![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/f9/Lutein_molecule_spacefill.png/640px-Lutein_molecule_spacefill.png&w=640&q=50)
ลูทีน
From Wikipedia, the free encyclopedia
ลูทีน (อังกฤษ: lutein) เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์และแซนโทฟิลล์ ลักษณะเป็นของแข็งสีแดงส้ม ไม่ละลายน้ำ มีมวลโมเลกุล 568.9 g/mol[2] ลูทีนเป็นไอโซเมอร์กับซีอาแซนทินโดยมีสูตรเคมีเหมือนกันคือ C40H56O2 นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างที่มีอะตอมคาร์บอน 40 อะตอมและวงแหวนที่ปลายเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงตำแหน่งของพันธะคู่ที่วงแหวน ทำให้ลูทีนมีตำแหน่งไครัล 3 ตำแหน่ง ในขณะที่ซีอาแซนทินมี 2 ตำแหน่ง[3] ชื่อลูทีนมาจากคำภาษาละติน luteus แปลว่า สีเหลือง[4]
![]() | |
![]() | |
ชื่อ | |
---|---|
IUPAC name
β,ε-carotene-3,3'-diol | |
ชื่ออื่น
Luteine; trans-lutein; 4-[18-(4-Hydroxy-2,6,6-trimethyl-1-cyclohexenyl)-3,7,12,16-tetramethyloctadeca-1,3,5,7,9,11,13,15,17-nonaenyl]-3,5,5-trimethyl-cyclohex-2-en-1-ol Xanthophyll | |
เลขทะเบียน | |
| |
3D model (JSmol) |
|
ChEBI | |
ChEMBL | |
เคมสไปเดอร์ |
|
ECHA InfoCard | 100.004.401 ![]() |
เลขอี | E161b (colours) |
ผับเคม CID |
|
UNII | |
CompTox Dashboard (EPA) |
|
InChI
| |
SMILES
| |
คุณสมบัติ | |
C40H56O2 | |
มวลโมเลกุล | 568.871 g/mol |
ลักษณะทางกายภาพ | ของแข็งผลึกสีแดง-ส้ม |
จุดหลอมเหลว | 190 องศาเซลเซียส (374 องศาฟาเรนไฮต์; 463 เคลวิน)[1] |
ไม่ละลาย | |
ความสามารถละลายได้ ใน ไขมัน | ละลายได้ |
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa
|
ลูทีนสามารถสังเคราะห์ได้ในพืชโดยมีสารตั้งต้นมาจากเดลตา-แคโรทีน[5] พืชใช้ลูทีนในการปรับกลไกการรับแสงระหว่างการสังเคราะห์แสง[6] มนุษย์ได้รับลูทีนจากการทานพืช เมื่อรับลูทีนซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์ที่ละลายในไขมันเข้าไป ลูทีนจะผ่านระบบย่อยอาหารไปพร้อมกับลิพิดอื่น ๆ เช่น คอเลสเตอรอล ฟอสโฟลิพิดหรือกรดไขมันอิสระ ก่อนจะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็กผ่านเอนเทอโรไซต์[7] ลูทีนเป็นหนึ่งในสารแคโรทีนอยด์สองชนิดที่พบเฉพาะในตา โดยพบมากบริเวณจุดเหลืองจอตา (macula lutea) ซึ่งเป็นพื้นที่วงรีใกล้กับกลางจอตา[8]
ลูทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในอาหารหลายชนิด ได้แก่ คะน้า ปวยเล้ง บรอกโคลี ผักกาดหอม หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วลันเตา ข้าวโพด ฟักทอง มะเขือเทศ และไข่แดง[9][10] เมื่อใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร ลูทีนจะมีเลขอีคือ E161b มีงานวิจัยบางส่วนรายงานว่าลูทีนช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงเป็นต้อกระจก และโรคจุดภาพชัดของจอตาเสื่อม[11][12][13]