ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส
From Wikipedia, the free encyclopedia
ฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส (โปรตุเกส: Seleção Portuguesa de Futebol) เป็นตัวแทนทีมฟุตบอลระดับทีมชาติจากโปรตุเกส ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ทีมชาติโปรตุเกสมีผลงานสูงสุดคือ ได้ที่สาม ฟุตบอลโลก 1 ครั้งในฟุตบอลโลก 1966 ชนะเลิศฟุตบอลยูโร 1 ครั้งในฟุตบอลยูโร 2016 และชนะเลิศยูฟ่าเนชันส์ลีก 1 ครั้งในยูฟ่าเนชันส์ลีก 2019 รอบสุดท้าย
ฉายา | A Seleção (ผู้ถูกเลือก) Os Navegadores (The Navigators) ฝอยทอง (ในภาษาไทย)[1] | ||
---|---|---|---|
สมาคม | สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส (Federação Portuguesa de Futebol, FPF) | ||
สมาพันธ์ | ยูฟ่า (ยุโรป) | ||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | โรเบร์โต มาร์ติเนซ | ||
กัปตัน | คริสเตียโน โรนัลโด | ||
ติดทีมชาติสูงสุด | คริสเตียโน โรนัลโด (211) | ||
ทำประตูสูงสุด | คริสเตียโน โรนัลโด (130) | ||
สนามเหย้า | หลายแห่ง | ||
รหัสฟีฟ่า | POR | ||
| |||
อันดับฟีฟ่า | |||
อันดับปัจจุบัน | 6 (20 มิถุนายน 2024)[2] | ||
อันดับสูงสุด | 3 (พฤษภาคม–มิถุนายน ค.ศ. 2010, ตุลาคม ค.ศ. 2012, เมษายน–มิถุนายน ค.ศ. 2014, กันยายน ค.ศ. 2017–เมษายน ค.ศ. 2018) | ||
อันดับต่ำสุด | 43 (สิงหาคม ค.ศ. 1998) | ||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | |||
สเปน 3–1 โปรตุเกส (มาดริด ประเทศสเปน; 18 ธันวาคม ค.ศ. 1921) | |||
ชนะสูงสุด | |||
โปรตุเกส 8–0 ลีชเทินชไตน์ (ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส; 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994) โปรตุเกส 8–0 ลีชเทินชไตน์ (กูอิงบรา ประเทศโปรตุเกส; 9 มิถุนายน ค.ศ. 1999) โปรตุเกส 8–0 คูเวต (ไลรีอา ประเทศโปรตุเกส; 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003) | |||
แพ้สูงสุด | |||
โปรตุเกส 0–10 อังกฤษ (ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส; 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1947) | |||
ฟุตบอลโลก | |||
เข้าร่วม | 8 (ครั้งแรกใน 1966) | ||
ผลงานดีที่สุด | อันดับที่ 3 (1966) | ||
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป | |||
เข้าร่วม | 8 (ครั้งแรกใน 1984) | ||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (2016) | ||
ยูฟ่าเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย | |||
เข้าร่วม | 1 (ครั้งแรกใน 2019) | ||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (2019) | ||
คอนเฟเดอเรชันส์คัพ | |||
เข้าร่วม | 1 (ครั้งแรกใน 2017) | ||
ผลงานดีที่สุด | อันดับที่ 3 (2017) | ||
เว็บไซต์ | fpf.pt |
ในฟุตบอลโลก โปรตุเกสยังไม่เคยได้แชมป์โดยเคยได้อันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 2006 เข้าแข่งฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1966 ที่เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย (ที่ 3) แพ้ให้กับอังกฤษ 2–1 ต่อมาโปรตุเกสติดเข้ารอบฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1986 และ 2002 แต่ตกรอบไปตั้งแต่รอบแรก
ในปี ค.ศ. 2003 สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกสตัดสินใจจ้างลูอิส ฟีลีปี สโกลารี ชาวบราซิลที่เคยนำบราซิล ได้แชมป์ในฟุตบอลโลก 2002 โดยสโกลารีนำโปรตุเกสเข้าสู่รอบสุดท้ายในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 แต่แพ้ต่อกรีซในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทำให้โปรตุเกสกลายเป็นหนึ่งในสองประเทศเจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่ไม่ชนะในรอบชิงชนะเลิศ[3](อีกทีมคือฝรั่งเศส) และต่อมายังทำให้ทีมเข้าสู่ฟุตบอลโลก 4 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 2006 แต่หลังจากนั้นสโกลารีออกไปในปี ค.ศ. 2008 เพื่อเป็นผู้จัดการทีมเชลซี โดยได้การ์ลุช ไกรอช มาเป็นผู้จัดการคนใหม่ของทีมชาติโปรตุเกสในปี 2008 และเคยรอซได้นำทีมชาติโปรตุเกสเข้าสู่สุดท้ายในฟุตบอลโลก 2010
ในฟุตบอลโลก 2006 โปรตุเกสได้รับรางวัล "ฟีฟ่าเวิลด์คัพเอนเตอร์เทนเมนต์ทีมอวอร์ด" คือ ทีมที่เล่นได้สนุกเร้าใจที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยเป็นทีมสุดท้ายที่ได้รับรางวัลนี้ก่อนที่จะถูกยกเลิกไป[3]
โปรตุเกสเป็นแชมป์ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ที่ฝรั่งเศส โดยในรอบชิงชนะเลิศสามารถเอาชนะฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าภาพไปได้ 1–0 ในช่วงทดเวลาพิเศษหลังเวลาการแข่งขันปกติ ในนาทีที่ 109 จากแอแดร์ ถือเป็นรายการใหญ่รายการแรกที่โปรตุเกสคว้าชัยชนะมาได้