Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซง ฮเย-กโย (เกาหลี: 송혜교; เกิด 22 พฤศจิกายน 2524) เป็นนักแสดงและนางแบบชาวเกาหลีใต้ เธอเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนางแบบให้กับบริษัทเอสเคกรุปและเป็นตัวประกอบในละครโรแมนติกดราม่าเรื่อง รักแรกสุดหัวใจ รักสุดท้ายมิอาจลืม[4] ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในบทชอย อุน-โซ ในละครเรื่อง รักนี้ชั่วนิรันดร์ ซึ่งจากบทบาทนี้ทำให้ซงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ สาขานักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม หลังจากนั้นเธอยังประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในละครเรื่อง เทหน้าตักรักหมดใจ, สะดุดรักที่พักใจ และ รักนี้ไม่ต้องมีบท
ซง ฮเย-กโย | |
---|---|
ซงในเดือนกรกฎาคม 2023 | |
เกิด | 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524[upper-alpha 1] แทกู เกาหลีใต้ |
การศึกษา | มหาวิทยาลัยเซจง |
อาชีพ |
|
ปีปฏิบัติงาน | 2539–ปัจจุบัน |
ตัวแทน | United Artists Agency Jet Tone Films[2] |
ส่วนสูง | 161 cm (5 ft 3 1⁄2 in) |
คู่สมรส | ซง จุง-กี (สมรส 2560; หย่า 2562) |
ชื่อเกาหลี | |
ฮันกึล | |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Song Hye-gyo |
เอ็มอาร์ | Song Hyekyo |
เว็บไซต์ | songhyekyo |
ลายมือชื่อ | |
ในปี 2548 ซงแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง สะดุดรักกับนายเจี๋ยมเจี๊ยม และได้แสดงนำในภาพยนตร์ย้อนยุคเรื่อง จอมนางสะท้านแผ่นดิน ในปี 2556 ซงยังได้รับคำยกย่องในละครเรื่อง สายลมรักในฤดูหนาว ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลแดซังจากงานเอแพนสตาร์อวอร์ดส์ รวมถึงเข้าชิงรางวัลแพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์และเอสบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ขนาดสั้น
หลังจากห่างหายจากการแสดงละครไปนานร่วม 2 ปี ซงกลับมาแสดงละครอีกครั้งในปี 2559 ในละครเรื่อง ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ โดยละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั่วเอเชียและมีเรตติงสูงเกินกว่าร้อยละ 30 ในรอบกว่า 4 ปี ของละครโทรทัศน์เกาหลี[5] ซึ่งทำให้เธอมีชื่อเสียงในระดับฮันรยู[6]
ซง ฮเย-กโย เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2524 ที่แทกู ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างที่ซงเกิดนั้น เธอมีอาการป่วยไม่ทราบสาเหตุ แพทย์และพ่อแม่ของเธอคิดว่าเธอมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก แต่ต่อมาซงฟื้นตัวจากอาการป่วย พ่อและแม่ของเธอจึงไปจดทะเบียนเกิดบุตรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 (แทนที่จะเป็นวันเกิดจริงในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524) [7][8] หลังจากนั้นเขาทั้งสองก็แยกทางกัน โดยซงอาศัยอยู่กับแม่[9] ต่อมา ได้ย้ายไปเขตคังนัม กรุงโซล ที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เธอเป็นฟิกเกอร์สเกตขณะกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนประถมศึกษาแดโดโซล แต่ถึงกระนั้น เธอก็ตัดสินใจขอลาออกขณะอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 8[10] แม้ว่าซงมองตัวเองว่าเป็นคนขี้อายและเก็บตัว แต่ครูในโรงเรียนมัธยมจดจำเธอได้ว่า "เธอเป็นเด็กร่าเริง เข้ากับเพื่อน ๆ ของเธอได้ดี และมักเป็นคนมีอารมณ์ที่สดใสตลอด"[11][12] หลังจากนั้น ซงศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซจง สาขาวิชาศิลปะภาพยนตร์
เมื่อเรียนจบชั้นปีที่สามจากโรงเรียนมัธยมอึนกวังเกิลส์ในปี พ.ศ. 2539 ซงเข้าร่วมประกวดโมเดลทาเลนต์แมนิจเม็นคอนเทสต์ จนได้รับรางวัลชนะเลิศ ซงปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะนางแบบให้กับบริษัทเอสเคกรุ๊ปที่ผลิตเครื่องแบบนักเรียน[13] ในปีเดียวกัน เธอมีบทบาทเล็ก ๆ ในละครโทรทัศน์เกาหลีเรื่องแรกคือ รักแรกสุดหัวใจ รักสุดท้ายมิอาจลืม นอกจากนี้ เธอยังปรากฏในละครซิตคอมเรื่อง Soonpoong Clinic อีกด้วย จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 2543 เธอแสดงละครโรแมนติกดราม่าเรื่อง รักนี้ชั่วนิรันดร์ กำกับโดยยุน ซอกโฮ ออกอากาศทางช่องเคบีเอส แสดงนำร่วมกับซง ซึง-ฮ็อนและวอน บิน โดยเป็นเรื่องราวความรักต้องห้ามระหว่างพี่ชายกับน้องสาว รักนี้ชั่วนิรันดร์ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จอย่างมากมีเรตติงสูงถึงร้อยละ 38.6% และมีผู้ชมมากถึง 46.1% ซึ่งทำให้ละครเรื่องนี้มีเรตติงสูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 25 ของสถานีโทรทัศน์เคบีเอสอีกด้วย รวมถึงทำให้ซงมีชื่อเสียงทั้งในเกาหลีและทั่วเอเชีย สำหรับการแสดงจากละครเรื่องนี้ เธอได้รับรางวัลเคบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ในสาขาขวัญใจช่างภาพและนักแสดงหญิงยอดนิยม อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ในสาขานักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม[14]
ในปี พ.ศ. 2546 ความนิยมของเธอก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเธอแสดงร่วมกับอี บย็อง-ฮ็อนในละครเรื่อง เทหน้าตัก รักหมดใจ[15] ปีถัดมา เธอแสดงร่วมกับเรนในละครรักตลกเรื่อง สะดุดรัก ที่พักใจ โดยเป็นเรื่องราวของฮันจีอุน หญิงสาวผู้มีความฝันที่จะเป็นนักเขียนนวนิยายชื่อดัง แต่ด้วยความไว้ใจที่มีต่อเพื่อน จึงทำให้เธอต้องเสียบ้านที่รักมากที่สุดให้กับลียองเจ ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง แต่ก็เกิดเรื่องราววุ่น ๆ มากมาย เมื่อลียองเจตกหลุมรักเธอเข้า ละครเรื่องนี้ ประสบความสำเร็จทางเรตติงโดยได้รับความนิยมในเกาหลีและโซลอันดับ 1 ตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนจบ[16] และเป็นผลงานสร้างชื่อให้กับซงอีกครั้ง นับตั้งแต่ละครเรื่อง รักนี้ชั่วนิรันดร์ ในปี พ.ศ. 2543 สำหรับการแสดงจากละครเรื่องนี้ เธอกวาด 3 รางวัลจากเคบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ ในสาขาคู่ยอดเยี่ยมร่วมกับเรน นักแสดงหญิงยอดนิยม และยอดเยี่ยมสำหรับนักแสดงหญิง[17] รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทละครโทรทัศน์ แต่พ่ายให้คิม จอง-อึนจากละครเรื่อง ฝันรักปารีส (Lovers in Paris) [18]
หลังจากประสบความสำเร็จทั่วเอเชียของละครเรื่อง สะดุดรัก ที่พักใจ ซงได้แสดงภาพยนตร์ในเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกร่วมกับชา แท-ฮย็อน ในภาพยนตร์เรื่อง สะดุดรักกับนายเจี๋ยมเจี๊ยม (รีเมคจากภาพยนตร์เรื่อง พร่ำหัวใจ เพรียกหารักที่กลางโลก) โดยเป็นเรื่องราวความรักของชายหนุ่มและหญิงสาวในช่วงมัธยม ซึ่งในขณะที่ความรักของทั้งสองคนก่อตัวไปด้วยดีแต่แล้วโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวก็ได้พรากชีวิตเธอไปจากเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีแต่ไม่ประสบความสำเร็จบนตารางบ็อกซ์ออฟฟิส ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคะแนนความนิยมจากเว็บไซต์รอตเทนโทเมโทส์คิดเป็นร้อยละ 68 ซึ่งจัดอยู่ในระดับ "เฟรช"[19] ส่วนเว็บไซต์อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบสได้ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ 7.2 จาก 10 คะแนน[20] สำหรับการแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์และรางวัลแกรนด์เบลล์อวอร์ดส์ ในสาขานักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ อีกด้วย[21][22]
ในปี พ.ศ. 2550 ซงแสดงภาพยนตร์เรื่อง จอมนางสะท้านแผ่นดิน ร่วมกับยู จี-แท กำกับโดยชัง ยุน-ฮย็อน ภาพยนตร์ซึ่งมีบทดัดแปลงมาจากนวนิยายของฮอง ซุค-จุงที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมมันแฮ โดยเป็นเรื่องราวชีวิตจริงของฮวัง จิน-อี นางรำผู้มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยราชวงศ์โชซอน[23][24] เดิมทีช็อน จี-ฮย็อนและซู แอถูกพิจารณาให้รับบทบาทนี้ แต่ผู้กำกับ ชัง ยุน-ฮย็อน ให้เหตุผลที่เลือกซงมารับบทนี้ว่า เขาอยากเปลี่ยนภาพลักษณ์ของซงที่ดู "น่ารักเกินไป"[25] ในปี พ.ศ. 2552 ซงแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดนอกกระแสเรื่อง เมกยัวร์เซลฟ์แอตโฮม เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญจิตวิทยาที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาวที่เกิดมาเพื่อเป็นหมอผีและพยายามที่จะหนีชะตากรรมของเธอด้วยการกลายเป็นเจ้าสาวที่อพยพเข้ามาในสหรัฐอเมริกา[26][27]
หลังจากห่างหายจากการแสดงละครไป 4 ปี ซงกลับมาแสดงอีกครั้งในช่วงปลายปี 2552 ในละครเรื่อง รักนี้ไม่ต้องมีบท ระหว่างถ่ายทำละคร ซงพบกับฮย็อน บินนักแสดงนำในละครเรื่องนี้ พวกเขาเริ่มคบหากันในเดือนมิถุนายน[28][29] และเลิกรากันในปี พ.ศ. 2554[30]
ในปี พ.ศ. 2553 เธอแสดงในภาพยนตร์ 3 เรื่อง 3 สไตล์ เรื่อง รักแรก รักเธอ รักสุดท้าย กำกับโดยผู้กำกับ 3 สัญชาติ ไทย, ญี่ปุ่น และเกาหลี แต่ละตอนจะมีความเชื่อมโยงในแง่ของภพ อดีต, ปัจจุบัน และอนาคต ที่เกิดขึ้นในเมืองปูซาน โดยซงได้ร่วมแสดงในส่วนของอนาคตร่วมกับคัง ดง-วอน ในภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ถูกขโมยความทรงจำทั้งหมดทั้งความรักและคนรักของเขาไป ซึ่งนำไปสู่ชะตากรรมที่ร้ายแรงเมื่อเขาเดินทางเพื่อตามทวงทุกอย่างกลับคืน[31]
ซงยังรับบทเป็นหญิงสาวที่ยอมยกโทษให้กับเด็กอายุ 17 ปี ที่ฆ่าคู่หมั้นของเธอ แต่การให้อภัยในครั้งนี้กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองและผู้อื่นอย่างสาหัส ในภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง ลมหายใจรักมิอาจลืม ออกฉายในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554[32] ซงเป็นแฟนตัวยงของผู้กำกับลี จ็อง-ฮยัง เธอตอบรับทันทีที่ได้รับการติดต่อ[33] ถึงแม้จะมีความยากลำบากในการรับบทนี้[34] แต่ซงบอกว่าเธอตกหลุมรักในบทภาพยนตร์[35][36] และรู้สึกว่าการแสดงของเธอนั้นเต็มที่แล้ว[37] เธอยังพูดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น "จุดเปลี่ยน" ในชีวิตของเธอ[38][39][40][41]
ในปี พ.ศ. 2556 ซงเป็นนักแสดงสมทบในภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่อง ยอดปรมาจารย์ “ยิปมัน” กำกับโดยผู้กำกับชาวจีน หว่อง ก๊า ไหว่[42][43][44] ต่อมา ซงกลับมาร่วมงานกับนักเขียนบทโน ฮี-คย็องจาก รักนี้ไม่ต้องมีบท ในละครเรื่อง สายลมรักในฤดูหนาว ดัดแปลงมาจากละครญี่ปุ่นเรื่อง ไอนันเตะอิราเนะโย, นัทสึ (Ai Nante Irane Yo, Natsu) ในปี พ.ศ. 2545 โดยซงรับบทเป็นหญิงสาวตาบอดที่โดนนักพนันปลอมตัวเป็นพี่ชายของเธอเพื่อหวังมรดก รับบทโดยโช อิน-ซ็อง สายลมรักในฤดูหนาว ประสบความสำเร็จ โดยซงและโชถูกยกย่องในการแสดงของพวกเขา[45][46][47][48][49][50][51][52]
ในปี พ.ศ. 2557 ซงแสดงร่วมกับคัง ดง-วอน ในภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง มายบริลเลียนต์ไลฟ์ (My Brilliant Life) กำกับโดยอี เจ-ยง ภาพยนตร์ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีของคิม แอรันเรื่อง My Palpitating Life โดยเป็นเรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ต้องสูญเสียลูกชายจากโรคชราในเด็กก่อนวัยอันควร[53][54][55][56][57] ในปีเดียวกัน ซงแสดงในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง The Crossing รับบทเป็นโจว เหยุนเผิน ลูกสาวของนายธนาคารที่ร่ำรวย[58][59][60]
ในปี พ.ศ. 2558 ซงแสดงในภาพยนตร์รักตลกเรื่อง The Queens ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการค้นหารักในหญิงสาว 4 คน โดยซงรับบทเป็นหญิงสาวที่พยายามค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง หลังจากเลิกรากับคนรักที่คบหากันมา 8 ปี นำแสดงโดยเฉิน เฉียวเอินและวิเวียน วู กำกับโดยแอนนี อี[61][62]
ในปี พ.ศ. 2559 ซงแสดงร่วมกับซง จุง-กีในละครเรื่อง ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ โดยเป็นเรื่องราวของร้อยเอกแห่งกำลังพิเศษและศัลยแพทย์ที่ตกหลุมรักกันท่ามกลางพื้นที่ภัยพิบัติอันตรายในประเทศอูรุก ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยได้รับเรตติงในตอนจบทั่วประเทศสูงถึงร้อยละ 38.8% และ 41.6% ในเขตเมืองหลวง[63][64] จากความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นทั่วทั้งเกาหลีและเอเชีย ทำให้เธอมีชื่อเสียงในระดับฮันรยู[65] สำหรับการแสดงจากละครเรื่องนี้ ซงถูกเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากรางวัลแพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์[66] และเอแพนสตาร์อวอร์ดส์ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ขนาดสั้น รวมถึงเข้าชิงรางวัลแดซังซึ่งเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในงาน[6]
ปี | เรื่อง | บทบาท |
---|---|---|
2539 | รักแรกสุดหัวใจ รักสุดท้ายมิอาจลืม | หนึ่งในนักเรียนที่กำลังเรียนหนังสือของลี ฮโย-คย็อง |
2540 | When They Met | นักแสดงเพิ่มเติม |
Happy Morning | โอ เย-บุน | |
2540–2541 | Wedding Dress | หลานสาว |
2541 | Six Siblings | ชเว อึน-ชิล |
One of a Pair | นักแสดงเพิ่มเติม | |
2541–2543 | Soonpoong Clinic | โอ ฮเย-กโย |
2541 | White Nights 3.98 | วัยสาวของฮง ช็อง-ย็อน |
Deadly Eyes | ช็อง-อา | |
2541–2542 | How Am I? | เย-ริน |
2542–2543 | Marching | ซง ฮเย-กโย |
Sweet Bride | น้องสาวของมิน-ฮี | |
2543 | รักนี้ชั่วนิรันดร์ | ยุน/ชอย อุน-โซ |
2544 | Guardian Angel | ช็อง ดา-โซ |
Hotelier | คิม ยุน-ฮี | |
2546 | เทหน้าตักรักหมดใจ | มิน ซู-ย็อน |
Sunlight Pours Down | จี ย็อน-อู | |
2547 | สะดุดรักที่พักใจ | ฮัน จี-อึน |
2551 | รักนี้ไม่ต้องมีบท | จู จุน-ย็อง |
2556 | สายลมรักในฤดูหนาว | โอ ย็อง |
2559 | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | คัง โม-ย็อน |
2561–2562 | หัวใจพบรัก | ชา ซู-ฮย็อน |
2564 | Now, we are Breaking Up | ฮา ย็อง-อึน |
2565 | เดอะกลอรี | มุน ดง-อึน |
ปี | เรื่อง | บทบาท |
---|---|---|
2548 | สะดุดรักกับนายเจี๋ยมเจี๊ยม | แพ ซู-อึน |
2550 | จอมนางสะท้านแผ่นดิน | ฮวัง จิน-อี |
2551 | เมกยัวร์เซลฟ์แอตโฮม | ซุกไฮ |
2553 | รักแรก รักเธอ รักสุดท้าย | โบ-รา |
2554 | Countdown | ผู้หญิงที่น่ารัก (รับเชิญ) |
ลมหายใจรักมิอาจลืม | ดา-แฮ | |
2556 | ยอดปรมาจารย์ “ยิปมัน” | จาง หย่งเฉิน |
2557 | มายบริลเลียนต์ไลฟ์ | มี-รา |
The Crossing: Part 1 | โจว เหยุนเผิน | |
2558 | The Queens | แอนนี่ |
The Crossing: Part 2 | โจว เหยุนเผิน |
ปี | เพลง | ศิลปิน | ร่วมกับ |
---|---|---|---|
2539 | "This Promise" | คิม ซู-กึน | |
2543 | "Curious Destiny" | ชิน ซ็อง-อู | ชิน ซ็อง-อู |
2544 | "Once Upon a Day" | คิม บอม-ซู | ซง ซึง-ฮ็อน, จี จิน-ฮี |
ปี | รายการ | ร่วมกับ | เครือข่าย |
---|---|---|---|
2541 | โก! อาวเฮฟเวน | เอ็มบีซี | |
อินกีกาโย ไลฟ์ 20 | พัก ซู-ฮง | เอสบีเอส | |
2542–2543 | อาวแฮปปีแซเทอร์เดย์ | พัก ซู-ฮง | เอสบีเอส |
2543 | มิวสิกแบงก์ | อี ฮวี-แจ | เคบีเอส |
2544 | เอ็มเน็ตเอเชียนมิวสิกอะวอดส์ | ชา แท-ฮย็อน | เอ็มเน็ต |
2550 | ชีส์โอลีฟ: ซง ฮเย-กโย อินปารีส | โอ'ลีฟ | |
ปี | รางวัล | สาขา | ผลงานที่เข้าชิง | ผล |
---|---|---|---|---|
2539 | ซันคย็องสมาร์ทโมเดลคอนเทสต์ | รางวัลแดซัง | ชนะ | |
2541 | เอสบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ | นักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ในละครซิตคอม | How Am I? | ชนะ |
2543 | เคบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ | ขวัญใจช่างภาพ | รักนี้ชั่วนิรันดร์ | ชนะ |
นักแสดงหญิงยอดนิยม | ชนะ | |||
2544 | แพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 37 | นักแสดงหญิงยอดนิยม (โทรทัศน์) | ชนะ | |
นักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (โทรทัศน์) | เสนอชื่อเข้าชิง | |||
โกลด์ซงอวอร์ดส์ | ดารายอดนิยมที่สุดในเกาหลี | ชนะ | ||
โกลเดนดิสก์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 16 | มิวสิกวิดีโอยอดนิยม | Once Upon a Day | ชนะ | |
เอสบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ | ท็อปเทนสตาร์ส | Guardian Angel | ชนะ | |
รางวัลเอสบีเอสไอ | ชนะ | |||
2545 | ซีอีทีวี อวอร์ดส์ | ผู้ให้ความบันเทิงในเอเชีย | ชนะ | |
2546 | เอสบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ | ท็อปเทนสตาร์ส | เทหน้าตักรักหมดใจ | ชนะ |
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม | ชนะ | |||
2547 | เคบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ | คู่ยอดเยี่ยม ร่วมกับ เรน | สะดุดรักที่พักใจ | ชนะ |
นักแสดงหญิงยอดนิยม | ชนะ | |||
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม | ชนะ | |||
2548 | แพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 41 | นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (โทรทัศน์) | เสนอชื่อเข้าชิง | |
2549 | แพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 42 | นักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (ภาพยนตร์) | สะดุดรักกับนายเจี๋ยมเจี๊ยม | เสนอชื่อเข้าชิง |
แกรนด์เบลล์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 43 | นักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
2550 | บลูดราก้อนฟิล์มอวอร์ดส์ ครั้งที่ 28 | นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม | จอมนางสะท้านแผ่นดิน | เสนอชื่อเข้าชิง |
โคเรียนฟิล์มอวอร์ดส์ ครั้งที่ 6 | นักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม | ชนะ | ||
2551 | เคบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ | นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ขนาดสั้น | รักนี้ไม่ต้องมีบท | เสนอชื่อเข้าชิง |
2554 | วีเมนอินฟิล์มโคเรียนอวอร์ดส์ ครั้งที่ 12 | นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม | ลมหายใจรักมิอาจลืม | ชนะ |
2556 | แพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 49 | นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (โทรทัศน์) | สายลมรักในฤดูหนาว | เสนอชื่อเข้าชิง |
เอ็มเน็ตทเวนตีส์ชอยส์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 7 | ทเวนตีส์ดราม่าสตาร์ – ฟีเมน | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
โซลอินเตอร์แนชั่นแนลดราม่าอวอร์ดส์ ครั้งที่ 8 | นักแสดงหญิงชาวเกาหลีดีเด่น | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
โคเรียดราม่าอวอร์ดส์ ครั้งที่ 6 | สุดยอดนักแสดงแห่งปี | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
เอแพนสตาร์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 2 | นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ขนาดสั้น | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
รางวัลแดซัง | ชนะ | |||
เอสบีเอสดราม่าอวอร์ดส์ | คู่ยอดเยี่ยม ร่วมกับ โช อิน-ซ็อง | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
ท็อปเทนสตาร์ | ชนะ | |||
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ขนาดสั้น | ชนะ | |||
2559 | แพ็กซังอาร์ตส์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 52 | นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทละครโทรทัศน์ | ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ | เสนอชื่อเข้าชิง |
นักแสดงหญิงยอดนิยม ประเภทละครโทรทัศน์ | ชนะ | |||
รางวัลสเปเชียลไอกีอี | ชนะ | |||
เอแพนสตาร์อวอร์ดส์ ครั้งที่ 5 | รางวัลแดซัง | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์ขนาดสั้น | เสนอชื่อเข้าชิง | |||
คู่ยอดเยี่ยม ร่วมกับ ซง จุง-กี | ชนะ |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.