Loading AI tools
อีเมล, ที่เก็บข้อมูลแบบคลาวด์, เครื่องมือการทำงานร่วมกัน, ฮาร์ดแวร์, การบริหาร, สื่อสังคมออ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กูเกิล เวิร์กสเปซ (อังกฤษ: Google Workspace;[1] เป็นที่รู้จักกันก่อนในชื่อ กูเกิลแอปส์; อังกฤษ: Google Apps และต่อมา จีสวีต; อังกฤษ: G Suite) เป็นชุดโปรแกรมการประมวลผลแบบคลาวด์ สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการทำงานร่วมกัน และเป็นซอฟต์แวร์ซอฟต์แวร์ที่กูเกิลให้บริการโดยผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิก
นักพัฒนา | กูเกิล |
---|---|
วันที่เปิดตัว | กุมภาพันธ์ 2006 (ในชื่อ "Gmail for Your Domain") |
ประเภท | ชุดโปรแกรมออฟฟิศออนไลน์ |
สัญญาอนุญาต | ไทรอัลแวร์ (ขายปลีก, การซื้อลิขสิทธิ์แบบจำนวนมาก) |
เว็บไซต์ | workspace |
ชุดโปรแกรมนี้รวมเว็บแอปพลิเคชันยอดนิยมของกูเกิล ซึ่งรวมถึง จีเมล, กูเกิล ไดรฟ์, กูเกิล แฮงเอาท์, กูเกิล ปฏิทิน และกูเกิล เอกสาร[2]แม้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะให้บริการสำหรับผู้บริโภคแบบไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ Google Apps for Work เพิ่มคุณลักษณะสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ เช่น ที่อยู่อีเมลแบบกำหนดเองที่โดเมนของคุณ (@บริษัทของคุณ.com) พร้อมพื้นที่จัดเก็บอย่างน้อย 30 GB สำหรับเอกสารและอีเมล รวมถึงการสนับสนุนทางโทรศัพท์และอีเมลทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง[3] ในฐานะที่เป็นโซลูชันการประมวลผลแบบคลาวด์ Google Apps จึงมีแนวทางที่แตกต่างไปจากซอฟต์แวร์ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่วางจำหน่ายทั่วไป โดยจะจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าในเครือข่ายศูนย์ข้อมูล[4] ปลอดภัยของกูเกิลแทนการจัดเก็บแบบดั้งเดิมที่เก็บรักษาไว้ในเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กรที่ตั้งอยู่ภายในบริษัท[5]
กูเกิลได้ระบุไว้ว่ามีองค์กรกว่า 5 ล้านองค์กรทั่วโลกใช้ Google Apps โดย 60 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 ก็ใช้โปรแกรมดังกล่าวเช่นเดียวกัน[6]
ผลิตภัณฑ์และบริการที่มากมายของ Google Apps for Work ประกอบไปด้วย Gmail, Google ปฏิทิน, Google ไดรฟ์, แฮงเอาท์, Google เอกสาร, Google ชีต, Google สไลด์, Google ฟอร์ม, Google Sites, Google+ และ Google Apps ห้องนิรภัย หากไม่นับ Google Apps ห้องนิรภัย[30] ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะรวมอยู่ในแผนการให้บริการพื้นฐานในราคารายละ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน หรือรายละ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ส่วน Drive for Work ซึ่งเป็นแพ็กเกจพรีเมียมจะรวม Google Apps ห้องนิรภัยและพื้นที่จัดเก็บแบบไม่จำกัดในราคารายละ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน[31]
Gmail ได้กลายมาเป็นบริการอีเมลบนเว็บที่เป็นที่นิยมที่สุดในโลก หลังจากที่เปิดตัวในวงจำกัดในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2547 [32]ผู้บริโภคทุกคนสามารถใช้งาน Gmail ได้ในปี 2550 Google ระบุว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา มีผู้คนถึง 425 ล้านคนใช้ Gmail[33]
Gmail เวอร์ชันฟรีสำหรับผู้บริโภคได้รับการสนับสนุนโดยโฆษณาแบบข้อความที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของข้อความในอีเมลของผู้ใช้[34] คุณลักษณะยอดนิยม ได้แก่ พื้นที่จัดเก็บฟรี 15 GB การสนทนาที่แสดงเป็นชุดข้อความ และความสามารถในการค้นหาที่แม่นยำ และอินเทอร์เฟซที่คล้ายกับแอป[35]
แม้ Gmail ใน Google Apps for Work จะคล้ายคลึงกับเวอร์ชันฟรี แต่มีคุณลักษณะที่เพิ่มขึ้นมากมายซึ่งออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ภาคธุรกิจ.[36]
คุณลักษณะเหล่านี้ได้แก่
บริการการจัดเก็บไฟล์และการซิงค์ของ Google เปิดตัวในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555,[38] กว่า 6 ปีหลังจากที่มีข่าวลือเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้[39] คำประกาศอย่างเป็นทางการของ Google อธิบายว่า Google ไดรฟ์เป็น "สถานที่ที่คุณสามารถสร้าง แชร์ ทำงานร่วมกัน และเก็บทุกสิ่งของคุณ"[38]
Google ไดรฟ์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดไฟล์ประเภทใดก็ได้ลงในระบบคลาวด์ แชร์ไฟล์กับคนอื่นๆ และเข้าถึงไฟล์นั้นจากคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์อัจฉริยะเครื่องใดก็ได้ ผู้ใช้สามารถซิงค์ไฟล์ระหว่างคอมพิวเตอร์และระบบคลาวด์ได้ง่ายๆ ด้วยแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อปสำหรับ Mac และพีซี แอปนี้จะวางโฟลเดอร์พิเศษลงบนคอมพิวเตอร์ของพวกเขาและการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับไฟล์จะซิงค์ทั่วทั้งไดรฟ์ บนเว็บ และอุปกรณ์ทุกเครื่อง Google ไดรฟ์เวอร์ชันฟรีสำหรับผู้บริโภคจะมอบพื้นที่จัดเก็บขนาด 15 GB สำหรับร่วมใช้ระหว่าง Gmail ไดรฟ์ และ รูปภาพใน Google+[40]
เมื่อได้รับการนำเสนอเป็นส่วนหนึ่งของ Google Apps for Work ฉะนั้น Google ไดรฟ์จึงมาพร้อมกับคุณลักษณะเพิ่มเติมที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานธุรกิจ คุณลักษณะเหล่านี้ได้แก่
Google Apps มีโปรแกรมแก้ไขออนไลน์สำหรับการสร้างข้อความเอกสารหรือรูปแบบไฟล์เอกสาร, สเปรดชีต, งานนำเสนอ และแบบสำรวจ[42] ชุดเครื่องมือนี้เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ในชื่อ Google เอกสารและสเปรดชีต[43]
Google เอกสาร ชีต สไลด์ และฟอร์มนั้นสามารถทำงานภายในเว็บบราว์เซอร์ใดก็ได้ หรือบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ใดก็ได้ที่สามารถเปิดใช้เว็บ ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถสามารถแชร์ แสดงความคิดเห็น และแก้ไขเอกสาร สเปรดชีต สไลด์ และฟอร์มร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ คุณลักษณะเพิ่มเติมรวมถึงประวัติการแก้ไขแบบไม่จำกัด ซึ่งเก็บบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดไว้อย่างปลอดภัยในที่เดียว และการเข้าถึงได้แบบออฟไลน์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต[44]
ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557 Google ได้เปิดตัวการแก้ไขแบบดั้งเดิมสำหรับไฟล์ Microsoft Office ใน Google เอกสาร ชีต และสไลด์[45] นักเขียนของ Mashable ได้แสดงความคิดเห็นคล้ายๆ กับบทความอื่นๆ ว่า "Google กำลังวางจุดยืนของแอปให้เป็นทางออกในแง่ราคาที่เอื้อมถึงมากขึ้นสำหรับบริษัทที่ต้องแก้ไขไฟล์ Office เป็นครั้งคราว"[46]
เปิดตัวขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 Google Sites ช่วยให้ผู้คนสามารถสร้างและแก้ไขหน้าเว็บได้แม้ว่าจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับ HTML หรือการออกแบบเว็บก็ตาม[47] ผู้คนสามารถสร้างไซต์เองตั้งแต่ต้นหรือสร้างจากเทมเพลตก็ได้ อัปโหลดเนื้อหา เช่น รูปภาพและวิดีโอ[47] และควบคุมสิทธิ์ในการเข้าถึงโดยเลือกผู้ที่สามารถดูและแก้ไขแต่ละหน้าได้[48]
Google Sites เปิดตัวในฐานะส่วนหนึ่งของชุดโปรแกรม Google Apps แบบชำระเงิน แต่ต่อมาไม่นานก็พร้อมให้บริการกับผู้บริโภคทั่วไปเช่นกัน ลูกค้าภาคธุรกิจใช้ Google Sites ในการสร้างไซต์ โครงการอินทราเน็ตของบริษัท และไซต์ที่เข้าถึงได้จากสาธารณะ[49]
ออกแบบมาเพื่อรวมเข้ากับ Gmail ซึ่งเป็นบริการปฏิทินออนไลน์ของ Google ที่เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้บริโภคทั่วไปในวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2549 โดยปฏิทินใช้มาตรฐาน iCal เพื่อให้สามารถใช้งานกับแอปพลิเคชันปฏิทินอื่นๆ[50]
ปฏิทินออนไลน์ของ Google เป็นปฏิทินผสานรวมระบบทางออนไลน์ที่สามารถแชร์ร่วมกันได้และออกแบบมาสำหรับการทำงานเป็นทีม[51] บริษัทต่างๆ สามารถสร้างปฏิทินแบบเฉพาะทีมและแชร์ร่วมกับทุกคนในบริษัทได้[52] ผู้ใช้สามารถมอบหมายปฏิทินไปให้อีกคนหนึ่งจัดการปฏิทินหรือกิจกรรมใดที่เฉพาะเจาะจงก็ได้[53] ผู้ใช้สามารถตรวจดู Google ปฏิทินเพื่อดูว่าห้องประชุมหรือทรัพยากรที่ใช้ร่วมกันนั้นว่างไหม และทำการจองได้
คุณลักษณะที่เป็นประโยชน์ของ Google ปฏิทิน ได้แก่
15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 Google ได้ประกาศว่าพวกเขามีเครื่องมือใหม่ในการส่งข้อความ ข้อความเสียง และวิดีโอแชทจะมาแทนที่ Google Talk, Google Voice และบริการ Google+ แฮงเอาท์[54] Google แฮงเอาท์อนุญาตให้ผู้บริโภคเข้าร่วมในการสนทนาจากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ได้สูงสุด 10 คน สำหรับเวอร์ชันฟรีและ 15 คนสำหรับเวอร์ชันธุรกิจ[55] ผู้เข้าร่วมสามารถแชร์หน้าจอ รวมถึงดูและทำงานร่วมกันได้[56] บริการแฮงเอาท์ ออนแอร์ ทำให้ผู้คนสามารถสตรีมการถ่ายทอดสดไปยัง Google+, YouTube และลงในเว็บไซต์ของพวกเขาได้[57]
เวอร์ชันของแฮงเอาท์ที่รวมอยู่กับ Google Apps for Work[58] รองรับผู้เข้าร่วมประชุมสูงสุด 15 สายและผู้ดูแลระบบสามารถเลือกที่จะจำกัดแฮงเอาท์สำหรับคนที่อยู่ในโดเมนเดียวกันเท่านั้น ซึ่งจะป้องกันการเข้าถึงจากผู้เข้าร่วมภายนอกได้[59]
แอปแฮงเอาท์จัดเก็บข้อความทางออนไลน์ไว้ในระบบคลาวด์ของ Google และมอบตัวเลือกที่จะปิดประวัติหากพวกเขาไม่อยากถูกบันทึก[60] การผสานรวมกับ Google+ จะบันทึกรูปทุกรูปที่ถ่ายด้วยกันในอัลบั้มส่วนตัวหรือแชร์บน Google+[60]
30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 Google ประกาศว่าลูกค้าของ Google Apps จะสามารถใช้แฮงเอาท์ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีโปรไฟล์ Google+ ก็ตาม[61] Google ยังร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการวิดีโอแชทรายอื่นๆ เพื่อรวมบริการเข้าด้วยกัน เช่น Blue Jeans Network และ Intercall[62] Google ได้ประกาศว่าแฮงเอาท์จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการให้บริการเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ Google Apps for Work อื่นๆ อย่างเช่น Gmail และไดรฟ์ ลูกค้าของ Apps for Work ยังจะได้รับการสนับสนุนทางโทรศัพท์ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง การรับประกันความพร้อมในการใช้งาน 99.9% และใบรับรอง ISO27001 และ SOC 2[63]
ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557 Google ได้ประกาศผ่านโพสต์ Google+ ว่าพวกเขาได้นำคุณลักษณะที่คนเรียกร้องมากที่สุดกลับมาใช้งานสำหรับแฮงเอาท์ใน Gmail แล้ว ผู้ดูแลระบบของ Apps สามารถควบคุมให้ข้อความแสดงสถานะปรากฏเป็นการภายในเท่านั้น[64]
บริการเครือข่ายสังคมของ Google ในชื่อ Google+ (Google พลัส) เปิดตัวขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ในรูปแบบการทดลองใช้งานแบบต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น[65] ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่านี่เป็นความพยายามล่าสุดของ Google ที่จะสู้กับยักษ์ใหญ่แห่งโลกโซเชียลอย่าง Facebook[66] แม้ว่าในตอนนั้น Google+ ได้แซง Twitter ขึ้นมาเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก Facebook แล้ว[67] แต่ Google+ ก็ได้รับคำวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้ผิดหวังและไม่สามารถสร้าง referral traffic ได้ตามความคาดหมาย[68]
27 ตุลาคม พ.ศ. 2554 Google ได้ประกาศว่า Google+ จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ที่ใช้ Google Apps ที่มหาวิทยาลัย ที่ทำงาน และที่บ้าน[69]
29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 Google ประกาศว่าหลังจากที่ได้รับคำติชมจากลูกค้าภาคธุรกิจที่เข้าร่วมในโครงการนำร่อง พวกเขาจึงปรับแต่งคุณลักษณะของ Google+ สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ คุณลักษณะเหล่านี้รวมถึงการแชร์แบบส่วนตัวภายในองค์กรและผู้ดูแลระบบสามารถจำกัดการมองเห็นโปรไฟล์และโพสต์ได้[70]
5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 Google ได้เพิ่มระดับความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับชุมชนที่จำกัดที่ผู้เข้าร่วมจะต้องเป็นคนในองค์กรเท่านั้น ผู้ดูแลระบบมีตัวเลือกในการตั้งค่าชุมชนแบบจำกัดเป็นค่าเริ่มต้นและเลือกว่าเมื่อใดคนจากนอกองค์กรจึงจะสามารถเข้าร่วมได้[71]
บทบาทของ Google+ ในฐานะเครือข่ายธุรกิจได้รับคำติชมคละกันไปต่างๆ นานาตั้งแต่การมีคุณลักษณะที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กเป็นที่รู้จัก [72]ทำให้คนสับสนจากการสร้างแบรนด์[73] ไปจนถึงการเป็นผู้เล่นที่สำคัญในกลยุทธ์การตลาดโซเชียลสำหรับธุรกิจ[74] บทความทางออนไลน์มากมายเน้นย้ำว่าการใช้ Google+ ช่วยให้ธุรกิจติดอันดับในผลการค้นหาของ Google เนื่องจากโพสต์และแชร์ของ Google+ จะได้รับการจัดทำดัชนีโดย Google ทันที[75]
Google Apps ห้องนิรภัยเป็นบริการการจัดเก็บถาวรและ eDiscovery ที่พร้อมให้บริการกับลูกค้า Google Apps โดยเฉพาะและเปิดตัวในวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555[76] ห้องนิรภัยช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาและจัดเก็บข้อความอีเมลที่อาจเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี บริการนี้ยังช่วยจัดการข้อมูลทางธุรกิจเพื่อรักษาความต่อเนื่อง ความสอดคล้อง และปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับได้[77] ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ลูกค้าของห้องนิรภัยสามารถค้นหา ดูตัวอย่าง และส่งออกไฟล์ Google ไดรฟ์ได้[78]
Google Apps ห้องนิรภัยนี้รวมเป็นส่วนหนึ่งของ Drive for Work พร้อมพื้นที่จัดเก็บแบบไม่จำกัดในราคารายละ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน[79]
เมื่อผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าลงชื่อสมัครใช้ Google Apps for Work จะได้รับระยะทดลองใช้งานฟรี 30 วันสำหรับผู้สูงสุด 10 คน[80] หลังจากช่วงทดลองใช้ สามารถเลือกว่าจะใช้แผนรายปีในราคา 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบัญชี หรือแผนแบบยืดหยุ่นในราคาบัญชีละ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนหรือ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี โดยแผนทั้งสองจะเรียกเก็บค่าบริการเป็นรายเดือน[31]
เมื่อเลือกใช้แผนยืดหยุ่น ลูกค้าจะมีตัวเลือกที่จะเพิ่มพื้นที่จัดเก็บแบบไม่จำกัดและ Google Apps ห้องนิรภัยในราคาบัญชีละ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน สำหรับองค์กรที่มีผู้ใช้ไม่เกิน 5 คน พื้นที่จัดเก็บจะจำกัดอยู่ที่ 1 TB ต่อคนเมื่อใช้ตัวเลือกนี้[31]
Google ได้กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้เป็นเจ้าของข้อมูลของลูกค้า ข้อมูลจะได้รับการจัดเก็บอยู่ในศูนย์ข้อมูลของ Google และมีเพียงพนักงานและเจ้าหน้าที่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้[81] จะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลมูลนี้กับผู้อื่นและจะเก็บข้อมูลไว้ตราบเท่าที่ลูกค้าให้เก็บ และลูกค้าสามารถนำข้อมูลไปได้หากพวกเขาย้ายออกจาก Google Apps[82]
Google Apps มีการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรและการปฏิบัติตามข้อบังคับ ซึ่งรวมถึง SSAE 16/ISAE 3402 Type II, SOC 2-audit, ใบรับรอง ISO 27001 และปฏิบัติตามหลักการด้านความเป็นส่วนตัว Safe Harbor รวมถึงสามารถสนับสนุนข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจงขององค์กรได้ เช่น กฎหมายว่าด้วยการควบคุมและการส่งผ่านข้อมูลทางด้านการประกันสุขภาพ (HIPAA)[83] Google กล่าวว่าโปรแกรมบล็อกสแปมจะรวมอยู่ใน Google Apps พร้อมการตรวจสอบไวรัสในตัวและจะทำการตรวจสอบเอกสารก่อนอนุญาตให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดข้อความใดๆ[81]
Google ยืนยันว่าไฟล์ทั้งหมดที่อัปโหลดลงใน Google ไดรฟ์ได้รับการลงรหัส และอีเมลทุกฉบับที่ส่งและรับก็ได้รับการลงรหัสขณะที่เคลื่อนย้ายภายในระหว่างศูนย์ข้อมูล[84] ในบล็อกโพสต์ Google for Work กล่าวว่าพวกเขามุ่งปฏิบัติตามสัญญาในการปกป้องข้อมูลของลูกค้าและจะไม่แสดงโฆษณาหรือสแกนข้อมูลของลูกค้าเพื่อการโฆษณา[84]
Google อ้างว่าองค์กรกว่า 5 ล้านแห่งกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันฟรีหรือแบบชำระเงิน[85] ประธานของ Google for Work อมิต ซิงห์ กล่าวว่ากว่า 60% ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 กำลังใช้บริการของ Google for Work[86] ลูกค้ามีหลากหลายทางทุกธุรกิจทั่วโลก รวมถึง Uber, [87]AllSaints, [88]BuzzFeed, [89]Design Within Reach, [90]Virgin, PwC[91] และอีกมากมาย รายชื่อลูกค้าอีกมากมายของ Apps อยู่บนหน้าลูกค้าของ Apps[92]
Google มีระบบตัวแทนจำหน่ายที่ครบครันที่ช่วยผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเข้ามาใช้งาน Google Apps ไดเรกทอรีพาร์ทเนอร์จะช่วยในการค้นหาพาร์ทเนอร์ ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557 Google เปิดตัวโครงการแนะนำ โดยจะมอบเงินให้กับผู้แนะนำมูลค่า 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการเปิดบัญชีสมัครใช้ในนามของผู้แนะนำ[93] โครงการนี้เริ่มในสหรัฐฯ และแคนาดา ผู้คนสามารถแนะนำลูกค้าใหม่ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่พวกเขาจะได้รับเงินรางวัลสำหรับผู้ใช้ 100 บัญชีแรกที่พวกเขาชวนเข้าร่วมเท่านั้น[94]
ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557 Google เปิดตัวโครงการ Google for Work and Education Partner ซึ่งจะช่วยพาร์ทเนอร์ขาย บริการ และสร้างนวัตกรรมชุดผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มของ Google for Work and Education[95]
Google Apps Marketplace ที่เปิดตัวในปี 2553 เป็นร้านค้าออนไลน์สำหรับแอปพลิเคชันเสริมสำหรับ Google Apps สำหรับองค์กร[18] Marketplace ทำให้ผู้แลระบบสามารถเรียกดู ซื้อ และใช้แอปพลิเคชัสำหรับองค์กรในระบบคลาวด์แบบผสานรวมกับ Google Apps ได้ Marketplace พร้อมให้บริการสำหรับ Google Apps, Google Apps for Work และ Google Apps for Education[96]
นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาแอปใน Marketplace และขายแอปและบริการใน Marketplace ได้เช่นกัน[96] ในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557 Google ประกาศว่าลูกค้า Google Apps ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันเสริมจาก Marketplace กว่า 200 ล้านครั้งแล้วนับตั้งแต่ Marketplace เปิดตัวไปในปี 2553
ในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557 Google ได้เผยแพร่บล็อกโพสต์ว่าพนักงานในองค์กรลูกค้าสามารถติดตั้งแอปจาก Marketplace ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากผู้ดูแลระบบ[97]
Google Apps ได้รับรีวิวทางออนไลน์ในเชิงบวกมากมายด้วยคะแนนเฉลี่ย 4-5 ดาวจากคะแนนเต็ม 5 ดาว[98] มีรีวิวมากมายที่ชื่นชมว่า Google Apps มีราคาเหมาะสมกับตลาด มอบชุดโปรแกรมการทำงานที่ครบครัน และใช้งานได้ดีบนอุปกรณ์ทุกประเภท[99] รีวิวในเชิงลบบางอันชี้ว่า Google Apps, Google สไลด์ และ Google เอกสารขาดคุณลักษณะที่ทำให้เอกสารดูเป็นมืออาชีพอย่างที่ทำได้ใน PowerPoint และ Microsoft Word[99]
คู่แข่งหลักของชุดโปรแกรม Google Apps คือ Microsoft Office 365 ซึ่งเป็นบริการระบบคลาวด์ของ Microsoft สำหรับธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน ผู้รีวิวทางออนไลน์มีความเห็นแตกต่างกันไปว่าข้อเสนอของใครดีกว่ากัน มีรีวิวกล่าวว่า Google Apps และ Microsoft 365 คล้ายคลึงกันในแง่ของคะแนนที่ได้รับแต่คุณลักษณะนั้นแตกต่างกันมาก
ความแตกต่างที่สำคัญคือแผนการกำหนดราคา พื้นที่จัดเก็บ และจำนวนของคุณฟีเจอร์ Microsoft 365 มีฟีเจอร์มากกว่า Google Apps แต่มีหลายรายการที่ไม่ได้ใช้งานจริง[100] Google ไม่เผยแพร่รายได้หรือจำนวนผู้ใช้ ทำให้ยากที่จะเปรียบเทียบว่า Google Apps หรือ Microsoft Office ที่ประสบความสำเร็จมากกว่ากัน[101] ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2557 Microsoft มีลูกค้าของ Office 365 จำนวน 7 ล้านคนและเติบโตขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสที่แล้ว[102] นอกจากนี้ Microsoft ยังประกาศว่าจะมอบพื้นที่จัดเก็บแบบไม่จำกัดให้กับลูกค้าที่ซื้อ Microsoft Office 365 เวอร์ชันคลาวด์[102]
ขณะนี้ยังไม่มีบริษัทหน้าใหม่ที่มาแข่งขันกับชุด Google Apps เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ 1 รายการ เช่น อีเมลนั้นสูงเกินไปและโอกาสที่จะสร้างรายได้ก็เป็นไปได้ยาก[102]
ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Google Apps ซึ่งได้แก่ Google Apps Unlimited และ Google ห้องนิรภัย ทำให้ Google Apps เริ่มมีคู่แข่งใหม่ๆ อย่าง Box, Dropbox และ OneDrive[103]
Google Apps for Work เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์อีกมากมายภายในผลิตภัณฑ์สำหรับการทำงานของ Google [28] ซึ่งได้แก่ Google Cloud Platform, Google Search for Work, Google Maps for Work, Google Chrome for Work[104]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.