ต่อมไทรอยด์อักเสบแบบฮาชิโมโตะ (อังกฤษ: Hashimoto's thyroiditis), ต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังแบบลิมโฟซัยต์, โรคฮาชิโมโตะ เป็นโรคภูมิต้านตนเองชนิดหนึ่งที่ทำให้ต่อมไทรอยด์ถูกทำลายลงไปเรื่อย ๆ[1][6] ในระยะแรกผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใดๆ[1] เมื่อเวลาผ่านไปต่อมไทรอยด์อาจมีขนาดโตขึ้นเกิดเป็นคอพอกที่ไม่มีอาการเจ็บปวด[1] ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยและมีอาการน้ำหนักเพิ่ม อ่อนเพลีย ท้องผูก ซึมเศร้า และปวดตามตัว[1] เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีต่อมไทรอยด์มักมีขนาดเล็กลง[1] ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้คือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไทรอยด์[2]

ข้อมูลเบื้องต้น ต่อมไทรอยด์อักเสบฮาชิโมโตะ, ชื่ออื่น ...
ต่อมไทรอยด์อักเสบฮาชิโมโตะ
ชื่ออื่นChronic lymphocytic thyroiditis, ไทรอยด์อักเสบเหตุภูมิแพ้ตัวเอง, struma lymphomatosa, โรคฮาชิโมโตะ
Thumb
ภาพกล้องจุลทรรศน์แสดงต่อมไทรอยด์อักเสบฮาชิโมโตะ
สาขาวิชาวิทยาต่อมไร้ท่อ
อาการต่อมไทรอยด์โตชนิดไม่ปวด, น้ำหนักตัวเพิ่ม, ความเหนื่อยล้า, ท้องผูก, อาการซึมเศร้า[1]
ภาวะแทรกซ้อนมะเร็งต่อมน้ำเหลืองไทรอยด์[2]
การตั้งต้น30–50 ปี[1][3]
สาเหตุพันธุกรรม และ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม[4]
ปัจจัยเสี่ยงประวัติครอบครัว, โรคภูมิแพ้ตัวเองแบบอื่น[1]
วิธีวินิจฉัยวัดระดับ TSH, T4, แอนติบอดีชนิดแอนติไทยรอยด์[1]
โรคอื่นที่คล้ายกันโรคเกรฟส์, ต่อมไทรอยด์โตแบบนอดูลาร์ชนิดไม่เป็นพิษ[5]
การรักษาเลวอไทรอกซิน, ผ่าตัด[1][5]
ความชุก5% ที่จุดหนึ่ง[4]
ปิด

เชื่อว่าโรคนี้เกิดจากหลายปัจจัยทั้งจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม[4] ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ ประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้หรือโรคภูมิต้านตนเองโรคอื่น[1] การวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมน TSH, T4 และออโตแอนติบอดีต่อไทรอยด์[1] โรคอื่นที่อาจทำให้มีอาการคล้ายกันกับโรคนี้ในบางระยะ เช่น โรคเกรฟส์ และโรคคอพอกแบบไม่เป็นพิษ[5]

การรักษาโดยมาตรฐานคือการใช้ฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์ทดแทน[1][7] ในบางรายที่ไม่มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยอาจไม่จำเป็นต้องรับการรักษา บางรายอาจต้องรับการรักษาเพื่อลดขนาดของต่อมไทรอยด์[1][8] ผู้ป่วยไม่ควรกินอาหารที่มีปริมาณไอโอดีนมากเกินไป แต่ก็ต้องได้รับไอโอดีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์[1] ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาด้วยการผ่าตัด[5]

ตลอดอายุขัยชนชาติเชื้อสายคอเคเซียนจะพบมีผู้ป่วยจากโรคต่อมไทรอยด์อักเสบแบบฮาชิโมโตประมาณ 5%[4] ส่วนใหญ่เริ่มมีอาการที่อายุ 30-50 ปี และพบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย[1][3] ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยโรคนี้จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ[5] โรคนี้ได้รับการบรรยายไว้เป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1912 โดยแพทย์ชาวญี่ปุ่น ชื่อ Hakaru Hashimoto[9] ต่อมาเมื่อ ค.ศ. 1957 จึงค้นพบว่าโรคนี้เป็นโรคภูมิต้านตนเอง[10]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Wikiwand in your browser!

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.

Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.