![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/7d/Ciprofloxacin.svg/langth-640px-Ciprofloxacin.svg.png&w=640&q=50)
ซิโปรฟลอกซาซิน
From Wikipedia, the free encyclopedia
ซิโปรฟลอกซาซิน (อังกฤษ: Ciprofloxacin) เป็นยาปฏิชีวนะชนิดฟลูออโรควิโนโลน ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียได้หลายโรค[3] เช่น การติดเชื้อที่กระดูกและข้อ การติดเชื้อในช่องท้อง ท้องเสียติดเชื้อบางชนิด การติดเชื้อในระบบหายใจ การติดเชื้อที่ผิวหนัง ไข้ไทฟอยด์ และการติดเชื้อในทางปัสสาวะ เป็นต้น[3] บางครั้งอาจใช้ร่วมกับยาอื่นในการรักษา ยานี้สามารถให้ได้ทางการกิน หยอดตา หยอดหู และฉีดเข้าหลอดเลือดดำ[3][4]
![]() | |
![]() | |
ข้อมูลทางคลินิก | |
---|---|
ชื่อทางการค้า | Ciprobay, Ciloxan, Cipro, Neofloxin, อื่น ๆ |
AHFS/Drugs.com | โมโนกราฟ |
MedlinePlus | a688016 |
ข้อมูลทะเบียนยา |
|
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ | |
ช่องทางการรับยา | ปาก, ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ, เฉพาะที่ (หยอดตา หยอดหู) |
ประเภทยา | Fluoroquinolone |
รหัส ATC | |
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย |
|
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
ชีวประสิทธิผล | 70%[2] |
การจับกับโปรตีน | 30%[2] |
การเปลี่ยนแปลงยา | ตับ (รวม CYP1A2) |
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | 3.5 ชั่วโมง[2] |
การขับออก | ไต |
ตัวบ่งชี้ | |
| |
เลขทะเบียน CAS | |
PubChem CID | |
PubChem SID | |
DrugBank |
|
ChemSpider |
|
UNII | |
KEGG | |
ChEBI | |
ChEMBL |
|
NIAID ChemDB | |
ECHA InfoCard | 100.123.026 |
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
สูตร | C17H18FN3O3 |
มวลต่อโมล | 331.347 g·mol−1 |
แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
SMILES
| |
InChI
| |
(verify) | |
![]() |
อาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ่อย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน และถ่ายเหลว[3] อาการไม่พึงประสงค์รุนแรงที่อาจพบได้แต่ไม่บ่อย ได้แก่ เส้นเอ็นฉีกขาด ประสาทหลอน เส้นประสาทบาดเจ็บ[3] อาจทำให้ผู้ป่วยไมแอสทีเนียเกรวิสมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่แย่ลงได้[3] อัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ของยานี้มากกว่าที่พบจากยาในกลุ่มเซฟาโลสปอรินแต่น้อยกว่าที่พบจากยาคลินดามัยซิน[5] การวิจัยกับสัตว์ชนิดอื่นก่อให้เกิดความกังวลต่อการใช้งานในการตั้งครรภ์[6] อย่างไรก็ตาม ไม่มีการพบปัญหาใด ๆ ในกลุ่มเด็กที่แม่นำยาชนิดนี้มาใช้[6] โดยพบว่ามีความปลอดภัยในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่[3] ฟลูออโรควิโนโลนรุ่นที่สองที่มีกิจกรรมในวงกว้างมักทำให้แบคทีเรียตาย[3][7][8]
มีการจดสิทธิบัตรซิโปรฟลอกซาซินใน ค.ศ. 1980 และเริ่มใช้งานใน ค.ศ. 1987[9][10] จัดให้อยู่ในรายการยาที่จำเป็นขององค์การอนามัยโลก[11][12] ทางองค์การอนามัยโลกจัดให้ซิโปรฟลอกซาซินอยู่ในกลุ่มยาที่มีความสำคัญอย่างมาก[13] โดยปรากฏใช้เป็นยาสามัญ[3][14]