ใบไม้ (อังกฤษ : leaf ) เป็นส่วนที่สร้างอาหารโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ใบไม้มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันหลายแบบแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ตามลักษณะที่แตกต่างกัน
ใบไม้
โครงเส้นใบของใบไม้
รูปพหูพจน์ของ leaf คือ leaves ส่วน foliage เป็นกลุ่มคำนามที่ใช้อธิบายว่าใบเป็นส่วนประกอบหนึ่งของพืช
ลักษณะของใบพืชดอกที่สมบูรณ์นั้นประกอบไปด้วย ก้านใบ , แผ่นใบ , และ หูใบ ก้านใบนั้นจะเป็นส่วนต่อมาจากลำต้นใบบริเวณที่เรียกว่า "ง่ามกิ่งหรือซอกใบ" แต่ก็ใช่ว่าพืชทุกชนิดจะมีใบตามลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น ในพืชบางชนิดคู่หูใบจะไม่ปรากฏเด่นชัดหรือไม่มีเลย ก้านใบอาจไม่มีหรือแผ่นใบอาจไม่เป็นแผ่นแบน ความหลากหลายที่มีมากมายนี้ถูกแสดงในกายวิภาคของใบจากชนิดหนึ่งถึงอีกชนิดหนึ่งที่ถูกเสนอในรายละเอียดภายใต้รูปร่างลักษณะของใบ
ใบนั้นถือว่าเป็นอวัยวะหนึ่งซึ่งทั่วไปประกอบไปด้วย:
เนื้อเยื่อชั้นผิว ที่จะปกคลุมผิวด้านบน (2) และด้านล่าง (5)
พาเรงคิมา ภายในที่เรียกว่ามีโซฟิลล์ (3:แพลิเซด มีโซฟิลล์) (4:สปองจี มีโซฟิลล์)
ข้อของเส้นใบ (10:ท่อลำเลียง) (8:ไซเล็ม) (9:โฟลเอ็ม)
ปากใบ (6)
เซลล์คุม (7)
ผิวเคลือบคิวทิน (1) ที่ปกคลุมเนื้อเยื่อชั้นผิวอีกที
Diagram of leaf internal
ใบเดี่ยว
ใบเดี่ยว (simple leaf) หมายถึงใบที่มีเพียงใบเดียวติดกับก้านที่แตกออกจากกิ่ง หรือลำต้น เช่น มะม่วง กล้วย แต่ยังมีใบเดี่ยวบางชนิดที่ขอบใบเว้าเข้าไปมากทำให้ดูคล้ายใบประกอบ เช่น มะละกอ มันสำปะหลัง
ใบประกอบแบบขนนก (pinnately compound leaves) ใบย่อยแต่ละใบแยกออกจากก้าน 2 ข้างของแกนกลาง คล้ายขนนก ถ้าปลายสุดของใบจะเป็นใบย่อยเพียงใบเดียวเรียก แบบขนนกคี่ (odd pinnate) เช่น กุหลาบ อัญชัน ก้ามปู ถ้าสุดปลายใบมี 2 ใบ เรียกแบบขนนกคู่ (even pinnate) เช่น มะขาม ขี้เหล็ก แคบ้าน ใบประกอบแบบขนนกอาจแบ่งย่อยได้อีก คือ
ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว (unipinnate) เป็นใบประกอบที่มีใบย่อยแยกออกจากแกนกลางเพียงครั้งเดียว เช่น กุหลาบ มะขาม ขี้เหล็ก
ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น (bipinnate) เป็นใบประกอบแบบขนนกที่แยกออกจากก้านเป็นครั้งที่ 2 จึงมีใบย่อย เช่น ก้ามปู หางนกยูง
ใบประกอบแบบขนนกสามชั้น (tripinnate) เป็นใบประกอบแบบขนนกที่แตกแขนงออกจากก้านเป็นครั้งที่ 3 จึงมีใบย่อย เช่น ปีบ มะรุม
รูปใบ (leaf shape)
รูปวาดรูปใบ คลิกเพื่อแสดงรายละเอียด
ใบแบบรอบข้อ (Perfoliate )
ในพฤกษศาสตร์ ใช้ศัพท์เพื่อพรรณนาถึงรูปใบดังนี้:
ใบรูปเข็ม : Acicular (acicularis )
ใบรูปลิ่มแคบ : Subulate (subulata )
Acuminate (acuminata ) : เรียวแหลม
Aristate (aristata ) : แหลมเข็ม, มีรยางค์แข็ง
Cordate (cordata ) : รูปหัวใจ
Cuneate (cuneata ) : รูปลิ่ม
Deltoid (deltoidea ) : สามเหลี่ยม
Digitate (digitata ) : รูปนิ้วมือ
Elliptic (elliptica ) : รีรูปไข่
Falcate (falcata ) : รูปเคียว
Flabellate (flabellata ) : พัด
Hastate (hastata ) : เงี่ยงใบหอก
Lance-shaped, lanceolate (lanceolata ) : ใบหอก
Linear (linearis ) : แถบ
Lobed (lobata ) : เป็นแฉก, เป็นพู, เป็นหยัก
Obcordate (obcordata ) : หัวใจกลับ
Oblanceolate (oblanceolata ) : ใบหอกกลับ
Oblong (oblongus ) : ขอบขนาน
Obovate (obovata ) : ไข่กลับ
Obtuse (obtusus ) : ป้าน, มน
Orbicular (orbicularis ) : กลม
Ovate (ovata ) : Oval, รีกว้าง รูปไข่
Palmate (palmata ) : รูปฝ่ามือ,แบบนิ้วมือ
Pedate (pedata ) : แบบตีนเป็ด
Peltate (peltata ) : แบบก้นปิด (ลำต้นอยู่ใต้ใบ ณ จุดต่อ)
Perfoliate (perfoliata ) : รอบข้อ (แผ่นใบล้อมรอบลำต้น)
Pinnate (pinnata ) : แบบขนนก
odd-pinnate, imparipinnate: แบบขนนกปลายคี่
paripinnate, even-pinnate: แบบขนนกปลายคู่
pinnatifid and pinnatipartite: หยักแบบขนนก และหยักลึกแบบขนนก
bipinnate, twice-pinnate: แบบขนนกสองชั้น
tripinnate, thrice-pinnate: แบบขนนกสามชั้น
Pinnatisect (pinnatifida ) : หยักลึกสุดแบบขนนก
Reniform (reniformis ) : ไต
Rhomboid (rhomboidalis ) : สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด
Round (rotundifolia ) : กลม
Sagittate (sagittata ) : หัวลูกศร
Spatulate, spathulate (spathulata ) : ช้อน
Subulate (subulata ) : รูปลิ่มแคบ
Sword-shaped (ensiformis ) : รูปดาบ
Trifoliate, ternate (trifoliata ) : มีสามใบย่อย
Truncate (truncata ) : ปลายตัด
Unifoliate (unifoliata ) : มีหนึ่งใบ
ใบขอบ (margins, edge)
angulate: เป็นมุม
entire: เรียบ
ciliate: เป็นขนครุย
crenate: หยักมน
dentate: หยักซี่ฟัน
bidentate: หยักซี่ฟัน 2 ชั้น
denticulate: หยักซี่ฟันถี่
fimbriate: เป็นชายครุย
incised: จักลึก
lacerate: แหว่ง
laciniate: จักเป็นครุย
lobate: เป็นแฉก, เป็นพู, เป็นหยัก
pectinate: จักซี่หวี
repand: เป็นคลื่นเล็กน้อย
serrate: จักฟันเลื่อย
biserrate: จักฟันเลื่อย 2 ชั้น
serrulate: จักฟันเลื่อยถี่
sinuate: เว้าเป็นคลื่น
spinose: มีหนาม
spinose-lacerate: แหว่งมีหนาม
spinose-serrate: จักมีหนาม
undulate: เป็นคลื่น
ปลายใบ
หมุนตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย: สามแฉกลึกสุด, ขอบใบเป็นจักฟันเลื่อยถี่รูปรี, การเรียงเส้นใบรูปฝ่ามือแบบก้นปิด, แบบขนนกปลายคี่เรียวแหลม (กลาง) , หยักลึกสุดแบบขนนก, เป็นหยัก, ขอบใบรูปรี
acuminate: เรียวแหลม
acute: แหลม
cuspidate: เป็นติ่งแหลม
emarginate: เว้าตื้น
mucronate: เป็นติ่งหนาม
mucronulate: เป็นติ่งหนามสั้น
obcordate: รูปหัวใจกลับ
obtuse: ป้าน, มน
truncate: ปลายตัด
โคนใบ
acuminate: เรียวแหลม
acute: แหลม
auriculate: รูปติ่งหู, รูปติ่งใบ
cordate: รูปหัวใจ
cuneate: รูปลิ่ม
hastate: รูปเงี่ยงใบหอก
oblique: เบี้ยว
reniform: รูปไต
rounded: กลม
sagittate: รูปเงี่ยงลูกศร
truncate: ปลายตัด
ผิวใบ
farinose: มีนวลแป้ง
glabrous: เกลี้ยง
glaucous: มีนวล
glutinous: เหนียว
papillate, papillose: มีปุ่มเล็ก
pubescent: ขนสั้นนุ่ม
punctate: จุดโปร่งแสง
rugose: รอยย่น
scurfy: เป็นขุย, มีขุย
tuberculate: มีปุ่ม
verrucose: เป็นตุ่ม
viscid, viscous: เหนียว
ขน (Hairiness (trichomes))
ใบที่ปกคลุมด้วยขนสั้นหนานุ่มรูปดาวอย่างหนาแน่น
ภาพขนสั้นหนานุ่มบนพื้นที่ส่วนล่างใบของ Coleus blumei จากการส่องกล้องจุลทรรศน์อิเล็กทรอน
glabrous: เกลี้ยง
arachnoid, arachnose: ขนคล้ายใยแมงมุม
barbellate: มีขนบางรูปตะขอ, มีหนามบางรูปตะขอ
bearded: มีขนเครา
bristly: มีขนแข็ง
canescent, hoary: ขนสั้นสีเทา
ciliate: เป็นขนครุย
ciliolate: เป็นขนครุยสั้น
floccose: มีขนปุย (ร่วงง่าย)
glandular: มีต่อม
hirsute: ขนหยาบแข็ง
hispid, scabrous, scabrid: ขนสาก
hispidulous: ขนคาย
lanate, lanose, woolly: แบบขนแกะ
pilose: มีขนยาวห่าง
puberulent, puberulous: ขนละเอียด
pubescent: ขนสั้นนุ่ม
sericeous: คล้ายไหม
silky: เหมือนไหม
stellate, stelliform: รูปดาว
strigose: ขนแข็งเอน
tomentose: มีขนสั้นหนานุ่ม
villous: มีขนอุย
Haupt, Arthur Wing, Plant morphology. Publisher: McGraw-Hill 1953. Downloable from http://www.archive.org/details/plantmorphology00haup
a b Mauseth, James D. Botany: An Introduction to Plant Biology. Publisher: Jones & Bartlett, 2008 ISBN 978-0763753450
Willert, Dieter J. von; Eller, Benno M.; Werger, Marinus J. A.; Brinckmann, Enno; Ihlenfeldt, Hans-Dieter: Life Strategies of Succulents in Deserts. Publisher: Cambridge University Press 1992. ISBN 978-0521244688
Bayer, M. B. (1982). The New Haworthia Handbook. Kirstenbosch: National Botanic Gardens of South Africa. ISBN 0620056320 .
Marloth, Rudolf. “The Flora of South Africa” 1932 Pub. Capetown: Darter Bros. London: Wheldon & Wesley.
James, Shelley A., Bell, David T. ; Influence of light availability on leaf structure and growth of two Eucalyptus globulus ssp. globulus provenances; Tree Physiology, Volume20, Issue15, Pp. 1007-1018.
Thomas F. Döring; Marco Archetti; Jim Hardie (2009), "Autumn leaves seen through herbivore eyes" ( เก็บถาวร 2015-05-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน – Scholar search), Proceedings of the Royal Society B Biological Sciences 276 (1654): 121–127, doi:10.1098/rspb.2008.0858, PMC 2614250, PMID 18782744
Published by Thames and Hudson (London) with an ISBN 0 500 54104 3