ประเทศเดนมาร์ก
รัฐอธิปไตยในยุโรปเหนือ / From Wikipedia, the free encyclopedia
เดนมาร์ก (อังกฤษ: Denmark; เดนมาร์ก: Danmark [ˈd̥ænmɑɡ̊] แดนมาก) (เดนมาร์ก: Danmarkⓘ) หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรเดนมาร์ก (เดนมาร์ก: Kongeriget Danmark) เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิก มีแผ่นดินหลักตั้งอยู่บนคาบสมุทรจัตแลนด์ ทางทิศเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางบกเพียงประเทศเดียว ทางทิศใต้ของประเทศนอร์เวย์ และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวีเดน มีพรมแดนจรดทะเลเหนือและทะเลบอลติก เดนมาร์กมีดินแดนนอกชายฝั่งห่างไกลออกไปสองแห่ง คือหมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์ซึ่งแต่ละแห่งมีอำนาจปกครองตนเอง เดนมาร์กมีพื้นที่ในประเทศราว 42,943 ตารางกิโลเมตร (16,580 ตารางไมล์) ณ ค.ศ. 2020 และพื้นที่ทั้งหมดเมื่อนับรวมกรีนแลนด์และหมู่เกาะแฟโรคือ 2,210,579 ตารางกิโลเมตร (853,509 ตารางไมล์) และมีประชากรราว 6 ล้านคน (ค.ศ. 2023)[17] โดยกว่า 800,000 คนอาศัยอยู่ในกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวง และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ราชอาณาจักรเดนมาร์ก | |
---|---|
เพลงชาติ เดอร์ เออร์ เอ็ท ยินดิจท์ แลนด์ ("แผ่นดินอันสวยงาม") คงคริสเตียนสตุดเวดฮอเยินมัสต์[N 1] ("พระเจ้าคริสเตียนประทับยืนข้างเสาสูงตระหง่าน") | |
ที่ตั้งของ เดนมาร์ก (เขียวเข้ม) – ในยุโรป (เขียว & เทาเข้ม) | |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | โคเปนเฮเกน 55°43′N 12°34′E |
ภาษาราชการ | เดนมาร์ก |
แฟโร กรีนแลนด์ เยอรมัน[N 2] | |
กลุ่มชาติพันธุ์ |
|
ศาสนา | 75.8% คริสต์ —74.3% คริสตจักรแห่งเดนมาร์ก[N 4] —1.5% นิกายอื่น ๆ 19.1% ไม่มีศาสนา 4.4% อิสลาม 0.7% อื่น ๆ |
เดมะนิม |
|
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
สมเด็จพระเจ้าเฟรดอริกที่ 10 | |
เมตเต เฟรเดอริกเซน | |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา |
ประวัติ | |
• รวมประเทศ | ป. คริสต์ศตวรรษที่ 8[7] |
• พระราชบัญญัติรัฐธรรมนูญ | 5 มิถุนายน ค.ศ. 1849 |
24 มีนาคม ค.ศ. 1948[N 5] | |
• เข้าเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจยุโรป | 1 มกราคม ค.ศ. 1973 |
พื้นที่ | |
• เดนมาร์ก | 42,933 ตารางกิโลเมตร (16,577 ตารางไมล์)[8] (อันดับที่ 130) |
1.74 (ใน ค.ศ. 2015)[9] | |
• ทั่วราชอาณาจักร | 2,220,930 ตารางกิโลเมตร (857,510 ตารางไมล์) (อันดับที่ 12) |
ประชากร | |
• ไตรมาสที่ 3 ค.ศ. 2021 ประมาณ | 5,850,189[10][N 6] (อันดับที่ 114) |
• หมู่เกาะแฟโร | 52,110[11] |
• กรีนแลนด์ | 56,081[12] |
137.65 ต่อตารางกิโลเมตร (356.5 ต่อตารางไมล์) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2018 (ประมาณ) |
• รวม | 299 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[13][N 7] (อันดับที่ 52) |
• ต่อหัว | 51,643 ดอลลาร์สหรัฐ[13] (อันดับที่ 19) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2018 (ประมาณ) |
• รวม | 370 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[13][N 7] (อันดับที่ 34) |
• ต่อหัว | 63,829 ดอลลาร์สหรัฐ[13] (อันดับที่ 6) |
จีนี (2020) | 27.3[14] ต่ำ |
เอชดีไอ (2019) | 0.940[15] สูงมาก · อันดับที่ 10 |
สกุลเงิน | โครเนอเดนมาร์ก[N 8] (DKK) |
เขตเวลา | UTC+1 (เวลายุโรปกลาง) |
UTC+2 (เวลาออมแสงยุโรปกลาง) | |
[N 9] | |
รูปแบบวันที่ | วว.ดด.ปปปป[N 10] ปปปป-ดด-วว[16] |
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | 3 แบบ
|
รหัส ISO 3166 | DK |
โดเมนบนสุด | |
เว็บไซต์ Denmark.dk | |
|
เดนมาร์กถือเป็นชาติเก่าแก่ของยุโรปที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 โดยขึ้นชื่อในด้านการเดินเรือ และเป็นมหาอำนาจในทะเลบอลติก ในอดีต เดนมาร์ก สวีเดน และ นอร์เวย์ ถูกปกครองร่วมกันภายใต้ผู้ปกครองอธิปไตยแห่งสหภาพคาลมาร์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1397[18] ก่อนจะสิ้นสุดลงจากการแยกตัวของสวีเดนใน ค.ศ. 1523 แต่เดนมาร์กและนอร์เวย์ยังถูกปกครองภายใต้กษัตริย์องค์เดียวกันจนถึง ค.ศ. 1814 โดยในยุคนั้น เดนมาร์ก และ นอร์เวย์ มีการทำสงครามหลายครั้งกับจักรวรรดิสวีเดน และจบลงด้วยการล่มสลายของสวีเดน หลังสงครามนโปเลียน ดินแดนนอร์เวย์ได้ถูกยกให้สวีเดน ในขณะที่เดนมาร์กยังคงรักษาหมู่เกาะแฟโร กรีนแลนด์ และไอซ์แลนด์ไว้ได้ ในศตวรรษที่ 19 มีขบวนการชาตินิยมเข้ามาตั้งรกรากในดินแดนนี้จำนวนมาก ต่อมา หลังจากสงครามชเลสวิกครั้งที่สองใน ค.ศ. 1864 เดนมาร์กสูญเสียดัชชีชเลสวิชให้กับปรัสเซีย เดนมาร์กยังคงวางตัวเป็นกลางในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และใน ค.ศ. 1920 กว่าครึ่งของบริเวณทางเหนือของชเลสวิกได้กลายเป็นเดนมาร์กอีกครั้ง ต่อมา ในเดือนเมษายน 1940 การรุกรานของเยอรมนีได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เดนมาร์ก ก่อนที่ขบวนการต่อต้านจะทำการตอบโต้ใน ค.ศ. 1943 จนกระทั่งเยอรมนียอมจำนนใน ค.ศ. 1945[19] เดนมาร์กเป็นผู้ส่งออกผลผลิตทางการเกษตรเชิงอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 และมีชื่อเสียงในด้านตลาดแรงงานขนาดใหญ่ และการปฏิรูปประเทศในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ และเป็นจุดเริ่มต้นของรัฐสวัสดิการที่มีระบบเศรษฐกิจแบบผสมผสานที่พัฒนาอย่างสูงมาจนถึงปัจจุบัน[20]
รัฐธรรมนูญแห่งเดนมาร์กลงนามอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 1849 และถือเป็นการสิ้นสุดระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ซึ่งมีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1660 ตามมาด้วยการจัดตั้งระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญซึ่งบริหารแบบรัฐสภา รัฐบาลและรัฐสภาแห่งชาติตั้งอยู่ในกรุงโคเปนเฮเกน[21] ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าหลัก[22] เดนมาร์กถือกรรมสิทธิ์อย่างชอบธรรมในการปกครองหมู่เกาะแฟโรใน ค.ศ. 1948 และการปกครองกรีนแลนด์ใน ค.ศ. 1979 แต่ดินแดนทั้งสองมีฐานะเป็นดินแดนปกครองตนเองจนถึงปัจจุบัน เดนมาร์กกลายเป็นสมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (ปัจจุบันคือสหภาพยุโรป) ใน ค.ศ. 1973 แต่ยังคงใช้สกุลเงินโครนของตนเองมาถึงปัจจุบัน[23]
เดนมาร์กถือเป็นประเทศพัฒนาแล้ว[24] และชาวเดนมาร์กมีคุณภาพชีวิตที่สูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก[25] และอยู่ในอันดับที่สูงในด้านตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ด้านการศึกษา สาธารณสุข การคุ้มครองเสรีภาพพลเมือง ธรรมาภิบาลในระบอบประชาธิปไตย และความเท่าเทียมกันทางเพศ โดยเป็นหนึ่งในประเทศที่ออกกฎหมายคุ้มครองกลุ่มแอลจีบีที[26][27][28] และเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง เนโท, คณะมนตรีนอร์ดิก, องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ, องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป และ สหประชาชาติ และยังเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เชงเกน เดนมาร์กยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเพื่อนบ้านชาวสแกนดิเนเวียในด้านภาษาศาสตร์ โดยภาษาเดนมาร์กสามารถเข้าใจร่วมกันได้กับภาษานอร์เวย์และสวีเดน[29][30]