สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลในฤดูกาล 2014–15
บทความรายชื่อวิกิมีเดีย / From Wikipedia, the free encyclopedia
ฤดูกาล 2014–15 เป็นฤดูกาลที่ 23 ของสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลในพรีเมียร์ลีก และเป็นฤดูกาลที่ 95 ติดต่อกันบนลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ อาร์เซนอลได้เข้าร่วมในพรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ, คอมมิวนิตีชีลด์ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ฤดูกาล 2014–15 | ||||
---|---|---|---|---|
ประธานสโมสร | เซอร์ ชิปส์ เคสวิก | |||
ผู้จัดการทีม | อาร์แซน แวงแกร์ | |||
สนาม | เอมิเรตส์สเตเดียม | |||
พรีเมียร์ลีก | อันดับที่ 3 | |||
เอฟเอคัพ | ชนะเลิศ | |||
ลีกคัพ | รอบ 3 | |||
เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ | ชนะเลิศ | |||
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก | รอบ 16 ทีมสุดท้าย | |||
ผู้ทำประตูสูงสุด | ลีก: อาเลกซิส ซานเชซ (16) ทั้งหมด: อาเลกซิส ซานเชซ (25) | |||
ผู้เข้าชมในบ้านสูงสุด | 60,081 คน (พบกับ ลิเวอร์พูล, 4 เมษายน 2015) | |||
ผู้เข้าชมในบ้านต่ำสุด | 59,439 คน (พบกับ ฮัลล์ ซิตี, 4 มกราคม 2015) | |||
| ||||
|
สำหรับพรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล จบการแข่งขันลงที่อันดับที่ 3 เป็นอันดับที่ดีที่สุดของสโมสรในรอบหลายปี ทำให้สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลถัดไปได้ โดยไม่ต้องเล่นในรอบเพลย์ออฟ[1]
อีกทั้ง อาเลกซิส ซานเชซ กองกลางคนใหม่ของสโมสร ที่ย้ายมาจากบาร์เซโลนา เป็นฤดูกาลแรก ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูมากที่สุดของสโมสร ด้วยการยิงไป 16 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 24 นัด ติดอันดับ 5 ดาวซัลโวประจำฤดูกาล (โดยที่อันดับ 1 ถึง 4 เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าทั้งหมด) และยังได้รับเลือกให้เป็นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี เมื่อจบฤดูกาลอีกด้วย[2]
สำหรับเอฟเอคัพ ในฤดูกาลนี้ อาร์เซนอลสามารถที่จะป้องกันแชมป์จากเมื่อฤดูกาลที่แล้วไว้ได้ โดยสามารถเอาชนะ แอสตันวิลลา ไปได้ถึง 4-0 ในรอบชิงชนะเลิศ นับเป็นสถิติที่ชนะกันห่างที่สุดในรอบชิงชนะเลิศในรอบ 21 ปี[3] และทำสถิติเป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ คือ 12 ครั้ง อีกทั้งยังทำสถิติเข้าชิงชนะเลิศมากที่สุด คือ 19 ครั้ง[4]
และในฤดูกาลนี้ ยังเป็นฤดูกาลแรกที่ผู้สนับสนุนชุดแข่งขันของสโมสรได้เปลี่ยนจาก ไนกี้ บริษัทเครื่องกีฬาสัญชาติอเมริกัน มาเป็น พูม่า บริษัทเครื่องกีฬาสัญชาติเยอรมัน หลังจากไนกี้เป็นผู้สนับสนุนมานานถึง 20 ปี [5]