![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e1/Durham_shield.png/640px-Durham_shield.png&w=640&q=50)
มหาวิทยาลัยเดอรัม
From Wikipedia, the free encyclopedia
มหาวิทยาลัยเดอรัม (อังกฤษ: University of Durham) เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยของรัฐในเมืองเดอรัม ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร ก่อตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ (Act of Parliament) ในปี ค.ศ. 1832 และได้รับการรับรองโดยกฎบัตรพระราชทาน (Royal Charter) ในปี ค.ศ. 1837 มหาวิทยาลัยเดอรัมเป็นมหาวิทยาลัยแรกใน 600 ปี ที่ได้รับการยอมรับและได้รับสถานะมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ หลังจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดและมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จึงมีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสามของประเทศอังกฤษ[1]
![]() | ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
University of Durham | |
![]() ตราอาร์มประจำมหาวิทยาลัยเดอรัม | |
ละติน: Universitas Dunelmensis | |
คติพจน์ | Fundamenta eius super montibus sanctis |
---|---|
คติพจน์อังกฤษ | Her foundations are upon the holy hills |
ประเภท | รัฐ |
สถาปนา | 1832; 192 ปี (สถานะเป็นมหาวิทยาลัย) |
สังกัดการศึกษา | ACU กลุ่มกูอิงบรา EUA Matariki Network of Universities N8 Research Partnership กลุ่มรัสเซล Universities UK |
ทุนทรัพย์ | 101.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,770 ล้านบาท ในปี 2023 โดยไม่รวมกับวิทยาลัยอิสระ) |
งบประมาณ | 483.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 20,570 ล้านบาท) |
อธิการบดี | ฟิโอน่า ฮิลล์ (Fiona Hill) |
รองอธิการบดี | ศาสตราจารย์ แคเรน โอไบรอัน (Professor Karen O'Brien) |
ผู้ศึกษา | 22,130 คน (ปี 2023) |
ที่อยู่ | , , |
ฉายา | Team Durham |
เครือข่ายกีฬา | British Universities and Colleges Sport Wallace Group |
เว็บไซต์ | http://www.durham.ac.uk/ |
มหาวิทยาลัยเดอรัมเป็นมหาวิทยาลัยที่มีระบบวิทยาลัย (collegiate) หน้าที่หลักจะถูกแบ่งระหว่างภาควิชา (department) ของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย (colleges) ทั้ง 17 แห่ง โดยทั่วไปแล้ว ภาควิชาการจะทำการวิจัยและดำเนินการจัดการเรียนการสอนแก่นักศึกษา ในขณะที่วิทยาลัยรับผิดชอบในเรื่องที่พักอาศัยและสวัสดิการของนักศึกษา[2]
มหาวิทยาลัยเป็นสมาชิกของกลุ่มรัสเซล (Russell Group)[3] ซึ่งเป็นกลุ่มของมหาวิทยาลัยวิจัยในประเทศอังกฤษ และยังเป็นพันธมิตรกับ N8 Research Partnership ในระดับภูมิภาค[4] รวมถึงกลุ่มมหาวิทยาลัยนานาชาติ เช่น Matariki Network of Universities[5] และกลุ่มกูอิงบรา (Coimbra Group)[6] อีกด้วย
มหาวิทยาลัยเดอรัมประกอบไปด้วยอาคารที่มีชื่อเสียงจำนวน 83 แห่ง ตั้งแต่ปราสาทเดอรัมในศตวรรษที่ 11 ไปจนถึงอาคารสหภาพนักศึกษา (Durham Student Union) แบบบรูทาลิสต์ในทศวรรษ 1960 มหาวิทยาลัยยังเป็นเจ้าของและบริหารจัดการแหล่งมรดกโลกเดอรัมร่วมกับอาสนวิหารเดอรัม (Durham Cathedral) โดยแหล่งมรดกโลกที่มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าของประกอบด้วยปราสาทเดอรัม พาเลซกรีน (Palace Green) และอาคารโดยรอบ รวมถึงห้องสมุดบิชอปจอห์น คอสซิน (Bishop Cosin Library)
มหาวิทยาลัยเดอรัมได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นสูง ได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักรของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศอย่างสม่ำเสมอ และเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้สมัครที่ต้องการเข้าศึกษาต่อที่ Oxford และ Cambridge โดยได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งปี (University of The Year) จากหนังสือ The Times Good University Guide ในปี 2005
ในปี 2024 มหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับจาก Times and Sunday Times Good University Ranking[7] The Complete University Guide และ The Guardian ให้อยู่ลำดับที่ 7 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร[8][9] และอยู่ในลำดับที่ 89 ของโลกจากการจัดอันดับของ QS World University Ranking[10] โดยมหาวิทยาลัยได้รับการจัดลำดับให้ 3 สาขาวิชาอยู่ในลำดับต้น ๆ ของมหาวิทยาลัยทั่วโลก ได้แก่ สาขาวิชาโบราณคดี ในลำดับที่ 5 ของโลก สาขาวิชาคลาสสิกและประวัติศาสตร์สมัยโบราณ ในลำดับที่ 6 ของโลก และสาขาวิชาเทววิทยาและศาสนา ในลำดับที่ 7 ของโลก นอกไปจากนั้นสาขาวิชาภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา การศึกษาภาษาอังกฤษ ปรัชญา ประวัติศาสตร์ โลกศาสตร์ และ นิติศาสตร์ อยู่ในลำดับ 50 อันดับสูงสุดอีกด้วย[11]
ปัจจุบัน อธิการบดีของมหาวิทยาลัยคือฟิโอน่า ฮิลล์ (Fiona Hill) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศที่มีชื่อเสียง นักเขียน และอดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีให้กับจอร์จ ดับเบิลยู. บุช บารัค โอบามา และดอนัลด์ ทรัมป์ เธอทำงานในสภาข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Intelligence Council) ระหว่างปี 2006 ถึง 2009 และเป็นสมาชิกของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐระหว่างปี 2017 ถึง 2019[12][13]