Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นิสสัน ลีฟ (อังกฤษ: Nissan Leaf) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็ก 5 ประตูขนาดเล็ก ผลิตขึ้นโดยนิสสันและเปิดตัวในประเทศญี่ปุนและประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 ตามด้วยประเทศแคนาดาและหลายประเทศในยุโรปปี พ.ศ. 2554 สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) ได้ทดสอบระยะทางที่ลีฟรุ่นปี 2016 วิ่งได้ไกลสุดจากแบตเตอรีขนาด 30 กิโลวัตต์ชั่วโมงได้ 172 กิโลเมตร (107 ไมล์) ขณะที่แบตเตอรีมีความจุเต็ม ขณะที่แบตเตอรีขนาด 24 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่มีขนาดเล็กกว่าได้ระยะทางไกลสุด 135 กิโลเมตร (84 ไมล์) เท่ากับรุ่นปี 2014/15 แบตเตอรีของลีฟสามารถชาร์จจากความจุว่างเปล่าถึงความจุ 80 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาประมาณ 30 นาทีโดยใช้การชาร์จเร็วแบบกระแสตรง[1]
นิสสัน ลีฟ | |
---|---|
ภาพรวม | |
บริษัทผู้ผลิต | นิสสัน |
เริ่มผลิตเมื่อ | พ.ศ. 2553–2568 (ประมาณ 1,000,000 คัน) |
รุ่นปี | 2011–2025 (ยุโรป และ อเมริกาเหนือ) |
แหล่งผลิต | Japan: Oppama Plant, Yokosuka, Kanagawa, Japan United States: Smyrna, Tennessee United Kingdom: Sunderland (NMUK) |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
ประเภท | รถยนต์นั่งขนาดเล็ก / Small family car (C) |
รูปแบบตัวถัง | แฮทช์แบ็ก 5 ประตู |
โครงสร้าง | เครื่องวางหน้า, ขับเคลื่อนล้อหน้า |
แพลตฟอร์ม | Nissan EV platform (ZE0) (ZE1) |
ระบบส่งกำลัง | |
มอเตอร์ไฟฟ้า | Nissan EM motor, synchronous motor |
กำลัง | 80–160 kW (109–218 PS; 107–215 hp) |
ระบบเกียร์ | 1-speed ปรับอัตราทดเกียร์ 7.937:1 (2011–2012) –> 8.193:1 (2013–2025) |
แบตเตอรี่ | 24 – 62 kWh lithium-ion battery |
ระยะเหตุการณ์ | |
รุ่นก่อนหน้า | นิสสัน อัลทรา (EV) |
ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ลีฟมากกว่า 300,000 คันได้ขายไปแล้วทั่วโลก ทำให้นิสสัน ลีฟเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์[2] ข้อมูลเมื่อ ธันวาคม 2560[update] สหรัฐเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของลีฟโดยขายได้ 114,827 คัน ตามด้วยประเทศญี่ปุ่น 72,500 คันและประเทศในยุโรปเกือบ 68,000 คัน
ในการที่ลีฟเป็นรถพลังงานไฟฟ้า นิสสัน ลีฟจึงไม่ได้ผลิตไอเสียหรือแก๊สเรือนกระจกในขณะขับขี่และช่วยลดการพึ่งพานำมันปิโตรเลียม[3][4] ในบรรดารางวัลที่ได้รับ นิสสัน ลีฟได้รับรางวัล Green Car Vision Award ประจำปี พ.ศ. 2553, European Car of the Year ประจำปี พ.ศ. 2554, World Car of the Year ประจำปี พ.ศ. 2554 และ Car of the Year Japan ประจำปี พ.ศ. 2554–2555
นิสสันได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนของตัวเองในชื่อนิสสัน อัลทร่า ที่งานแสดงรถยนต์นานาชาติลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2540[5] อัลทร่าถูกผลิตในระหว่างปี 2541 และ 2545 ทั้งหมดเพียง 200 คันเท่านั้น และส่วนใหญ่นำมาใช้เป็น "รถฟลีท" สำหรับบริษัทต่าง ๆ เช่น บริษัทที่เกี่ยวกับไฟฟ้า[6][7] นิสสันยังได้พัฒนานิสสัน ไฮเพอร์มินิ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กสามประตูสองที่นั่ง และได้ขายในจำนวนจำกัดแก่รัฐบาลและบริษัทรถฟลีทในประเทศญี่ปุ่นระหว่างปี พ.ศ. 2542 และ พ.ศ. 2544[8] ไฮเปอร์มินิยังถูกนำมาทดวิ่งในหลายเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนียระหว่าง พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2548[9]
นิสสันได้จัดงานเปิดตัวลีฟอย่างเป็นทางการที่สำนักงานใหญ่ในโยโกฮามะเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553[10] ลูกค้าชาวอเมริกันรายแรกได้รับรถที่ตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553[11] และลูกค้าชาวญี่ปุ่นได้รับรถครั้งแรกที่จังหวัดคานางาวะในวันที่ 22 ธันวาคม[12] การส่งมอบให้กับลูกค้ารายย่อยเริ่มขึ้นในไอร์แลนด์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ในสหราชอาณาจักรในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 และในประเทศฝรั่งเศสในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554[13][14][15] การส่งมอบให้กับลูกค้าองค์กรเริ่มขึ้นในโปรตุเกสในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553[16] ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554[17] และในแคนาดาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554[18] การจัดส่งเริ่มต้นในสเปนและนอร์เวย์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2554[19][20] ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554[21] และในเยอรมนีในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555[22][23] ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 นิสสัน ลีฟมีจำหน่ายมากกว่า 60 ประเทศในสี่ทวีป[2]
ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 นิสสันได้ขายลีฟ 49,117 คันทั่วโลกภายในสองปีแรกที่ได้เริ่มทำตลาด ทำให้ลีฟกลายเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดขายมากสุดตลอดกาล[24]ด้วยยอดขายทั่วโลกมากว่า 22,000 หน่วยในปี พ.ศ. 2554[25] และลีฟก็มียอดขายนำมิตซูบิชิ ไอ ไมอีวีกลายเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มียอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์[26] ยอดขายลีฟทั่วโลกในปี พ.ศ. 2555 ได้ 26,973 หน่วย เพิ่มขึ้น 22% จากยอดขายปี พ.ศ. 2554 นำโดยในประเทศญี่ปุ่นด้วยยอดขาย 11,115 หน่วยซึ่งเพิ่มขึ้น 8% จากยอดขายปี พ.ศ. 2554 ตามด้วยประเทศสหรัฐอเมริกา 9,819 หน่วย เพิ่มขึ้น 1.5% จากยอดขายปี พ.ศ. 2554[27] ในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2555 ลีฟได้มีส่วนแบ่งตลาด 49% ของยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนทั้งโลก[28] ยอดขายลีฟดำเนินมาถึง 50,000 หน่วยทั่วโลกในกลางเดือกมกราคม พ.ศ. 2556[29] ลีฟทั้งหมด 47,716 คันได้ถูกขายไปในปี พ.ศ. 2556 เพิ่มขึ้น 77% จากปี พ.ศ. 2555[30] และทำให้ลีฟเป็นรถยนต์เสียบปลั๊กที่ขายได้ดีที่สุดในโลกปี พ.ศ. 2556[31]
ถึงเดือนมกราคมปี พ.ศ. 2557 และหลังจากผ่านไปสามปีแล้วลีฟมียอดขายทั่วโลก 100,000 คันโดยมีส่วนแบ่งตลาด 45% ของรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ที่จำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่ปี พ. ศ. 2553[32] ในช่วงปี พ.ศ. 2557 ลีฟมียอดขาย 61,507 หน่วยทั่วโลก[33] ลีฟได้รับการจัดอันดับให้เป็นรถเสียบปลั๊กที่ขายดีที่สุดในโลกเป็นปีที่สองติดต่อกันและจนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2556[31] ยอดขายรวมทั้งหมดทั่วโลกทั้งสิ้นได้มากกว่า 158,000 หน่วยเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2557[34]
ยอดขายลีฟทั่วโลกได้ผ่าน 200,000 หน่วยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558[35][36] โดยยอดขายทั่วโลกทั้งสิ้น 43,651 หน่วยใน พ.ศ. 2558 ลดลง 29% จาก พ.ศ. 2557[37] ทำให้ลีฟกลายเป็นรถยนต์เสียบปลั๊กที่ขายได้เป็นอันดับสองของโลกรองจากเทสลา โมเดล เอส[31] ในปี พ.ศ. 2558 ประเทศสหรัฐอเมริกาตลาดใหญ่ของลีฟมียอดขาย 17,269 หน่วย ลดลง 42.8% จาก พ.ศ. 2557[38] ตามด้วยยอดขายในยุโรป 15,630 หน่วย[37]
ยอดขายทั่วโลกในปี พ. ศ. 2562 เพิ่มขึ้นเป็น 49,245 คันทำให้ลีฟเป็นรถที่ขายดีเป็นอันดับสองของโลกรองจากเทสลา โมเดล เอสเป็นปีที่สอง ยอดขายในปี พ.ศ. 2559 นำโดยยุโรป 18,718 คัน รองลงมาคือประเทศญี่ปุ่น 14,793 คัน อเมริกาเหนือ 15,512 คัน ส่วนที่เหลือของโลกคิดเป็น 222 คัน[31][39] ยอดขายลีฟทั่วโลกผ่าน 250,000 หน่วยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559[40] และถึง 300,000 หน่วยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ทำให้นิสสัน ลีฟกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์[2] ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เป็นตลาดที่ลีฟขายได้มากที่สุดด้วยยอดขาย 103,597 หน่วยที่ส่งมอบไปแล้ว[41][42] ตามมาด้วยประเทศญี่ปุ่น 72,494 หน่วย[43] และยุโรป 67,829 หน่วย[31][33][37] ตลาดทวีปยุโรปนำโดยประเทศนอร์เวย์ 19,407 คันที่จดทะเบียนใหม่ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559[41][44] เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าที่จดทะเบียนในประเทศเป็นจำนวนมาก โดยมีลีฟทั้งสิ้นประมาณ 27,500 คันบนถนนนอร์เวย์เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559[44][45] ส่วนสหราชอาณาจักรเป็นอันดับสองด้วยยอดขาย 15,000 หน่วยในกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2559[46]
ใน พ.ศ. 2560 ในประเทศสหรัฐอเมริกา นิสสันได้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 16,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคันเพื่อกระตุ้นยอดขาย[47]
ใน พ.ศ. 2561 ในประเทศไทย นิสสันเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า EV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Full EV เต็มรูปแบบอย่าง Nissan LEAF นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ในงาน Motor Expo 2018 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม นี้ @ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี พร้อมเผยราคาอย่างเป็นทางการ 1,990,000 บาท[48]
ในตอนแรก ลีฟที่ขายในตลาดโลกทั้งหมดจะประกอบไปด้วยแพ็ตแบตเตอรี่และไม่สามารถแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ควิกดรอปที่พัฒนาโดยเรโนลท์ได้[49][50] เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 นิสสันประกาศว่าการขายนิสสัน ลีฟ รุ่นปี 2013 จะเริ่มในสหราชอาณาจักรในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 และจะมีตัวเลือกการเช่าแบตเตอรี่สำรับลีฟทั้งสามรุ่นย่อย ราคาสำหรับการเช่าแบตเตอรี่ในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นที่ 70 ปอนด์ (~US$108) ต่อเดือน สำหรับการเช่า 36 เดือนจะจำกัดระยะทางการขับขี่ไม่เกิน 12,100 กิโลเมตร (7,500 ไมล์) ต่อปี และราคาสูงที่สุดสำหรับการเช่ามีราคา 129 ปอนด์ (~US$198) ต่อเดือน สำหรับการเช่า 12 เดือนจะจำกัดระยะทางการขับขี่ไม่เกิน 24,000 กิโลเมตร (15,000 ไมล์) ต่อปี การเช่าแบตเตอรี่นี้ทำให้ราคาของรุ่นเริ่มต้นถูกลงจนอยู่ที่ราคา 20,990 ปอนด์ (~US$32,230) ก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการปลั๊ก-อิน คาร์ แกรนต์ซึ่งเป็นโครงการลดราคารถยนต์ที่เป็นรถยนต์ปลั๊ก-อิน[51][52]
ในหลายประเทศในยุโรปยกเว้น นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์และกลุ่มตลาดบอลติกจะมีการเสนอทางเลือกในการเช่าซื้อซึ่งจะทำให้ลดราคาซื้อได้ถึง 5,900 ยูโร ค่าใช้จ่ายรายเดือนของแบตเตอรี่เริ่มต้นที่ 79 ยูโร (~US$103) สำหรับสัญญาเช่าระยะเวลา 36 เดือนไม่เกิน 12,500 กม. (7,800 ไมล์) ต่อปีโดยมีค่าใช้จ่ายไม่เกิน 142 ยูโร (~US$186) เป็นเวลา 12 เดือน และขับขี่ไม่เกิน 25,000 กิโลเมตร (16,000 ไมล์)[53]
Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) รถพลังงานไฟฟ้าที่ออกจำหน่ายในวงกว้างรุ่นแรกของโลกมียอดการผลิตครบ 500,000 คันเรียบร้อยแล้ว
ความสำเร็จครั้งสำคัญของ Leaf เกิดขึ้นเกือบ 10 ปีหลังจากเจนเนอเรชั่นที่ 1 ได้รับการเปิดตัวออกทำตลาดประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคม 2010 ก่อนที่เจนเนอเรชั่นที่ 2 จะเปิดตัวออกจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2017 สำหรับ Leaf คันที่ 500,000 ถูกส่งมอบให้แก่มาเรีย แจนเซ่น ลูกค้าสุภาพสตรีในประเทศนอร์เวย์เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเธอเปิดเผยว่า ทั้งตัวเธอเองและสามีเลือกรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้เพราะชื่นชอบในคุณภาพ
“เราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เป็นเจ้าของ Nissan Leaf คันที่ 500,000 พอดี รถรุ่นนี้ตอบสนองความต้องการของเราได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยระยะทางขับขี่ที่ไกลและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย” แจนเซ่น กล่าวเพิ่มเติม
ในวันนี้ Nissan Leaf อาจจะมีแววว่าจะลาจากไปในปี พ.ศ. 2568 โดยการนำร่องจากฝั่งยุโรป ที่มีข่าวอย่าหนาหูว่า Nissan Leaf จะถูกแทนที่ด้วยรถยนต์รูปลักษณ์ SUV ขนาดเล็ก โดยในขณะนี้ได้มีการเริ่มต้นพัฒนารถยนต์ที่จะมาแทนตำนานรถยนต์ไฟฟ้าที่ยาวนานของ Leaf โดยข่าวเบื้องต้นอาจส่งผลไปถึงการขายรถยนต์ Nissan Leaf ในฝั่ง อเมริกา และโซนอเมริกาใต้ ด้วยตลาดในโซนอเมริการถชนิด SUV นั้นเป็นตลาดใหญ่ของทวีปเลยก็ว่าได้ ทำให้การเปลี่ยนแปลง Nissan Leaf นั้นอาจเป็นอีกก้าวที่เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ได้ เมื่อเทียบยอดขาย 8 เดือนแรกของปี 2021 ในอเมริกา Nissan Leaf มีการจดทะเบียนเพียง 10,238 คันเท่านั้น เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV ไม่ว่าจะเป็น Chevy Bolt EVs ที่มียอดจดทะเบียนถึง 22,799 คัน และเจ้าตลาด Tesla Model Ys กับยอดการจกทะเบียน 105,445 คัน และแน่นอนตัวเต็งที่จะมาแทน Nissan Leaf นั้นคือ Ariya ที่แผนเดิมควรจะเปิดตัวในปีนี้ แต่เกิดสถานะการการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ จึงต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 2022
Guillaume Cartier ผู้บริหารของ Nissan จากฝั่งยุโรปได้ออกมาให้ข้อมูลว่า Nissan leaf ใน Generation ถัดไปมันจะดูมีความแตกต่างไปจากเดิมเพราะมันจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่จะให้มันมาทำหน้าที่แทนรถ hatchback ไฟฟ้าโดยมันจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2568 นั่นหมายความว่าในตอนนี้ทุกอย่างมันอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Nissan จะมีการลงทุนไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลักในช่วงปี พ.ศ. 2568 โดยและคาดว่าในช่วงปี พ.ศ. 2573 จะทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกได้ถึง 80% และตลาดหลักของพวกเขานั่นก็คือประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งคาดหวังเอาไว้ที่ 40%
หาก Nissan Ariya นั้นเป็นอีวีในรูปแบบที่ต่างไป จึงคาดเดาได้ยากว่ารถรุ่นไหนจะมาแทน LEAF ได้ แต่มีความเป็นไปได้ที่ทายาทแฮทช์แบ็คไฟฟ้า 5 ประตูจะเป็น Nissan Chill-Out concept ที่เคยเปิดตัวในปลายปี 2021 ที่ผ่านมา
Final Call ! Nissan LEAF รถยนต์ไฟฟ้าลดล้างสต๊อก ! LEAF Full Electric 100% 1,990,000 959,000 บาท*
Nissan LEAF รถ EV 100% จากค่าย Nissan ลดราคาล้างสต๊อก (นำเข้า CBU จากญี่ปุ่น) จากราคาเปิดตัว 1,990,000 บาท ราคาล่าสุดเหลือ 959,000 บาท ลดเป็นล้านจากราคาเปิดตัว (ไม่ใช่ส่วนลดจากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลไทย)
สำหรับรถ Nissan LEAF ที่ขายในราคา 959,000 บาท มีจำนวนจำกัดเพียง 40 คันทั่วประเทศ โดยมีการกระจายโควต้าไปยัง 10 ดีลเลอร์ เฉลี่ยดีลเลอร์ละประมาณ 4-5 คัน ส่วนรถที่ขายนั้นเป็นรถใหม่ที่ไม่เคยจดทะเบียนมาก่อน ส่วนเรื่องการรับประกันต้องสอบถามกับผู้ขายอีกที
ข้อมูลเมื่อ มกราคม 2018[update] นิสสัน ลีฟมีวางจำหน่ายแล้วสำหรับลูกค้ารายย่อยในกว่า 60 ประเทศ[2] นับตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2553 ได้มียอดขายกว่า 300,000 คันทั่วโลกจนถึงช่วงต้นเดือนมกราคมปี 2561 ทำให้ลีฟเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกตลอดกาล[2] ข้อมูลเมื่อ ธันวาคม 2016[update] ณ เดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2559 สหรัฐอเมริกามียอดขายสูงสุด 103,597 หน่วย[41][42] ตาตมมาด้วยประเทศญี่ปุ่น 72,494หน่วย[43] และยุโรป 67,829 หน่วย[31][33][37] ตลาดยุโรปนำโดยประเทศนอร์เวย์มีลีฟที่จดทะเบียนใหม่ 19,407 จนถึงเดือนธันวาคม 2559[41][44][44][45] สหราชอาณาจักรครองอันดับที่สองด้วยยอดขาย 15,000 หน่วยภายในกลางเดือนกันยายนปี 2559[46]
ตารางต่อไปนี้แสดงการขายปลีกตามปีนับตั้งแต่การส่งมอบลีฟที่เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553
ประเทศ | รวมทั้งหมด | พ.ศ. 2560 | พ.ศ. 2559 | พ.ศ. 2558 | พ.ศ. 2557 | พ.ศ. 2556 | พ.ศ. 2555 | พ.ศ. 2554 | พ.ศ. 2553 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สหรัฐอเมริกา[38][54][55][56][57] | 114,827 | 11,230 | 14,006 | 17,269 | 30,200 | 22,610 | 9,819 | 9,674 | 19 |
ญี่ปุ่น[33][58][59][60] | 96,999 | 16,925 | 22,375 | 9,057 | 14,177 | 13,021 | 11,115 | 10,310 | 19 |
นอร์เวย์[61][62][63][64] | 22,781 | 3,374 | 4,162 | 3,189 | 4,781 | 4,604 | 2,298 | 373 | |
สหราชอาณาจักร[65][66][67][68] | 22,359 | 5,463 | 4,463 | 5,236 | 4,051 | 1,812 | 699 | 635 | |
ฝรั่งเศส[69] | 12,113 | 2,381 | 3,887 | 2,200 | 1,600 | 1,438 | 524 | 83 | |
แคนาดา[70] | 5,519 | 946 | 1,375 | 1,233 | 1,085 | 470 | 240 | 170 | |
เยอรมณี[71][72][73][74] | 4,918 | 841 | 1,121 | 831 | 812 | 855 | 451 | 7 | |
จีน[75][76] | 4,032(1) | 1,961 | 1,273 | 582 | 216 | ||||
เนเธอร์แลนด์[77][78][79][80] | 3,157 | 513 | 666 | 447 | 510 | 462 | 265 | 294 | |
สวีเดน[81][82][83][84] | 3,542 | 981 | 836 | 841 | 438 | 317 | 129 | ||
สเปน[85][86][87][88][89] | 2,159 | 530 | 344 | 344 | 465 | 263 | 154 | 59 | |
อิตาลี[90][91][92][93][94] | 2,103 | 448 | 460 | 389 | 332 | 323 | 146 | 5 | |
เดนมาร์ก[95] | 1,202 | 20 | 85 | 224 | 577 | 211 | 73 | 12 | |
ไอร์แลนด์[96][97][98][99][100] | 1,366 | 258 | 352 | 405 | 192 | 43 | 69 | 45 | 2 |
เบลเยียม[101][102][103][104][105] | 1,510 | 389 | 466 | 162 | 178 | 141 | 114 | 60 | |
ออสเตรีย[106] | 1,151 | 384 | 333 | 156 | 121 | 88 | 64 | 3 | |
ออสเตเลีย[107][108][109][110] | 997(2) | 384 | 156 | 109(2) | 173 | 188 | 77 | 19 | |
สวิตเซอร์แลนด์[111] | 831 | 131 | 158 | 145 | 106 | 178 | 74 | 39 | |
ยอดรวม | 300,524 | 44,814 | 56,873 | 43,354 | 60,259 | 47,152 | 26,247 | 21,785 | 40 |
ยอดขายทั่วโลกทั้งหมด[25][27][30][33][34][37] | 303,678 | 43,651 | 61,507 | 47,716 | 26,973 | 22,094 | 50 | ||
หมายเหตุ: (1) ยอดขายในประเทศจีนเป็นรถรุ่นเวนูเซีย อี30 (2) ยอดขายในออสเตเลียนับถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.