เดอะทรับเบิลส์ (อังกฤษ: The Troubles) เป็นความขัดแย้งทางชาตินิยมเชิงชาติพันธุ์[13][14][15][16] ในไอร์แลนด์เหนือระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1960 ถึงคริสต์ทศวรรษ 1990[17] ความขัดแย้งนี้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติว่า ความขัดแย้งไอร์แลนด์เหนือ[18][19][20][21] บางครั้งเดอะทรับเบิลส์ถูกอธิบายว่าเป็นสงครามไร้รูปแบบ[22][23][24] หรือความขัดแย้งระดับต่ำ[25][26][27] เกิดขึ้นช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 และทั่วไปถือว่าจบลงด้วยความตกลงกูดฟรายเดย์ในปี ค.ศ. 1998[2][3][28][29][30] ถึงแม้ความขัดแย้งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในไอร์แลนด์เหนือ แต่ความรุนแรงแพร่ขยายไปยังประเทศไอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ และยุโรปภาคพื้นทวีปเป็นบางคราว
ข้อมูลเบื้องต้น เดอะทรับเบิลส์, วันที่ ...
เดอะทรับเบิลส์ |
---|
แผนที่รัฐศาสตร์ของไอร์แลนด์ |
วันที่ | ปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 – ค.ศ. 1998[1][2][3][4] |
---|
สถานที่ | |
---|
ผล |
- เอาชนะกันไม่ได้[5][6]
- ความตกลงกูดฟรายเดย์ (ค.ศ. 1998)
- ความตกลงเซนต์อันดรูว์ส (ค.ศ. 2006)
- การถอนทหารสหราชอาณาจักรที่ร่วมปฏิบัติการแบนเนอร์[7]
- การปลดอาวุธกำลังกึ่งทหาร
- ความรุนแรงประปรายดำเนินต่อไป
|
---|
|
คู่สงคราม |
---|
กองกำลังรักษาความมั่นคงของรัฐ:
|
กำลังกึ่งทหารฝ่ายนิยมสาธารณรัฐ:
- กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์เฉพาะกาล (IRA)/Provos
- กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติไอร์แลนด์ (INLA)
- กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์อย่างเป็นทางการ (OIRA)
- กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์ต่อเนื่อง (CIRA)
- กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์แท้ (RIRA)
- องค์การปลดปล่อยประชาชนไอร์แลนด์ (IPLO)
|
กำลังกึ่งทหารฝ่ายภักดีอัลสเตอร์:
- สมาคมป้องกันอัลสเตอร์ (UDA)
- กองกำลังอาสาอัลสเตอร์ (UVF)
- หน่วยจู่โจมเรดแฮนด์ (RHC)
- ขบวนการต่อต้านอัลสเตอร์ (UR)
- กองกำลังอาสาลอยัลลิสต์ (LVF)
- อาสาสมัครโปรเตสแตนต์อัลสเตอร์ (UPV)
|
ความสูญเสีย |
---|
กองทัพสหราชอาณาจักร: 705 ∟(รวม UDR) RUC: 301 NIPS: 24 TA: 7 ตำรวจสหราชอาณาจักรอื่น ๆ: 6 กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร: 4 ราชนาวี: 2 รวม: 1,049[8]
กองทัพบกไอร์แลนด์: 1 Gardaí: 9 IPS: 1 รวม: 11[8] |
PIRA: 292 INLA: 38 OIRA: 27 RIRA: 2 IPLO: 9 รวม: 368[8] |
UDA: 91 UVF: 62 RHC: 4 UR: 2 LVF: 3 UPV: 1[9] รวม: 162[8] |
พลเรือนถูกสังหาร: 1,840 [10](1,935 รวมอดีตพลรบ) [8]เสียชีวิตรวม: 3,532[10]บาดเจ็บรวม: 47,500+[11]ความสูญเสียรวม: ~50,000 [12] |
ปิด
เดอะทรับเบิลส์เป็นความขัดแย้งทางการเมืองและชาตินิยมที่ถูกกระตุ้นด้วยเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์[31] ทั้งยังมีมิติด้านกลุ่มชาติพันธุ์และนิกายนิยม[32] อย่างไรก็ตามแม้จะมีการใช้คำ โปรเตสแตนต์ และ คาทอลิก เพื่อกล่าวถึงสองฝ่าย แต่ความขัดแย้งนี้มิใช่ความขัดแย้งทางศาสนา[13][33] เดอะทรับเบิลส์มีมูลเหตุจากสถานะทางรัฐธรรมนูญของไอร์แลนด์เหนือ ฝ่ายนิยมสหภาพ (Unionists) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอัลสเตอร์ที่นับถือนิกายโปรเตสแตนต์ต้องการให้ไอร์แลนด์เหนือคงอยู่กับสหราชอาณาจักร ขณะที่ฝ่ายชาตินิยมไอร์แลนด์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไอริชที่นับถือนิกายคาทอลิกต้องการให้ไอร์แลนด์เหนือแยกจากสหราชอาณาจักรไปรวมกับไอร์แลนด์
ความขัดแย้งเริ่มขึ้นระหว่างการรณรงค์ของสมาคมสิทธิพลเมืองไอร์แลนด์เหนือเพื่อยุติการเลือกปฏิบัติต่อชาวคาทอลิก/ชาตินิยมที่เป็นชนกลุ่มน้อย จากรัฐบาลโปรเตสแตนต์/นิยมสหภาพและกองกำลังตำรวจอัลสเตอร์[34][35] ผู้ประท้วงถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างรุนแรง และถูกฝ่ายภักดีอัลสเตอร์ (Ulster loyalists หรือ loyalists) ขบวนการทางการเมืองที่มีอุดมการณ์คล้ายฝ่ายนิยมสหภาพทำร้าย ความตึงเครียดถูกยกระดับจนนำไปสู่การจลาจลรุนแรงในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1969 และสหราชอาณาจักรส่งทหารเข้ามาประจำการในไอร์แลนด์เหนือในปฏิบัติการแบนเนอร์ อันเป็นปฏิบัติการทางทหารที่ยาวนานที่สุดของกองทัพบกสหราชอาณาจักร[36] มีการตั้งแนวสันติภาพเพื่อแยกชุมชนสองฝ่ายในบางพื้นที่ ในช่วงแรกชาวคาทอลิกบางส่วนยินดีที่ทหารสหราชอาณาจักรเข้ามาดูแล ด้วยมองว่ามีความเป็นกลางกว่ากำลังตำรวจในพื้นที่ แต่หลังเกิดเหตุวันอาทิตย์ทมิฬในปี ค.ศ. 1972 มุมมองต่อทหารก็เปลี่ยนเป็นศัตรูและเอนเอียง[37]
คู่ขัดแย้งหลักในเดอะทรับเบิลส์ประกอบด้วยกำลังกึ่งทหารที่นิยมสาธารณรัฐ ได้แก่ กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์เฉพาะกาลและกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติไอร์แลนด์, กำลังกึ่งทหารที่เป็นฝ่ายภักดี ได้แก่ กองกำลังอาสาอัลสเตอร์และสมาคมป้องกันอัลสเตอร์ และกองกำลังรักษาความมั่นคงของสหราชอาณาจักร รวมถึงนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ขณะที่กำลังรักษาความมั่นคงของไอร์แลนด์มีบทบาทเล็กน้อยในความขัดแย้งนี้ ฝ่ายสาธารณรัฐใช้ยุทธวิธีกองโจรในการโจมตีกองกำลังสหราชอาณาจักร ตลอดจนลอบวางระเบิดโครงสร้างพื้นฐาน พาณิชย์และการปกครอง ขณะที่ฝ่ายภักดีมุ่งเป้าฝ่ายสาธารณรัฐ/ชาตินิยม และโจมตีชุมชนคาทอลิกเพื่อเป็นการแก้แค้น ระหว่างที่ความขัดแย้งดำเนินอยู่มีการตอบโต้ไปมาอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายหรือแม้แต่ในฝ่ายเดียวกัน ส่วนกองกำลังรักษาความมั่นคงของสหราชอาณาจักรทำหน้าที่ดูแลความสงบ ปราบปรามฝ่ายสาธารณรัฐเป็นหลัก และฮั้วกับฝ่ายภักดีอย่างกว้างขวาง เดอะทรับเบิลส์เป็นความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับการจลาจล การประท้วง และการดื้อแพ่งหลายหน นำไปสู่การแยกชุมชนของสองฝ่ายและจัดตั้งเขตหวงห้ามชั่วคราวในหลายพื้นที่
มีผู้เสียชีวิตในเดอะทรับเบิลส์มากกว่า 3,500 คน คิดเป็นพลเรือน 52% กองกำลังสหราชอาณาจักร 32% และกำลังกึ่งทหาร 16%[8] ฝ่ายสาธารณรัฐมีส่วนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิต 60% ตามด้วยฝ่ายภักดี 30% และกองกำลังสหราชอาณาจักร 10%[38] ยังคงมีความรุนแรงเป็นระยะหลังมีการลงนามในความตกลงกูดฟรายเดย์ในปี ค.ศ. 1998 เช่น การโจมตีแบบการลงโทษ[39] และการต่อสู้ที่กำลังดำเนินอยู่ของฝ่ายสาธารณรัฐบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับความตกลงดังกล่าว[3][29][40]
Gillespie, Gordon (2008). Historical Dictionary of the Northern Ireland Conflict. Scarecrow Press. p. 250. ISBN 978-0-8108-5583-0.
Cox, Michael; Guelke, Adrian; Stephen, Fiona (2006). A Farewell to Arms? Beyond the Good Friday Agreement. Manchester University Press. p. 213. ISBN 978-0-7190-7115-7.
Mitchell, Claire (2013). Religion, Identity and Politics in Northern Ireland. Ashgate Publishing. p. 5. The most popular school of thought on religion is encapsulated in McGarry and O'Leary's Explaining Northern Ireland (1995), and it is echoed by Coulter (1999) and Clayton (1998). The central argument is that religion is an ethnic marker, but that it is not generally politically relevant in and of itself. Instead, ethnonationalism lies at the root of the conflict. Hayes and McAllister (1999a) point out that this represents something of an academic consensus.
John McGarry & Brendan O'Leary (15 June 1995). Explaining Northern Ireland. Wiley-Blackwell. p. 18. ISBN 978-0-631-18349-5.
Melaugh, Martin; Lynn, Brendan. "Glossary of Terms on Northern Ireland Conflict". Conflict Archive on the Internet. Ulster University. The term 'the Troubles' is a euphemism used by people in Ireland for the present conflict. The term has been used before to describe other periods of Irish history. On the CAIN web site the terms 'Northern Ireland conflict' and 'the Troubles', are used interchangeably.
McEvoy, Joanne (2008). The politics of Northern Ireland. Edinburgh: Edinburgh University Press. p. 1. ISBN 978-0-7486-2501-7. OCLC 232570935. The Northern Ireland conflict, known locally as 'the Troubles', endured for three decades and claimed the lives of more than 3,500 people.
McKittrick, David; McVea, David (2001). Making Sense of the Troubles: A History of the Northern Ireland Conflict (Rev ed.). Penguin Books. ISBN 978-0-14-100305-4.
Edwards, Aaron; McGrattan, Cillian (2012). The Northern Ireland Conflict: A Beginner's Guide. Oneworld Publications. ISBN 978-1-78074-171-0.
Lesley-Dixon, Kenneth (2018). Northern Ireland: The Troubles: From The Provos to The Det. Pen and Sword Books. p. 13.
Schaeffer, Robert (1999). Severed States: Dilemmas of Democracy in a Divided World. Rowman & Littlefield. p. 152.
Gillespie, Gordon (November 2007). Historical Dictionary of the Northern Ireland Conflict. Scarecrow Press. p. 250. ISBN 978-0-8108-5583-0.
Elliott, Marianne (2007). The Long Road to Peace in Northern Ireland: Peace Lectures from the Institute of Irish Studies at Liverpool University (2 ed.). Liverpool University Press. pp. 2, 188. ISBN 978-1-84631-065-2.
Goodspeed, Michael (2002). When Reason Fails: Portraits of Armies at War : America, Britain, Israel, and the Future. Greenwood Publishing Group. pp. 44, 61. ISBN 0-275-97378-6.
Storey, Michael L. (2004). Representing the Troubles in Irish Short Fiction. The Catholic University of America Press. p. 149. ISBN 978-0-8132-1366-8.
Richard Jenkins (1997). Rethinking Ethnicity: Arguments and Explorations. SAGE Publications. p. 120. It should, I think, be apparent that the Northern Irish conflict is not a religious conflict... Although religion has a place—and indeed an important one—in the repertoire of conflict in Northern Ireland, the majority of participants see the situation as primarily concerned with matters of politics and nationalism, not religion. And there is no reason to disagree with them.
Richard English. The State: Historical and Political Dimensions, Charles Townshend, 1998, Routledge, p. 96; ISBN 0-415-15477-4.
Dominic Bryan. Orange Parades: The Politics of Ritual, Tradition and Control, Pluto Press (2000), p. 94; ISBN 0-7453-1413-9.