Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
น้ำพริก เป็น อาหารไทยประเภทเครื่องจิ้มชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่ใช้รับประทานคู่กับผัก ที่มีส่วนประกอบสำคัญคือ พริก ที่ต้องตำหรือทุบให้แหลก บางพื้นที่ใช้พืชผักที่มีอยู่ในพื้นถิ่นตำลงไปตามส่วนประกอบ น้ำพริกยังเป็นหนึ่งในอาหารไทยที่นิยมทำลงบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งขายต่างประเทศ
คนในสมัยก่อนนิยมรับประทานสัตว์น้ำมากกว่าสัตว์บก จึงอาจคิดค้นน้ำพริกขึ้น เพื่อเพิ่มรสชาติและดับกลิ่นคาวต่าง ๆ น้ำพริก ถูกใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารต่าง ๆ หรือใช้ในการรับประทาน เป็นกับข้าว ก็ได้ และยังได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับน้ำพริก แบบที่ใช้เป็นเครื่องปรุงส่วนผสมนั้น เกิดขึ้นเพราะอาหารไทยจำพวกแกง จำเป็นที่จะต้องมีส่วนประกอบ หรือกรรมวิธีการทำที่ค่อนข้างซับซ้อน ผู้ปรุงจึงคิดทำน้ำพริกขึ้น เพื่อรวบรวมส่วนผสมต่าง ๆ นั้นเข้าด้วยกัน เป็นการลดขั้นตอนการปรุงลง และยังสามารถทำเก็บไว้ได้ในจำนวนมาก
น้ำพริกของชาวไทยมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา พบในจดหมายเหตุลาลูแบร์ (พ.ศ. 2230) ราชทูตที่เดินทางเข้ามาในกรุงศรีอยุธยารัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บันทึกน้ำพริกของชาวสยามไว้ว่า:-
น้ำจิ้มของพวกเขานั้นทำกันง่าย ๆ ใช้น้ำนิดหน่อยกับเครื่องเทศ, หัวกระเทียม หัวหอมกับผักลางชนิดที่มีกลิ่นดีเช่น กะเพรา พวกเขาชอบบริโภคน้ำจิ้มเหลวชนิดหนึ่งคล้ายกับมัสตาร์ด ประกอบด้วยกุ้งเคยเน่าเพราะหมักไม่ได้ที่ เรียกว่า กะปิ (capi)[1]: 43
การจดบันทึกลา ลู แบร์ น่าจะจดโดยปราศจากความเข้าใจลักษณะอาหารไทยเพราะส่วนผสมดูขาด ๆ เกิน ๆ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ถึงกับทรงขยายความบันทึกของลา ลู แบร์ ไว้ว่า "ลาลูแบร์ตำน้ำพริกไม่น่าอร่อย ขาดน้ำตาล มะนาว น้ำปลา เกินหัวหอม"[1] หากตำน้ำพริกตำรับลาลูแบร์จะคล้ายกับน้ำพริกชาวปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยงขาว)
ฟรังซัวส์ อังรี ตุรแปง กล่าวถึงน้ำพริกของชาวสยามไว้ว่า:-
ซอสของเขา (ชาวสยาม) ทำด้วยน้ำนิดหน่อย ใส่กระเทียม หัวหอม และเครื่องหอม[1]: 43
น้ำพริกตำรับตุรแปง ปรุงออกมาจะคล้ายกับเครื่องจิ้มชาวไทดำในประเทศเวียดนาม[1]: 43
ส่วนบันทึกของ สังฆราชฌ็อง-บาติสต์ ปาลกัว บาทหลวงคณะมิสซังโรมันคอทอลิกสมัยรัชกาลที่ 4 บันทึกไว้ว่า:-
พวกบ้านนอกไม่สู้สุรุ่ยสุร่ายในเรื่องอาหารการกิน เลี้ยงชีวิตอยู่ด้วยข้าว ปลาแห้ง กล้วย หน่อไม้ แพงพวยกับผักน้ำอย่างอื่น ใช้จิ้มน้ำผสมเผ็ด ๆ อย่างหนึ่งเรียกว่าน้ำพริก (num-phrik) เครื่องจิ้มชนิดหนึ่งใช้กันทั่วไปในประเทศตั้งแต่พระเจ้าแผ่นดินลงมาจนถึงทาสชั้นเลวต่างนิยมชมชื่นในรสของเครื่องจิ้มนี้อยู่ถ้วนหน้า[1]: 43–44
น้ำพริกตำรับสังฆราชปัลเลอกัวร์ถือว่ามีรสแซ่บที่สุด เนื่องจากสังฆราชปัลเลอกัวร์จดบันทึกไว้อย่างละเอียดครบถ้วน คือ ตำพริกแห้ง พริกไทย หัวหอม กระเทียม กะปิ น้ำปลา น้ำมะนาว เพิ่มขิง มะขาม และเมล็ดฟักทอง ปรุงจนมีรสฉุนเผ็ดและอร่อยมาก[1]: 48
|
|
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.