่งกลางระหว่างโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก และออสโลเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ การที่เมืองตั้งอยู่บนปากแม่น้ำเยอตาส่งผลให้เมืองเติบโตเป็นเมืองทางการค้าที่มีความสำคัญ หมู่เกาะของกอเทนเบิร์กประกอบไปด้วยหินและหน้าผา[29] กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมทำให้เมืองมีภูมิอากาศค่อนข้างอุ่นและมีฝนตกค่อนข้างบ่อย[30] เป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับสองของประเทศสวีเดนรองจากสต็อกโฮล์ม[31]
เขตมหานครกอเทนเบิร์ก (สตอร์-เยอเตอบอร์ย) ภายในมณฑลเวสตรา เยอตาลันด์ และรวมเทศบาลคุงสบักกะ (Kungsbacka) ในมณฑลฮาลันด์ มีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 982,360 คน[32]
กอเทนเบิร์กมีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นสมุทร[33] แม้อยู่บนละติจูดเหนือ แต่ก็อุ่นกว่าที่อื่นบนละติจูดคล้ายกัน เช่น สต็อกโฮล์ม หรือ แม้กระทั่งเมืองที่อยู่ใต้กว่า ด้วยผลจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม[30] ในฤดูร้อนกลางวันมีความยาวถึง 18 ชั่วโมง 5 นาที ทว่าในปลายเดือนธันวาคมเหลือเพียง 6 ชั่วโมง 32 นาที เท่านั้น ฝนตกเป็นเรื่องปกติ มักไม่หนักและเกิดขึ้นทั้งปี หิมะมักตกระหว่างธันวาคมและมีนาคม ทว่าอาจพบได้ในเดือนพฤศจิกายนและเมษายน หรือบางทีในเดือนตุลาคมและพฤษภาคม หรือแม้กระทั่งในเดือนกันยายน[34]
ข้อมูลภูมิอากาศของกอเทนเบิร์ก, ค.ศ. 2002–2015; หยาดน้ำฟ้า ค.ศ. 1961–1990; อุณหภมูสูงสุดที่เคยบันทึกนับตั้งแต่ ค.ศ. 1901 | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 10.8 (51.4) |
11.2 (52.2) |
18.9 (66) |
28.5 (83.3) |
29.8 (85.6) |
32.0 (89.6) |
33.8 (92.8) |
33.5 (92.3) |
28.5 (83.3) |
20.7 (69.3) |
14.5 (58.1) |
12.7 (54.9) |
33.8 (92.8) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 1.2 (34.2) |
1.7 (35.1) |
5.0 (41) |
9.9 (49.8) |
16.8 (62.2) |
19.9 (67.8) |
22.7 (72.9) |
21.9 (71.4) |
18.0 (64.4) |
12.0 (53.6) |
7.7 (45.9) |
4.2 (39.6) |
12.3 (54.1) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | -1.3 (29.7) |
-1.5 (29.3) |
2.0 (35.6) |
8.1 (46.6) |
12.6 (54.7) |
15.9 (60.6) |
18.8 (65.8) |
18.5 (65.3) |
14.4 (57.9) |
9.1 (48.4) |
5.5 (41.9) |
2.0 (35.6) |
9.0 (48.2) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | -3.6 (25.5) |
-4.0 (24.8) |
-1.0 (30.2) |
2.4 (36.3) |
7.5 (45.5) |
11.8 (53.2) |
14.8 (58.6) |
14.2 (57.6) |
10.7 (51.3) |
6.1 (43) |
2.1 (35.8) |
-1.1 (30) |
5.5 (41.9) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -26.6 (-15.9) |
-22.8 (-9) |
-19.2 (-2.6) |
-11.0 (12.2) |
-4.3 (24.3) |
1.8 (35.2) |
5.3 (41.5) |
3.5 (38.3) |
-2.5 (27.5) |
-8.5 (16.7) |
-13.5 (7.7) |
-21.9 (-7.4) |
−26.6 (−15.9) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 68 (2.68) |
41 (1.61) |
54 (2.13) |
42 (1.65) |
48 (1.89) |
59 (2.32) |
72 (2.83) |
74 (2.91) |
84 (3.31) |
87 (3.43) |
87 (3.43) |
75 (2.95) |
791 (31.14) |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย | 15 | 12 | 10 | 12 | 10 | 12 | 14 | 14 | 16 | 15 | 16 | 17 | 163 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 45 | 68 | 163 | 211 | 238 | 253 | 232 | 200 | 167 | 100 | 46 | 33 | 1,756 |
แหล่งที่มา 1: National Oceanic and Atmospheric Administration[35] | |||||||||||||
แหล่งที่มา 2: Sveriges meteorologiska och hydrologiska institut[36] |
วัฒนธรรมของชาวกอเทนเบิร์กสะท้อนถึงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับทะเล การค้าขาย และอุตสาหกรรม โดยกอเทนเบิร์กยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมบนชายฝั่งตะวันตก
สถาบันทางวัฒนธรรม รวมถึงโรงพยาบาล และมหาวิทยาลัย หลายแห่งถูกก่อตั้งจากเงินบริจาคจากพ่อค้าผู้มั่งคั่งและนักอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น พิพิธภัณฑ์เรอส์สกา (Röhsska Museum)[37] เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2004 พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมโลก (Museum of World Culture) เริ่มเปิดให้เข้าชม[38][39] พิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ได้แก่พิพิธภัณฑ์ศิลปะกอเทนเบิร์ก และหลาย ๆ ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางทะเลและการนำทาง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาและ พิพิธภัณฑ์สวีเดนอีสอินเดีย (Svenska Ostindiska Companiet)[40] แอโรเซียม (Aeroseum) เป็นพิพิธภัณฑ์อากาศยานที่เคยเป็นฐานกองทัพอากาศมาก่อน[41] พิพิธภัณฑ์วอลโว (Volvo museum) แสดงประวัติและการพัฒนาของวอลโวตั้งแต่ ค.ศ. 1927 จนถึงปัจจุบัน[42]
ยูนิเวอร์เซียม (Universeum) เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์สาธารณะซึ่งเปิดใน ค.ศ. 2001[43]
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดสนใจมากที่สุดได้แก่ ลิสแบร์ย (Liseberg) ซึ่งตั้งอยู่ส่วนกลางของเมือง และเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวียนับจากจำนวนเครื่องเล่น[44] ลิสแบร์ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบสวนสนุกที่ดีที่สุดในโลกโดยฟอบส์ ใน ค.ศ. 2005[45] และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมที่สุดในประเทศสวีเดนเมื่อนับจำนวนผู้เข้าชมต่อปี (มากกว่า 3 ล้านคน)[46] ในเมืองมีโรงละครตั้งอยู่หลายแห่งด้วยกัน[47]
ถนนหลักของเมืองชื่อว่า คุงสปอตชาเวนิน (Kungsportsavenyn) หรือเป็นที่รู้จักในนาม อเวนึน (Avenyn) มีความยาวประมาณ 1 km (0.6 mi) เริ่มจากเยอตาพลัตเซน (Götaplatsen) ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะกอเทนเบิร์ก โรงละครเมือง และหอสมุดเมือง รวมไปถึงหอประชุมที่จัดคอนเสิร์ต ยาวไปจนถึง คุงสปอตชปลัตเซน (Kungsportsplatsen) ในเขตเมืองเก่า[48] อเวนิน ถูกสร้างขึ้นช่วงทศวรรษ 1860 ถึง 1870 จากผลการประกวดสถาปัตยกรรมนานาชาติ และเป็นผลผลิตของช่วงวางผังและออกแบบเมืองใหม่[49] อเวนิน ยังเป็นแหล่งรวมบาร์และสถานเริงรมย์ของเมือง ใจกลางเมืองมีห้างสรรพสินค้าซึ่งใหญ่ที่สุดในกอเทนเบิร์กคือ นอร์ดสตาน (Nordstan)[46]
ย่านฮากะของเมืองกอเทนเบิร์กเป็นที่รู้จักจากม้าไม้อันงดงาม[46] และคาเฟ่ซึ่งขาย ฮากะบูเล่ หรือซินนามอนโรลขนาดใหญ่คล้าย คาเนลบูเล่ (kanelbulle)[50]
ในค.ศ. 2008 มีร้านอาหารห้าแห่งในกอเทนเบิร์กได้รับดาวจาก มิชลินไกด์ ได้แก่ 28 +, Basement, Fond, Kock & Vin, Fiskekrogen และ Sjömagasinet[51]
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในกอเทนเบิร์กได้แก่หมู่เกาะกอเทนเบิร์กใต้ (södra Göteborgs skärgård) ซึ่งมีเกาะ Älvsborg fortress, Vinga และ Styrsö[46]
เทศกาลภาพยนตร์กอเทนเบิร์กเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย[52] งานหนังสือกอเทนเบิร์กถูกจัดขึ้นทุกเดือนกันยายนของปี[53]
เทศกาลวิทยาศาสตร์นานาชาติในกอเทนเบิร์กถูกจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ เมษายน ค.ศ. 1997 โดยมีผู้เข้าชมมากกว่า 100,000 คนในแต่ละปี[54]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.