เพลงฮอสท์ เว็สเซิล (เยอรมัน: Horst-Wessel-Lied) หรือที่รู้จักจากคำขึ้นต้นว่าเพลง ธงอยู่สูงเด่น (เยอรมัน: Die Fahne hoch) เป็นเพลงประจำพรรคนาซีตั้งแต่ ค.ศ. 1930–1945 และใช้เป็นเพลงชาติร่วมของนาซีเยอรมนี (บทแรกของเพลงเยอรมันเหนือทุกสรรพสิ่ง) ตั้งแต่ ค.ศ. 1933–1945[1]
คำแปล: เพลงฮอสท์ เว็สเซิล | |
---|---|
สกอร์เพลงเพลงฮอสท์ เว็สเซิล | |
เพลงชาติของไรช์เยอรมัน | |
ชื่ออื่น | Die Fahne hoch (ธงอยู่สูงเด่น) |
เนื้อร้อง | ฮอสท์ เว็สเซิล, ค.ศ. 1929 |
รับไปใช้ | 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1933 |
เลิกใช้ | 5 มิถุนายน ค.ศ. 1945 |
ก่อนหน้า | ดัสลีทแดร์ด็อยท์เชิน (สาธารณรัฐไวมาร์) |
ถัดไป | ดัสลีทแดร์ด็อยท์เชิน (สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี) (เยอรมนีตะวันตก) เอาฟ์แอร์ชตันเดินเอาส์รูอีเนิน (สาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมัน) (เยอรมันตะวันออก) ลันด์เดอร์แบร์เกอ ลันด์อัมชโตรเมอ (สาธารณรัฐออสเตรีย) |
ตัวอย่างเสียง | |
เพลงฮอสท์ เว็สเซิล (ขับร้อง) |
เนื้อร้องของเพลงนี้ประพันธ์ขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1929 ที่เขตฟรีดริชส์ไฮน์ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยฮอสท์ เว็สเซิล ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวลัทธินาซีและเป็นผู้บังคับการกองกำลังพายุ ชตวร์มอัพไทลุง (Sturmabteilung) หรือ เอ็สอา (SA) ระดับท้องถิ่น ต่อมาเมื่อเว็สเซิลถูกสังหารอย่างอุกอาจโดยอัลเบรชท์ เฮอเลอร์ (Albrecht Höhler) สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ใน ค.ศ. 1930 โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์ได้ดำเนินการทำให้เขาเป็นมรณสักขีแห่งขบวนการนาซี เพลงนี้จึงได้มีการบรรเลงครั้งแรกในงานศพของเว็สเซิลเอง และหลังจากนั้นก็ได้ถูกนำใช้อย่างเข้มข้นในการดำเนินกิจกรรมของพรรค เช่น การขับร้องเพลงนี้ของหน่วยเอสเอระหว่างการเดินแถวตามท้องถนน เป็นต้น
เมื่อพรรคนาซีเถลิงอำนาจในปี ค.ศ. 1933 เพลงฮอสท์ เว็สเซิลก็ได้รับการยอมรับให้เป็นสัญลักษณ์ของชาติอย่างหนึ่งตามกฎหมายซึ่งตราขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1933 ในปีถัดมาจึงมีการออกข้อบังคับให้มีการชูแขนขวาทำการคารวะแบบนาซี เมื่อมีการขับร้องเพลงนี้ในบทที่ 1 และบทที่ 4 (ซึ่งมีใจความอย่างเดียวกัน) ในตอนท้ายของภาพยนตร์เรื่อง ทรีอุมฟ์เดสวิลเลนส์ หรือ ชัยชนะแห่งเจตจำนง ของเลนี รีเฟนสทาล (ภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อของพรรคนาซี) ซึ่งเผยแพร่ในปี ค.ศ. 1935 จะพบว่าบรรดาผู้นำของพรรคนาซีมีการร่วมร้องเพลงเพลงฮอสท์ เว็สเซิล อยู่ด้วย
หลังระบอบนาซีล่มสลายใน ค.ศ. 1945 เพลงฮอสท์ เว็สเซิลได้กลายเป็นเพลงต้องห้าม ทั้งเนื้อร้องและทำนองเพลงดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมายทั้งในประเทศเยอรมนีและออสเตรียจนทุกวันนี้ เว้นแต่ใช้เพลงเพื่อการศึกษาและวิชาการเท่านั้น
เนื้อร้อง
ฉบับทางการ
เป็นฉบับที่มีการแก้ไขแล้วหลังการตายของฮอสท์ เว็สเซิล
1 | Die Fahne hoch! Die Reihen fest geschlossen! SA marschiert mit ruhig festem Schritt. Kam'raden, die Rotfront und Reaktion erschossen, Marschier'n im Geist in uns'ren Reihen mit. |
ธงอยู่สูงเด่น! แถวชิดติดกันอย่างแน่นหนา! เอ็สอาเดินหน้า ฝีเท้าเยือกเย็นมั่นคง สหายของเรา ถูกแนวร่วมแดงและปฏิปักษ์ยิง วิญญาณพวกเขา ร่วมเดินเคียงข้างในแถว |
2 | Die Straße frei den braunen Bataillonen. Die Straße frei dem Sturmabteilungsmann! Es schau'n aufs Hakenkreuz voll Hoffnung schon Millionen. Der Tag für Freiheit und für Brot bricht an! |
ถนนเปิดโล่ง ให้กองพันเสื้อสีน้ำตาล ถนนเปิดโล่ง ให้พลแห่งหน่วยพายุ! สวัสติกะ แบกความหวังของประชาชนนับล้าน วันแห่งเสรี และขนมปังมาถึงแล้ว! |
3 | Zum letzten Mal wird Sturmalarm geblasen! Zum Kampfen steh'n wir alle schon bereit! Schon flattern Hitler-Fahnen über allen Straßen. Die Knechtschaft dauert nur noch kurze Zeit! |
สัญญาณออกศึก ดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย! พวกเราทุกนาย เตรียมพร้อมออกศึกนั้นแล้ว! ธงของฮิตเลอร์ ได้โบกสะบัดเหนือถนนทุกสาย พันธนาการ ไม่นานจะหมดสิ้นไป! |
4 | Die Fahne hoch! Die Reihen fest geschlossen! SA marschiert mit ruhig festem Schritt. Kameraden, die Rotfront und Reaktion erschossen, Marschieren im Geist in unseren Reihen mit. |
ธงอยู่สูงเด่น! แถวชิดติดกันอย่างแน่นหนา! เอ็สอาเดินหน้า ฝีเท้าเยือกเย็นมั่นคง สหายของเรา ถูกแนวร่วมแดงและปฏิปักษ์ยิง วิญญาณพวกเขา ร่วมเดินเคียงข้างในแถว |
คำว่า "แนวร่วมแดง" ("Rotfront") ในที่นี้อ้างอิงถึงหน่วยร็อตฟรอนท์คัมป์แฟร์บุนด์ (เยอรมัน: Rotfrontkämpferbund) หรือ "สันนิบาตนักรบแนวร่วมแดง" ซึ่งเป็นกำลังกึ่งทหารของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเยอรมนี (KPD) เป็นเรื่องปกติที่หน่วยเอ็สอาของพรรคนาซีกับสันนิบาตนักรบแนวร่วมแดงจะเผชิญหน้าและสู้รบกันตามท้องถนนในเยอรมนีเวลานั้น ก่อนที่จะขยายวงกว้างเป็นการรบเต็มรูปแบบภายหลังปีค.ศ. 1930 ส่วนคำว่า "ปฏิปักษ์" (เยอรมัน: "Reaktion") หมายถึงพรรคการเมืองแนวอนุรักษนิยมและรัฐบาลเยอรมันแนวเสรีนิยมประชาธิไตยในยุคสาธารณรัฐไวมาร์ ซึ่งได้พยายามกดดันหน่วยเอ็สอาหลายครั้งแต่ล้มเหลว คำว่า "Die Knechtschaft" ซึ่งในที่นี้แปลว่า "พันธนาการ" หมายถึงภาระผูกพันของเยอรมนีตามสนธิสัญญาแวร์ซาย ค.ศ. 1919
การแก้ไขหลังการตายของเว็สเซิล
บทร้องเพลงฮอสท์ เว็สเซิล ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ของพรรคนาซีในกรุงเบอร์ลินชื่อ แดร์อันกริฟฟ์ (Der Angriff) เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1929 โดยลงนามผู้แต่งเพลงว่า พลเอ็สอานิรนาม (Der Unbekannte SA-Mann) บทร้องบางส่วนได้มีการแก้ไขหลังการตายของฮอสท์ เว็สเซิล ดังนี้
บทที่ 1 วรรคที่ 2 | SA marschiert mit mutig festem Schritt | เอ็สอาเดินหน้า ฝีเท้าหนักแน่นมั่นคง |
SA marschiert mit ruhig festem Schritt | เอ็สอาเดินหน้า ฝีเท้าเยือกเย็นมั่นคง | |
บทที่ 3 วรรคที่ 1 | Zum letzten Mal wird nun Appell geblasen! | สัญญาณออกศึก ดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ! |
Zum letzten Mal wird Sturmalarm geblasen! | สัญญาณพายุ ดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ! | |
บทที่ 3 วรรคที่ 3 | Bald flattern Hitler-fahnen über Barrikaden | ธงของฮิตเลอร์ ใกล้โบกสะบัดเหนือด่านกีดขวาง |
Bald flattern Hitler-Fahnen über allen Straßen | ธงของฮิตเลอร์ ใกล้โบกสะบัดเหนือถนนทุกสาย | |
Schon flattern Hitler-Fahnen über allen Straßen | ธงของฮิตเลอร์ ได้โบกสะบัดเหนือถนนทุกสาย |
การแก้ไขคำว่า "Barrikaden" (ด่านกีดขวาง) สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของพรรคนาซีในช่วงปี ค.ศ. 1930 - 1933 ที่ต้องการแสดงว่าเป็นพรรคการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญที่ต้องการอำนาจรัฐโดยชอบด้วยกฎหมายมากกว่าเป็นพรรคปฏิวัติ
หลังมรณกรรมของเว็สเซิล ได้มีการเพิ่มเติมเนื้อร้องบทใหม่ซึ่งประพันธ์ขึ้นเป็นเกียรติแก่เว็สเซิล เนื้อร้องเหล่านี้เป็นที่นิยมร้องโดยหน่วยเอ็สอา แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อร้องฉบับทางการซึ่งใช้โดยพรรคหรือรัฐ
|
|
ทำนอง
หลังเว็สเซิลเสียชีวิต เขาได้รับการยกย่องอย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้ประพันธ์ทั้งเนื้อร้องและทำนองเพลง "เพลงฮอสท์ เว็สเซิล" อย่างไรก็ตาม ในระหว่างปี ค.ศ. 1930 - 1933 ได้มีข้อวิจารณ์ถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยชี้ว่าทำนองเพลงมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่านั้น ตัวอย่างหนึ่งของเพลงที่มีทำนองคล้ายกับเพลงนี้มากก็คือเพลง "How Great Thou Art" ซึ่งเป็นเพลงสวดสรรเสริญพระเจ้า (hymn) อันเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป การวิจารณ์ฐานะความเป็นผู้ประพันธ์ของฮอสท์ เว็สเซิล ได้กลายเป็นความคิดต้องห้ามไปหลังปี ค.ศ. 1933 เมื่อพรรคนาซีได้เถลิงอำนาจปกครองเยอรมนี และการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้อาจทำให้ได้รับโทษหนัก
แหล่งที่มาที่น่าจะส่งผลโดยตรงต่อทำนองเพลงนี้มากที่สุดเป็นบทเพลงยอดนิยมในกองทัพเรือจักรวรรดิเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเว็สเซิลจะเคยได้ยินเพลงดังกล่าวที่ขับร้องโดยอดียทหารเรือในกรุงเบอร์ลินช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1920 เพลงนี้เป็นที่รู้จักกันตามวรรคเริ่มของเพลงที่ว่า Vorbei, vorbei, sind all die schönen Stunden, หรือในชื่อ Königsberg-Lied, ตามชื่อเรือลาดตระเวน "เคอร์นิกสแบร์ก" ซึ่งถูกกล่าวถึงในเนื้อร้องฉบับหนึ่งของเพลงนี้ บทเริ่มของเพลงดังกล่าวทั้งหมดมีใจความว่า
|
|
เพลงเยอรมันอีกเพลงหนึ่งชื่อว่า Der Abenteurer (นักผจญภัย) มีบทขึ้นต้นว่า
|
|
ในปี ค.ศ. 1936 อัลเฟรด ไวเดมันน์ (Alfred Weidemann) นักวิจารณ์ดนตรีชาวเยอรมัน ได้ตีพิมพ์บทความซึ่งเขาได้ระบุว่าทำนองเพลงได้ประพันธ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1865 โดย ปีเตอร์ คอร์เนลิอุส ในฐานะ "Urmelodie" (source-melody, ทำนองเพลงต้นตอ).[2] ตามคำกล่าวของไวเดมันน์นั้น คอร์เนลิอุสได้ระบุเพลงนี้ว่าเป็น "ทำนองเพลงพื้นบ้านเวียนนา" ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขาสรุปว่านี่คือต้นตอแรกสุดของทำนองเพลง "เพลงฮอสท์ เว็สเซิล"[3]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.