โรคของซีลิแอ็ก[19] (อังกฤษ: coeliac disease หรือ celiac disease) เป็นโรคภูมิต้านตนเองระยะยาวซึ่งสร้างปัญหาโดยหลักต่อลำไส้เล็ก[14] อาการตามแบบรวมทั้งปัญหากระเพาะลำไส้ เช่น ท้องร่วงเรื้อรัง ท้องพอง/ท้องยื่น (abdominal distention) ดูดซึมอาหารไม่ดี (malabsorption) ไม่อยากอาหาร และไม่โต (ในเด็ก)[5] ปกติจะเกิดเมื่ออายุระหว่าง 6 เดือนถึง 2 ขวบ[5] แต่อาการอื่น ๆ จะสามัญกว่าโดยเฉพาะในผู้มีอายุมากกว่า 2 ปี[12][20][21][22] อาการกระเพาะลำไส้อาจจะเบาหรือไม่มี อาจมีอาการที่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย หรือไม่ปรากฏอาการอะไร ๆ เลย[5] แม้โรคอาจเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก[10][12] แต่ก็เกิดเมื่ออายุเท่าไรก็ได้[5][12] โรคมักสัมพันธ์กับโรคภูมิต้านตนเองอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวานประเภทที่ 1 และต่อมไทรอยด์อักเสบเป็นต้น[10]

ข้อมูลเบื้องต้น โรคของซีลิแอ็ก (Coeliac disease), ชื่ออื่น ...
โรคของซีลิแอ็ก (Coeliac disease)
ชื่ออื่นCeliac sprue, nontropical sprue, endemic sprue, gluten enteropathy
Thumb
เนื้อที่ตัดจากลำไส้เล็กออกตรวจ แสดงลักษณะของ coeliac disease คือมีส่วนยื่นที่ทื่อลง (blunting of villi) ส่วนม้วนเข้าที่ใหญ่เกิน (crypt hypertrophy) และลิมโฟไซต์เข้าไปในส่วนม้วนเข้า (lymphocyte infiltration of crypt)
การออกเสียง
  • /ˈsliæk/ SEE-lee-ak ซี-ลิ-แอ็ก หรือ โค-ลิ-แอ็ก
สาขาวิชาวิทยาทางเดินอาหาร อายุรศาสตร์
อาการไม่มีหรือไม่เจำเพาะ, ท้องยื่น/ท้องพอง, ท้องร่วง, ท้องผูก, ดูดซึมอาหารไม่ดี, น้ำหนักลด, dermatitis herpetiformis[A][5][6]
ภาวะแทรกซ้อนภาวะเลือดจางเหตุขาดธาตุเหล็ก ภาวะกระดูกพรุน เป็นหมัน มะเร็งต่าง ๆ ปัญหาทางประสาท และโรคภูมิต้านตนเองอื่น ๆ[7][8][9][10][11]
การตั้งต้นไม่จำกัดอายุ[5][12]
ระยะดำเนินโรคเป็นตลอดชีวิต[10]
สาเหตุปฏิกิริยาต่อกลูเตน[13]
วิธีวินิจฉัยสอบประวัติครอบครัว ตรวจสารภูมิต้านทานในเลือด ตัดเนื้อลำไส้ออกตรวจ ตรวจพันธุกรรม ดูการตอบสนองเมื่องดกลูเตน[14][15]
โรคอื่นที่คล้ายกันลำไส้อักเสบ พยาธิลำไส้ กลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น ซิสติกไฟโบรซิส[16]
การรักษาอาหารปลอดกลูเตน[17]
ความชุก~1 คนใน 135 คน[18]
ปิด

โรคเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อกลูเตน ซึ่งเป็นโปรตีนต่าง ๆ ที่พบในข้าวสาลีและข้าวประเภทอื่น ๆ รวมทั้งข้าวบาร์เลย์และข้าวไรย์[13][23][24] ปกติคนไข้สามารถรับข้าวโอ๊ตที่ไม่มากเกินโดยไม่เจือปนกับข้าวที่มีกลูเตนอื่น ๆ ได้[23][25] แต่ก็อาจมีปัญหากับข้าวโอ๊ตบางสายพันธุ์[23][26] เป็นโรคที่เกิดกับผู้มีปัญหาทางพันธุกรรม[14] คือ เมื่อได้รับกลูเตน การตอบสนองผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันจะผลิตสารภูมิต้านทานต้านตนเอง (autoantibody) ซึ่งอาจสร้างปัญหาแก่อวัยวะต่าง ๆ[8][27] ในลำไส้เล็ก นี่ทำให้อักเสบ และอาจทำส่วนยื่นที่บุลำไส้ (intestinal villus) ให้สั้น/ทื่อลง เป็นอาการที่เรียกว่า villous atrophy[14][15] ซึ่งทำให้ดูดซึมอาหารได้น้อยลง และบ่อยครั้งทำให้โลหิตจาง[14][24]

การวินิจฉัยจะอาศัยการตรวจสารภูมิต้านทานในเลือดบวกกับการตัดเนื้อลำไส้ออกตรวจ โดยการทดสอบทางพันธุกรรม (genetic testing) โดยเฉพาะอาจช่วย[14] แต่บางครั้งก็วินิจฉัยได้ยาก[28] เพราะอาจตรวจไม่พบสารภูมิต้านทานต้านตนเอง (autoantibody)[29][30] เพราะลำไส้เล็กอาจเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยและส่วนยื่นจะดูปกติ[21][31] แม้ผู้ที่มีอาการหนักก็อาจต้องไปหาหมอเป็นเวลาหลายปีกว่าจะวินิจฉัยได้ถูกต้อง[32] ปัจจุบันมีผู้ไม่มีอาการอะไร ๆ ที่วินิจฉัยว่ามีโรคนี้ โดยอาศัยการตรวจคัดโรค[33] แต่หลักฐานซึ่งแสดงประโยชน์ของการตรวจคัดโรคก็ยังไม่ชัดเจน[34] แม้โรคจะมีเหตุจากความไม่ทนต่อโปรตีนข้าวสาลี แต่นี่ก็ไม่ใช่ภาวะภูมิแพ้ข้าวสาลี (wheat allergy)[14]

วิธีการรักษาในปัจจุบันอย่างเดียวก็คือการให้ทานอาหารปลอดกลูเตนตลอดชีวิต ซึ่งอาจทำให้เยื่อลำไส้ฟื้นตัว ทำให้อาการดีขึ้น และลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ซึ่งได้ผลต่อคนไข้โดยมาก[17] ถ้าไม่รักษา นี่อาจทำให้เกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองของลำไส้ (intestinal lymphoma) และเพิ่มความเสี่ยงการตายก่อนวัยโดยเล็กน้อย[7] อัตราการเกิดโรคไม่เหมือนกันในเขตต่าง ๆ ทั่วโลก เริ่มจากความชุกโรคที่ 1 คนต่อ 300 คนจนถึง 1 คนต่อ 40 คน โดยเฉลี่ยที่ระหว่าง 1 คนต่อ 100 คน กับ 1 คนใน 170 คน[18] ในประเทศพัฒนาแล้ว ประเมินว่า คนไข้ 80% ยังไม่ได้วินิจฉัย เพราะมีปัญหากระเพาะลำไส้น้อยมากหรือไม่มีเลย และเพราะไม่รู้เรื่องโรค[9][35] เป็นโรคที่สามัญในหญิงมากกว่าชาย[36] คำภาษาอังกฤษว่า coeliac มาจากคำภาษากรีกว่า κοιλιακός (koiliakós, "abdominal" แปลว่า เกี่ยวกับท้อง) โดยเริ่มใช้ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 อาศัยงานแปลจากภาษากรีกโบราณเกี่ยวกับโรคของแพทย์ชาวกรีกคือ Aretaeus of Cappadocia[37][38]

เชิงอรรถ

  1. Dermatitis herpetiformis (DH) หรือ Duhring's disease[1][2] เป็นภาวะที่ผิวหนังเป็นตุ่มพอง/ตุ่มใส (blistering) ที่มีน้ำอย่างเรื้อรัง[3][4]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Wikiwand in your browser!

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.

Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.