อาการท้องอืด
From Wikipedia, the free encyclopedia
คำศัพท์แพทย์ภาษาอังกฤษว่า flatulence (อาการท้องอืด[1][2]) ใช้ในวรรณกรรมแพทย์โดยมีความหมายว่า "ลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ที่ขับออกผ่านทวารหนัก" หรือ "ลักษณะหรือภาวะที่มีลมในกระเพาะอาหารหรือลำไส้"[3] โดยคำว่า flatulent ก็ "กำหนดโดยหรือมีผลเป็นแก๊สที่เกิดในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร ซึ่งน่าจะทำให้ท้องอืดเนื่องจากการย่อยอาหาร"[4] รากศัพท์ภาษาอังกฤษมาจากคำละตินว่า flatus ซึ่งแปลตามศัทพ์ว่า "ลมพัด ลมผาย"[5] และราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่า "๑. ลมเรอ ๒. ลมผาย"[6] อนึ่ง คำว่า flatus ก็เป็นศัพท์แพทย์โดยหมายถึงแก๊สที่เกิดในกระเพาะหรือลำไส้ด้วย[7] อย่างไรก็ดี แม้คำจะมีความหมายเช่นนี้ แต่แก๊สในกระเพาะลำไส้โดยส่วนหนึ่งก็เป็นอากาศภายนอกที่กลืนเข้าไป และดังนั้น ลม/แก๊สเช่นนี้จึงไม่ได้เกิดเพียงในกระเพาะลำไส้เท่านั้น การศึกษาทางวิทยาศาสตร์เนื่องกับการแพทย์ในเรื่องนี้เรียกว่า flatology[8]
อาการท้องอืด (Flatulence) | |
---|---|
ชาวเยอรมันผายลมต้อนรับไฟกำมะถันเนื่องกับการลงโทษในนรกที่กล่าวถึงในสารตราพระสันตะปาปาของสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 3 ในหนังสือ พรรณนาเรื่องพระสันตะปาปา (Depictions of the Papacy) ของผู้ปฏิรูปศาสนาคริสต์มาร์ติน ลูเทอร์ปี ค.ศ. 1545 | |
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | R14.2 |
ICD-9 | 787.3 |
MeSH | D005414 |
การผายลมในกระเพาะและลำไส้ออกทางทวารหนักเป็นเรื่องปกติ แม้จะมีปริมาณและบ่อยครั้งต่างกันมากในระหว่างบุคคลต่าง ๆ และลมที่ผายก็จะเหม็นอย่างเป็นกลิ่นเฉพาะโดยเป็นปกติด้วยเหมือนกัน แม้จะเหม็นน้อยมากไม่เท่ากัน ลมจะดำเนินไปสู่ทางทวารหนักโดยอาศัยการบีบตัวอย่างพิเศษของกล้ามเนื้อลำไส้ ส่วนเสียงตดมีเหตุจากการสั่นของกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักด้านใน และบางครั้งเกิดจากแก้มก้นที่ปิดอยู่ ทั้งเสียงและกลิ่นเนื่องจากการผายลมอาจเป็นเรื่องน่าอายหรือเรื่องตลกในวัฒนธรรมต่าง ๆ
มีอาการ 4 อย่างหลัก ๆ เนื่องกับแก๊สในลำไส้ คือ เจ็บปวด/ท้องอืด/ท้องพอง ลมในกระเพาะลำไส้มากเกิน ตดเหม็นมาก และกลั้นตดไม่ได้ อนึ่ง การเรอก็รวมอยู่ด้วยในเรื่องนี้[9] คือปกติมนุษย์ขับแก๊สส่วนเกินออกจากร่างกายได้ 2 ทาง คือ การขับออกทางปาก (เรอ) และการขับออกทางทวารหนัก (ผายลม หรือตด) หากแก๊สนั้นไม่ขับออกมาจะทำให้สะสมไว้ในทางเดินอาหาร แล้วทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ปวดมวนในท้อง และเกิดอาการท้องอืดตามมา