Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไมเคิล แฟรนซิส โฟลีย์ (Michael Francis Foley)[5][1] เกิดวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1965[5][1] นักมวยปล้ำอาชีพที่เกษียณอายุ, นักเขียน, นักวิจารณ์, นักแสดง และนักแสดงเสียง ชาวอเมริกัน อดีตนักมวยปล้ำของWWE ในชื่อที่รู้จักกันอย่างดี มิก โฟลีย์ (Mick Foley) เขายังได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักมวยปล้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสมาคม[2][6]
Mick Foley | |
---|---|
เกิด | Michael Francis Foley 7 มิถุนายน ค.ศ. 1965 Bloomington, Indiana, U.S. |
อาชีพ |
|
ปีปฏิบัติงาน | 1983–2012 (wrestler) 1999–present (author) 1999–present (actor) |
คู่สมรส | Colette Christie (สมรส 1992) |
บุตร | 4 |
ชื่อบนสังเวียน | Cactus Jack Dude Love Cactus Jack Manson[1] Jack Foley Mankind[1] Mick Foley[1] |
ส่วนสูง | 6 ฟุต 2 นิ้ว (188 เซนติเมตร)[1][2] |
น้ำหนัก | 287 ปอนด์ (130 กิโลกรัม)[2] |
มาจาก | Bloomington, Indiana (Jack Foley) The Boiler Room (Mankind) Long Island, New York (Mick Foley)[2] Truth or Consequences, New Mexico (Cactus Jack and Dude Love) |
ฝึกหัดโดย | Dominic DeNucci[1][2] |
เปิดตัว | 1983[3] |
รีไทร์ | 2012[4] |
เว็บไซต์ | RealMickFoley.com |
โฟลีย์ใฝ่ฝันว่าตัวเองจะได้เป็นนักมวยปล้ำ และเขาชื่นชอบ จิมมี "ซูเปอร์ฟลาย" สนูกกา มาก ทั้งท่าทาง ทั้งลีลาต่างๆ ของเขา ถึงขนาดอัดวิดีโอที่เป็นแมตช์ของเขาอย่างเดียวเก็บไว้เป็นหลายม้วน แถมลองทำท่า Diving Headbutt ที่เป็นท่าไม้ตายของสนูกก้า บนเตียงตัวเอง อีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงโดยไปฝึกทักษะมวยปล้ำที่สมาคมแห่งหนึ่ง และไฝ่ฝันต่อว่าจะได้ไปปล้ำที่สมาคม WWF ซึ่งเขาได้ปล้ำแมตช์เดียวในแจ็คเก็ด ก็แพ้แล้ว จึงลาออกจาก WWF และไปฝึกมวยปล้ำที่ญี่ปุ่น ในนามของ แคคตัส แจ็ค ซึ่งเขาก็ถนัดในการปล้ำแบบ เดท แมตช์ หรือ ฮาร์ดคอร์ ซะด้วย จึงได้รับการผลักดันให้เป็นนักมวยปล้ำเด่นๆ ในสมาคมหนึ่งในญี่ปุ่น จากนั้นก็ได้มาปล้ำที่เยอรมนี โดยเขาขึ้นปล้ำกับ ลีโอ ไวท์ หรือ บิ๊ก แวน เวเดอร์[7] ก็ยังคงปล้ำแบบฮาร์ดคอร์ อยู่ดีและเป็นที่สนใจในสมาคมมวยปล้ำของอเมริกาหลายแห่ง ไม่นานโฟลีย์ ก็กลับมาที่อเมริกา และเซ็นสัญญากับสมาคม WCW
หลังจากนั้น 3 ปี ก็ย้ายไปอยู่ ECW[8] ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับ WWF ในปี 1996 ในนามของ แมนไคนด์ และก็มีเรื่องอยู่กับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ และมีจุดๆหนึ่งที่ทำให้ WWF และคนดูทุกๆคนนับถือและยอมรับในความเป็นนักมวยปล้ำของเขา ในศึก คิงออฟเดอะริง ปี 1998 แมนไคนด์ ได้เจอกับ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ในแมตช์ เฮลอินเอเซล และเขาก็ได้ถูกเหวี่ยงลงมาจากบนสุดของกรงเหล็กลงมากระแทกกับโต๊ะผู้บรรยายพัง จนเจ็บซี่โครงและไหล่ แต่เขาก็ยังไม่ยอม ยังจะเข้าไปสู้ และครั้งที่ 2 ก็โดนท่า โชคสแลม ลงมาบนเวทีข้างล่างอีก แต่ก็ยังใจแข็งสู้ต่อ ซึ่งทำให้ทุกๆคนเลื่อมใสในสปีริตการเป็นนักมวยปล้ำของโฟลีย์ ตั้งแต่นั้นมา[9][10][11][12][13][14] หลังจากนั้นก็พักการปล้ำไปนานและกลับมาในนามของ ดู๊ด เลิฟ ซึ่งเป็นคนที่ชอบแต่งตัวหลายบุคลิก และกลายมาเป็น แคคตัส แจ็ค สุดท้ายก็กลายมาเป็น แมนไคนด์ และจับคู่กับเดอะร็อก ได้คว้าแชมป์แท็กทีม 8 สมัย แชมป์โลกอีก 3 สมัย จากนั้นก็มีเรื่องกับทริปเปิลเอช และก็แพ้ไปในปี 1999 ต่อมาโฟลีย์ ได้ย้ายไปสังกัดอยู่สมาคม TNA[15][16] จนถึงปี 2011 โฟลีย์ได้กลับมา WWE อีกครั้ง ในรอว์ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2011[17]
ในรอว์ 24 กันยายน 2012 โฟลีย์ออกมาเพื่อด่าซีเอ็ม พังก์ โฟลีย์ บอกว่า พังก์บอกว่าจะเปลี่ยนแปลงวงการ แต่แล้วเขาทำอะไรบ้างล่ะ รังแกกรรมการ เชื่อฟังพอล เฮย์แมนหน้ามืดตามัว มันเคยบอกให้ทุกคนยืนหยัดต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่เดี๋ยวนี้มันเป็นแค่... พังก์ออกมาขัดจังหวะ โฟลีย์พูดต่อบอกว่าเขาก็เคยเป็นเด็กพอล เฮเมนเหมือนกัน แต่เขาก็เป็นแค่คนโนเนมจนกระทั่งเขาแยกจาก พอล เฮเมน และเริ่มคิดทำอะไรด้วยตัวเอง โฟลีย์บอกว่าเขาสร้างชื่อเสียงมาจากแมตช์ เฮลอินเอเซลแมตช์นั้น และเขาไม่จำเป็นต้องเรียกร้องให้ใครมาให้เกียรติ เพราะเขาได้รับเกียรติจากการปล้ำแมตช์นั้น ถ้าอยากได้รับเกียรติล่ะก็ เข้าไปเจอกับจอห์น ซีนา ในเฮลอินเอเซล (2012) สิ พังก์บอกว่า ก็เขาชนะซีนา มาหลายครั้งแล้วนี่ ขนาดปล้ำในบ้านเกิดมัน มันก็ยังไม่มีปัญญาเอาแชมป์ไปได้ เขาไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองอะไรอีก และจะไม่ทำอะไรเพื่อแฟนๆ พวกนี้ด้วยเพราะแฟนๆ หักหลังเขา พังก์บอกโฟลีย์ก็แค่ชอบกระโดดลงมาจากที่สูงๆ เอาตะปูทิ่มตัวเอง เล่นกับลวดหนาม หรืออาจจะทำกระทั่งจุดไฟเผาตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนดู โฟลีย์บอก นายจะเป็นแชมป์มากี่วันมันไม่สำคัญหรอก เพราะคนดูจะไม่จดจำเลยเมื่อนายเลิกปล้ำไปแล้ว แต่คนดูจะยกย่องให้คนเป็นตำนานจากเหตุการณ์สุดยอดที่พวกเขาสร้างไว้ต่างหาก และนายก็ได้โอกาสนี้แล้วในเฮลอินเอเซล เพราะซีนา จะหายบาดเจ็บพอดี คิดดูให้ดี
ในรอว์ 29 ตุลาคม 2012 โฟลีย์ออกมาเปิดคลิปฉากจบของแมตช์ชิงแชมป์ WWE ในเฮลอินเอเซล เป็นภาพซีเอ็ม พังก์โดนไรแบ็กจับใส่ Shell Shock บนกรงเหล็กเฮลอินเอเซล ทางด้านพังก์โต้กลับว่าครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นโฟลีย์ ก็คือโฟลีย์นั้นลงไปนอนกับพื้นเพราะโดนฉันเตะโฟลีย์ บอกว่าคืนนี้ไม่ได้ออกมาและบอกว่าเขาได้ให้ตัวเลือกกับพังก์ไป เมื่อเดือนก่อนว่า พังก์จะเลือกที่จะเป็นตำนานหรือเป็นแค่พวกไล่เก็บสถิติไปวันๆ ซึ่งพังก์คงลืมไป พังก์ก็พูดแขวะแฟนๆ ก่อนจะโม้อีกรอบว่าตัวเองเป็นแชมป์มา 344 วันแล้ว พังก์บอกว่าดูเหมือนโฟลีย์จะต้องการบางอย่าง พังก์เสนอแมตช์แทกทีม 5 ต่อ 5 ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) ทีมของพังก์ ปะทะ ทีมของโฟลีย์ และ โฟลีย์ ตอบรับคำท้าของพังก์ ทันใดนั้นเองเพลงเปิดตัวของไรแบ็กก็ดังขึ้น ไรแบ็กขึ้นมาบนเวที ทำให้พังก์กับเฮเมนหนีไป คืนเดียวกันพังก์ออกมาประกาศลูกทีมของพวกเขาคือ เดอะมิซ, โคดี โรดส์, แดเมียน แซนดาว และอัลเบร์โต เดล รีโอ ส่วนโฟลีย์ก็ออกมาประกาศสมาชิกในทีมคือ โคฟี คิงส์ตัน, แดเนียล ไบรอัน, เคน และแรนดี ออร์ตัน พังก์บอกจะกำจัดทุกคนออกไปจากแมตช์ เหลือไว้แต่โฟลีย์ แล้วจะได้สั่งสอนมันอย่างเมามันส์ แต่โฟลีย์บอกว่าเขาไม่ได้เข้าร่วมด้วยหรอก คนที่5 ของทีมเขาคือไรแบ็ก แล้วทุกคนก็ตีกันมั่วไปหมด พังก์รีบหนีกลับไปก่อน ปล่อยให้ลูกทีมโดนอัดอยู่บนเวที[18] ต่อมาได้เปลี่ยนให้ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์เป็นกัปตันทีมแทนพังก์ ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ ทีมของโฟลีย์ได้แพ้ให้กับทีมของซิกก์เลอร์ ในปี 2013 โฟลีย์ได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศดับเบิลยูดับเบิลยูอี[19] ในเดือนกรกฎาคม 2016 ถึงมีนาคม 2017 โฟลีย์ได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของรอว์จากการแต่งตั้งโดยสเตฟานี แม็กแมน
Memoirs
Children's fiction
Contemporary fiction
Year | Title | Role |
---|---|---|
1999 | Beyond the Mat | Himself |
2000 | Big Money Hustlas | Cactus Sac |
2007 | Anamorph | Antique Store Owner |
2009 | Bloodstained Memoirs | Himself |
2015 | Dixieland | Himself |
2016 | Chokeslam | Patrick |
2019 | The Peanut Butter Falcon | Jacob |
2020 | 12 Hour Shift | Nicholas |
2020 | You Cannot Kill David Arquette | Himself |
Year | Title | Role | Notes |
---|---|---|---|
1999 | Total Request Live | Mankind | 1 episode |
Boy Meets World | Mankind | 1 episode | |
G vs E | Himself | 1 episode | |
The Howard Stern Show | Himself | 1 episode | |
The Martin Short Show | Himself | 1 episode | |
Late Night with Conan O'Brien | Himself | 1 episode | |
1999–2001 | The Howard Stern Radio Show | Himself | 3 episodes |
2000 | Celebrity Death Match | Mankind | 1 episode |
Now and Again | Charlie | 1 episode | |
Saturday Night Live | Himself | 1 episode | |
2001 | Who Wants To Be A Millionaire? | Himself | Contestant |
The Tonight Show with Jay Leno | Himself | 1 episode | |
2001–2002 | Robot Wars: Extreme Warriors | Himself | Host |
2003 | Jimmy Kimmel Live! | Himself | Guest co-host, 5 episodes |
2006–2007 | Avatar: The Last Airbender | The Boulder | Voice, 2 episodes |
2009 | Squidbillies | Thunderclap | 1 episode |
2009–2013 | The Daily Show | Himself | 3 episodes |
2010 | Family Feud | Himself | 5 episodes |
Warren the Ape | Himself | 1 episode | |
2012 | 30 Rock | Mankind | 1 episode |
Celebrity Wife Swap | Himself | 1 episode | |
2016–2017 | Holy Foley! | Himself | Main cast, reality series |
2019 | Dark Side of the Ring | Himself / Narrator | 1 episode |
2020 | The Big Show Show | Himself | 1 episode |
2021 | Heels | Dick Valentine | 1 episode |
เกมส์
Year | Title | Role | Notes |
---|---|---|---|
2007 | Avatar: The Last Airbender – The Burning Earth | The Boulder | Voice |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.