Loading AI tools
นักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม[note 1] (อังกฤษ: David Robert Joseph Beckham, OBE; เกิด 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเป็นประธานสโมสรอินเตอร์ ไมอามี ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์
เดวิด เบคแคม | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เบคแคมใน ค.ศ. 2014 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกิด | เดวิด รอเบิร์ต โจเซฟ เบคแคม[1] 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975[1] เลย์ตันสโตน ลอนดอน อังกฤษ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สัญชาติ | อังกฤษ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อาชีพ |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวแทน | ไซมอน ฟุลเลอร์ (XIX Entertainment) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 5 ฟุต 11 นิ้ว (180 เซนติเมตร)[2] | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คู่สมรส | วิกทอเรีย อดัมส์ (สมรส 1999) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
บุตร | 4 คน, รวมบรุกลิน เบคแคม และโรมิโอ เบคแคม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ญาติ | นิโคลา เพลซ์ (ลูกสะใภ้) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เว็บไซต์ | www |
เบคแคมเคยเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เพรสตันนอร์ทเอนด์, เรอัลมาดริด, เอซี มิลาน, แอลเอ แกลักซี และปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ในปี 1996 จนถึงปี 2009 และยังเคยเป็นกัปตันทีมของทีมชาติอังกฤษด้วย
เบคแคมเป็นนักเตะหนึ่งในสี่คนที่เล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มากกว่า 100 นัด เขายังเป็นนักเตะที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 115 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 และเป็นคนอังกฤษเพียงคนเดียวที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง คือ ในฟุตบอลโลก 1998, 2002 และ 2006 โดยยิงประตูให้ทีมชาติอังกฤษรวมทั้งสิ้น 17 ประตู
เบคแคมได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นนายทหารแห่งจักรวรรดิบริเตน (OBE:Officer of the Order of the British Empire) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2[3]
ชื่อเสียงของเบคแคมนั้นคนทั่วโลกรู้จักเขาเป็นอย่างดีทั้งรุ่นต่อรุ่นโดยผลงานของเขาสามารถสร้างชื่อเสียงไว้มากมายทั้งใน ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ และการค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) เดวิด เบคแคม ประกาศที่จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพหลังจากที่การแข่งขันลีก 1 ของฝรั่งเศส (Ligue 1) ฤดูกาล 2012-13 ภายใต้สโมสร ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สิ้นสุดลง [4]
เดวิด เบคแคม เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิพพส์ครอสส์ ในเขตเมือง เลย์ตันสโตน เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเป็นลูกชายของ ซานดรา จีออร์จีนา ทำอาชีพช่างเสริมสวย และ เดวิด เอดเวิร์ด อลัน "เทด" เบคแคม" ทำอาชีพเป็นพ่อครัวอาชีพ เขาจบการศึกษาจาก โรงเรียน ชิงฟอร์ด ฟาวน์ดาทีออน และได้สมัครเป็นนักฟุตบอลฝึกหัดไปอยู่ในค่ายเยาวชนฟุตบอลของ สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ และจากนั้นได้ย้ายไปอยู่เปรสตันนอร์ธเอ็นด์ และได้ย้ายไปร่วมเป็นนักเตะเยาวชนของ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เบคแคมแต่งงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 กับ วิคตอเรีย อดัมส์ นักร้องสาวของวงสไปซ์ เกิร์ลส ฉายา "Posh Spice" ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมาก ทั้งคู่ถูกเรียกจากสื่อว่า "Posh and Becks" และชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป
ครอบครัวเบคแคมมีลูกชาย 3 คน และลูกสาว 1 คน คือ บรุคลิน โจเซฟ เบคแคม (เกิด 1999) โรมีโอ เจมส์ เบคแคม (เกิด 2002) ครูซ เดวิด เบคแคม (เกิด 2005) และ ฮาร์เปอร์ เซเว่น (เกิด 2011) [5]
เบคแคมได้เซ็นสัญญาเยาวชนกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 เค้าเป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกสอนโดย เอริค แฮร์ริสัน เค้าได้พาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพรุ่นเยาวชน ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ 1992 และชุดแมนยูในตอนนั้นรู้จักในฐานะ ยุคของ 92 เค้าลงสนามครั้งแรกในฐานะตัวสำรอง ในลีค คัฟ ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1992 เค้าเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพในวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.1993
เค้าได้ไปร่วมกับสโมสรฟุตบอลเพรสตันนอร์ทเอนด์ ในสัญญายืมตัวในฤดุกาล 1994-1995 เพื่อได้รับประสบการณ์ตัวจริง เค้ายังยิงประตูจากการเตะมุมอีกด้วย
หลังจากการกลับมาเค้าก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1995 แต่เกมนัดนั้นเสมอ 0-0
เบคแคมมีส่วนในการทำประตูในรอบแรกของฟุตบอลโลก 2006 และยิงได้ในนัดที่พบกับเอกวาดอร์ ในรอบที่สอง ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามในการแข่งขันกับโปรตุเกสในรอบถัดมา เบคแคมบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง และอังกฤษแพ้ดวลจุดโทษให้กับโปรตุเกสอีกครั้ง
หลังจากตกรอบฟุตบอลโลก เบคแคมประกาศลาออกจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษ เพื่อเปิดทางให้รุ่นน้องคนอื่นเข้ามารับหน้าที่นี้แทน
หลังจากที่ยุคของกาลาคติคอสหมดลง เดวิด เบคแคม ได้เซ็นสัญญากับทางแอลเอ แกแลกซีสโมสรเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาด้วยค่าเหนื่อยแพงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ[6] [7] เดวิด เบคแคมมีส่วนทำให้คนในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มหันมาดูฟุตบอลกันมากขึ้น ชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกาของเขาดูเหมือนจะราบรื่นได้ไม่นาน เพราะเขาไม่ค่อยพอใจกับชีวิตค้าแข้งที่เมเจอร์ลีกเท่าไหร่ เดวิด เบคแคมบอกทางผ่านสื่อว่าการที่ได้ไปเล่นให้กับเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกานั้นสำหรับดาราอาจจะใช่ แต่สำหรับนักฟุตบอลที่แท้จริงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และหลังจากนั้นเค้าได้ถูกยืมตัวให้กับทางสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานจึงทำให้เค้าคิดที่จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ อีกครั้ง
เมื่อครึ่งหลังฤดูกาลในปี 2008-2009 ของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลี ได้ทำการยืมตัว เดวิด เบคแคม มาเล่นให้กับทีมจนจบฤดูกาล ซึ่งเขามีส่วนร่วมในการทำประตูมากมายให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน จนทำให้ทีมได้รองแชมป์ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
ความหวังที่ เดวิด เบคแคม ต้องการมาเล่นให้กับยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีอย่างสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานนั้น สิ่งเดียวที่เค้าหวังคือการที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเค้ารู้ตัวดีว่าถ้าเล่นในเมเจอร์ลีกต่อ นั่นจะทำให้ เดวิด เบคแคม ไม่สามารถโชว์ผลงานเท่าที่คาดคิดไว้ได้ เบคแคมจึงตัดสินใจทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาเล่นกับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เค้าต้องการและนั่นทำให้เค้ากับทางแอลเอ แกแลกซีมีเรื่องบาดหมางกัน แต่ในที่สุดก็ทำข้อตกลงกันได้คือ หลังจากที่ เดวิด เบคแคม หมดสัญญาการยืมตัวจากสโมสรฟุตบอลเอซี มิลานในฤดูกาลปี 2008-2009 แล้ว เดวิด เบคแคม จะกลับไปเล่นให้กับแอลเอ แกแลกซี ทันทีและหลังจากหมดฤดูกาลกับทางแอลเอ แกแลกซี เดวิด เบคแคม จะกลับมาเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน อีกครั้งในฐานะนักเตะของสโมสรฟุตบอลเอซี มิลาน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาในเดือนพฤศจิกายนในปี 2009
เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้เริ่มกลับมาฝึกฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลและได้มีข่าวว่าทางอาร์เซนอลจะเซ็นสัญญากับเบคแคมเป็นผู้เล่นของสโมสรแต่ก็ได้ถูกปฏิเสธไปอย่างเป็นทางการจากอาร์แซน แวงแกร์ ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล โดยแวงแกร์ได้บอกกับสื่อว่าเหตุที่เขาให้เบคแคมมาฝึกซ้อมกับสโมสรอาร์เซนอลคือเพื่อให้เบคแคมได้ฝึกสภาพร่างกายของเขาเท่านั้นไม่ได้มีการเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ.[8][9] สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งจึงได้เปิดตัวเขาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โดยนัดแรกของเบคแคมกับปารีแซ็ง แฌร์แม็งคือในนัดที่พับกับ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ ซึ่งเขาได้ลงเล่นมาเล่นในฐานะตัวสำรองให้กับสโมสรในนาทีที่ 76 และเขายังเป็นผู้เล่นคนที่ 400 ของสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็งอีกด้วย.[10] ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมและเพื่อนร่วมสโมสรสามารนำปารีแซ็ง-แฌร์แม็งคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จด้วยเอาชนะ ออแล็งปิกลียอแน ไป 1-0 แล้วได้คว้าแชมป์ลีกเอิงเป็นสมัยแรกของเบคแคมและสมัยที่สามของสโมสร.[11][12]
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ออกมาประกาศให้แกสื่อมวลชนว่าเขาจะเกษียณจากอาชีพนักฟุตบอลอย่างเป็นทางการในการจบอาชีพการเล่นฟุตบอลที่ ประเทศฝรั่งเศส.[13][14]
ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 เบคแคมได้ลงเล่นนัดสุดท้ายในบ้านของฤดูกาลให้กับปารีแซ็ง-แฌร์แม็งและนัดสุดท้ายในการเล่นฟุตบอลอาชีพของเขาด้วยการพบกับ สโมสรฟุตบอลแบรสต์ ทื่ปาร์กเดแพร็งส์ โดยในนัดนี้ การ์โล อันเชลอตตี ผู้จัดการทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็งได้ให้เบคแคมได้ลงเป็นตัวจริงและเป็นกัปตันทีมของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 82 และหลังจากจบการแข่งขัน ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งก็สามารถเอาชนะไปได้ 3-1 และคว้าแชมป์ลีกเอิงอย่างเป็นทางการ.[15] และทำให้เบคแคมเป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษคนแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของแต่ละประเทศได้ถึง 4 ประเทศ คือ อังกฤษ, สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศส
เบคแคมได้เริ่มเล่นให้กับ ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1996 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในนัดที่พบกับ ฟุตบอลทีมชาติมอลโดวา.[16]
เบคแคมได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 1998รอบคัดเลือกและเขาก็ได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมชาติอังกฤษที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ ประเทศฝรั่งเศส,[17]
ในปี ค.ศ. 2012 เบคแคมได้มีชื่อติด ฟุตบอลทีมชาติบริเตนใหญ่ชั่วคราว ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012. ประเภทกีฬาฟุตบอล โดยเขาได้ถูกเรียกตัวจากผู้จัดการทีมชาวอังกฤษอย่าง สจวร์ต เพียชร์.[18]
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | ลีกคัพ | ยุโรป | อื่นๆ1 | รวม | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ลงเล่น | ประตู | ช่วยทำประตู | ||
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 1992–93 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 |
1993–94 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | |
เปรสตัน นอร์ทเอนด์ (ยืมตัว) | 1994–95 | 5 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 5 | 2 | 0 | ||
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 1994–95 | 4 | 0 | 0 | 2 | 0 | 0 | 3 | 0 | 0 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 10 | 1 | 0 |
1995–96 | 33 | 7 | – | 3 | 1 | – | 2 | 0 | – | 2 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 40 | 8 | – | |
1996–97 | 36 | 8 | – | 2 | 1 | – | 0 | 0 | 0 | 10 | 2 | – | 1 | 1 | – | 49 | 12 | – | |
1997–98 | 37 | 9 | 1 | 4 | 2 | – | 0 | 0 | 0 | 8 | 0 | – | 1 | 0 | – | 50 | 11 | 1 | |
1998–99 | 34 | 6 | – | 7 | 1 | – | 1 | 0 | – | 12 | 2 | 2 | 1 | 0 | – | 55 | 9 | 2 | |
1999–00 | 31 | 6 | 2 | – | 0 | 0 | 0 | 12 | 2 | 0 | 5 | 0 | 0 | 48 | 8 | 2 | |||
2000–01 | 31 | 9 | 1 | 2 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 12 | 0 | – | 1 | 0 | – | 46 | 9 | 1 | |
2001–02 | 28 | 11 | 0 | 1 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 13 | 5 | 3 | 1 | 0 | – | 43 | 16 | 3 | |
2002–03 | 31 | 6 | 9 | 3 | 1 | 0 | 5 | 1 | 0 | 13 | 3 | 2 | 0 | 0 | 0 | 52 | 11 | 11 | |
รวม | 265 | 62 | 13 | 24 | 6 | – | 12 | 1 | – | 83 | 15 | 7 | 10 | 1 | – | 399 | 87 | 20 | |
เรอัลมาดริด | 2003–04 | 32 | 3 | 0 | 4 | 2 | 0 | – | 7 | 1 | 1 | 2 | 1 | 1 | 45 | 7 | 2 | ||
2004–05 | 30 | 4 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | 8 | 0 | 3 | 0 | 0 | 0 | 38 | 4 | 5 | |||
2005–06 | 31 | 3 | 10 | 3 | 1 | 0 | – | 7 | 1 | 2 | 0 | 0 | 0 | 41 | 5 | 12 | |||
2006–07 | 23 | 3 | 6 | 2 | 1 | 0 | – | 6 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 31 | 4 | 6 | |||
รวม | 116 | 13 | 18 | 9 | 4 | 0 | – | 28 | 2 | 6 | 2 | 1 | 1 | 155 | 20 | 25 | |||
แอลเอ แกลักซี | 2007 | 5 | 0 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | – | 2 | 1 | 1 | 7 | 1 | 3 | ||||
2008 | 25 | 5 | 6 | 0 | 0 | 0 | – | – | 0 | 0 | 0 | 25 | 5 | 6 | |||||
มิลาน (ยืมตัว) | 2008–09 | 18 | 2 | 5 | 0 | 0 | 0 | – | 0 | 0 | 0 | 2 | 0 | 0 | 20 | 2 | 5 | ||
แอลเอ แกลักซี | 2009 | 11 | 2 | 3 | 0 | 0 | 0 | – | – | 4 | 0 | 0 | 15 | 2 | 3 | ||||
มิลาน (ยืมตัว) | 2009–10 | 11 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | – | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 13 | 0 | 1 | ||
รวม | 29 | 2 | 6 | 0 | 0 | 0 | – | 2 | 0 | 0 | 2 | 0 | 0 | 33 | 2 | 6 | |||
แอลเอ แกลักซี | 2010 | 7 | 2 | 3 | 0 | 0 | 0 | – | – | 3 | 0 | 0 | 10 | 2 | 3 | ||||
2011 | 26 | 2 | 11 | 0 | 0 | 0 | – | – | 3 | 0 | 2 | 29 | 2 | 13 | |||||
2012 | 5 | 1 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | 6 | 0 | 2 | 0 | 0 | 0 | 11 | 1 | 4 | |||
รวม | 81 | 12 | 33 | 0 | 0 | 0 | – | 6 | 0 | 2 | 13 | 1 | 8 | 98 | 13 | 43 | |||
รวมทั้งหมด | 494 | 91 | 70 | 33 | 10 | 0 | 12 | 1 | 0 | 121 | 17 | 15 | 21 | 3 | 9 | 684 | 122 | 94 |
# | Date | Venue | Opponent | Score | Result | Competition | Reports |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1. | 26 June 1998 | Stade Félix Bollaert, Lens | โคลอมเบีย | 2–0 | 2–0 | 1998 FIFA World Cup | [19] |
2. | 24 March 2001 | Anfield, Liverpool | ฟินแลนด์ | 2–1 | 2–1 | 2002 FIFA World Cup Qual. | [20] |
3. | 25 May 2001 | Pride Park, Derby | เม็กซิโก | 3–0 | 4–0 | Friendly match | [21] |
4. | 6 June 2001 | Olympic Stadium, Athens | กรีซ | 2–0 | 2–0 | 2002 FIFA World Cup Qual. | [22] |
5. | 6 October 2001 | Old Trafford, Manchester | กรีซ | 2–2 | 2–2 | 2002 FIFA World Cup Qual. | [23] |
6. | 10 November 2001 | Old Trafford, Manchester | สวีเดน | 1–0 | 1–1 | Friendly match | [24] |
7. | 7 June 2002 | Sapporo Dome, Sapporo | อาร์เจนตินา | 1–0 | 1–0 | 2002 FIFA World Cup | [25] |
8. | 12 October 2002 | Tehelné pole, Bratislava | สโลวาเกีย | 1–1 | 2–1 | UEFA Euro 2004 Qual. | [26] |
9. | 16 October 2002 | St Mary's Stadium, Southampton | มาซิโดเนียเหนือ | 1–1 | 2–2 | UEFA Euro 2004 Qual. | [27] |
10. | 29 March 2003 | Rheinpark Stadion, Vaduz | ลีชเทินชไตน์ | 2–0 | 2–0 | UEFA Euro 2004 Qual. | [28] |
11. | 2 April 2003 | Stadium of Light, Sunderland | ตุรกี | 2–0 | 2–0 | UEFA Euro 2004 Qual. | [29] |
12. | 20 August 2003 | Portman Road, Ipswich | โครเอเชีย | 1–0 | 3–1 | Friendly match | [30] |
13. | 6 September 2003 | Gradski, Skopje | มาซิโดเนียเหนือ | 2–1 | 2–1 | UEFA Euro 2004 Qual. | [31] |
14. | 18 August 2004 | St James' Park, Newcastle | ยูเครน | 1–0 | 3–0 | Friendly match | [32] |
15. | 9 October 2004 | Old Trafford, Manchester | เวลส์ | 2–0 | 2–0 | 2006 FIFA World Cup Qual. | [33] |
16. | 30 March 2005 | St James' Park, Newcastle | อาเซอร์ไบจาน | 2–0 | 2–0 | 2006 FIFA World Cup Qual. | [34] |
17. | 25 June 2006 | Gottlieb-Daimler-Stadion, Stuttgart | เอกวาดอร์ | 1–0 | 1–0 | 2006 FIFA World Cup | [35] |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.