Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 (อังกฤษ: Samsung Galaxy S8; ชื่อรหัส Project Dream[5]) เป็นสมาร์ตโฟนลำดับที่ 8 ในชุดกาแลคซีเอส ผลิตโดยซัมซุง เปิดตัวครั้งแรกที่นครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2017[6] มีด้วยกัน 2 รุ่นคือเอส 8 และเอส 8 พลัส ทั้งสองรุ่นมีขอบจอโค้งเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ขนาดจอและแบตเตอรี[7] ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 มีการพัฒนาจากรุ่นก่อนคือลดพื้นที่ขอบจอด้านบนและด้านล่างลง เพื่อให้จอแสดงผลมีพื้นที่มากขึ้น, ด้านหน้าเปลี่ยนมาใช้ระบบสัมผัสแทนปุ่มกดและย้ายตัวสแกนลายนิ้วมือไปไว้ด้านหลัง, รองรับการสแกนม่านตา, เพิ่ม Bixby ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ผู้ช่วยปัญญาตัวใหม่ของซัมซุงและมีอุปกรณ์เสริมคือ Samsung DeX ที่สามารถเปลี่ยนการทำงานของเอส 8 ให้เป็นแบบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้[8][9][10][11] ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 เปิดตัวด้วย 5 สีได้แก่ดำ, เทา/ม่วง, ฟ้า, เงินและทอง[12] วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2017[13]
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 และเอส 8+ | |
รหัสชื่อ | Project Dream |
---|---|
ตราสินค้า | ซัมซุง กาแลคซี |
ผู้พัฒนา | ซัมซุง |
ผู้ผลิต | ซัมซุง |
สโลแกน | Unbox Your Phone |
ซีรีส์ | ซัมซุง กาแลคซีเอส |
เปิดตัวครั้งแรก | 21 เมษายน 2017 |
ขายในประเทศ | 28 เมษายน 2017 |
รุ่นก่อนหน้า | ซัมซุง กาแลคซีเอส 7 |
รุ่นถัดไป | ซัมซุง กาแลคซีเอส 9 |
รุ่นที่เกี่ยวข้อง | ซัมซุง กาแลคซี โน้ต 7 |
รูปแบบ | สมาร์ตโฟนจอสัมผัส |
ขนาด | S8: สูง 148.9 mm (5.86 in) กว้าง 68.1 mm (2.68 in) หนา 8.0 mm (0.31 in) S8+: สูง 159.5 mm (6.28 in) กว้าง 73.4 mm (2.89 in) หนา 8.1 mm (0.32 in) |
น้ำหนัก |
|
ระบบปฏิบัติการ | ดั้งเดิม: แอนดรอยด์ 7.0 "นูกัต" พร้อมซัมซุง เอกซ์พีเรียนซ์ 8.1 ปัจจุบัน: แอนดรอยด์ 9 "พาย" พร้อม วัน ยูไอ |
ระบบบนชิป | |
ซีพียู |
|
จีพียู |
|
หน่วยความจำระบบ | 4 GB LPDDR4X |
หน่วยความจำ | 64 GB UFS 2.1 |
หน่วยความจำภายนอก | microSDXC, รองรับได้ถึง 256 GB |
แบตเตอรี่ |
|
การป้อนข้อมูล | เซ็นเซอร์:
|
จอแสดงผล |
|
กล้องหลัง | 12 ล้านพิกเซล (1.4 µm), f/1.7 aperture, 4K ที่ 30 fps, 1080p ที่ 60 fps, 720p ที่ 240 fps |
กล้องหน้า | 8 ล้านพิกเซล, ออโตโฟกัส |
เว็บไซต์ | www |
อ้างอิง | [1][2][3][4] |
ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็มีข่าวลือต่าง ๆ ในโลกออนไลน์จาก SamMobile ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 โดนเนื้อข่าวรายงานว่าซัมซุง กาแลคซีเอส 8 จะไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรอีกต่อไปแล้ว[14] แต่หลังจากนั้น ข่าวลือก็ไม่เป็นความจริง[15] ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 สำนักข่าว เดอะการ์เดียน รายงานว่า ส่วนของหน้าจอทั้งสองขนาดนั้นจะมีขอบจากฝั่งไปอีกฝั่งที่บางมากและมีระบบสแกนม่านตาเพิ่มเข้ามา[16] นอกจากนี้ เดอะการ์เดียน ยังยืนยันว่าโทรศัพท์รุ่นนี้จะมาพร้อมความจำ 64 จิกะไบต์และรองรับไมโครเอสดีการ์ด ส่วนพอร์ทการชาร์จใช้ USB-C และผู้ช่วยอัจฉริยะที่ชื่อว่า "Bixby"[16][17][18] ไม่นานหลังจากนั้น สำนักข่าว เวนเจอร์บีท ได้เผยโฉมโทรศัพท์รุ่นนี้ออกมา โดยพบว่าปุ่มควบคุมด้านล่างได้นำออกไป แทนที่ด้วยระบบสัมผัสบนหน้าจอ ส่วนระบบสแกนรอยนิ้วมือได้ย้ายไปอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง[19][20][21] ในกลางเดือนมีนาคม อีแวน แบลส ได้ทวีตในทวิตเตอร์เกี่ยวกับสีของรุ่นนี้[22][23]
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 และเอส 8+ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560 และเริ่มเปิดจองที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม[13][24] ในสหราชอาณาจักรได้มีการเริ่มรับจองเมื่อวันที่ 29 มีนาคมจนถึง 19 เมษายน โดยการจองในล็อตแรกจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าในวันที่ 20 เมษายน ก่อนที่จะจำหน่ายจริงในวันที่ 28 เมษายน[25] ในประเทศอินเดียได้เริ่มจำหน่ายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม[26]
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 และเอส 8+ ทั้งคู่นั้น มีขนาดความละเอียดของหน้าจอที่ 1440p ใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED และมีอัตราส่วนหน้าจอที่ 18.5:9 ซึ่งมีความสูงมากกว่าอัตราส่วนหน้าจอแบบ 16:9 ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ รุ่นเอส 8 นั้นมีหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว ส่วนรุ่นเอส 8+ มีหน้าจอขนาดใหญ่กว่าคือ 6.2 นิ้ว จอแสดงผลนั้นได้โค้งงอไปตามด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งขอบนั้นบางมากจนไม่เห็นขอบข้างของตัวเครื่องเมื่อมองจากด้านหน้า ทำให้ซัมซุงนั้นได้โฆษณามือถือรุ่นนี้ว่า Infinity Display ส่วนขอบของหน้าจอแสดงผลนั้นได้ทำให้มีความโค้งมนขึ้น[13] คุณสมบัติของเอส 8 นั้นมาพร้อมกับชิปเอ็กซีนอส จำนวน 8 หัวและมีแรมขนาด 4 GB ส่วนในฝั่งประเทศในอเมริกาเหนือนั้นใช้ชิปควอลคอมม์ สแนปดรากอน 835 แทน โดนชิปทั้งคู่นั้นได้ผลิตโดยซัมซุงในสถาปัตยกรรมขนาด 10 นาโนเมตร[13][27] ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาด 64 GB และสามารถเพิ่มได้โดยใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก[13] กาแล็คซี่ เอส 8 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับบลูทูธ 5 และรองรับความสามารถใหม่ เช่น เชื่อมต่อหูฟังไร้สายสองเครื่องในครั้งเดียว[28] และได้แถมหูฟัง Harman AKG มาให้ในกล่องด้วย[29][30] โดยสมาร์ทโฟนทั้งคู่นี้นั้นได้ปรับปรุงการนำทางด้วยดาวเทียมจากรุ่นก่อนโดยเพิ่มตัวรับกาลิเลโอ[1]
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 นั้นไม่ได้ใช้ปุ่มนำทางที่ด้านล่างของหน้าจอเหมือนรุ่นก่อน ๆ อีกแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นปุ่มบนจอแทน[13] อย่างไรก็ตาม ปุ่มโฮมยังสามารถใช้งานได้ในขณะที่ซ่อนหรือหน้าจอปิดอยู่ และหน้าจอของกาแลคซีเอส 8 นั้นมีความสามารถในการรองรับแรงกดดันได้เฉพาะปุ่มโฮมเท่านั้น[31] ส่วนปุ่มโฮมจะมีการเคลื่อนย้ายตำแหน่งเพียงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการจอเบิร์น[32][33] กล้องหลังของซัมซุง กาแลคซีเอส 8 นั้น มีขนาด 12 ล้านพิกเซล และใช้เทคโนโลยี "Dual Pixel" เหมือนซัมซุง กาแลคซีเอส 7 แต่มีการพัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์ใหม่ ส่วนกล้องหน้าอัปเกรดเซนเซอร์ใหม่เป็น 8 ล้านพิกเซลและพร้อมระบบออโตโฟกัส[13][34] คุณสมบัติการสแกนลายนิ้วมือได้มีการย้ายไปด้านหลังในตำแหน่งข้างตัวกล้อง สาเหตุที่ย้ายก็มาจากการเปลี่ยนแปลงปุ่มโฮมไปเป็นแบบ On-Screen แทน[13] นอกเหนือจากการสแกนม่านตา กาแลคซีเอส 8 ก็มีคุณสมบัติสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกอีกด้วย[35][36] ซึ่งเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าหรือสแกนใบหน้านี้ ก็เคยได้ใช้ในรุ่นก่อนหน้า เช่น ซัมซุง กาแลคซีเอส 3[37] และซัมซุง กาแลคซีเอส 4[38]
ตัวเครื่องของเอส 8 และเอส 8+ ได้ใช้แบตเตอรีที่ไม่สามารถถอดได้ขนาด 3000 และ 3500 mAh ตามลำดับ ซึ่งซัมซุงได้กล่าวไว้ว่าได้ใช้เวลาปรับปรุงและทดลองแบตเตอรีสำหรับรุ่นเหล่านี้นานกว่ารุ่นก่อน ๆ ที่ผ่านมา[34] กาแลคซีเอส 8 รองรับ AirFuel Inductive (สมัยก่อนคือ PMA)[39] และมาตรฐานการชาร์จไร้สาย Qi[13] สืบเนื่องจากเหตุการณ์การเรียกคืนของซัมซุง กาแลคซี โน้ต 7 ซัมซุงกล่าวในงานแถลงข่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะควบคุมคุณภาพและขั้นตอนการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทในอนาคต[40]
นอกจากนี้ ซัมซุงยังเปิดตัวกาแลคซีเอส 8+ ที่มีหน่วยความจำภายในขนาด 128 GB และหน่วยความจำชั่วคราวขนาด 6 GB ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษสำหรับประเทศจีนและประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น[41][42]
ซัมซุง กาแลคซีเอส 8 ได้ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.0 "นูกัต" มาพร้อมกับส่วนติดต่อหน้าจอกับผู้ใช้และชุดซอฟต์แวร์ Samsung Experience (แต่ก่อนคือ TouchWiz)[34] คุณสมบัติที่สำคัญของชุดซอฟต์แวร์นี้คือฟังก์ชันผู้ช่วยอัจฉริยะหรือที่เรียกว่า Bixby ซึ่งออกแบบมาเพื่อโต้ตอบชุดแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของซัมซุงและเพื่อสนับสนุนบริการต่าง ๆ คุณสมบัติของ Bixby สามารถสั่งคำสั่งโทรศัพท์ด้วยเสียงได้ สามารถสร้างหรือเลือกการ์ดที่แสดงบนหน้าจอหลักได้ (มาแทน Flipboard ซึ่งเคยเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นก่อนหน้านี้) ขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้และดำเนินการค้นหาภาพโดยใช้การจดจำของวัตถุโดยกล้อง[34]
Bixby นั้นจะสนับสนุนแอปพลิเคชันบุคคลที่ 3 ต่าง ๆ โดย SDK[34] กาแลคซีเอส 8 นั้นสามารถใช้ docking station หรือที่เรียกว่า Samsung DeX ซึ่งเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และเมื่อเชื่อมต่อแล้วก็จะมีการแสดงผลหน้าจอคล้ายเดสก์ท็อปบนจอคอมพิวเตอร์ อีกทั้งมีการสนับสนุนเมาส์และคีย์บอร์ดด้วย[43] ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2560 คือวันที่ตรงกับวันที่ขายโทรศัพท์รุ่นนี้ มีรายงานว่าโปรแกรมเล่นเพลงเริ่มต้นของกาแลคซีเอส 8 นั้นคือ กูเกิลเพลย์ มิวสิก เหมือนกับซัมซุง กาแลคซีเอส 7 ที่มีการเริ่มต้นเปลี่ยนค่าเริ่มต้นโปรแกรมเพลงเป็นกูเกิลเพลย์ มิวสิกในปี พ.ศ. 2558 อย่างไรก็ตาม เพื่อกาแลคซีเอส 8 ซัมซุงได้ร่วมมือกับกูเกิลสำหรับคุณสมบัติพิเศษที่สามารถอัปโหลดเพลงไปบนพื้นที่เก็บข้อมูลคลาวด์ได้จำนวน 100,000 เพลง ซึ่งเพิ่มจากปกติ 50,000 เพลง นอกจากนี้ ผู้ใช้ใหม่ก็สามารถใช้บริการฟรี 3 เดือน เช่นเดียวกับที่กูเกิลที่ทำให้กับผู้ที่ซื้อสมาร์ทโฟนกูเกิล พิกเซล นอกจากนี้ กูเกิลได้กล่าวว่าคุณสมบัติพิเศษเฉพาะซัมซุงนี้จะเพิ่มในแอปพลิเคชันในอนาคต และ Bixby ก็จะรองรับแอปพลิเคชันได้เมื่อ Bixby นั้นสามารถใช้ได้อย่างเป็นทางการ[44][45] Bixby นั้นมาแทน S Voice ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจดจำเสียงที่พบในมือถือซัมซุง กาแลคซีเอสรุ่นก่อนหน้า[46]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.