อิบน์ ตัยมียะฮ์
From Wikipedia, the free encyclopedia
อิบน์ ตัยมียะฮ์ (22 มกราคม 1263 - 26 กันยายน 1368; อาหรับ: إبن تيمية) ชื่อเกิดคือ ตะกียุดดีน อะฮ์หมัด อิบน์ อับดุลฮะลีม อิบน์ อับดุสสะลาม อันนุมัยรี อัลฮัรรอนี (อาหรับ: تقي الدين أحمد بن عبد الحليم بن عبد السلام النميري الحراني)[1][2] อุละมาอ์ซุนนะฮ์[3][4][5] มุฮัดดิษ, กอฎี (ผู้พิพากษา, ผู้วินิจฉัย),[6][7] นักศาสนศาสตร์ของซะละฟียะฮ์,[8][9][10][11] และนักคิดและบุคคลสำคัญทางการเมืองในบางครั้ง[12][5] เขาเป็นที่รู้จักจากการมีส่วนร่วมทางการทูตกับ ฆอซานข่าน ผู้ปกครองจักรวรรดิข่านอิล และการมีส่วนร่วมของเขาในยุทธการที่มัรญุศเศาะฟัร (ค.ศ. 1303) ซึ่งยุติการมองโกลรุกรานลิแวนต์.[13] สมาชิกของมัซฮับฮัมบะลี, ทรรศนะเชิงสัญลักษณ์ของอิบน์ ตัยมียะฮ์ ที่ประณามการปฏิบัติของชาวบ้านจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการเคารพนักบุญและการไปสักการะหลุมฝังศพทำให้เขาไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักวิชาการและผู้ปกครองในยุคนั้น และเขาถูกจำคุกหลายครั้ง[14]
อิบน์ ตัยมียะฮ์ ابن تيمية | |
---|---|
ชื่อของ อิบน์ ตัยมียะฮ์ ในการประดิษฐ์ตัวอักษรอิสลาม | |
คำนำหน้าชื่อ | ชัยคุลอิสลาม |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 10 เราะบีอุลเอาวัล ฮ.ศ. 661 หรือ 22 มกราคม ค.ศ. 1263 |
มรณภาพ | 20 ษูลเกาะดะฮ์ ฮ.ศ. 728 หรือ 26 กันยายน ค.ศ. 1328 |
ศาสนา | ศาสนาอิสลาม |
ยุค | ยุคกลาง |
นิกาย | ซุนนะฮ์ |
สำนักคิด | ฮัมบะลี |
ลัทธิ | อะษะรีย์ |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ได้รับอิทธิจาก
| |
มีอิทธิพลต่อ
|
บุคคลที่มีการแบ่งขั้วในสมัยของเขาเองและในศตวรรษต่อมา,[15][16] อิบน์ ตัยมียะฮ์ ได้กลายเป็นหนึ่งในนักเขียนยุคกลางที่มีอิทธิพลมากที่สุดในฝ่ายซุนนะฮ์ยุคใหม่ตอนปลาย[14]
ประเด็นสำคัญของคำสอนของเขา คือ การให้ความสำคัญต่อการเคารพสักการะพระเจ้าเพียงองค์เดียวที่แท้จริง คือ อัลลอฮ ตามแนวทางของศาสนทูต บรรดาสาวกและบรรดาลูกศิษย์ของสาวก(ชนสะลัฟ) และการรณรงค์เพื่อถอนรากถอนโคนสิ่งที่เขามองว่าเป็นชิริก (การบูชารูปเคารพ) มีอิทธิพลอย่างมากต่อมุฮัมมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบ, ผู้ก่อตั้งขบวนการปฏิรูปฮัมบะลี ฝึกฝนในซาอุดีอาระเบียและนักวิชาการซุนนะฮ์คนอื่น ๆ ในภายหลัง[17][18] มุฮัมมัด เราะชีด ริฎอ นักเทววิทยากลุ่มสะละฟีย์ ชาวซีเรีย (เกิดปี ค.ศ. 1935 ส.ศ. 1354) หนึ่งในผู้สนับสนุนผลงานสมัยใหม่ที่สำคัญของเขา กำหนดให้ อิบน์ ตัยมียะฮ์ เป็นมุญัดดิด (ผู้ฟื้นฟู) ของศตวรรษที่ 7 ของปีฮิจเราะห์[19][20]