โลมาอิรวดี หรือ โลมาหัวบาตรมีครีบหลัง (อังกฤษ: Irrawaddy dolphin, Ayeyarwaddy dolphin; ชื่อวิทยาศาสตร์: Orcaella brevirostris) เป็นโลมาชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์โลมามหาสมุทร (Delphinidae) พบประชากรที่กระจายอย่างกว้างขวางในบริเวณใกล้ชายฝั่งทะเล และในบริเวณปากน้ำและแม่น้ำบางส่วนของอ่าวเบงกอลและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรูปร่างคล้ายโลมาครีบทู่ออสเตรเลีย (จาก Orcaella สกุลเดียวกัน) และไม่เคยถูกจัดเป็นสัตว์คนละชนิดก่อน พ.ศ. 2548 แต่มีลักษณะเด่นคือ หัวที่มนกลมคล้ายบาตรพระ ลำตัวสีเทาเข้ม แต่บางตัวอาจมีสีอ่อนกว่า ตามีขนาดเล็ก ปากอยู่ด้านล่าง ครีบข้างลำตัวแผ่กว้างเป็นรูปสามเหลี่ยม ครีบบนมีขนาดเล็กมาก มีรูปทรงแบนและบางคล้ายเคียว มีขนาดประมาณ 180–275 เซนติเมตร น้ำหนัก 3.21 กิโลกรัม
โลมาอิรวดี | |
---|---|
โลมาอิรวดีในประเทศกัมพูชา | |
ขนาดเมื่อเทียบกับมนุษย์ | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Artiodactyla |
อันดับฐาน: | Cetacea |
วงศ์: | Delphinidae |
สกุล: | Orcaella |
สปีชีส์: | brevirostris |
แผนที่การกระจายพันธุ์ของโลมาอิรวดีใน ค.ศ. 2017 | |
ชื่อพ้อง[3] | |
รายการ
|
โลมาอิรวดีบางกลุ่มอาจเข้ามาอาศัยอยู่ในแม่น้ำสายใหญ่ ๆ ด้วย เช่น แม่น้ำโขง ทะเลสาบเขมร ใน พ.ศ. 2459 มีรายงานว่าพบอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา และเคยมีผู้จับได้ที่คลองรังสิต ในเขตปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร[4]
โลมาอิรวดีได้รับการค้นพบครั้งแรกที่แม่น้ำอิรวดีในประเทศพม่า จึงเป็นที่มาของชื่อ ปัจจุบันถึงแม้ว่าสามารถพบโลมาในเขตแม่น้ำและทะเลในเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ แต่บริเวณที่มีประชากรมากที่สุดอยู่ในทะเลสาบจิลิกา รัฐโอฑิศา ประเทศอินเดีย และทะเลสาบสงขลาในภาคใต้ของประเทศไทย[5] โดยสถานที่ที่พบได้น้อยที่สุดและถือเป็นแหล่งวิกฤตที่สุดคือทะเลสาบสงขลาในส่วนที่เป็นน้ำจืดหรือน้ำกร่อย หรือที่เรียกว่า ทะเลน้อย[6] โลมาอิรวดีตัวสุดท้ายที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของประเทศลาวตายเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 หลังจากติดอวนจับปลาของชาวประมงในพื้นที่ เท่ากับเป็นการสูญพันธุ์จากประเทศลาวอย่างเป็นทางการ[ต้องการอ้างอิง]
มีพฤติกรรมพบได้บริเวณที่มีน้ำขุ่น สามารถอยู่ใต้ผิวน้ำได้นานถึง 70–150 วินาที แล้วจะโผล่ขึ้นมาหายใจสลับกัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนาน 9 เดือน ลูกที่เกิดมามีขนาดร้อยละ 40 ของตัวโตเต็มวัย อาหารได้แก่ กุ้ง ปลา และหอยที่อยู่บนผิวน้ำและใต้โคลนตม สถานภาพจัดอยู่ในบัญชีประเภทที่ 1 ของไซเตส (Appendix I) คือ ห้ามซื้อขาย ยกเว้นมีไว้ในการศึกษาและขยายพันธุ์
อนุกรมวิธาน
หนึ่งในบันทึกแรกสุดของโลมาอิรวดีมาจากเซอร์ ริชาร์ด โอเวน ใน ค.ศ. 1866 ตามตัวอย่างที่พบใน ค.ศ. 1852 ที่ท่าเรือในวิศาขาปัฏฏนัมทางฝั่งตะวันออกของประเทศอินเดีย[7]
ศัพทมูลวิทยาและชื่อท้องถิ่น
ชื่อชนิด brevirostris มาจากภาษาละตินที่มีความหมายว่า จะงอยสั้น มันมีความใกล้ชิดกับโลมาครีบทู่ออสเตรเลีย (Orcaella heinsohni) หลังมีการตรวจวิเคราะห์ยีนโลมา ทำให้โลมาครีบทู่สองชนิดถูกจัดเป็นสัตว์คนละชนิดใน พ.ศ. 2548
ชื่อสามัญของโลมาอิรวดีมีดังนี้:[8][7][9]
- ไทย: โลมาอิรวดี, โลมาหัวบาตร, โลมาหัวบาตรมีครีบหลัง, โลมาน้ำจืด, โลมาหัวหมอน (ในภาษาไทยถิ่นใต้)
- โอริยา: ଶିଶୁମାର (ศิศุมาร); ଭୁଆସୁଣୀ ମାଛ (ภุอาสุณี มาฉ, แปลว่า โลมาที่ให้น้ำมัน); ชื่อท้องถิ่นในบริเวณลากูน: ଖେରା (เขรา)
- ฟิลิปปินส์: lampasut (ลัมปาซุต)
- เบงกอล: শুশুক (ศุศุก)
- อินโดนีเซีย: pesut mahakam, ikan pesut (เปอซุตมาฮากัม, อีกันเปอซุต)
- เขมร: ផ្សោត (พโซต)
- ลาว: ປາຂ່າ (ปาข่า)
- มลายู: empesut (เอิมเปอซุต)
- พม่า: ဧရာဝတီ လင်းပိုင် (เอยาวะดีละไบง์)
อ้างอิง
บรรณานุกรม
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.