ลอสแอนเจลิส
นครในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ / From Wikipedia, the free encyclopedia
ลอสแอนเจลิส (อังกฤษ: Los Angeles /lɔːs ˈændʒələs/ ( ฟังเสียง); สเปน: Los Ángeles, ออกเสียง: [los ˈaŋxeles])[1] หรือที่รู้จักในชื่อ แอลเอ (L.A.) เป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดอันดับสองในสหรัฐโดยเป็นรองเพียงนิวยอร์ก และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนียด้วยจำนวนผู้อาศัยประมาณ 3.9 ล้านคนภายในเขตเมืองใน ค.ศ. 2020 ลอสแอนเจลิสเป็นศูนย์กลางทางการค้าและวัฒนธรรมในภูมิภาคเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย มีจุดเด่นในด้านสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นจากภูมิภาคอื่นโดยเฉพาะชาวเอเชียและอเมริกาใต้เข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากลักษณะของอากาศที่อบอุ่นสบาย และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการปะปนของวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก
ลอสแอนเจลิส Los Angeles | |
---|---|
ที่ตั้งในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส | |
พิกัด: 34°03′N 118°15′W | |
ประเทศ | สหรัฐ |
รัฐ | รัฐแคลิฟอร์เนีย |
เทศมณฑล | ลอสแอนเจลิส |
ท่าอากาศยาน | ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส |
เว็บไซต์ | www |
ชื่อลอสแอนเจลิส (Los Angeles) /lɒs.ˈæn.dʒə.lɪs/ มาจากคำว่า โลสอังเฆเลส (สเปน: Los Ángeles) /los.'aŋ.xe.les/ ในภาษาสเปน หมายถึง ทูตสวรรค์หลายองค์ เป็นรูปพหูพจน์ของคำว่า el ángel ซึ่งเป็นเพศชายชื่อเมืองจึงมีความหมายว่า "เมืองแห่งทูตสวรรค์" พื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในแอ่งทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันตก และขยายบางส่วนผ่านเทือกเขาซานตาโมนิกาและทางเหนือสู่หุบเขาซานเฟอร์นันโด โดยใจกลางเมืองติดกับหุบเขาซานกาเบรียลทางทิศตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 469 ตารางไมล์ (1,210 ตารางกิโลเมตร) และเป็นที่ตั้งเทศมณฑลลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นเทศมณฑลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐด้วยประชากร 10 ล้านคนใน ค.ศ. 2022[2] ลอสแอนเจลิสยังเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมาเป็นอันดับสามในสหรัฐ ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 4.6 ล้านคนใน ค.ศ. 2019
พื้นที่ปัจจุบันของลอสแอนเจลิสเคยเป็นถิ่นอาศัยของชาวตองวาพื้นเมืองซึ่งในเวลาต่อมาดินแดนทั้งหมดถูกอ้างเป็นกรรมสิทธิ์ของสเปนโดย ฆวน โรดริเกซ กาบรีโย ใน ค.ศ. 1542 ลอสแอนเจลิสเริ่มตั้งเป็นเมืองเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1781 โดยฟิลิป เดอ เนฟในขณะที่มีประชากร 1,610 คน ต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโกในต้นศตวรรษที่ 19 ภายหลังสงครามประกาศเอกราชเม็กซิโก ต่อมา ลอสแอนเจลิสและดินแดนส่วนที่เหลือของรัฐแคลิฟอร์เนียถูกซื้อโดยเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญากัวดาลูเป อีดัลโก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐ ก่อนที่จะถูกรวมเป็นเทศบาลเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1850 ห้าเดือนก่อนที่แคลิฟอร์เนียจะมีสถานะกลายเป็นรัฐของสหรัฐ มีการค้นพบปิโตรเลียมในช่วงทศวรรษที่ 1890 ทำให้เศรษฐกิจและชื่อเสียงของเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว[3] ลอสแอนเลลิสได้รับการขยายเมืองจากการสร้างสะพานส่งน้ำลอสแอนเจลิสซึ่งเสร็จสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1913 ซึ่งส่งน้ำจากบริเวณแคลิฟอร์เนียตะวันออก
ลอสแอนเจลิสเป็นที่รู้จักในฐานะที่ตั้งของฮอลลีวูดซึ่งมีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ และการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก และมีท่าเรือที่คับคั่งที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปอเมริกา[4][5] ใน ค.ศ. 2018 มหานครลอสแอนเจลิสมีผลิตภัณฑ์มหานครรวมมากกว่า 1.0 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[6] ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่มีอัตราจีดีพีสูงเป็นอันดับสามของโลก และยังเป็นปลายทางของถนนสายประวัติศาสตร์ ทางหลวงสหรัฐหมายเลข 66 ลอสแอนเจลิสเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ได้แก่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) และมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย (USC) ทีมกีฬาที่มีชื่อเสียงในเมือง ได้แก่ ลอสแอนเจลิสเลเกอส์ (บาสเกตบอล) ลอสแอนเจลิส คลิปเปอร์ส (บาสเกตบอล) ลอสแอนเจลิส สปาร์ค (บาสเกตบอลหญิง) ลอสแอนเจลิส ดอดจ์เจอร์ส (เบสบอล) ลอสแอนเจลิส คิงส์ (ฮอกกี้น้ำแข็ง) ลอสแอนเจลิส กาแลกซี (ฟุตบอล) และ ซี.ดี. ชีวาส ยูเอสเอ (ฟุตบอล) ลอสแอนเจลิสได้เคยเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูร้อนสองครั้งใน ค.ศ. 1932 และ ค.ศ. 1984 และจะเป็นเจ้าภาพครั้งที่สามในโอลิมปิกฤดูร้อน 2028 ปัจจุบันลอสแอนเจลิสกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง