Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สตีเฟน ฟาร์เรลลี (Stephen Farrelly; 28 มกราคม ค.ศ. 1978) นักมวยปล้ำอาชีพและนักแสดงชาวไอริสที่เซ็นสัญญากับ WWE ในนาม เชมัส (Sheamus; ออกเสียง /ˈʃeɪmʌs/)[13] ย่อมาจากชื่อบนสังเวียนก่อนหน้านี้ เชมัส โอชัวเนสซี (Sheamus O'Shaunessy)[14][15] เป็นแชมป์โลกของ WWE 4 สมัย (แชมป์ WWE 3 สมัย[Note 1] และแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 1 สมัย)[16] และเป็นคนที่สองต่อจากเอดจ์ที่ประสบความสำเร็จทั้งคิงออฟเดอะริง, รอยัลรัมเบิล และมันนีอินเดอะแบงก์
เชมัส | |
---|---|
ชื่อเกิด | Stephen Farrelly[1][2] |
เกิด | [1] Cabra, Dublin, Ireland | 28 มกราคม ค.ศ. 1978
ที่พัก | St. Augustine, Florida, United States[3] |
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ | |
ชื่อบนสังเวียน | Galldubh[4] King Sheamus Sheamus[5] Sheamus O'Shaunessy[6] Stephen Farrelly[7] |
ส่วนสูง | 6 ฟุต 4 นิ้ว (193 เซนติเมตร)[8] |
น้ำหนัก | 267 ปอนด์ (121 กิโลกรัม)[8] |
มาจาก | "3000 BC"[9] Dublin, Ireland[10] |
ฝึกหัดโดย | Larry Sharpe[1] Jim Molineaux[1] Irish Whip Wrestling[11] Mark Starr[12] |
เปิดตัว | May 2002[11] |
ก่อนที่จะมา WWE เขาเคยปล้ำสมาคม Irish Whip Wrestling[11] เป็นแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนลเฮฟวี่เวท[17][6] และระหว่างที่ปล้ำในฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง(FCW) ซึ่งเป็นค่ายพัฒนาทักษะมวยปล้ำของ WWE เขาเคยได้แชมป์ฟลอริดาเฮฟวี่เวท FCWมาครั้งนึงด้วย[9] เชมัสเปิดตัวครั้งแรกในECW[5] และยังสามารถปราบพวกนักมวยปล้ำตัวเก่ง ๆ ได้อีกหลายคน เชมัสได้ย้ายมาอยู่รอว์และเอาชนะเจมี โนเบิลไปได้อย่างง่ายดาย[18] หลังแมตช์ได้เล่นงานโนเบิลจนบาดเจ็บหนัก[19] ในทีแอลซี (2009)เชมัสได้เป็นชาวไอริสคนแรกที่คว้าแชมป์ WWEโดยชนะจอห์น ซีนาในรูปแบบจับฟาดใส่โต๊ะ หลังจากที่เปิดตัวใน WWE ได้เพียงครึ่งปี[20][21] เชมัสยังได้รางวัลสแลมมีอะวอร์ด Breakout Superstar of the Year[22]
ในรอยัลรัมเบิล (2010)ต้องป้องกันแชมป์กับแรนดี ออร์ตัน ผลปรากฏว่าโคดี โรดส์ออกมาทำร้ายเชมัส ทำให้ชนะฟาล์วไม่เสียแชมป์[23] เชมัสเสียแชมป์ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010)โดยจอห์น ซีนาได้แชมป์คืน[24] เชมัสได้เปิดศึกกับทริปเปิลเอชท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26โดยเชมัสเป็นฝ่ายแพ้ไปแบบหมดรูป[25][26] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010)เอาชนะทริปเปิลเอชไปได้ หลังแมตช์ได้ทำร้ายทริปเปิลเอชจนบาดเจ็บ[27] ในเฟทัลโฟร์เวย์ (2010)ได้คว้าแชมป์ WWE สมัยที่2[28][29] ก่อนเสียแชมป์ให้ออร์ตันในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010)[30] ในเดือนพฤศจิกายน เชมัสได้เป็นผู้ชนะคิงออฟเดอะริง (2010)[31] ในรอว์ 14 มีนาคม 2011 ได้คว้าแชมป์ยูเอสสมัยแรกจากแดเนียล ไบรอัน[32] ก่อนที่จะเสียแชมป์ให้โคฟี คิงส์ตันในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011)แบบจับฟาดใส่โต๊ะ[33][34] ต่อมาเชมัสได้เป็นฝ่ายธรรมะและเปิดศึกกับคริสเตียนเจอกันในเฮลอินเอเซล (2011)โดยเชมัสชนะ[35] ก่อนจะรีแมตช์ในเวนเจินส์ (2011)และเชมัสชนะไปได้ 2 ครั้งติดต่อกัน[36]
เชมัสได้เป็นผู้ชนะรอยัลรัมเบิล (2012)โดยออกมาลำดับที่ 22 ได้สิทธิ์เป็นคู่เอกชิงแชมป์โลกในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28[37] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012)ได้ออกมาอัดแดเนียล ไบรอัน ที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท และเลือกที่จะชิงกับไบรอันในเรสเซิลเมเนีย 28 และเชมัสก็สามารถคว้าแชมป์ได้ในเวลาเพียง18วินาที[38] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012)สามารถป้องกันแชมป์จากไบรอันได้ในแมตช์ชนะ 2 ใน 3 ยก[39] ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2012)เชมัสต้องป้องกันแชมป์กับอัลเบร์โต เดล รีโอ, คริส เจริโค และแรนดี ออร์ตัน แต่เชมัสก็ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้[40] ในสแมคดาวน์ 25 พฤษภาคม เดล รีโอได้เอาชนะออร์ตัน และเคน ทำให้ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ1 ในการชิงแชมป์กับเชมัสในโนเวย์เอาท์ (2012) หลังแมตช์เดล รีโอกำลังเดินกลับก็โดนเชมัสลอบทำร้ายจากด้านหลัง แล้วถากถางเดล รีโอก่อนจะเดินจากไป ก่อนถึงโนเวย์เอาท์ เดล รีโอได้รับบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถร่วมปล้ำได้ และเป็นดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ปล้ำแทน สุดท้ายเชมัสก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้[41] หลังจากนั้นเชมัสก็สามารถเอาชนะเดล รีโอ และป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ถึง 3 ศึกใหญ่ติดต่อกัน[42][43][44][45] เชมัสได้เสียแชมป์บิ๊กโชว์ในเฮลอินเอเซล (2012)[46] และเชมัสก็ได้ขอชิงคืนทั้งเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) และทีแอลซี (2012) แต่ก็ไม่สำเร็จ[47][48]
ในรอว์ 4 กุมภาพันธ์ 2013 ซีนา, ไรแบ็ก และเชมัสออกมาล้อมเดอะชีลด์เอาไว้ ทำให้เดอะชีลด์วิ่งหนีไปทางหลังเวทีแต่ออร์ตันนำทัพนักมวยปล้ำออกมาขวางเอาไว้ เดอะชีลด์เลยโดนทีมซีนาอัดจนน่วม ก่อนที่จะหนีไปทางอัฒจรรย์[49] ในรอว์ 11 กุมภาพันธ์ จับคู่กับซีนาและไรแบ็กเอาชนะทรีเอ็มบีไปได้ หลังแมตช์ทั้งสามเอาไมค์มาพูดว่าจะกำจัดเดอะชีลด์ให้ได้ คืนเดียวกันเดอะชีลด์ออกมาท้าทายว่าถ้าอยากมีเรื่องก็ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้ได้เลย ปรากฏว่าไฟในสนามดับ แล้วกลุ่มของซีนาก็ออกมาไล่อัดเดอะชีลด์จนหนีกระเจิง ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013)ก็แพ้ให้เดอะชีลด์[50] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 จับคู่กับออร์ตันและบิ๊กโชว์แพ้เดอะชีลด์ หลังแมตช์บิ๊กโชว์ปล่อยหมัดใส่เชมัสกับออร์ตัน[51] ในรอว์คืนต่อมาได้เจอกับออร์ตันโดยผู้ชนะไปเจอกับบิ๊กโชว์ ระหว่างแมตช์บิ๊กโชว์มาป่วนทำให้ไม่มีผลการตัดสิน[52] ในสแมคดาวน์ 12 เมษายน เชมัสกับออร์ตันชนะบิ๊กโชว์ไปแบบเคาท์เอาท์[53] ในรอว์ 15 เมษายน เชมัสกับออร์ตันเอาชนะบิ๊กโชว์ไปได้[54] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013)ชนะมาร์ก เฮนรีในสแตรปแมตช์[55] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2013)ได้เข้าร่วมชิงกระเป๋าสัญญาชิงแชมป์ WWE แต่ไม่ชนะ[56] โดยในแมตช์นี้เชมัสได้รับบาดเจ็บที่บริเวณไหล่ และอาจจะต้องพักยาวถึง 4-6 เดือน เชมัสบอกว่าเขาต้องทำกายภาพบำบัดรักษาไหล่ของเขาด้วยการยกน้ำหนัก ผลการทำ MRI สแกนปรากฏว่าหมอนรองกระดูกไหล่เกิดการฉีกขาด และจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด อาการบาดเจ็บนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ถูกอัดตกจากเวทีไปกระแทกบันไดที่วางไว้ด้านล่าง[57][58]
เชมัสได้กลับมาโดยเข้าร่วมรอยัลรัมเบิล (2014)เป็นลำดับที่ 17 แต่ก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะ[59][60] ในรอว์คืนต่อมาจับคู่กับจอห์น ซีนาและแดเนียล ไบรอันเจอกับเดอะชีลด์โดยทีมที่ชนะได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWEในแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) แต่จบลงโดยไม่มีผลการตัดสิน เพราะเดอะไวแอ็ตต์แฟมิลีมาก่อกวน หลังแมตช์ทีมเชมัสช่วยกันไล่อัดพวกไวแอ็ตต์จนต้องหนีไป แล้วโฆษกก็ประกาศว่าทีมของเชมัสชนะฟาวล์ได้สิทธิ์เข้าร่วมอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แต่ก็ไม่ได้แชมป์[61] ในรอว์ 5 พฤษภาคม เชมัสได้คว้าแชมป์ยูเอส เป็นสมัยที่2 ในแบทเทิลรอยัล 20คน โดยจับเหวี่ยงดีน แอมโบรสออกเป็นคนสุดท้าย ในรอว์ 16 มิถุนายน เชมัสได้เอาชนะแบด นิวส์ บาร์เร็ตต์ได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงแชมป์โลกในมันนีอินเดอะแบงก์ (2014) สุดท้ายจอห์น ซีนาเป็นฝ่ายชนะไปได้[62] ในแบทเทิลกราวด์ (2014)ได้เข้าร่วมแบทเทิลรอยัลชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลแต่ไม่สำเร็จ[63] ในรอว์ 3 พฤศจิกายน เสียแชมป์ยูเอสให้รูเซฟ ช่วงหลังจบรายการที่ฉายผ่านทาง WWE Network[64] ก่อนจะได้รับบาดเจ็บและพักการปล้ำอีกครั้ง[65][66] ในรอว์ 30 มีนาคม 2015 เชมัสได้กลับมาในลุกใหม่โดยถักเคราและไว้ผมทรงโมฮอว์ก ออกมาเล่นงานแดเนียล ไบรอันและดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ กลายเป็นอธรรมอีกครั้ง[67][68] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2015)ได้แพ้ให้ซิกก์เลอร์ในแมตช์ผู้แพ้ต้องจูบก้น หลังแมตช์เชมัสพยายามจะหนี แต่กรรมการไปพาตัวกลับมาจูบก้นซิกก์เลอร์ตามกติกา แต่เชมัสล้วงเป้าซิกก์เลอร์แล้วโดดถีบซ้ำ ก่อนจะลากซิกก์เลอร์มาจูบก้นเขาแทน[69][70] ก่อนรีแมตช์เอาชนะไปได้ในเพย์แบ็ก (2015)[71] เชมัสได้ร่วมปล้ำอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2015)ชิงแชมป์อินเตอร์ที่ว่างอยู่ แต่ไม่สำเร็จ[72]
เชมัสได้คว้ากระเป๋าสิทธิ์มันนีอินเดอะแบงก์ (2015)ชิงแชมป์โลกเมื่อไรก็ได้[73] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2015)เชมัสโบรกคิกใส่โรแมน เรนส์ แล้วใช้สิทธิ์กระเป๋าคว้าแชมป์โลกสมัยที่4[74] เชมัสได้ตั้งกลุ่มเดอะลีกออฟเนชันส์[75] ในทีแอลซี (2015)เชมัสป้องกันแชมป์จากเรนส์ไว้ได้แบบ TLC[76] ก่อนเสียแชมป์ให้เรนส์ในรอว์คืนต่อมา[77] ในรอว์ 4 มกราคม 2016 เชมัสได้แพ้ชิงแชมป์กับเรนส์โดยวินซ์ แม็กแมนเป็นกรรมการพิเศษ[78] ในเดือนเมษายน 2016 ลีกออฟเนชันส์ได้แตกกลุ่ม[79][80] 19 กรกฎาคม 2016 เชมัสได้ถูกดราฟท์ไปรอว์และเปิดศึกกับซีซาโร[81] ต่อมาผู้จัดการทั่วไปของรอว์ มิค โฟลีย์ ได้ประกาศให้ทั้งคู่สู้กันแบบ Best of 7 Series ชนะ 4 ใน 7 ผู้ชนะจะได้สิทธิ์ชิงแชมป์ในโอกาสต่อไป ทั้งคู่ทำคะแนนเสมอกัน 3-3 ทำให้ต้องตัดสินกันยกที่ 7 ในแคลชออฟแชมเปียนส์ (2016) แต่จบลงแบบไม่มีผลตัดสิน คืนต่อมาโฟลีย์ได้สั่งให้ทั้งคู่เป็นคู่ร่วมทีมกันเพื่อชิงแชมป์รอว์แท็กทีม WWEกับเดอะนิวเดย์[82] ในโรดบล็อก: เอ็นด์ออฟเดอะไลน์ทั้งคู่สามารถคว้าแชมป์จากนิวเดย์ได้และเป็นแชมป์แท็กทีมครั้งแรกของเชมัส จากนั้นทั้งคู่ก็ใช้นามว่าเดอะบาร์และปั๊มแชมป์ร่วมกันได้ถึง 4 สมัย[83] ในเดือนเมษายน 2018 เดอะบาร์ได้ย้ายสังกัดมาอยู่สแมคดาวน์[84] และได้แชมป์สแมคดาวน์แท็กทีม WWEร่วมกัน[85] ก่อนจะแยกทีมกันในปีต่อมาจากการบาดเจ็บของเชมัส[86][87]
ในเดือนมกราคม 2020 เชมัสได้กลับมาจากอาการบาดเจ็บโดยไว้ผมทรงเดิม[88] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 37 ได้คว้าแชมป์ยูเอสจากริดเดิลเป็นสมัยที่ 3[89] ก่อนเสียแชมป์ให้แดเมียน พรีสต์ใน SummerSlam 2021 จบการครองแชมป์ 132 วัน[90] ต่อมาได้ก่อตั้งกลุ่ม The Brawling Brutes ร่วมกับ ริดจ์ ฮอลแลนด์และบุตช์[91][92] และได้เปิดศึกกับกุนเธอร์ในการชิงแชมป์อินเตอร์ที่เชมัสไม่เคยได้เพื่อเป็นแชมป์แกรนด์สแลมโดยเชมัสได้ท้าชิงถึง 2 ครั้งแต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้สักครั้ง นอกจากนี้ในศึก Clash at the Castle ทั้งคู่ได้ทำแมตช์ยอดเยี่ยมจนได้คะแนนจาก Dave Meltzer ถึง 5 ดาวแถมยังเป็น 5 ดาวครั้งแรกของเชมัสอีกด้วย[93][94] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 39เชมัสได้ท้าชิงแชมป์อินเตอร์กับกุนเธอร์อีกครั้งโดยมีดรูว์ แม็กอินไทร์ร่วมปล้ำเป็นสามเส้าแต่เชมัสก็ยังไม่สามารถกระชากแชมป์มาจากกุนเธอร์ได้และแมตช์นี้ยังได้คะแนน 5 ดาวทำให้เชมัสกับกุนเธอร์ได้แมตช์ 5 ดาวร่วมกัน 2 ครั้ง
Year | Title | Role | Notes |
---|---|---|---|
2008 | The Escapist | Two Ton | Film debut[14] |
2009 | Once Upon a Time in Dublin | Guard | |
Assault of Darkness | Celtic Warrior | ||
2016 | Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows | Owen Rocksteed/Rocksteady | [15] |
Scooby-Doo! and WWE: Curse of the Speed Demon | Himself | Voice | |
2017 | The Jetsons & WWE: Robo-WrestleMania! | Himself | |
2019 | Fighting with My Family | Himself | [95] |
The Buddy Games | Thursty | [96] | |
Atone | Black | ||
Year | Title | Role | Notes |
---|---|---|---|
2011 | The Late Late Show | Himself | 15 April (season 48, episode 33) |
2011–2016 | Conan | Himself/Guest | 3 episodes |
2011 | 18th MTV Europe Music Awards | Himself | Presenter "Best Male Award" |
2012 | The Tonight Show with Jay Leno | Himself | 13 January (season 20, episode 72) |
2013 | Teens Wanna Know | Himself | With Carly Rae Jepsen (season 2, episode 37) |
2014 | Royal Pains | Jack Piper | (season 6, episode 7: "Electric Youth") |
2016 | Made in Hollywood | Himself | 4 June (season 11, episode 38) |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.