![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/59/President_Suharto%252C_1993.jpg/640px-President_Suharto%252C_1993.jpg&w=640&q=50)
ซูฮาร์โต
From Wikipedia, the free encyclopedia
จอมพล ซูฮาร์โต (อินโดนีเซีย: Soeharto, Suharto) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ของประเทศอินโดนีเซีย และเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียาวนานที่สุดของประเทศเป็นเวลา 31 ปี โดยได้รับฉายาจากนานาชาติโดยเฉพาะประเทศโลกตะวันตกว่า "The Smiling General"
ซูฮาร์โต | |
---|---|
![]() | |
ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย คนที่ 2 | |
ดำรงตำแหน่ง 12 มีนาคม พ.ศ. 2510 – 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 | |
ก่อนหน้า | ซูการ์โน |
ถัดไป | บาคารุดดิน ยูซุฟ ฮาบีบี |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 8 มิถุนายน พ.ศ. 2464 ยกยากาตา ดัตช์อีสต์อินดีส |
เสียชีวิต | 27 มกราคม พ.ศ. 2551 (86 ปี) จาการ์ตา อินโดนีเซีย |
ศาสนา | อิสลาม |
พรรคการเมือง | พรรคโกลคาร์ |
คู่สมรส | ซิตี ฮาร์ตีนะห์ |
ลายมือชื่อ | ![]() |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
สังกัด | กองทัพบก |
ประจำการ | 1940–1974 |
ยศ | จอมพล (Jenderal Besar) |
บังคับบัญชา | กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย |
ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซูฮาร์โตเป็นผู้นำทางทหารในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของ ญี่ปุ่นและฮอลันดา เรื่อยมาจนได้รับยศพลตรี ซูฮาร์โตมีบทบาทมากจากเหตุการณ์ปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย ในการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2508 จนได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากซูการ์โนในปี พ.ศ. 2510 จนถึงวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 จึงได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังจากการเดินขบวนต่อต้านจากนักศึกษาและประชาชน
ภายใต้ยุคของเขาที่เรียกกันว่า "ยุคระเบียบใหม่" เขาสามารถสร้างรัฐบาลที่เข้มแข็งและใช้ระบบอำนาจรวมศูนย์ ทั้งยังสร้างเสถียรภาพทางการเมืองได้เป็นอย่างดีและมีนโยบายต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ ทำให้เขาได้รับการสนับสนุนจากโลกตะวันตกในช่วงสงครามเย็น ในสมัยของเขาช่วงต้นนั้นประเทศอินโดนิเซียเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในด้านอุตสาหกรรม มีการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด และระดับการศึกษาที่ดีขึ้น[1][2] อย่างไรก็ดี เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในบรรดานักการเมืองที่มีการคอร์รัปชันมากที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขเงินที่คอร์รัปชันไปถึง 15-35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างที่เขายังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี[3][4][5]