นกกาน้ำ เป็นนกที่อยู่ในวงศ์ Phalacrocoracidae ซึ่งมีเพียงสกุลเดียว คือ Phalacrocorax
นกกาน้ำ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ครีเตเชียสยุคสุดท้าย – ปัจจุบัน | |
---|---|
นกกาน้ำใหญ่ (Phalacrocorax carbo) ที่ทะเลสาบเอ๋อไห่ ประเทศจีน | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
ชั้นย่อย: | Neornithes |
ชั้นฐาน: | Neoaves |
อันดับ: | Pelecaniformes หรือ Suliformes[1] |
วงศ์: | Phalacrocoracidae Reichenbach, 1850 |
สกุล: | Phalacrocorax Brisson, 1760 |
ชนิด | |
| |
ชื่อพ้อง | |
|
ลักษณะ
เป็นนกขนาดกลางถึงใหญ่ มีลักษณะทั่วไปคล้ายอีกา กินปลาเป็นอาหาร ส่วนมากมีขนสีดำ บางชนิดเป็นลายขาว-ดำ หรือสีสันสดใส[2]
อาศัยอยู่บริเวณป่าชายเลน, หนอง, บึง, ทะเลสาบ และแหล่งน้ำอื่น ๆ พบทั้งหมด 38 ชนิดทั่วโลก[2] ในประเทศไทยพบทั้งหมด 3 ชนิด คือ นกกาน้ำเล็ก (P. niger), นกกาน้ำปากยาว (P. fuscicollis) และนกกาน้ำใหญ่ (P. carbo) ชนิดที่พบได้บ่อยมาก คือ นกกาน้ำเล็ก อาหารส่วนใหญ่ของนกกาน้ำ คือ ปลาชนิดต่าง ๆ มันจะดำลงไปในน้ำเพื่อจับปลามาเป็นอาหาร แต่ขนของนกกาน้ำจะไม่มีน้ำมันเคลือบกันน้ำได้เหมือนเป็ด ดังนั้นเมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้ว ทุกครั้งจะกางปีกออกเพื่อผึ่งให้แห้ง[3]
วิวัฒนาการ
นกกาน้ำเป็นนกโบราณหรือมีวิวัฒนาการต่ำมาก และมีเชื้อสายใกล้ชิดกันมากกับนกในวงศ์ Anhingidae หรือนกอ้ายงั่ว ซึ่งมีรูปร่างคล้ายคลึงกันมาก แต่ลักษณะของปากแตกต่างกัน นักบรรพชีวินวิทยาเคยขุดค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของบรรพบุรุษของนกทั้งสองวงศ์ในทวีปอเมริกาเหนือซึ่งมีอายุย้อนหลังไปถึงเมื่อราว 60,000,000 ปีที่ผ่านมา สันนิษฐานว่านกอ้ายงั่วมีวิวัฒนาการจนแตกต่างจากนกกาน้ำเมื่อราว 30,000,000 ปีที่ผ่านมา
นักบรรพชีวินวิทยาขุดค้นพบซากดึกดำบรรพ์ หรือซากฟอสซิล ของนกกาน้ำได้ 24 ชนิด และชนิดที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุย้อนหลังไปถึงยุคเทอร์เชียรีตอนต้น เมื่อราว 50,000,000 ปีที่ผ่านมา ซากดึกดำบรรพ์ของนกกาน้ำ 24 ชนิดนี้มีลักษณะแตกต่างกันจนสามารถแยกออกได้ถึง 4 สกุล คือ สกุล Graculavus, สกุล Actiornis, สกุล Pliocarbo และสกุล Phalacrocorax ที่พบในปัจจุบัน
สำหรับนกกาน้ำในสกุล Phalacrocorax ซึ่งเป็นสกุลที่มีวิวัฒนาการสูงสุด และยังคงมีชีวิตอยู่ต่อมาจนถึงปัจจุบัน นักบรรพชีวินวิทยาได้วิเคราะห์ซากดึกดำบรรพ์ของนกกาน้ำในสกุลนี้ที่ขุดค้นพบได้ แล้วสันนิษฐานว่านกกาน้ำในสกุลนี้เกิดขึ้นมาบนโลกตั้งแต่ยุคโอลิโกซีน เมื่อราว 40,000,000 ปีมาแล้ว[4]
รูปร่าง
รูปทรงของนกกาน้ำจะมีลักษณะอวบอ้วน แต่ค่อนข้างเพรียวยาวเหมือนกับตอร์ปิโด มีลำคอยาว หัวค่อนข้างเล็กยาว และปากยาว จึงเหมาะสมที่จะพุ่งตัวลงไปแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำอย่างแคล่วคล่อง แต่ในเวลาที่ยืนอยู่บนพื้นดินริมน้ำหรือเกาะอยู่บนต้นไม้ ลำตัวของนกกาน้ำยกขึ้นค่อนข้างตั้งตรง เพราะขาอยู่ค่อนไปทางด้านท้ายของลำตัวมาก แต่มักหดลำคอเป็นรูปตัว S และทำหลังโก่ง
แต่ในขณะว่ายน้ำ ลำตัวของนกกาน้ำดูค่อนข้างเพรียว เพราะขาอยู่ค่อนไปทางด้านท้ายของลำตัวมาก เหมาะที่จะพุ่งตัวแหวกว่ายอยู่ในน้ำเป็นอย่างยิ่ง ไม่เหมือนนกในวงศ์ใด นอกจากนกอ้ายงั่วซึ่งมีลักษณะใกล้ชิดกับนกกาน้ำเท่านั้น อย่างไรก็ดี ในขณะบินนกกาน้ำดูคล้ายนกเป็ดน้ำมาก และนกตัวผู้และนกตัวเมียเหมือนกันจนแยกความแตกต่างระหว่างเพศไม่ได้ แต่นกตัวผู้มักมีขนาดใหญ่กว่าและน้ำหนักมากกว่านกตัวเมียเล็กน้อย[4]
ความสัมพันธ์กับมนุษย์
ในแถบเอเชียตะวันออก เช่น จีน หรือญี่ปุ่น มีการเลี้ยงนกกาน้ำไว้เพื่อให้หาปลาให้ชาวประมง โดยเฉพาะในญี่ปุ่น กระทำกันจนเป็นประเพณีหรือวัฒนธรรม[5]
นอกจากนี้แล้ว ในอังกฤษ นกกาน้ำถือเป็นต้นแบบให้แก่นกไลเวอร์ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองลิเวอร์พูล และตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลด้วย[6]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.