Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จู๋เอดัวอาร์ มาเนต์ (ฝรั่งเศส: Édouard Manet, ฟังเสียง; 23 มกราคม ค.ศ. 1832 - 30 เมษายน ค.ศ. 1883) เป็นจิตรกรสมัยอิมเพรสชันนิสม์คนสำคัญของประเทศฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีความสำคัญในการเขียนภาพสีน้ำมัน ผู้เป็นจิตรกรคนแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่เขียนภาพเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป มาแนเป็นจิตรกรคนสำคัญที่มีบทบาทในการเปลี่ยนจากการเขียนภาพแบบเหมือนจริง (Realism) ไปเป็นแบบอิมเพรสชันนิสม์
เอดัวร์ มาแน | |
---|---|
ภาพถ่ายโดยนาดาร์ | |
เกิด | 23 มกราคม ค.ศ. 1832 ปารีส, ราชาธิปไตยเดือนกรกฎาคม |
เสียชีวิต | 30 เมษายน ค.ศ. 1883 ปี) ปารีส, สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3 | (51
มีชื่อเสียงจาก | จิตรกรรม, ศิลปะภาพพิมพ์ |
ผลงานเด่น | The Luncheon on the Grass (Le déjeuner sur l'herbe), 1863 Olympia, 1863 A Bar at the Folies-Bergère (Le Bar aux Folies-Bergère), 1882 Young Flautist or The Fifer (Le Fifre), 1866 |
ขบวนการ | สัจนิยม, ลัทธิประทับใจ |
คู่สมรส | Suzanne Leenhoff (สมรส 1863) |
“อาหารกลางวันบนลานหญ้า” (Le déjeuner sur l'herbe) และ “โอลิมเปีย” (Olympia) งานชิ้นเอกสองชิ้นของมาแนเป็นงานที่ทำให้เกิดมีความเห็นขัดแย้งกันมากและเป็นจุดที่ทำให้จิตรกรหนุ่ม ๆ รุ่นนั้นเริ่มหันมาวาดภาพอิมเพรสชันนิสม์—ซึ่งในปัจจุบันถือกันว่าเป็นจุดสำคัญของศิลปะที่แยกมาเป็นศิลปะสมัยใหม่
เกิดที่ปารีสเมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ. 1832 ในครอบครัวที่มีฐานะดี เออเฌนี-เดอซีเร-ฟูร์นีเย (Eugénie-Desirée Fournier) แม่ของเอดัวร์เป็นลูกสาวของนักการทูตและเป็นหลานสาวของมกุฎราชกุมารสวีเดนชาลส์ เบอร์นาด็อตต์ (Charles XIV John of Sweden) เอากุสท์พ่อของเอดัวร์เป็นผู้พิพากษาผู้มีความประสงค์จะให้ลูกชายมีอาชีพเดียวกัน ชาร์ลส์ โฟนิเยร์ผู้เป็นลุงเป็นผู้ยุยงให้เอดัวร์เขียนภาพและมักจะพาไปชมภาพเขียนในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในปี ค.ศ. 1845 เอดัวร์ก็สมัครเข้าเรียนการวาดเส้นตามคำแนะนำของลุง ที่ที่พบอองโตนิน พรูสท์ผู้ต่อมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงวิจิตรศิลป์และกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันตลอดชีวิต
หลังจากการแนะนำของพ่อ ในปี ค.ศ. 1848 เอดัวร์ก็เดินทางไปกับเรือฝึกงานยังรีโอเดจาเนโร แต่หลังจากที่พยายามสอบเข้าราชนาวีไม่ได้สองครั้ง[1] พ่อของเอดัวร์จึงได้ยอมให้ลูกหันไปศึกษาทางศิลปะ ระหว่างปี ค.ศ. 1850 ถึงปี ค.ศ. 1856 เอดัวร์ก็ศึกษากับทอมัส คูทัวร์ (Thomas Couture) จิตรกรผู้เชี่ยวชาญทางการเขียนภาพประวัติศาสตร์ เมื่อมีเวลาว่างก็จะไปนั่งวาดรูปเลียนแบบภาพเขียนสำคัญ ๆ ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
ระหว่างปี ค.ศ. 1853 ถึงปี ค.ศ. 1856 เอดัวร์ก็เดินทางไปเที่ยวเยอรมนี อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้ได้รับอิทธิพลการเขียนภาพของจิตรกรชาวดัตช์ ฟรันส์ ฮาลส์ (Frans Hals) และจิตรกรชาวสเปน เดียโก เบลัซเกซ (Diego Velázquez) และฟรันซิสโก โกยา
ในปี ค.ศ. 1856 เอดัวร์ก็เปิดห้องภาพของตนเอง ลักษณะการวาดภาพในช่วงเวลานี้เป็นฝีมือแปรงที่หยาบ ใช้รายละเอียดเพียงเล็กน้อย และยังไม่เริ่มใช้การแปลงโทนสี การวาดยังเป็นลักษณะแบบศิลปะสัจนิยมที่ริเริ่มโดยกุสตาฟว์ กูร์แบ (Gustave Courbet) เอดัวร์เขียนภาพ “คนดื่มเหล้า” (The Absinthe Drinker) ระหว่างปี ค.ศ. 1858 ถึงปี ค.ศ. 1859 และภาพเขียนที่เป็นหัวเรื่องร่วมสมัยเช่น ภาพขอทาน นักร้อง ยิปซี หรือคนในร้านกาแฟ หรือการสู้วัว หลังจากสมัยการเขียนภาพระยะแรกเอดัวร์ไม่ได้เขียนภาพที่เกี่ยวกับศาสนา ตำนานเทพ หรือภาพประวัติศาสตร์ ตัวอย่างภาพเกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้ก็ได้แก่ “พระเยซูถูกเย้ยหยัน” (Christ Mocked) ที่ปัจจุบันอยู่ที่สถาบันศิลปะแห่งชิคาโกที่สหรัฐอเมริกา และ “พระเยซูและเทวดา” (Christ with Angels) ที่ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตันที่นครนิวยอร์ก
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.