คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

ปลาแลมป์เพรย์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ปลาแลมป์เพรย์
Remove ads

ปลาแลมป์เพรย์ (อังกฤษ: Lamprey, Lamprey eel) เป็นปลาที่อยู่ในชั้นใหญ่ปลาไม่มีขากรรไกร จัดอยู่ในอันดับ Petromyzontiformes และวงศ์ Petromyzontidae

ข้อมูลเบื้องต้น ปลาแลมป์เพรย์ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ดีโวเนียนตอนปลาย-ปัจจุบัน, การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ ...
Remove ads

ปลาแลมป์เพรย์มีลำตัวยาวลักษณะคล้ายปลาไหล ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ มีครีบหลังและครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะเป็นวงกลมใช้สำหรับดูด มีฟันแหลมคมจำนวนมากที่เจริญดีอยู่ในอุ้งปาก รูจมูกมี 1 รูซึ่งอยู่กึ่งกลางด้านบนของหัว มีตา 1 คู่ ถุงเหงือก 7 ถุง และมีช่องเหงือก 7 ช่อง หัวใจประกอบด้วยเวนตริเคิล 1 ห้อง และเอเตรียม 1 ห้อง โครงร่างเป็นกระดูกอ่อนและเส้นใย และยังคงมีโนโตคอร์ดอยู่ เส้นประสาทหลัง มีการพัฒนาเป็นสมองซึ่งมีเส้นประสาทสมอง 8-10 คู่ ทางเดินอาหารไม่มีกระเพาะอาหาร ส่วนลำไส้บิดเป็นเกลียว มีลักษณะเพศแยกออกเป็นเพศผู้และเพศเมียชัดเจน

ปลาแลมป์เพรย์พบได้ทั้งลำธารในน้ำจืด และในทะเล พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก ทั้งยุโรปตอนบน, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, แอฟริกาตะวันตก, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ชิลี, ออสเตรเลีย และเกาะแทสมาเนีย

ปลาแลมป์เพรย์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 จำพวกใหญ่ ๆ คือ แบบธรรมดา จะอาศัยอยู่ตามลำธาร ช่วงชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นระยะตัวอ่อนที่กินอาหารแบบกรอง ตัวเต็มวัยมีชิวิตอยู่ 3-4 สัปดาห์ โดยไม่กินอาหารเนื่องจากทางเดินอาหารสลายตัว เหลือเพียงสายของเนื้อเยื้อที่ไม่มีหน้าที่การทำงานและจะตายไปหลังวางไข่ ปลาแลมป์เพรย์จำพวกนี้สามารถดำรงชีวิตได้เอง โดยการกินสัตว์อื่นเป็นอาหาร มีความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 15-60 เซนติเมตร จะมีการวางไข่ที่ลำธารน้ำจืดที่มีพื้นเป็นทรายและก้อนกรวดเล็ก ๆ ตามพื้นท้องน้ำและวางไข่ในฤดูตัวผู้จะเริ่มสร้างแอ่งวางไข่โดยใช้ปากคาบเอาหินและกรวดจากพื้นโดยการแกว่งลำตัวทำให้ก้อนกรวดกระจายออกไปเกิดเป็นแอ่งรูปไข่ ตัวเมียจะตามมาและเกาะกับหินเหนือแอ่ง ตัวผู้เกาะทางด้านหัวของตัวเมีย ตัวเมียปล่อยไข่ลงในแอ่ง ตัวผู้ปล่อยน้ำเชื้อออกผสม ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วจะยึดเกาะกับก้อนกรวดในแอ่ง แล้วกลบด้วยทราย ลักษณะพิเศษคือ หลังวางไข่แล้วทั้งตัวผู้และเมียก็จะตายไป จากนั้น ไข่จะฟักออกในเวลา 2 สัปดาห์ เป็นตัวอ่อนขนาดเล็กตัวยาว เรียกว่า แอมโมซีทิส (Ammocoetes) ซึ่งจะคงอยู่ในแอ่งจนตัวยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ก็จะฝังตัวเข้าไปในทรายแล้วออกมาหากินในเวลากลางคืน ระยะตัวอ่อนแอมโมซีทีสจะยาวนานประมาณ 3-7 ปี จึงจะเจริญเปลี่ยนรูปร่างเป็นตัวเต็มวัย ซึ่งตัวเต็มวัยจะคงอยู่ในน้ำจืดอีกประมาณ 1 ปี แล้วก็วางไข่ จากนั้นก็จะตายไป ส่วนชนิดที่เป็นปลาทะเลก็จะอพยพคืนถิ่นสู่ทะเล มีอายุยืนยาวกว่าชนิดที่เป็นปลาน้ำจืด เมื่อเข้ามาวางไข่ในน้ำจืดจะไม่กินอาหาร

และ ปลาแลมป์เพรย์ที่เป็นปรสิต จะมีปากคล้ายแว่นดูดและมีอุ้งปาก คล้ายถ้วยลึกลงไปในอุ้งปาก และลิ้นมีฟันที่เจริญดีอยู่ มันจะใช้ปากเกาะเหยื่อและใช้ฟันและลิ้นครูดเอาเนื้อออก และให้เลือดของเหยื่อไหลผ่านได้สะดวก ปลาแลมป์เพรย์จะสร้างสารป้องกันการตกตะกอนของเลือดส่งไปที่ปากแผล เมื่อดูดเลือดของเหยื่อจนตัวเหยื่อแห้งก็จะปล่อยแล้วหาเหยื่อใหม่ [1]

Remove ads

การจำแนก

สรุป
มุมมอง

ได้มีการจำแนกชั้น, วงศ์, สกุลและชนิดของปลาแลมป์เพรย์ได้ออกเป็นดังนี้ ชั้น Cephalaspidomorphi.[2][3] [4] ชั้น Petromyzontida (หรือ Hyperoartia).[5] ชั้น Petromyzontiformes และวงศ์ Petromyzontidae.[6]

  • วงศ์ย่อย Geotriinae
    • สกุล Geotria J. E. Gray,1851
      • Geotria australis (J. E. Gray,1851)
  • วงศ์ย่อย Mordaciinae
    • สกุล Mordacia J. E. Gray,1851
      • Mordacia lapicida (J. E. Gray, 1851)
      • Mordacia mordax (J. Richardson, 1846)
      • Mordacia praecox (Potter, 1968)
  • วงศ์ย่อย Petromyzontinae
    • สกุล Caspiomyzon Berg, 1906
      • Caspiomyzon graecus (Renaud & Economidis, 2010)
      • Caspiomyzon hellenicus (Vladykov, Renaud, Kott & Economidis, 1982)
      • Caspiomyzon wagneri (Kessler, 1870)
    • สกุล Eudontomyzon Regan, 1911
      • Eudontomyzon danfordi Regan, 1911
      • Eudontomyzon lanceolata (Kux & Steiner, 1972)
      • Eudontomyzon mariae (Berg, 1931)
      • Eudontomyzon stankokaramani M. Karaman, 1974
      • Eudontomyzon vladykovi Oliva & Zanandrea, 1959
    • สกุล Ichthyomyzon Girard, 1858
      • Ichthyomyzon bdellium (D. S. Jordan, 1885)
      • Ichthyomyzon castaneus Girard, 1858
      • Ichthyomyzon fossor Reighard & Cummins, 1916
      • Ichthyomyzon gagei Hubbs & Trautman, 1937
      • Ichthyomyzon greeleyi Hubbs & Trautman, 1937
      • Ichthyomyzon unicuspis Hubbs & Trautman, 1937
    • สกุล Lampetra Bonnaterre, 1788
      • Lampetra aepyptera (Abbott, 1860)
      • Lampetra alaskensis (Vladykov & Kott, 1978)
      • Lampetra appendix (DeKay, 1842)
      • Lampetra ayresii (Günther, 1870)
      • Lampetra fluviatilis (Linnaeus, 1758)
      • Lampetra folletti (Vladykov & Kott, 1976)
      • Lampetra geminis (Alvarez, 1964)
      • Lampetra hubbsi (Vladykov & Kott, 1976)
      • Lampetra lamottei (Lesueur, 1827)
      • Lampetra lethophaga (Hubbs, 1971)
      • Lampetra macrostoma (Beamish, 1982)
      • Lampetra minima (C. E. Bond & Kan, 1973)
      • Lampetra morii Berg, 1931
      • Lampetra planeri (Bloch, 1784)
      • Lampetra richardsoni (Vladykov & Follett, 1965)
      • Lampetra similis (Vladykov & Kott, 1979)
      • Lampetra spadiceus (Bean, 1887)
      • Lampetra tridentata (J. Richardson , 1836)
      • Lampetra zanandreai (Vladykov, 1955)
    • สกุล Lethenteron Creaser & Hubbs, 1922
      • Lethenteron camtschaticum (Tilesius, 1811)
      • Lethenteron kessleri (Anikin, 1905)
      • Lethenteron matsubarai (Vladykov & Kott, 1978)
      • Lethenteron ninae Naseka, Tuniyev & Renaud, 2009
      • Lethenteron reissneri (Dybowski, 1869)
    • สกุล Petromyzon Linnaeus, 1758

ซึ่งในบางประเทศ เช่น เกาหลีใต้จะมีการปรุงปลาแลมป์เพรย์เป็นอาหารด้วย[7]

Remove ads

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads