![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/57/Flag_of_VNQDD.svg/langth-640px-Flag_of_VNQDD.svg.png&w=640&q=50)
พรรคชาตินิยมเวียดนาม
From Wikipedia, the free encyclopedia
พรรคชาตินิยมเวียดนาม (เวียดนาม: Việt Nam Quốc Dân Đảng; 越南國民黨) หรือเหวียตโกว๊ก (เวียดนาม: Việt Quốc 越國) เป็นพรรคการเมืองชาตินิยมในเวียดนามที่ได้พยายามกอบกู้เอกราชเวียดนามจากฝรั่งเศสในระหว่างต้นศตวรรษที่ 20 โดยได้กำเนิดในช่วงยุค 1920 เมื่อปัญญาชนวัยหนุ่มได้เริ่มเผยแผ่หลักการปฏิวัติ ในปี ค.ศ.1927 หลังจากที่สำนักพิมพ์ประสบความล้มเหลวเพราะการล่วงล้ำของฝรั่งเศสและการปิดกั้นความคิด พรรคชาตินิยมเวียดนามจึงได้ถูกก่อตั้งโดย เหงียน ท้าย ฮอก โดยนำรูปแบบมาจากพรรคก๊กมินตั๋งของประเทศจีนในยุคนั้น (รูปอักษรจีนของทั้งสองพรรคเขียนเหมือนกัน ดังนี้ 國民黨) พรรคชาตินิยมเวียดนามได้มีชนชั้นกลางเข้าร่วมด้วยอยู่พอสมควร โดยเฉพาะคุณครูอาจารย์และปัญญาชน แต่ไม่ได้รับความสนใจจากชาวนาและกรรมกร พรรคจึงได้ก่อตั้งขึ้นอย่างลับๆ
![]() | ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
พรรคชาตินิยมเวียดนาม Việt Nam Quốc Dân Đảng | |
---|---|
![]() | |
ผู้ก่อตั้ง | เหงียน ท้าย ฮอก |
หัวหน้า | เหงียน ท้าย ฮอก เญิ้ต ลิญ หวู โห่ง คั้ญ |
ก่อตั้ง | 25 ธันวาคม พ.ศ. 2470 |
ที่ทำการ | ฮานอย (พ.ศ. 2470 - 2497) ไซ่ง่อน (พ.ศ. 2497 - 2518) เวสต์มินสเตอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย (พ.ศ. 2518) |
หนังสือพิมพ์ | ภาษาประชาชน (Tiếng dân เตี๊ยงเซิน) |
อุดมการณ์ | ชาตินิยมเวียดนาม สังคมนิยมประชาธิปไตย หลัก 3 ประการแห่งประชาชน |
จุดยืน | จากกลางอิงซ้ายถึงกลางอิงขวา |
สี | แดง, น้ำเงิน, ขาว |
เว็บไซต์ | |
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ |
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1928 พรรคชาตินิยมเวียดนามเริ่มเป็นที่รู้จักจากการลอบสังหารเจ้าพนักงานชาวฝรั่งเศสและผู้ช่วยชาวเวียดนาม จุดเปลี่ยนของพรรคได้เข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1929 จากเหตุการณ์การลอบสังหารบาซินซึ่งเป็นเหตุการณ์การสังหารแรงงานเกณฑ์ชาวฝรั่งเศส แม้ว่าการสมรู้ร่วมคิดกับผู้ก่อการไม่ชัดเจนนัก แต่เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสกลับกล่าวหาว่าพรรคชาตินิยมเวียดนามคือผู้มีส่วนร่วม สมาชิกประมาณ 300-400 ของสมาชิก 1,500 คนถูกปราบปรามและถูกจับกุม ผู้นำหลายคนถูกจับกุม แต่ห้อกได้จัดการจนสามารถหลบหนีไปได้
ปลายปี ค.ศ. 1929 พรรคได้เริ่มอ่อนแอลงจากการแตกแยกภายในพรรคเอง ภายใต้การกดดันที่เพิ่มมากขึ้นของฝรั่งเศส ผู้นำของพรรคหลายคนได้เปลี่ยนวิธีการต่อต้านฝรั่งเศสจากการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเปลี่ยนเป็นการขับไล่โดยการก่อจลาจล หลังจากที่รวบรวมอาวุธมาได้แล้ว พรรคจึงได้ทำการก่อการกำเริบเอียนบ๊าย ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1930 เพื่อให้การก่อกำเริบเป็นไปอย่างแพร่หลายและรวดเร็ว พรรคได้ร่วมกับกองทหารเวียดนามของฝรั่งเศสที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจซึ่งได้ทำการต่อต้านฝรั่งเศสด้วยเช่นกันนั้น การก่อเริบจึงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วแต่ก็ถูกปราบปรามลงอย่างง่ายดาย ด้วยการลงโทษที่รุนแรง ห้อกและผู้นำคนอื่นได้ถูกจับกุมและประหารชีวิตและพรรคก็ไม่ได้กลับมามีความเข้มแข็งในเวียดนามอีก
กลุ่มที่เหลืออยู่ได้ใช้สันติวิธีในการต่อสู้ ขณะที่กลุ่มอื่นๆนั้นได้หนีไปยังมณฑลยูนนาน ซึ่งพวกเขาได้อาวุธและฝึกซ้อมรบอยู่ที่นั้น ระหว่างยุค 1930 พรรคได้ถูกบดบังโดยพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน เวียดนามได้ถูกยึดครองโดยญี่ปุ่น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 จากความวุ่นวายภายหลังการยอมแพ้ของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1945 พรรคชาตินิยมเวียดนามกับพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนามเป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ความวุ่นวายได้หมดไป โฮจิมินห์ได้กวาดล้างกลุ่มทหารของพรรคชาตินิยมเวียดนามออกไปกลุ่มทหารคอมมิวนิสต์เวียดนาม ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกลายเป็นผู้ต่อต้านจักรวรรดินิยมอย่างไร้ผู้เทียมเท่า หลังสงครามอินโดจีนครั้งที่ 1สิ้นสุดลง เวียดนามได้ถูกแบ่งแยกเป็นสองส่วน ทางพรรคได้ย้ายไปอยู่เวียดนามใต้ ภายหลังเหตุการณ์ไซ่ง่อนแตกแล้ว พรรคได้ย้ายไปยังนอกประเทศและยังเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในปัจจุบัน