พระราชวิเทศปัญญาคุณ (เหลา ปญฺญาสิริ)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระราชวิเทศปัญญาคุณ (นามเดิม: ดร.พระมหาเหลา ประชาราษฎร์) น.ธ.เอก, ป.ธ.4, พม., พธ.บ., M.A. (London), Ph.D.(Birmingham) (7 สิงหาคม พ.ศ. 2503 - ปัจจุบัน) พระธรรมทูตไทยรูปแรกที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในประเทศอังกฤษ รองประธานองค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักร, เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ สหราชอาณาจักร รูปปัจจุบัน
พระราชวิเทศปัญญาคุณ (เหลา ปญฺญาสิริ) | |
---|---|
ชื่ออื่น | ดร.พระมหาเหลา |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 สิงหาคม พ.ศ. 2503 (64 ปี) |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | B.A.(MCU), M.A. (London), Ph.D.(Birmingham) |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดมหาธาตุ สหราชอาณาจักร หมู่บ้านคิงส์บรอมลีย์ เมืองลิชฟีลด์ เทศมณฑลสแตฟฟอร์ดเชอร์ ตอนกลางของสหราชอาณาจักร |
อุปสมบท | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2516 |
พรรษา | 51 |
ตำแหน่ง | รองประธานองค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักร |
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2503 บรรพชาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2516 และอุปสมบทเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2523 หลังจากสำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิต ท่านได้เดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจเป็นพระธรรมทูต ณ วัดพุทธปทีป กรุงลอนดอน ต่อมาท่านได้ออกเผยแพร่พระพุทธศาสนา และทำการก่อตั้งวัดไทยขึ้นในประเทศอังกฤษหลายวัด จนมีผลงานการเผยแพร่เป็นที่ยอมรับจากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในปัจจุบัน
ด้วยเหตุที่ท่านเป็นพระสงฆ์นักเผยแพร่ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จึงทำให้ท่านได้รับถวายรางวัลจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ มากมาย และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เข้ารับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งถือเป็นรางวัลทรงเกียรติสูงสุดที่มอบถวายแด่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อศาสนาพุทธในประเทศไทย[1]
พระราชวิเทศปัญญาคุณ เกิดที่บ้านหนองรัง อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อปี พ.ศ. 2503 เมื่ออายุได้ 14 ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร โดยมีพระธรรมรัตนกร (สวัสดิ์ กิตฺติสาโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก เมื่อปี พ.ศ. 2519 อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยมีพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาท่านสอบไล่ได้เปรียญธรรม 4 ประโยค ในปี พ.ศ. 2526 และสำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2529
ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 ท่านได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดพุทธปทีป กรุงลอนดอน และต่อมาได้เป็นผู้ช่วยพระธรรมทูต และเป็นพระธรรมทูตสายประเทศอังกฤษในปี พ.ศ. 2533 โดยได้อยู่ช่วยงานพระพุทธศาสนา เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดพุทธปทีป ในปี พ.ศ. 2536 และเมื่อถึงปี พ.ศ. 2537 ท่านได้เดินทางไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร แอสตัน เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เพื่อขยายผลการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในประเทศอังกฤษ และต่อมาท่านได้รับการยอมรับจากชาวอังกฤษ ให้ได้รับแต่งตั้งเป็นอนุศาสนาจารย์ ฝ่ายพระพุทธศาสนา ประจำมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ในปี พ.ศ. 2541 และเมื่อถึงปี พ.ศ. 2549 ท่านได้ย้ายวัดจากแอสตัน เบอร์มิงแฮม ออกมาตั้งวัดใหม่ที่หมู่บ้านคิงส์บรอมลีย์ เทศมณฑลสแตฟฟอร์ดเชอร์ เนื่องจากเป็นหมู่บ้านในชนบท มีบรรยากาศสัปปายะ เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม
ปัจจุบันท่านทำการขยายผลการเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปยังเมืองต่าง ๆ ในประเทศอังกฤษ โดยมีวัดในสาขาวัดมหาธาตุ คิงส์บรอมลีย์ สหราชอาณาจักร จำนวน 2 แห่ง ในปัจจุบันคือ วัดมหาธาตุ เคมบริดจ์ และวัดมหาธาตุ พลิมัท[2]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.