สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น
From Wikipedia, the free encyclopedia
สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น (รัสเซีย: Ру́сско-япóнская войнá, อักษรโรมัน: Rússko-yapónskaya voyná; ญี่ปุ่น: 日露戦争, อักษรโรมัน: Nichiro sensō, แปลตรงตัว 'สงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย') เป็น สงครามครั้งใหญ่ครั้งแรกในศตวรรษที่ 20 อันเนื่องมาจากลัทธิจักรวรรดินิยมของจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิญี่ปุ่น ในบริเวณทางใต้ของแมนจูเรียในพื้นที่คาบสมุทรเหลียวตง, เฉิ่นหยาง และบริเวณเกาหลีในพื้นที่คาบสมุทรเกาหลี, ทะเลเหลือง
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
จากบน ซ้ายไปขวา: เรือลาดตระเวนรัสเซีย ปาเบดา ขณะปะทะ, ทหารราบญี่ปุ่นเดินข้ามแม่น้ำยาลู่, กองทหารม้ารัสเซียที่มุกเดน, ศพทหารญี่ปุ่นที่พอร์ตอาเธอร์, เรือลาดตระเวนรัสเซีย วาร์ยัก | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
จักรวรรดิรัสเซีย ราชรัฐมอนเตเนโกร[1] | จักรวรรดิญี่ปุ่น | ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ซาร์แห่งรัสเซีย อะเลคเซย์ กูโรแพทกิน ออสการ์ กริเปนเบิร์ก รัฐมนตรีว่าการสงคราม สเตปัน มาคารอฟ † ผบ.กองเรือแปซิฟิก ผบ.กองพลทหารราบที่สอง วิลเง็มล์ วีลเกียฟต์ † ผบ.กองเรือแปซิฟิก ซีโนวี โรซเดสท์เวนสกี ผบ.กองเรือบอลติก |
จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น โอยามะ อิวาโอะ รัฐมนตรีว่าการสงคราม โคดามะ เก็นตาโร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โนงิ มาเรซูเกะ ผบ.กองพลทหารราบที่สาม โทโง เฮฮาจิโร ผบ.กองเรือผสม | ||||||||
กำลัง | |||||||||
ราว 500,000 นาย | ราว 300,000 นาย | ||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
ตายในการรบ 32,904 บาดเจ็บตาย 6,614 ป่วยตาย 11,170 บาดเจ็บ 146,032 เชลย 74,369[2][3] |
ตายในการรบ 47,387 บาดเจ็บตาย 11,425 ป่วยตาย 27,192 บาดเจ็บ 173,425 [2][3] |
รัสเซียได้ร้องขอท่าเรือน้ำอุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกไว้ [4] เพื่อใช้งานด้านกองทัพเรือและการค้าทางทะเลของรัสเซีย เนื่องจากนครวลาดิวอสต็อกของรัสเซียสามารถเปิดดำเนินการได้อย่างเต็มที่เฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น แต่เมืองพอร์ตอาเธอร์ (ลวี่ชุนเกาในปัจจุบัน) สามารถเปิดดำเนินการได้ตลอดทั้งปี ซึ่งตั้งแต่สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ยุติลง ในปี 1903 รัสเซียไม่สามารถตกลงและเจรจากับญี่ปุ่นได้[5] ญี่ปุ่นจึงเลือกวิธีการทำสงครามเพื่อให้ได้ครอบงำคาบสมุทรเกาหลี ภายหลังการเจรจาอันยากเย็นได้จบลงในปี 1904 กองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นได้เข้าโจมตีภาคตะวันออกของรัสเซียที่พอร์ตอาเธอร์ และฐานทัพเรือในจังหวัดเหลียวตง ที่รัสเซียเช่าจากจีนอยู่ รัสเซียไม่สามารถต้านทานแสนยานุภาพของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้ไม่ว่าจะทั้งทั้งทางบกและทางทะเล
ผลการรบคือกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ได้รับชัยชนะเหนือกองทัพของจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งเป็นที่ไม่คาดคิดสำหรับประเทศผู้สังเกตการณ์ต่างๆ จากสงครามครั้งนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนสมดุลของขั้วอำนาจโลก ญี่ปุ่นก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจแทนรัสเซีย