Loading AI tools
บทความรายชื่อวิกิมีเดีย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ตัวละครจากเรื่อง นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ชื่อที่เขียนนามสกุลนำหน้าชื่อ ตามต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น และสะกดตามต้นฉบับจากหนังสือการ์ตูน ชื่อตัวละครส่วนมากมีที่มาจากชื่อนินจาในประวัติศาสตร์ หรือวรรณกรรมญี่ปุ่น แต่มิได้มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นใด เป็นตัวละครในการ์ตูนเท่านั้น
อุซึมากิ นารูโตะ (ญี่ปุ่น: うずまき ナルト) เริ่มปรากฏในมังงะบทที่ 1 และอนิเมะ ตอนที่ 1 เกิดในวันที่ 10 ตุลาคม เลือดกรุ๊ปB มีพ่อชื่อ นามิคาเสะ มินาโตะ แม่ชื่อ อุซึมากิ คุชินะ พ่ออุปถัมภ์ชื่อ จิไรยะ ฉายา ผู้กอบกู้โลกใบนี้ เป็นนินจาของหมู่บ้านโคโนฮะ มีชีวิตที่น่าสงสารในวัยเด็ก เป็นผู้ที่ถูกผนึกจิ้งจอกเก้าหางใว้ในท้องโดยโฮคาเงะรุ่น ที่ 4 พ่อของตน มีนิสัยร่าเริง รักสนุก นอกจากนี้ยังเป็นศิษย์ของหนึ่งในสามนินจาในตำนาน "จิไรยะ" แอบชอบสาวซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมและก็ได้สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า ฉันจะต้องเป็นโฮคาเงะให้ได้ แล้วหลังจากจบสงครามนินจาลงก็ได้ทำตามความฝันจนได้เป็น "โฮคาเงะรุ่นที่7" และได้มีลูกกับ ฮิวงะ ฮินาตะ 2 คน คือ อุซึมากิ โบรูโตะ กับ อุซึมากิ ฮิมาวาริ
อุจิฮะ ซาสึเกะ (ญี่ปุ่น: うちは サスケ) เริ่มปรากฏในมังงะบทที่ 3 และอนิเมะตอนที่2 เกิดในวันที่ 23 กรกฎาคม เลือดกรุ๊ปAB มีพ่อชื่อ อุจิฮะ ฟุงาคุ แม่ชื่อ อุจิฮะ มิโกโตะ พี่ชายชื่อ อุจิฮะ อิทาจิ ฉายา เด็กชายผู้รอดชีวิต เป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลอุจิฮะ เป็นผู้มีความสามารถในการใช้เนตรวงแหวน หลังจากการที่โดนพี่ชายล้างตระกูลเพื่อให้ซาสึเกะแข็งแกร่งขึ้นปัจจุบันได้เปิดเนตรสังสาระจากการได้เซลล์ ฮาชิรามะ ที่คาบูโตะเอามาใส่ แล้วได้พลังจากเซียน6วิถีช่วยปลุก เป็นคนฆ่าโอโรจิมารุ แต่ก็เรียกโอโรจิมารุออกมาอีกครั้งจากอักขระของอังโกะ และภายหลัง อุจิฮะ ซาสึเกะ ก็ได้เข้าร่วมกลุ่มแสงอุษา ในฐานะอาชญากรโลกนินจา และหลังจากนั้นเมื่อสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 เกิดขึ้น อุจิฮะ ซาสึกะ ได้ร่วมสู้กับนารูโตะ ทำให้ทีม 7 กลับมารวมตัวอีกครั้ง เพื่อกำจัด อุจิฮะ มาดาระ หลังจากสงคราม ซาสึเกะได้ต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับนารูโตะที่หุบผาสิ้นสุดแล้วได้ยอมรับความสามารถของนารูโตะ และออกเดินทาง แต่เขาก็มีลูกกับซากุระ 1 คน คือ อุจิฮะ ซาราดะ
ฮารุโนะ ซากุระ (ญี่ปุ่น: 春野 サクラ) เริ่มปรากฏในมังงะบทที่ 3 และอนิเมะตอนที่2 เกิดในวันที่ 28 มีนาคม เลือดกรุ๊ปO มีพ่อชื่อ ฮารุโนะ คิซาชิ แม่ชื่อ ฮารุโนะ เมบุกิ ฉายา ซึนาเดะรุ่นที่ 2 ซากุระเป็นนินจาที่ฉลาด เธอตกหลุมรัก ซาสึเกะและพยายามเรียกร้อง ความสนใจจากเขา หลังจากที่ซากุระได้เดินทางร่วมทุกร่วมสุขกันกับทีม7 เธอรู้สึกว่าอุสึมากิ นารูโตะ นั้นเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่งจนแอบชอบนิดๆ จนในเมื่อสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 ได้จบลง เธอได้ตกลงปลงใจกับ ซาสึเกะ และมีลูกสาว 1 คน คือ อุจิวะ ซาราดะ
ฮาตาเกะ คาคาชิ (ญี่ปุ่น: はたけ カカシ) ฉายา คาคาชินินจาก๊อปปี้ อดีตเคยเข้าสังกัดกองนินจาอันบุ ผมสีขาวของคาคาชิได้รับสืบทอดมาจากพ่อของเขา (ฮาตาเกะ ซาคุโมะ) ได้รับเนตรวงแหวนซึ่งได้รับมาจาก อุจิวะ โอบิโตะ (บุคคลที่ใส่หน้ากากที่คอยอยู่เบื้องหลังกลุ่มแสงอุษา หรือ โทบิ นั่นเอง) เพื่อนร่วมทีม มอบให้ก่อนที่จะเสียชีวิต เป็นโจนินฝีมือดีที่ได้รับการกล่าวขานทั้งในหน่วยลับและหน่วยราก เป็นอาจารย์ของ นารูโตะ ซาสึเกะและซากุระ ชอบอ่านอจึ๊ยสววรค์รำไรมาก หลังจบสงครามนินจาครั้งที่ 4 คาคาชิเป็นโฮคาเงะรุ่นที่6
ซาอิ (ญี่ปุ่น: サイ) (ชื่อที่ถูกตั้งโดยดันโซ) มาร่วมทีมกับนารูโตะและซากุระ โดยมีดันโซเป็นคนแนะนำ ให้มาแทนที่ซาสึเกะที่หายไป ใช้หมึกและภาพวาดเป็นอาวุธ มีวิชานินจาคือ คาถาภาพอสูรสัตว์เทียม เป็นคนในหน่วยราก ซาอิเป็นคนที่ต้องพึ่งหนังสือในการเข้ากลุ่มกับพวกนารุโตะ เพราะในตอนแรกซาอิไม่มีความรู้สึก ไร้จิตสำนึก เพราะเมื่อก่อนซาอิเป็นหน่วยราก ปัจจุบันได้แต่งงานกับอิโนะ มีลูกชื่ออิโนะจิน
ยามาโตะ (ญี่ปุ่น: ヤマト) อดีตหน่วยลับ และอดีตเด็กทดลองของ โอโรจิมารุ ฉายา เท็นโซผู้ใช้คาถาไม้ มาแทนคาคาชิในทีมคาคาชิที่บาดเจ็บจากภารกิจช่วยเหลือกาอาระจากแสงอุษา มีความสามารถใช้พลังของไม้เป็นส่วนใหญ่ ได้รับ DNA จากรุ่นที่ 1 และยังสามารถใช้วิชาผนึกพลังปีศาจจิ้งจอก 9 หาง ในตัวนารูโตะได้ดี เป็นรุ่นน้องของคาคาชิ เป็นคนที่นารุโตะกลัวอยู่นิดๆ เพราะเวลาที่นารูโตะขัดใจยามาโตะ เขาจะทำหน้าน่ากลัวใส่นารูโตะ
อุซึมากิ โบรูโตะ (ญี่ปุ่น: うずまきボルト) เป็นลูกชายของนารูโตะกับฮินาตะและเป็นพี่ของฮิมาวาริ เกิดวันที่ 27 มีนาคม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อุจิวะ ซาราดะ (ญี่ปุ่น: うちはサラダ) เป็นลูกสาวของซาสึเกะกับซากุระ ปัจจุบันนี้สามารถใช้เนตรวงแหวนได้แล้ว เกิดวันที่ 31 มีนาคม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
มิตสึกิ (ญี่ปุ่น: ミツキ) เป็นลูกชายของโอโรจิมารุ และเป็นมนุษย์ทดลองของโอโรจิมารุ มีความสามารถในการยืดตัวเองได้ มีความสามารถในการใช้โหมดเซียน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ซารุโทบิ โคโนฮะมารุ (ญี่ปุ่น: 木ノ葉丸) เป็นหลานชายของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 และอาสึมะ ฉายา ท่านหลานน้อย มักจะชอบท้าสู้กับปู่ตัวเองเสมอ เป็น 1 ในสมาชิกนารุโตะพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน นิสัยเปิ่นๆ เรียนรู้คาถามหารัญจวนจากนารูโตะและสามารถใช้กระสุนวงจักรได้อีกด้วย ปัจจุบันเป็นครูฝึกของกลุ่มโบรูโตะ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
โมโมจิ ซาบุสะ (ญี่ปุ่น: 桃地再不斬) หนึ่งในเจ็ดดาบนินจาแห่งหมู่บ้านคิริงาคุเระ ผู้ใช้ดาบสะบั่นหัวที่ได้รับสืบทอดจากบิวะ จูโซ เป็นนินจาถอนตัวของหมู่บ้านคิริงาคุเระ ฉายา อสูรกายที่ซ่อนอยู่ในหมอก ซึ่งขึ้นชื่อในความเก่ง ร้ายกาจ และดุร้าย ในอดีตหมู่บ้านคิริงาคุเระถูกเรียกว่าเป็นหมู่บ้านหมอกโลหิตเพราะว่าหากใคร จะเป็นเกะนินจะต้องผ่านการทดสอบมหาโหดนั่นคือการให้นักเรียนที่เคยร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมาจับคู่สู้กันเองจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง แต่แล้ววันหนึ่งการสอบมหาโหดนั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อมีเด็กคนหนึ่งที่ แทบไม่มีคุณสมบัติของนินจาเลยฆ่านักเรียนผู้เข้าทดสอบกว่าร้อยคนด้วยตัวคน เดียวโดยไม่มีความลังเล เด็กคนนั้นก็คือ โมโมจิ ซาบุสะ นั่นเอง ตายเพราะบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับฮาตาเกะ คาคาชิและพวกของกาโต้ ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4
ฮาคุ (ญี่ปุ่น: 白) มีความสามารถสูงเนื่องจากมีวิชาน้ำแข็งซึ่งเป็นขีดจำกัดสายเลือด ใช้เข็มเป็นอาวุธ ฉายา ฮาคุผู้ใช้คาถาน้ำแข็ง ซาบุสะได้รับฮาคุมาเลี้ยงและให้ความใส่ใจ ฮาคุจึงสัญญาต่อตัวเอง ว่าจะเป็นเครื่องมือให้ซาบุซะจนตาย ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมภเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4
โอโรจิมารุ (ญี่ปุ่น: 大蛇丸) โอโรจิมารุอดีตนินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ เรียนวิชาจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมกับซึนาเดะและจิไรยะ โดยเมื่อสมัยที่ยังอยู่ในโคโนฮะ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน โอโรจิเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์ พยายามที่จะเรียนรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มี หลังจากที่พ่อแม่เขาตาย เขาก็ค้นคว้าเรื่องวิชาต้องห้ามไว้ทุกชนิด โอโรจิมารุนั้นใช้โหมดเซียนงูขาวได้ แต่ไม่สมบูรณ์ จึงมีตัวเป็นงูขาวหลายหัว ถูกอิทาจิใช้ดาบสะบั้นเมรัยสะกดในการต่อสู้กับซาสึเกะ ถูกซาสึเกะเรียกออกมาหลังจากอิทาจิจัดการคาบูโตะ
โอโรจิมารุ 3 นินจาในตำนานผู้ถอนตัวออกจากแสงอุษา ชอบคิดค้นวิชาประหลาด พ่ายแพ้ซาสึเกะในการต่อสู้และถูกสะกดไว้ในดาบสะบั้นเมรัยของอิทาจิ (ในภาคโบรูโตะโอโรจิมารุเป็นพ่อของมิซึกิ)
ยาคุชิ คาบูโตะ (ญี่ปุ่น: 薬師カブト) เป็นเด็กคนเดียวที่รอดมาจากสงครามที่ทุ่งดอกกระดิ่ง ถูกเลี้ยงโดยโจนินหน่วยแพทย์ ต่อมาได้ไปเป็นสายลับให้ดันโซแต่ภายหลังกลับถูกดันโซหักหลังจึงไปอยู่กับโอ โรจิมารุ คาบุโตะปลอมตัวมาสอบจูนินพร้อมกับ โยโรอิ และ ซึรุงิ คำว่า คาบูโตะ แปลว่า หมวกเกราะโดย 3 คนในทีมเป็นชื่อของอาวุธและเครื่องป้องกันคาบูโตะเคยเป็นลูกสมุนของซาโซริ ที่ส่งมาสอดแนมโอโรจิมารุ โดยใช้คาถาลับที่ทำให้คาบูโตะจำเรื่องของแสงอุษาไม่ได้เพื่อให้โอโรจิมารุ ไว้วางใจ แต่โอโรจิมารุ ได้คลายคาถาให้ หลังจากที่คาบูโตะ ได้ถูกคลายคาถาก็มีความสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นพวกกับโอโรจิมารุมากกว่า ถนัดวิชาแพทย์ แบบโจมตี ผีมือพอๆ กับคาคาชิ (คาบุโตะ - หมวกเกราะ, โยโรอิ - ชุดเกราะ และ ซึรุงิ - ดาบ) หลังจากที่โอโรจิมารุถูกซาสึเกะฆ่า คาบูโตะก็เอาดีเอนเอบางส่วนของโอโรจิมารุปลูกถ่ายไว้ในร่างกาย จนตนเองกลายเป็นครึ่งคนครึ่งงู คาบูโตะเป็นคนเดียวที่สำเร็จวิชาเซียนกับเซียนงูขาว ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 คาบูโตะมีบทบาทเป็นอย่างมากในช่วงแรกด้วยการใช้คาถาสัมพเวสีคืนชีพ แต่สุดท้ายถูกอิทาจิใช้อิซานามิสะกดคาบูโตะไว้และคลายคาถาสัมพเวสีคืนชีพ ปัจจุบันสามารถออกจากอำนาจของอิซานามิได้แล้ว และ กลับตัวกลับใจ ไปช่วยซาซึเกะ (ในภาคโบรูโตะ คาบูโตะเป็น ฟาเตอร์ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า)
คิมิมาโร่ (ญี่ปุ่น: 君麻呂) หนึ่งในห้านินจาลูกน้องของโอโรจิมารุ มีความสามารถเฉพาะ ที่จัดว่าเป็นขีดจำกัดสายเลือด สามารถนำกระดูกออกมาช่วยในการต่อสู้ได้ ได้ปะทะ กับ ลี และ กาอาระ และตายด้วยโรคที่ติดตัวมาในขณะกำลังต่อสู้กับทั้ง 2 คน
คิโดมารุ (ญี่ปุ่น: 鬼童丸) อดีตตัวตายตัวแทนของโอโรจิมารุ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง จึงไม่เป็นที่ต้องการและโดนโอโรจิมารุหลอกให้ไปพาตัวซาซึเกะมาให้ ได้ปะทะกับ ฮิวงะ เนจิ และพ่ายแพ้ไป
ซาคอน และ ยูคอน (ญี่ปุ่น: 左近 - 右近) 1 ใน 5 นินจาลูกน้องของโอโรจิมารุ เป็นฝาแฝดกัน มีความสามารถในการผสานเซลล์ของตัวเอง กับสิ่งมีชีวิต ซึ่งปกติจะผสานกันเองให้เป็นร่างเดียว ถูกคันคุโร่ฆ่าในตอนที่ตามตัวซาสึเกะกลับโคโนะฮะ
ทายูยะ (ญี่ปุ่น: 多由也) เป็นผู้หญิงคนเดียวใน 4 นินจาแห่งหมู่บ้านโอโตะ มีนิสัยห้าว ถูกจิโรโบเตือนทุกครั้งแต่เธอก็ไม่สนใจแถมยังด่ากลับ ทายูยะใช้ขลุ่ยในการต่อสู้เพื่อสะกดจิตคู่ต่อสู้ให้หยุดนิ่งหรือทำกริยาต่างๆ และบังคับสัตว์อัญเชิญที่เธออัญเชิญมา ได้ปะทะกับ ชิกามารุและเทมาริ จนพ่ายแพ้ไป
จิโรโบ (ญี่ปุ่น: 次郎坊) 1 ใน 5 นินจาลูกน้องของโอโรจิมารุ พ่ายแพ้ให้กับอาคิมิจิ โจจิ มีพลังกายที่แข็งแกร่ง ส่วนใหญ่จะใช้พลังพสุธาหรือดูดพลังเป็นหลัก
(ญี่ปุ่น: 暁, Akatsuki อะกัตซึกิ, ความหมาย: รุ่งอรุณ) กลุ่มนินจาถอนตัวจากหมูบ้าน ทุกคนคืออาชญากรแต่ละแคว้นที่ก่อคดีมีพลังกับเทคนิควิชาที่แตกต่างกันไปมีแผนคลุมเคลือ โดยปกติรับงานนักฆ่ากับทหารรับจ้างที่รบในสงครามเพื่อกอบโกยกำไร ทุกคนจะสวมแหวนคนละ 1 วง ซึ่งมีสํญลักษณ์เป็นตัวอักษรคันจิ ที่เป็นชื่อของเทพเจ้าและสัตว์ประหลาดจากตำนานของญี่ปุ่น เป้าหมายหลักคือล่าสัตว์หางให้หมด เพื่อนำมาเป็นอำนาจคุมตลาดสงครามเปลี่ยนแปลงโลกนินจา ให้มีสันติ มีสมาชิกรวม 11 คน แผนครองโลกของ แสงอุษา คือ การรวบรวมสัตว์หางทั้ง 9 ตัวเพื่อรวมกลายเป็น 10 หาง และเซียน6วิถีนั้นมีเนตรสังสาระขั้นสุดยอด มาดาระจึงคิดจะทำให้ตัวเองกลายเป็นพลังสถิตร่าง 10หาง แล้วตัวเองจะมีเนตรแบบเดียวกับเซียน6วิถี ใช้วิชาเนตรขั้นสุดยอดที่สามารถทำให้ทุกคนในโลกนี้ตกภายในอำนาจเนตรนั้นไปตลอดกาล
แต่เดิมคือกลุ่มนินจาต่อต้านที่หาทางยุติสงครามภายในหมู่บ้านอาเมะงาคุเระที่นำโดยยาฮิโกะ แต่เพราะมีชื่อกับยิ่งใหญ่เกินไปจนแผนยุติใกล้สำเร็จนั้น ดันโซจัดฉากร่วมมือกับฮันโซ ล่อให้นางาโตะฆ่ายาฮิโกะหวังตัดปัญหาแบบผิดๆ แต่เป็นต้นเหตุให้เกิดนางาโตะนำสร้างแสงอุษาขึ้นใหม่นำสู่ภัยหายนะในอนาคต
เพน (ญี่ปุ่น: ペーン) หัวหน้าของกลุ่มแสงอุษา เป็นเหมือนหุ่นเชิดของนางาโตะ มี 6 คน 6 วิถี คือ
เพนทุกคนจะมีแท่งเสียบอยู่ตามร่างกาย เรียกว่าแท่งหกวิถี คือนางาโตะใช้วิชาเนตรสังสาระแปรสภาพเลือกในตัวให้คุมแน่นเป็นแท่งเหล็ก ใช้เพื่อรับจักระจากนางาโตะ เสียบใส่ศพเพื่อคุมเป็นหุ่นเชิดกับรับรู้จากระยะไกล
อุซึมากิ นางาโตะ (ญี่ปุ่น: 長門) เพื่อนของยาฮิโกะ นินจาแห่งอาเมะ ฉายา เทพ ใช้วิชาเกี่ยวกับธาตุทั้ง 5 สายได้ยอดเยี่ยม ได้รับเนตรสังสาระจากมาดาระ คือ 1ใน3ลูกศิษย์ของจิไรยะ(รุ่นก่อนโฮคาเงะรุ่นที่ 4)มีเพื่อนสนิทคือยาฮิโกะกับโคนัน และเชื่อว่านารูโตะจะ ขจัดสงครามไปในโลกนินจา ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4 และถูกสะกดไว้ในดาบโทอะซึกะของอิทาจิ เพน (นางาโตะ) อดีตลูกศิษย์ของจิไรยะโดยมีร่าง 6 ร่างโดยทั้ง 6 ร่างมีเนตรสังสาระด้วยเป็นคนที่จิไรยะเคยพบทั้งนั้น ท้ายที่สุดได้เจรจากับนารุโตะและสละชีวิตเพื่อคืนชีพให้นินจาโคโนะฮะที่ตาย ในการบุกหมู่บ้าน
*เนตรสังสาระของนางาโตะ แท้จริงเป็นของมาดาระ ซึ่งได้ให้ เซตซึกับโอบิโตะ ไปแอบปลุกถ่ายให้นางาโตะตั้งแต่ยังเด็กๆ และที่ทำให้นางาโตะควบคุมพลังของเนตรได้เพราะเขามีจักระที่เยอะมากพอของตระกูลอุซึมากิ*
โทบิ (ญี่ปุ่น: トビ) บุคคลปริศนา ปิดบังใบหน้าที่แท้จริงใต้หน้ากาก ฉายา ชายสวมหน้ากาก หรืออีกชื่อคือ อุจิวะ โอบิโตะ อดีตเพื่อนร่วมทีมของคาคาชิและอดีตลูกศิษย์ของ นามิคาเซะ มินาโตะ (พ่อของนารุโตะ โฮคาเงะรุ่นที่ 4)
โทบิ หนึ่งในสมาชิกแสงอุษา ผู้ใช้แนตรวงแหวนอีกคนหนึ่ง ลูกน้องของเดอิดาระ มีนิสัยออกติ๊งต๊อง เป็นคนก่อตั้งแสงอุษาขึ้นมาและเป็นคนประกาศสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 สุดท้ายเฉลยคือ อุจิวะ โอบิโตะ อดีตเพื่อนร่วมทีมของคาคาชิและอดีตลูกศิษย์ของมินาโตะ (โฮคาเงะรุ่นที่ 4) และสามารถเบิกเนตรสังสาระได้สำเร็จโดยการเอาเนตรของนางาโตะมาใส่อีกข้างและเป็นอดีตพลังสถิตร่างของ 10 หาง ปัจจุบันได้จบชีวิตลงเพื่อปกป้องคาคาชินารูโตะและซาซึเกะ เมื่อตายไปได้ให้คาคาชิยืมเนตรวงแหวนครั้งสุดท้ายเพื่อจัดการ คางุยะ อุจิวะ โอบิโตะ (ญี่ปุ่น: うちはオビト) อดีตนินจาแห่งโคโนฮะ เพื่อนร่วมทีมของฮาตาเกะ คาคาชิ และ ริน ลูกศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 เป็นคู่กัดของคาคาชิ และเป็นผู้ที่สละเนตรวงแหวนให้คาคาชิ เป็นของขวัญที่คาคาชิได้เลื่อนขั้นเป็นโจนิน ก่อนที่จะสิ้นใจ แต่ถูกช่วยไว้โดย อุจิวะ มาดาระ
*ตัวตนของโทบิ ในนิสัยที่ติ๊งต๊อง กวนโอ๊ย จริงๆ จะเป็นตัวตนของ เซตซึขาว ที่เหมือนกับคราบหุ้มตัวของ โอบิโตะไว้ อ้างอิง ได้จาก ตอนสงครามโลกนินจา ครั้ง ที่ 4 ช่วงที่คราบของโทบิ ไป ควบคุมร่างของ ยามาโตะ ให้มาร่วมสู้กับทางฝ่าย โอบิโตะ และอ้างอิงจากเนื้อหาในเกม Naruto Ultimate Ninja Storm 4 ซึ่งจะมีเนื้อหาเสริม ในฉากสู้กันระหว่างโอบิโตะกับเซตซึขาวโทบิหลังจากที่โอบิโตะถูกมาดาระช่วยไว้ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ที่ไม่ได้กล่าวไว้ในมังงะและอนิเมะ ซึ่งจะอยู่ในจักรวาลเนื้อเรื่องหลักโดยเสริมเพิ่มขึ้นมาเพิ่มเติมในเกมโดยเขียนบทจาก อาจารย์ มาซาชิ อยู่แล้ว*
อุจิวะ อิทาจิ (ญี่ปุ่น: うちは イタチ) เป็นพี่ชายแท้ๆของ อุจิวะ ซาซึเกะ ฉายา อิทาจิผู้ฆ่าล้างตระกูล เป็นอดีตหน่วยลับของโคโนฮะ ถูกตามล่า เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างตระกูลของตนเอง โดยปล่อยให้ ซาซีเกะรอดเพื่อเหตุผลคือ เพื่อให้ซาสึเกะแข็งแกร่งและเก่งขึ้น ยอมแพ้ให้กับซาสึเกะในการต่อสู้ ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4 แต่เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นจึงเป็นคนเดียวที่สามารถคุมตัวเองได้ และเป็นคนที่คลายคาถาสัมพเวสีคืนชีพด้วยการใช้วิชาเนตรกับ คาบูโตะ อุจิวะ อิทาจิ เป็นนินจาถอนตัวแห่งโคโนฮะ เป็นพี่ชายของซาสึเกะ ซึ่งเป็นผู้ปิดม่านประวัติศาสตร์ของตระกูลอุจิวะ สิ้นชีวิตด้วยฝีมือซาสึเกะ แต่ก่อนตายได้มอบเนตรของตนให้กับซาสึเกะ และมาเฉลยตอนหลังว่าทุกสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมด เป็นภารกิจลับสุดยอด เพื่อคุ้มครองหมู่บ้านและตัวซาซึเกะเอง
โฮชิงากิ คิซาเมะ (ญี่ปุ่น: 干柿 鬼鮫) เป็น 1 ใน 7 ดาบนินจาแห่งคิริงาคุเระรุ่นปัจจุบัน ผู้ใช้ดาบหนังฉลาม ฉายา สัตว์หางที่ไม่มีหาง ซึ่งนับถืออิทาจิค่อนข้างมาก อดีตนินจาถอนตัวของคิริงาคุเระ ปลิดชีพตัวเองเพื่อรักษาความลับให้แสงอุษาและเคยปลิดชีวิตเพื่อนร่วมทีมเพราะความลับด้วยเช่นกัน ได้รับการยกย่องว่ามีความรับผิดชอบสูงมาก
โคนัน (ญี่ปุ่น: コナン) เป็นอดีตศิษย์ของจิไรยะ นินจาแห่งอาเมะ ฉายา นางฟ้า มีเพื่อนร่วมทีมคือ ยาฮิโกะ และนางาโตะ จิไรยะสอนวิชานินจาให้เด็กทั้ง 3 คือ เป็นเวลา 3 ปี แล้วก็กลับโคโนฮะไป โคนันถูกโทบิฆ่าเพราะไม่ยอมบอกที่ซ่อนตัวของนางาโตะ ถือว่าเป็นคนที่รักเพื่อนอย่างแท้จริง เมื่อโคนันรู้ตัวว่า อาจสู้ไม่ได้ เธอได้ทุ่มกำลังอย่างเต็มที่ในการสู้กับโทบิ เป็นตัวละครที่น่านับถือมาก เมื่อตาย อาจารย์ และศิษย์ทั้ง3 จะได้พบหน้ากันอีกครั้ง...
โคนัน ใช้วิชานินจากระดาษในการต่อสู้ โดยมีนิสัยชอบพับกระดาษตั้งแต่เด็ก เมื่อเพนตายโคนันก็ถอนตัวออกจากองค์กร สิ้นชีวิตด้วยฝีมือ อุจิวะ โอบิโตะ (ซึ่งในตอนนั้นใช้นามแฝง ว่า เป็น มาดาระ)
เดอิดาระ (ญี่ปุ่น: デイダラ) อดีตนินจาถอนตัวจากหมู่บ้านอิวะงาคุเระ เคยเป็นลูกศิษย์ของ โอโนกิ ซึจิคาเงะรุ่นที่ 3 เป็นนินจาที่มีความสามารถของขีดจำกัดสายเลือด โดยขโมยวิชาลับของหมู่บ้าน ที่มีความสามารถในการใช้ดินเหนียว สร้างเป็นวัตถุต่างๆ รวมทั้งระเบิด มีคำพูดติดปากว่า " อืมม์ " มีความแค้นส่วนตัวกับ อิทาจิ สนิทกับซาโซริในฐานะศิลปิน หลังจากซาโซริตาย ก็ได้จับคู่กับโทบิ(ในภายหลังคือ โอบิโตะ) โดยได้รับภารกิจในการตามล่า 1หาง และ3หาง เสียชีวิตจาการต่อสู้กับซาสึเกะ โดยการระเบิดตัวเองโดยกินดินเหนียวจากปากที่ผนึกอยู่ที่หน้าอก ภายหลังถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4
ซาโซริ (ญี่ปุ่น: サソリ) อดีตนินจาแห่งซึนะ ฉายา ซาโซริแห่งทรายสีแดง เป็นผู้คิดค้นหุ่นเชิดที่ใช้มนุษย์ในการทำ หรือหุ่นเชิดมนุษย์ และด้วยความคลั่งไคล้ในศิลปะหุ่นเชิด จึงเปลี่ยนตัวเป็นหุ่นเชิดแล้วซ่อนตัวอยู่ในหุ่นตัวโปรดของเขา ในอดีตเป็นผู้ปลิดชีวิตคาเซะคาเงะรุ่น 3 และสิ้นชีวิตโดยเต็มใจด้วยฝีมือ ย่าโจและซากุระ ด้วยหุ่นคุณพ่อกับคุณแม่ที่ตนเป็นคนสร้าง ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4
คาคุซึ (ญี่ปุ่น: 角事) อดีตนินจาแห่งทากิ มีนิสัยชอบเงินเป็นที่สุด มีหัวใจรวม 5 ดวง ถูกเรียกโดยคิซาเมะว่า ซอมบี้คอมโบ ผิดใจกับคู่หูทีไรจะฆ่าทิ้งเว้นแต่ฮิดัน เพราะฆ่าทีไรฮิดันก็ไม่ตายจับมาเย็บรักษาให้หายดีเสมอ เคยต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่น 1 และนั่งดูฮิดันฆ่าอาสึมะ และตายลงด้วยฝีมือของนารูโตะ และ ฮาตาเกะ คาคาชิ ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4
ฮิดัน (ญี่ปุ่น: ヒダン) อดีตนินจาแห่งยูงะงาคุเระ เป็นคู่หูของคาคุซึ เชื่อเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า มีร่างกายเป็นอมตะ ถูกเรียกโดยคิซาเมะว่า ซอมบี้คอมโบ และ เป็นผู้สังหารอาสึมะ ถูกชิกามารุซึ่งเป็นลูกศิษย์เอกของอาสึมะ ระเบิดร่างจนเหลือแต่หัว และใช้หินถล่มทับหลุมไว้ จากการถถกเถียงการตายของเขาปัจจุบัน ช้อมูลเปิดเผย ว่า เขา เสียชีวิตแล้ว โดย อาจารย์ มาซาชิ ให้เหตุผลว่า เขาขาดสารอาหารตาย เพราะ เหลือแต่ หัว ทำให้กินอะไรไม่ได้
ฮิดัน นับถือพระเจ้าสูงสุดที่ชื่อ จาชิน มีคำสาปในการปลิดชีวิตผู้คน เป็นอมตะ ปลิดชีวิตซารุโทบิ อาสึมะ และถูกจัดการด้วยฝีมือของ นารา ชิกามารุ
เซ็ตสึ (ญี่ปุ่น: ぜツ) มี 2 บุคลิกในตนเอง(ขาวกับดำ) มีไหล่คล้ายกาบหอยแครง สามารถเคลื่อนแฝงตัวเองเป็นสสารไปรวมกับสิ่งใดก็ใด้ เซ็ทสึไม่ใช่นินจาสงครามจึงไม่เน้นที่จะสู้กับใคร
เซ็ทสึ เป็นแอนดอยมีชีวิตที่เกิจากการดัดแปลงรหัสพันธุกรรมของฮาชิระมะโดยมาดาระ นักซ่อนตัวที่เก่งที่สุดในกลุ่มแสงอุษา มีความสามารถในการแทรกร่ากายเข้าไปในพื้นดินหรือผนังและดูเหมือนจะมี 2คนในร่างเดียวสามารถแยกร่างออกจากกันได้สามารถแยกร่างได้มากมายและยังสามรแปลงร่างเป็นใครก็ได้ที่ตนเคยสัมผัสหรือเคยกินจักระของคนคนนั้นโดยแทบแยกแยะไม่ออก ถูกนารูโตะเรียกว่า "ว่านหางจระเข้ "
อุจิวะ มาดาระ (ญี่ปุ่น: うちはフガク) ฉายาผู้กอบกู้โลกใบนี้ ชำนาญในการใช้เนตวงแหวนถึงขั้นสูดสุดและเนตรสังสาระ ได้ถูกเข้าใจว่าถูกสังหารในหุบผาสิ้นสุด โดยโฮคาเงะรุ่น 1 แต่รอดมาได้โดยสูบพลังจากเทวรูปนอกรีดจนไปช่วย อุจิวะ โอบิโตะ ภายหลัง ได้ถูกอัญเชิญด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพโดยคาบุโตะได้เข้ามาสู้กับ 5คาเงะในสงครามนินจาครั้งที่ 4 มาดาระสามารถเบิกเนตรสังสาระและสามารถใช้คาถาไม้ได้หลังจากที่ถูกชุบชีวิต และเป็นคนเดียวที่หลังคลายคาถาสัมพเวสีคืนชีพแล้ว ยังสามารถอยู่ต่อได้
โอซึซึกิ คางูยะ (ญี่ปุ่น: 大筒木カグヤ) ฉายาเจ้าหญิงกระต่าย เป็นเทพจุตติลงมาบนโลก เพื่อปกป้องรักษาต้นไม้เทพเจ้า ต่อมามีลูกชายฝาแฝดคือ ฮาโกโรโมะ และ ฮามูระ ในระหว่างตั้งครรภ์ได้เกิดการเข้าใจผิดว่าคางูยะเป็นกบฏ เพื่อปกป้องลูกของเธอ จึงกินผลไม้จักระเข้าไป และได้รับพลังจักระมหาศาล จากนั้นจึงใช้อ่านจันทรานิรันดร ล้างโลกแล้วสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมา หลังจากนั้นมาคางูยะต้องสังเวยชีวิตมนุษย์ให้กับต้นไม้ เพื่อทดแทนผลไม้จักระที่ตนกินไป หนึ่งในนั้นคือหญิงคนที่ฮาโกโรโมะหลงรัก เมื่อรู้ความจริงจึงโกรธมาก และได้ร่วมมือกับน้องชายฮามูระต่อสู้และผนึกแม่ด้วยชิบาคุเท็นเซย์ เพื่อมิให้มนุษย์ต้องรับกรรมเช่นนี้อีก ระหว่างนั้นต้นไม้เทพเจ้ากลายร่างเปนสิบหางเพื่อปกป้องคางูยะ แต่ฮาโกโรโมะก็หยุดเอาไว้ได้และแยกจักระออกเป็นเก้าส่วนนั้นคือสัตว์หางทั้งเก้า
โอซึซึกิ โทเนริ (ญี่ปุ่น: 大筒木トネリ)
โอซึซึกิ โมโมชิกิ (ญี่ปุ่น: 大筒木モモシキ)
โอซึซึกิ คินชิกิ (ญี่ปุ่น: 大筒木キンシキ)
โอซึซึกิ อุระชิกิ (ญี่ปุ่น: 大筒木ウラシキ)
โอซึซึกิ อิชชิกิ (ญี่ปุ่น: 大筒木イッシキ)
อุจิวะ ชิน (ญี่ปุ่น: うちはシン) มีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาทีควบอาวุธไปโจมตีได้ อยู่ในนารูโตะรุ่นโบรูโตะ เป็นโคลลิ่งอุจิวะที่โอโรจิมารุสร้างขึ้นมาจากการเซลล์ของอุจิวะ กับเซลล์ของเซนจู ฮาชิรามะผสมผสานกัน โดยร่างกายไม่เกิดการต่อต้าน กับส่วนหัวกับแขนทั้ง 2 ข้างมีเนตรวงแหวนจำนวนมาก โดยแขนขวาถูกโอโรจิมารุตัดแล้วเอาไปฝังใส่ดันโซ ส่วนชินร่างหลักที่ไร้แขนขวาเทิดทูนอิทาจิมาก ถูกปลูก่ายเซลล์ที่มีขีดจำกัดสายเลือดที่เป็นคาถาแม่เหล็ก ควบคุมโลหะมาทำเป็นแขนเทียมกับหนีออกมาจากหลอดทดลอง พอแสงอุษาถูกทำลายไป ชินก็ลุ่มหลงในตัวอิทาจิ หวังสร้างแสงอุษาขึ้นมาใหม่ โดยสร้างโคลนนิ่งตัวเองขึ้นมาอีกนับไม่ถ้วนเป็นกองทัพ แต่ก็เป็นเด็กซึ่งเป็นลูกของตน กับตั้งชื่อว่าชิน กับสร้างอุปกรณ์ที่มีฝังเนตรวงแหวน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมมิติเวลาเหมือนคามุย ตอนเริ่มแผนการสร้างแสงอุษาใหม่แพ้นารูโตะกับซาสึเกะอย่างง่ายดายจนเจ็บหนัก ชินจึงลักพาตัวซากุระให้มารักษาตน แต่พอทั้งคู่ตามหาที่ฐาละบของชิน ชินถูกโคลนนิ่งของตนฆ่าตาย ส่วนกองทัพโคลนนิ่งชินที่เหลืออยู่นั้นถูกนารูโตะส่งไปสถานรบเลี้ยงเด็กกำพร้าที่แถบชายแดนโคโนฮะ เพื่อให้มีชีวิตเหมือนคนปกติ โดยคาบูโตะที่เป็นผู้นำสถานที่รับผิดชอบเลี้ยงดูกับตั้งชื่อใหม่ให้ทุกคน
กลุ่มคาระ (ญี่ปุ่น: 殻; อังกฤษ: Kara) เป็นองค์กรนินจาชั่วร้ายในยุคของโบรูโตะ
จิเก็น (ญี่ปุ่น: ジゲン) เป็นอดีตหัวหน้าของกลุ่มคาระ
โค้ด (ญี่ปุ่น: コード) เป็นหัวหน้าของกลุ่มคาระ
คาชิน โคจิ (ญี่ปุ่น: 果心居士) เป็นอดีตสมาชิกของกลุ่มคาระ
ซันสึ อมาโด้ (ญี่ปุ่น: 三途アマド) เป็นอดีตสมาชิกของกลุ่มคาระ
เดลต้า (ญี่ปุ่น: デルタ) เป็นสมาชิกของกลุ่มคาระ
กลุ่มสิบสองนินจาองครักษ์ (ญี่ปุ่น: 守護忍十二士; อังกฤษ: Twelve Guardian Ninja) คือนินจา 12 คน ในแคว้นฮิโนะคุนิคอยคุ้มกันไดเมียว โดยทุกคนจะผูกชายเสื้อสามเหลี่ยมที่เอว สมาชิกที่เปิดเผยหลักๆในเนื้อเรื่อง คือ ซารุโทบิ อาสึมะ, จิริคุ, คิทาเนะ, นาอุมะ, เซย์โตะ, โทอู, คาซึมะ และสมาชิกอื่นๆที่เหลือ ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ
กลุ่มเจ็ดดาบนินจาแห่งคิริ (ญี่ปุ่น: 霧の忍刀七人衆, คิริโนะชิโนะบิงะตะนะ นะนะนินชู; อังกฤษ: Seven Ninja Swordsmen of the Mist) นักดาบนินจาโจนินที่เก่งที่สุดในหมู่บ้านคิริงาคุเระ โดยทุกคนล้วนคือโจนิน ส่งต่อดาบของตนให้ผู้สืบทอด หรือถ้าเจ้าของดาบถูกฆ่า หรือมอบดาบใคร ถ้าคนฆ่าหรือเก็บได้คือ เจ้าของคนใหม่ ทั้งกลุ่มมีสมาชิก 7 คน โดย 1 คน ต่อดาบ 1 ชนิด ดาบทั้ง 7 มีความสามารถที่แตกต่างกันไป แต่หัวหน้ากลุ่มเท่านั้นที่ใช้ดาบทั้ง 7 ชนิด ได้อย่างชำนาญ โดยดาบทั้ง 7 มีดังนี้
ผู้ใช้ดาบสะบั่นหัวที่ได้รับสืบทอดจากบิวะ จูโซ นินจาถอนตัวของหมู่บ้านคิริงาคุเระ ฉายา อสูรกายที่ซ่อนอยู่ในหมอก ซึ่งขึ้นชื่อในความเก่ง ร้ายกาจ และดุร้าย ตายเพราะบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับฮาตาเกะ คาคาชิและพวกของกาโต้ ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4
ผู้ใช้ดาบหนังฉลามที่ได้รับสืบทอดจากการฆ่าชูอิคาชัน ฟูกูคิ เป็นนินจาถอนตัวของหมู่บ้านคิริงาคุเระ ฉายา สัตว์ประหลาดที่ซ่อนอยู่ในหมอก หนึ่งในสมาชิกแสงอุษา ฆ่าตัวตายเพื่อที่จะปกป้องความลับของแสงอุสาเอาไว้
ผู้ใช้ดาบสายฟ้าคมเขี้ยว เป็นอดีตนินจาล่าสังหารของหมู่บ้านคิริงาคุเระ ฉายา ฟ้าร้องที่ซ่อนอยู่ในหมอก ในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 เป็นหนึ่งในกลุ่มเจ็ดดาบนินจาที่เข้าปะทะกับทีมโคโนฮะและรอดมาได้ ต่อมาได้ต่อสู้กับพวกนารูโตะจนแพ้ กับฆ่าตัวตาย
ผู้ใช้ดาบปลากระเบนที่ได้รับสืบทอดจากโฮซึกิ มันเงสึ ผู้ติดตามของมิซึคาเงะรุ่นที่ 4 เป็นนักดาบคนเดียวที่เหลือยู่ในกลุ่ม ต่อมาได้เป็นมิซึคาเงะ รุ่น 6
ผู้ใช้ดาบได้ทั้ง 7 เล่ม ที่ได้รับสืบทอดจากคนไร้ชื่อที่ถูกไมโตะ ไดฆ่า มีฉายา อสูรกายกลับชาติมาเกิดตัวที่ 2 กับเป็นพี่ชายของโฮซึกิ ซุยเงสึ
ผู้ใช้ดาบหนังฉลาม ในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 เป็นคนสั่งการคิซาเมะ แต่ถูกคิซาเมะฆ่าตาย
ผู้ใช้ดาบเข็มร้อยด้าย เป็นนินจาล่าสังหาร ในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 เป็นหนึ่งในกลุ่มเจ็ดดาบนินจาที่เข้าปะทะกับทีมโคโนฮะกับถูกฆ่าโดยไมโตะ ได
ผู้ใช้ดาบที่ไร้ความคม ฉายา ค้อนเหล็กแห่งคิริงาคุเงะ ในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 เป็นหนึ่งในกลุ่มเจ็ดดาบนินจาที่เข้าปะทะกับทีมโคโนฮะและถูกฆ่าโดยไมโตะ ได
เป็นผู้ใช้ดาบแห่งการระเบิดที่ได้รับสืบทอดจากคนไร้ชื่อที่ถูกไมโตะ ไดฆ่า กับเสียชีวิต
ผู้ใช้ดาบสายฟ้าคมเขี้ยวที่ได้รับสืบทอดจากคุโรซึกิ ไรกะ เป็นนินจาของหมู่บ้านคิริงาคุเระ ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย จนเสียชีวิต
ผู้ใช้ดาบสะบั่นหัว ในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 หลังจากที่กลุ่มถูกไดฆ่าไปกว่าครึ่ง ตนจึงเป็นนินจาถอนตัว เข้าร่วมกับกลุ่มแสงอุษาจับคู่กับอิทาจิ สู้แพ้พวกมิซึคาเงะ รุ่น 4 จนเสียชีวิต
เป็นผู้ใช้ดาบแห่งการระเบิด ในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 เป็นหนึ่งในกลุ่มเจ็ดดาบนินจาที่เข้าปะทะกับทีมโคโนฮะและถูกฆ่าโดยไมโตะ ได
คิซาเมะเป็นผู้ใช้ดาบปลากระเบน เป็นนินจาของหมู่บ้านคิริงาคุเระ ในช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 เป็นหนึ่งในกลุ่มเจ็ดดาบนินจาที่เข้าปะทะกับทีมโคโนฮะและถูกฆ่าโดยไมโตะ ได
กลุ่มกองพลคินคาคุ (ญี่ปุ่น: 金角部隊; อังกฤษ: Kinkaku Force) คือกลุ่มทีมนินจาพิเศษของหมู่บ้านคุโมะงาคุเระที่ได้ต่อสู้กับกลุ่มนินจาของโฮคาเงะ รุ่น 2 ในสงครามโลกนินจาครั้งแรก โดยสมาชิกที่มีชื่อเสียง เช่น คินคาคุ
กลุ่มกองกำลังวางระเบิด (ญี่ปุ่น: 爆破部隊; อังกฤษ: Explosion Corps) คือหน่วยนินจาที่เชี่ยวชาญวางระเบิด สังหารศัตรูของหมู่บ้านอิวะงาคุเระ โดยสมาชิกที่มีชื่อเสียง เช่น เดอิดาระ และ การิ
กลุ่มกองพลเชิดหุ่น (ญี่ปุ่น: 傀儡部隊; อังกฤษ: Puppet Brigade) คือทัพนินจาที่ใช้วิชาเชิดหุ่นสู้เป็นหลัก ของหมู่บ้านซึนะงาคุเระ โดยสมาชิกที่มีชื่อเสียง เช่น ย่าโจ และ ซาโซริ
กลุ่มกองกำลังแพทย์ (ญี่ปุ่น: 医療部隊; อังกฤษ: Medic Corps) คือองค์กรนินจาแพทย์ของหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระ โดยสมาชิกที่มีชื่อเสียง เช่น ยาคุชิ โนโนะ
ทีม 8 เป็นทีมของอาจารย์ ยูฮิ คุเรไน ประกอบด้วย
เป็นทีมที่เน้นด้านการแกะรอย และหาศัตรูหรือสิ่งของ เป็นทีมทำงานพลาดบ่อยเหมือนกัน
ฮิวงะ ฮินาตะ (ญี่ปุ่น: 日向ヒナタ) ฉายา เจ้าหญิงแห่งเนตรสีขาว มีเนตรสีขาวและมวยอ่อนเป็นทายาทของตระกูลฮิวงะตระกูลหลัก เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างขี้อายและ แอบชอบและชื่นชมในความเป็นนินจาของ นารูโตะมาก เวลาเจอหน้านารูโตะเมื่อไร เธอจะเงียบและหน้าแดง จนบางครั้งเป็นลมทันที มีบทบาทมากขึ้นในภาคตำนานวายุสลาตัน ทั้งตอนตามหาซาสึเกะ เพนบุกหมู่บ้าน และสงครามนินจา
ฮินาตะ มีมวยอ่อนสามารถโจมตีศัตรูได้รอบทิศทางและโจมตีจุดจักระและอวัยวะข้างในได้ มีเนตรสีขาวทำให้มองเห็นกับดักและมองในระยะไกล และสามารถมองรอบตัวได้ถึง340องศาอีกด้วย ตอนจบ เธอกับนารูโตะได้ตกลงปลงใจแต่งงานกันและมีลูก 2 คน ลูกชายคนโต ชื่อโบรูโตะ และลูกสาวคนน้อง ชื่อ ฮิมาวาริ หลังจากแต่งงานฮินาตะได้เปลี่ยนนามสกุลของเธอตามนามสกุลของสามี กลายเป็น อุซิมากิ ฮินาตะ
อินุซึกะ คิบะ (ญี่ปุ่น: 犬塚キバ) ตระกูลที่ต่อสู้ร่วมกับสุนัขของหมู่บ้านโคโนฮะ (ซึ่งอินุในภาษาญีปุ่นแปลว่าสุนัข)
คิบะ ต่อสู้รวมกับอากามารุเป็นนินจาใช้จักระระดับสูงด้วยท่าเขี้ยวประสานเขี้ยว สามารถเจาะหรือโจมตีศัตรูได้ คิบะนั้นมีจมูกที่ดีเลยสามารถตามศัตรูที่อยู่ไกลได้หรือพบสิ่งน่าสงสัยได้ ปัจจุบันได้พบรักกับทามากิ
อากามารุ (ญี่ปุ่น: 赤丸) สุนัขที่มีความสามารถพิเศษในการรับรู้ถึงจักระ ผ่านทางจมูก (เหมือนการดมกลิ่น) จะต่อสู้ร่วมกันกับคิบะ มีตัวสีขาว แต่พอกินยาเม็ดเสบียงตัวจะกลายเป็นสีแดง
อะบุราเมะ ชิโนะ (ญี่ปุ่น: 油女シノ) ผู้ใช้แมลง ท่าทีวางมาดอยู่ตลอดและเครียดตลอดเวลา อยู่ทีมเดียวกับ ฮินาตะ และคิบะ มักถูกเมินเป็นบ่อยครั้ง ก็เลยมีน้อยใจกันบ้างโดยเฉพาะกับนารูโตะ และมักมีวิธีพูดที่แปลกๆ ชิโนะ ใช้แมลงในการต่อสู้เพื่อกินจักระหรือสังหารศัตรูได้ แมลงนั้นมีขนาดเล็กทำให้สืบได้และดักฟังได้ดี เป็นชายที่ขี้งอนและลึกลับมาก ปัจจุบันเป็นครูสอนให้พวกโบรูโตะอยู่โรงเรียนนินจา
ยูฮิ คุเรไน (ญี่ปุ่น: 夕日紅) อาจารย์นินจาประจำทีม 8 เป็นอาจารย์ของ คิบะ ชิโนะ และ ฮินาตะ และเป็นภรรยาของอาจารย์อาสึมะและมีลูกด้วยกันกับอาสึมะ ชื่อว่า มิไร ถนัดวิชาลวงตา
ทีม 10 เป็นทีมของอาจารย์ ซารุโทบิ อาซึมะ ประกอบด้วย นารา ชิกามารุ อาคิมิจิ โจจิ ยามานากะ อิโนะ เป็นทีมสนับสนุน
นารา ชิกามารุ (ญี่ปุ่น: 奈良 シカマル) ฉายา นินจาหนุ่มอัจฉริยะ มีนิสัยขี้เบื่อ ขี้รำคาญ แต่ความฉลาดเป็นเลิศ มีไอคิวสูงถึง 200 มีพลังในการวิเคราะห์สูง เป็นคนสนิทของโจจิ และเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของนารูโตะ เป็นคนเดียวที่สอบผ่านจูนินครั้งที่สอบพร้อมกับพวกนารูโตะ ในสงครามนินจาครั้งที่ 4 ได้รับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้ากองกำลังร่วม4 ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของ โฮคาเงะ รุ่นที่ 7 อุซึมากิ นารูโตะ ชิกามารุ ใช้คาถาเงาเลียนแบบเน้นจับคู่ต่อสู้แต่ที่จริงความสามารถเขาคือเป็นคนวางแผนการต่างๆ ปัจจุบันได้แต่งงานกับเทมาริ มีลูกชื่อ นารา ชิกาได
อาคิมิจิ โจจิ (ญี่ปุ่น: 秋道チョウジ จะมีนิสัยที่ชอบกินขนมอยู่เสมอ อยู่ทีมเดียวกับ นารา ชิกามารุ และ ยามานากะ อิโนะ สามารถเปลี่ยนไขมันให้เป็นจักระได้ ไม่ค่อยชอบให้เรียกว่า หมูอ้วน
อาคิมิจิ โจจิเป็นคนที่ชอบกินมากที่สุดในเรื่อง
โจจิ พละกำลังมากสุดในทีมและเป็นตัวปิดฉาก มีวิชาก็คือ รถถังมนุษย์ วิชาขยายร่างยักษ์ วิชาขยายร่างเฉพาะส่วน ปัจจุบันได้แต่งงานกับคารุย มีลูกชื่อ อาคิมิจิ โจโจ
ยามานากะ อิโนะ (ญี่ปุ่น: 山中いの) ฉายา หมูอิโนะ อิโนะมีความสามารถในการสิงร่างคนอื่น เป็นวิชานินจาของตระกูลยามานากะ และสามารถบังคับให้ร่างที่โดนสิง ปฏิบัติตามที่ตัวเองต้องการ แต่มีข้อเสียคือเมื่อสิงร่างผู้อ่าน ร่างจริงจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได ้ซึ่งง่ายต่อการตกเป็นเป้าโจมตี และมากกว่านั้นเมื่อร่างที่เข้าไปสิงบาดเจ็บ อิโนะจะบาดเจ็บตามไปด้วย เพื่อนร่วมทีมของโจจิและชิกามารุ ครอบครัวของอิโนะประกอบอาชีพเปิดร้านดอกไม้ ปัจุบันคู่ครองคือ ซาอิ ลูกชื่อ ยามานากะ อิโนะจิน
ซารุโทบิ อาสึมะ (ญี่ปุ่น: 猿飛 アスマ) อาจารย์นินจาในหมู่บ้านโคโนฮะ เป็นอาจารย์ของ โจจิ อิโนะ และชิกะมารุ ชอบสูบบุหรี่มากๆ อาสึมะเป็นลูกของรุ่นที่ 3 และเป็นลุงของโคโนฮะมารุ เป็นนินจาที่ใช้จักระลมร่วมกับมีดจักระ ถูกฮิดันแห่งแสงอุษาฆ่า ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4และพ่ายแพ้ให้กับทีม 10
ซารุโทบิ อาสึมะ เสียชีวิตแล้ว โดย ฮึดันกลุ่มแสงอุษา
มี ไมโตะ ไก เป็นครูประจำทีม ในทีมประกอบด้วย
ร็อค ลี (ญี่ปุ่น: ロコ ィイ) ลูกศิษย์สุดรักสุดห่วงของไก ฉายา สัตว์ร้ายสีเขียวผู้งดงามแห่งโคโนฮะ ตอนเด็กใช้คาถาไม่เป็นเลยสักคาถา แต่ยืดติดกับคำว่า ถึงใช้คาถาไม่เป็น ก็เป็นนินจาด้านกระบวนท่าที่เก่งกาจได้ แต่งหน้าตาคล้ายไก เก่งการต่อสู้โดยใช้กระบวนท่า มีประกายปิ๊งปิ๊งเช่นเดียวกับอาจารย์ไก เป็นคู่แข่งของนารุโตะในเรื่องความรัก เปิดด่านประตูแห่งความตายที่ 6 ด่าน
ฮิวงะ เนจิ (ญี่ปุ่น: 日向 ネジ) ทายาทชายในตระกูลสาขาของกลุ่มฮิวงะ มีความสามารถหลักคือเนตรสีขาว ที่สามารถมองทะลุสิ่งต่างๆ และมองเห็นถึงกระแสจักระภายในร่างกายของนินจาได้ ฮิวงะ เนจิ ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะของตระกูลฮิวงะ มีความสามารถในการใช้มวยอ่อน เคยคิดว่าฟ้าได้กำหนดชะตาทุกอย่างไว้แล้วแต่ก็มีความคิดเปลี่ยนหลังจากที่ ได้ต่อสู้กับนารูโตะ ในภาคตำนานวายุสลาตันเนจิได้เลื่อนเป็นโจนิน และได้ช่วยเหลือนารูโตะในภารกิจช่วยเหลือคาเซะคาเงะ และในสงครามนินจาเนจิยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องนารูโตะและฮินาตะจากสิบหาง
ฮิวงะ เนจิ ทายาทชายในตระกูลสาขาของกลุ่มฮิวงะ มีความสามารถหลักคือเนตรสีขาว
เนจิตายในสงคราม
เท็นเท็น (ญี่ปุ่น: テンテン) เท็นเท็นนินจาทีมไก เป็นผู้ยกย่องในความสามารถของซึนาเดะผู้เป็นโฮคาเงะมาก ถนัดในการใช้อาวุธนินจาต่างๆ ทุกรูปแบบ มีนิสัยเลือดร้อน ดูเหมือนเธอจะแอบชอบลีอยู่ในตอนเด็ก
ไมโตะ ไก (ญี่ปุ่น: マイト ガイ) อาจารย์ของร็อก ลี เนจิ และเท็นเท็น ฉายา สัตว์ร้ายสีเขียวผู้ทรนงแห่งโคโนฮะ คิ้วหนามาก เป็นไอดอลของลี ได้ต่อสู้กับคาคาชิ (เช่น ดันพื้น เป่ายิ้งฉุบ) ชนะ 50 ครั้ง แพ้ 51 ครั้ง (สถิติล่าสุด) โดยการแพ้ครั้งที่ 49 ของเขาทำให้เขาต้องมาผูกพัน กับลูกศิษย์คนนี้ แถมไกยังรักลีที่เป็นลูกศิษย์อย่างกับลูกในไส้ ลักษณะพิเศษเวลายิ้มประกายปิ๊งปิ๊ง เรีกท่านี้ว่าท่า Nice guy
ไก เป็นนินจาที่มีจุดเด่นในด้านสมรรถภาพทางร่างกายถึงขีดสุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านปริมาณมัดกล้ามเนื้อ พละกำลัง ความรวดเร็ว ความอ่อนตัว และกระบวนท่าต่อสู้ที่แข็งแกร่งอันดับต้นๆในโลกนินจา นอกจากนี้ไกยังเป็น 1 ในไม่กี่คนที่ฝึกฝนร่างกายอย่างหนักจนปลดความสามารถในการเปิดประตูด่านจักระได้ครบทั้ง 8 ประตู
ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 ไกได้ถ่วงเวลาสู้กับอุจิวะ มาดาระ เพื่อปกป้องเพื่อน/ลูกศิษย์ และรอให้นารูโตะเข้ามาสมทบพรรคพวกได้ทันเวลา ไกได้ตัดสินใจเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 เป็นไม้ตายสุดท้ายของตน และใช้ท่าผีเสื้อราตรี (Night guy) คือการวิ่งเข้าใส่มาดาระด้วยความเร็วที่สูงมากจนมิติบิดเบี้ยว ก่อนจะปิดท้ายด้วยการกระโดดถีบมาดาระด้วยความเร็วสูง จนมาดาระเกือบสิ้นชีวิต (ร่างกายถูกทำลายไปแล้วครึ่งท่อน)
หลังจากใช้พลังแปดประตูจักระจนหมด ไกนอนสิ้นสภาพ จักระค่อยๆลดเลือนจนเกือบจะหมดสิ้น สภาพร่างกายค่อยๆไหม้เป็นขี้เถ้า แต่ ณ เวลานั้น นารูโตะได้เข้ามาสมทบกลุ่มทันเวลาพอดี นารูโตะจึงได้ใช้พลังหยินหยางผนึกสภาพร่างกายของไกให้ไม่เสียหายไปกว่านี้ ต่อมาร่างกายของไกจึงค่อยๆฟื้นสภาพคืนกลับมา
แต่ทว่า ผลกระทบจากท่าผีเสื้อราตรี ได้ทำให้กระดูกขาของไกหักและแตกละเอียด ไม่อาจฟื้นสภาพกลับมาสมบูรณ์ได้อีก หลังสงครามโลกนินจา ไกจึงต้องพ้นสภาพนินจา และต้องนั่งรถบนรถเข็นไปตลอดชีวิต
นารา ชิกาได (ญี่ปุ่น: 奈良シカダイ) เป็นลูกชายของชิกามารุกับเทมาริ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อาคิมิจิ โจโจ (ญี่ปุ่น: 秋道チョウチョウ) เป็นลูกสาวของโจจิกับคารุย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ยามานากะ อิโนะจิน (ญี่ปุ่น: 山中いのじん) เป็นลูกชายของซาอิกับอิโนะ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
คาซามัตสึริ โมเอกิ (ญี่ปุ่น: 風祭モエギ) คุโนะอิจิเด็ก เพื่อนของโคโนฮะมารุ กับอุด้ง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เมทัล ลี (ญี่ปุ่น: メタル リー) เป็นลูกชายของร็อค ลี(บุตรบุญธรรม)
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ยูอิโนะ อิวาเบะ (ญี่ปุ่น: 結乃イワベエ)
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
คามินาริมง เดนกิ (ญี่ปุ่น: 雷門デンキ) เป็นทายาทเพียงคนเดียวของคามินาริมงคอมพานี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อิเสะ อุด้ง (ญี่ปุ่น: 伊勢ウドン) เป็นนักเรียนนินจา ใส่แว่น เป็นเพื่อนร่วมทีมของ โคโนฮะมารุ และโมเอกิ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
คาเคย์ สุมิเระ (ญี่ปุ่น: 筧スミレ)
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อิซึโนะ วาซาบิ (ญี่ปุ่น: 伊豆野ワサビ)
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สึซึเมโนะ นามิดะ (ญี่ปุ่น: 雀乃なみだ)
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
คุโรงาเนะ ซึบากิ (ญี่ปุ่น: 鉄ツバキ)
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ฮิวงะ ฮานาบิ (ญี่ปุ่น: 日向ハナビ) ลูกสาวคนเล็กของฮิวงะ ฮิอาชิน้องสาวของฮินาตะ มีอายุห่างจากฮินาตะ 5 ปี มีความสามารถกว่าฮินาตะและเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไป
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
จิไรยะ (ญี่ปุ่น: 自来也) หนึ่งใน 3 นินจาในตำนานร่วมกับโอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ฉายา เซียนกบ อดีตศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 3และเป็นอาจารย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 4,นางาโตะ,ยาฮิโกะ,โคนัน และนารูโตะ แถมยังสอนวิชากระสุนวงจักร ที่ตัวเองไม่ค่อยถนัดให้แก่นารุโตะ ยังลามกและเปิ่นๆ จึงเป็นที่มาของฉายาเซียนลามก อีกด้วย มักจะเดินทางไปตามที่ต่างๆเพื่อเก็บข้อมูลในการเขียนหนังสือ เป็นผู้เขียนนวนิยายผู้ใหญ่ชุดอะจึ๊ย ถูกเพนจัดการในตอนที่เข้าไปสืบเรื่องแสงอุษาในอาเมะงาคุเระ
มิทาราชิ อังโกะ (ญี่ปุ่น: みたらし アンコ) อาจารย์นินจาของหมู่บ้านโคโนฮะ และเป็นผู้คุมสอบจูนินในรอบที่ 2 อังโกะเคยเป็นลูกศิษย์ของโอโรจิมารุมาก่อน มีความแค้นใจและฝังใจมากหลังถูกโอโรจิมารุกัดคอเพื่อทำอักขระ พยายามจะฆ่าโอโรจิมารุ
ชิซึเนะ (ญี่ปุ่น: シズネ) นินจาแพทย์ที่เป็นผู้ติดตามของซึนาเดะ เธอยังมีเจ้าหมูน้อยธงธงที่มีความสามารถในการดมกลิ่นอีกด้วย เป็นหมอที่มีวิชาเก่งมาก เชี่ยวชาญ เข็มพิษ หมอกพิษ และมีดจักระ ถูกเพนฆ่าในตอนที่เพนมาล่านารุโตะที่โคโนะฮะ ภายหลังเพนได้คืนชีวิตให้พร้อมกับนินจาโคโนะฮะคนอื่นๆ
อุมิโนะ อิรุกะ (ญี่ปุ่น: うみの イルカ) เป็นอาจารย์คนแรกของนารูโตะ และเป็นคนแรกที่เข้าใจ และเอาใจใส่นารูโตะ เหมือนลูก ชอบพานารูโตะไปเลี้ยงราเม็งบ่อยๆ อิรุกะสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก และมีโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ
คุรามะ (ญี่ปุ่น: 九喇嘛) สัตว์หางเก้าหาง แต่เดิมเป็นหนึ่งในก้อนจักระที่เซียนหกวิถี แบ่งออกมาจากสิบหาง โดยเป็นก้อนพลังที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อทุกสิ่ง โคโนฮะได้ครอบครองครั้งแรกหลังจากการต่อสู้ระหว่างเซ็นจู ฮาชิรามะ กับ อุจิวะ มาดาระ โดยที่ฮาชิรามะใช้คาถาไม้ผนึกการเคลื่อนไหวของเก้าหาง(ขณะนั้นถูกมาดาระควบคุมด้วยเนตรวงแหวนเพื่อใช้ต่อสู้) จากนั้นเก้าหางจึงถูกนำมาผนึกเข้ากับร่างสถิตย์คนแรกของโคโนะฮะ คือ อุซึมากิ มิโตะ หรือก็คือภริยาของฮาชิรามะนั่นเองหลังจากมิโตะได้เสียชีวิตลง สถิตย์ร่างเก้าหางคนต่อไปก็คือ อุสึมากิ คุชินะ แม่ของนารูโตะนั่นเอง ก่อนที่จะถูกคลายผนึกช่วงที่คลอดนารูโตะโดย อุจิวะ โอบิโตะที่สวมรอยเป็น อุจิวะ มาดาระ จึงเกิดเป็นเหตุการณ์ เก้าหางอาละวาดทำลายหมู่บ้านโคโนฮะ ทำให้โฮคาเงะรุ่นที่ 4 ต้องทำการผนึกครึ่งหนึ่งของเก้าหางเข้ากับตัวด้วยคาถาผนึก ปิดผนึกซากอสูร และเสียชีวิตจากผลของคาถาผนึก และ คุชินะต้องเสียชีวิตลงจากการขวางการโจมตีครั้งสุดท้ายที่เป้าเล็งไปหานารูโตะ เก้าหางถูกผนึกเข้าไปอยู่ในร่างของนารูโตะด้วยคาถาผนึกสุดท้ายของมินาโตะ ผนึกสี่ลักษณ์ หลังจากนารูโตะผ่านความยากลำบากมานาน จึงได้พบกับ คิลเลอร์ บี และได้เรียนรู้วิธีการควบคุมเก้าหาง ตอนนั้นเก้าหางเองก็ยังไม่ค่อยอยากร่วมมือเท่าไหร่ แต่เมื่อเข้าสู่สงครามโลกนินจาครั้งสุดท้ายแล้วเก้าหางที่ไม่อยากโดนมาดาระควบคุมอีกครั้งบวกกับการที่นารูโตะเปิดใจยอมรับและอยากช่วยสัตว์หางที่ถูกจับไปก่อนหน้า เก้าหางจึงยอมเปิดใจให้นารูโตะพร้อมกับบอกชื่อจริงของตัวเอง คุรามะ และจึงเข้าสู่การเปิดใจของคุรามะให้นารูโตะเพื่อจัดการมาดาระที่กลายเป็นปีศาจไปแล้ว
อุซึมากิ ฮิมาวาริ (ญี่ปุ่น: うずまきヒマワリ) เป็นลูกสาวของนารูโตะกับฮินาตะและเป็นน้องของโบรูโตะ ฉายา ฮิมา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ซารุโทบิ มิราอิ (ญี่ปุ่น: 猿飛ミライ) เป็นลูกสาวของอาสึมะกับคุเรไนและเป็นลูกพี่ลูกน้องของโคโนฮะมารุ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
โฮคาเงะรุ่นที่ 1 (ญี่ปุ่น: 初代火影) ชื่อ เซนจู ฮาชิรามะ (千手柱間) ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านโคโนฮะ ร่วมกับอุจิวะ มาดาระ และเป็นปู่ของซึนาเดะ กับ นาวากิ เป็นนินจาผู้ใช้คาถาไม้ ซึ่งเป็นคาถาขีดจำกัดสายเลือด ว่ากันว่าใช้วิชาไม้พฤกษาก่อเกิดในการก่อสร้างหมู่บ้านโคโนฮะ ฉายา เทพเจ้าแห่งโลกนินจา เคยสู้กับอุจิวะ มาดาระ แล้วชนะ พลังของไม้ เป็นผู้ครอบครองสัตว์หางทั้งหมดแล้วแยกไปตามแคว้นต่างๆ
โฮคาเงะรุ่นที่ 2 (ญี่ปุ่น: 二代目火影) ชื่อ เซนจู โทบิรามะ (千手扉間) น้องชายของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ถนัดใช้น้ำและคาถามิติ เคยมีดาบแสงสายฟ้าเป็นอาวุธคู่กาย ฉายา อัจฉริยะของโลกนินจา เป็นผู้คิดค้นคาถาสัมภเวสีคืนชีพ ร่างแยกเงา กับคาถาต่างๆทั้งคาถาต้องห้าม กับเป็นผู้สร้างกฏระเบียบในหมู่บ้านขึ้นมาให้ตระกูลไหนรับผิดชอบอะไร กับเป็นคนสร้างกรมตำรวจอุจิวะ กับข่มเหงมากเกินไป จนเป็นต้นเหตุให้มีคนที่มีความคิดแบบมาดาระขึ้นมาจนเกือบเป็นสงครามในแคว้น ถูกฆ่าตายโดย สองพี่น้อง กินคาคุ คินคาคุ แห่งหมู่บ้าน คุโมะ คางุเระ
โฮคาเงะรุ่นที่ 3 (ญี่ปุ่น: 三代目火影) ชื่อ ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น (猿飛ヒルゼン) ได้รับตำแหน่งโฮคาเงะจากรุ่นสองในสมัยสงครามโลกนินจาครั้งที่ 1 ตอนรุ่นที่ 2เห็นว่าฮิรุเซ็น อาสาเป็นนกต่อ รุ่นที่ 2 จึงตัดสินใจเป็นนกต่อเองกับเสียชีวิตในภารกิจนั้น แล้วฮิรุเซ็นที่ถูกแต่งตั้งนั้นวันถัดมาเป็นโฮคาเงะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นโจนินคุมทีมซารุโทบิที่มี 3 นินจาในตำนานเป็นศิษย์ ได้กลับมารับตำแหน่งเป็นโฮคาเงะอีกครั้งหลังจากที่ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 ได้เสียชีวิตไป ฉายา เทพเจ้าแห่งนินจา เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นโฮคาเงะ ที่แข็งแกร่งที่สุดกับดำรงตำแหน่งมายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เขารู้ทักษะทุกอย่างในโคโนฮะ รวมทั้งวิชา ปิดผนึกวิญญาณ ของรุ่น 4 จนได้รับฉายาว่าศาสตราจารย์ เป็นศิษย์ของท่านรุ่นที่สองร่วมกับมิโตคาโดะ โฮมุระและอุทาตาเนะ โคฮารุ กับเป็นคนสร้างกฏปกปิดเรื่องนารูโตะเป็นลูกของรุ่นที่ 4 เพื่อปกป้องนารูโตะ กับมีนินจาระดับสูงกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับรุ่นที่ 4 เท่านั้นที่รู้เรื่องนารูโตะเป็นลูกชายของรุ่นที่ 4 แต่พอนารูโตะเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้านตอนศึกสู้กับเพนนั้น เรื่องนารูโตะเป็นลูกรุ่นที่ 4 ถูกเปิดเผย ถูกฆ่าตายโดย โอโรจิมารุ
โฮคาเงะรุ่นที่ 4 (ญี่ปุ่น: 四代目火影) ชื่อ นามิคาเสะ มินาโตะ (波風 ミナト) เขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ต่างๆ มากมาย และได้ชื่อว่าเป็นนินจาที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านโคโนฮะ ฉายา "ประกายแสงสีทองแห่งโคโนฮะ" ช่วงแรกมินาโตะได้ถูกคิดว่าเป็นเด็กในคำทำนาย มินาโตะใช้คาถามิติโดยลงอักขระไว้ที่คุไน เป็นศิษย์เอกของ 1 ใน 3 นินจาในตำนานจิไรยะและเป็นอาจารย์ของคาคาชิ ริน และโอบิโตะ เนื่องจากสีผมที่โดดเด่นคือเหลืองทอง และเป็นผู้ที่มีความว่องไวสูงมาก รวมถึงฝีมือที่ร้ายกาจจนมีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่นินจาทุกแคว้น ซึ่งเป็นพ่อของนารูโตะ และทั้งยังมีวิชาต้องห้ามพวกคาถาสะกดรูปแบบต่างๆกับคาถาเคลื่อนย้ายข้ามมิติของรุ่นที่ 2 ที่เรียนรู้มาจากคุชินะซึ่งเป็น แม่นารูโตะ สละชีวิตเพื่อผนึก 9 หางไว้ในตัวเองครึ่งหนึ่ง กับอีกครึ่งในตัวนารูโตะ กับมีบทบาทมากในตอนที่ได้คุยกับนารูโตะตอนนารูโตะปลดปล่อย 8-9 หางเพื่อบอกเรื่องตน กับมีบทบาทมากในตอนสงครามครั้งที่ 4
โฮคาเงะรุ่นที่ 5 (ญี่ปุ่น: 五代目火影) ชื่อ (เซ็นจู)นาเมคุจิ ซึนาเดะ ฮิเมะ (綱手 姫) เป็นหนึ่งใน สามนินจาในตำนาน ฉายา เจ้าหญิงซึนาเดะผู้ใช้ทากแห่งโคโนฮะ และเป็นหลานคนแรกของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ภายหลังการเสียชีวิตของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ได้กลับมารับตำแหน่งเป็นโฮคาเงะ เป็นนินจาแพทย์ที่เก่งกาจที่สุดในบรรดานินจาแพทย์ทั้งโลกนินจาตอนนี้ และเป็นโฮคาเงะที่ทำให้นินจาของโคโนฮะเหนือกว่านินจาแคว้นอื่นๆในหลายๆด้าน ในตอนที่เพนบุกถล่มโคโนฮะ ซึนาเดะได้ปกป้องและรักษาทุกคนในหมู่บ้านด้วยการอัญเชิญคัตซึยุ จนหมดแรงไปหลายวัน พอฟื้นกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง ในช่วงมหาสงครามนินจาครั้งที่ 4 ซึนาเดะเป็นกำลังหลักสำคัญในการก่อตั้งร่วมกันกับอีกสี่คาเงะที่เหลือ พอจบสงครามมอบตำแหน่งให้คาคาชิเป็นคาเงะคนต่อไป
ชิมูระ ดันโซ (ญี่ปุ่น: 志村ダンゾウ) เป็นหน่วยลับหมู่บ้านโคโนฮะ ฉายา ความมืดของนินจา เป็นศิษย์ของท่านรุ่นที่สองร่วมกับ อาคิมาจิ โทริฟุ อุจิวะ คางามิ ซึ่งเคยเดินเส้นชีวิตผิดมาแล้วครั้งหนึ่ง และเป็นผู้แนะนำให้ซาอิ มาแทนที่ซาสึเกะ ดันโซเป็นผู้ที่เสนอตัวจะมาเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ร่วมกับซารุโทบิ เป็นพวกสายเหยี่ยวซึ่งตรงข้ามกับสายพิราบอย่างซารุโทบิ ทำให้ไม่ค่อยชอบซึนาเดะซึ่งเป็นศิษย์ของซารุโทบินัก ดันโซมักวางแผนจะยึดหมู่บ้านและเป็นโฮคาเงะ มีเนตรวงแหวนข้างขวา(ซึ่งแย่งมาจากชิซุย) และเนตรวงแหวนที่ผนึกอยู่ที่มืออีก10อัน ได้เป็นโฮคาเงะช่วงระยะหนึ่งก่อนจะเสียชีวิตจากการต่อสู้กับซาสึเกะ (โดนฆ่าก่อนมีพิธีรับตำแหน่ง)
โฮคาเงะรุ่นที่ 6 (ญี่ปุ่น: 六代目火影) ฮาตาเกะ คาคาชิ (はたけ カカシ) โจนินทีเคยทำงานเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยลับ (อันบุ) ช่วงหนึ่ง มีความสามารถมาก และต่อสู้เก่ง มีเนตรวงแหวนข้างซ้ายเพราะโอบิโตะให้ก่อนเสียชีวิต คาคาชิเป็นสมาชิกของทีมมินาโตะ ที่มี คาคาชิ ริน และโอบิโตะ คาคาชิเป็นอาจารย์ประจำหน่วย 7 ประกอบด้วย นารูโตะ ซาสึเกะ และซากุระ หลังสิ้นสุดสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 เขาได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 6 กับทำหน้าที่แม้เจ้าตัวจะไม่อยากเป็นก็ตาม แต่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จึงมาเป็น จากนั้นพอเห็นว่าถึงวาระสมควรแล้วจึงได้ยกตำแหน่งให้ อุซึมากิ นารุโตะ
โฮคาเงะรุ่นที่ 7 (ญี่ปุ่น: 七代目火影) อุซึมากิ นารูโตะ (うずまきナルト) เป็นลูกชายของ นามิคาเสะ มินาโตะ และ อุซึมากิคุชินะ เป็นนินจาอยู่หน่วย 7 ทีมเดียวกับ ซาสึเกะ ซากุระ และซาอิ มีคาคาชิเป็นผู้ดูแล หลังจากฝึกฝนวิชามานาน หลังจบสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 ก็ได้ต่อสู้กับซาสึเกะอีกครั้ง ซึ่งทั้งคู่แขนขาด นารูโตะเสียแขนขวา และเพื่อนสนิทของตนเสียแขนซ้าย ด้านความรัก ได้รักกับฮิวงะ ฮินาตะที่แอบชอบตนมาตั้งแต่เด็กก่อนที่จะเป็นนินจาเสียอีก สามารถดูเรื่องราวความรักของทั้งสองได้ที่ (The Last Naruto The Movie) ต่อมาได้ถูกแต่งตั้งขึ้นให้เป็น โฮคาเงะรุ่นที่ 7 (ฝันของเขากลายเป็นจริง)และเป็นพลังสถิตย์ร่างเก้าหางคนล่าสุด
กาอาระ (ญี่ปุ่น: 我愛羅) ฉายา กาอาระแห่งทราย มีปีศาจหางเดี่ยวหรือผู้พิทักษ์ทะเลทรายมีชื่อว่า ชูคาคุ อยู่ในตัว เขาถูกรังเกียจเดียดฉันท์จากคนในหมู่บ้านซึนะ ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อของเขา เพราะถูกกล่าวหาว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่ตาย แถมยังฆ่าน้าของตัวเองอีกด้วย ภายหลังได้รับการยอมรับจากคนในซึนะ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "คาเสะคาเงะ" รุ่นที่ 5 กาอาระเป็นลูกของคาเสะคาเงะรุ่นที่ 4
คันคุโร่ (ญี่ปุ่น: カンクロウ) ถนัดวิชาการเชิดหุ่น มีหุ่นเชิด 3 ตัวชื่อว่า การาสึ คุโรอาริ และซันโจอุโอะ เป็นพี่ชายของกาอาระ เป็นนินจาระดับโจนิน ภายหลังใช้ หุ่นเชิดลับที่เป็นผลงานของ มอนซาเอมอน คาเสะคาเงะรุ่นที่ 2 ในสงครามโลกนินจาได้รับตำแหนงหัวหน้าหน่วยจู่โจม
เทมาริ (ญี่ปุ่น: テマリ) นินจาจาก ซึนะ เป็นพี่สาวของ กาอาระ และ คันคุโร่ เป็นนินจาอีกคนในนารูโตะที่มีความสามารถที่แข็งแกร่งในด้านคาถาลม ใช้พัดยักษ์เป็นอาวุธ สามารถเชิญคาไมทาจิได้ เป็นโจนิน ปัจจุบันได้แต่งงานกับชิกามารุ มีลูกชื่อชิกาดาอิ
บากิ (ญี่ปุ่น: バキ) เป็นอาจารย์ของ กาอาระ คันคุโร่ และ เทมาริ ร่วมกับหมู่บ้านโอโตะ โจมตีโคโนะฮะ และเป็นคนฆ่าฮายาเทะ
ชินกิ (ญี่ปุ่น: シンキ) นินจาจากซึนะ ลูกบุญธรรมของกาอาระ เป็นผู้ใช้คาถาแม่เหล็ก ใช้ทรายเหล็กในการโจมตีและป้องกัน ในรอบสอบจูนิน 3 คน ชินกิได้สู้กับอุจิวะ ซาราดะกับอุสึมากิ โบรูโตะ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อารายะ (ญี่ปุ่น: アラヤ) นินจาจากซึนะ เป็นผู้เชิดหุ่นของทีมชินกิ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
โยโดะ (ญี่ปุ่น: ヨド) นินจาจากซึนะ ผู้ใช้เสียงในการโจมตีศัตรูโดยการสบัดผมจะทำให้เกิดเสียง และสามารถอ่านการเคลื่อนไหวได้จากเสียง ในรอบสอบจูนินโยโดได้สู้กับนารา ชิกาดาอิ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ราสะ (ญี่ปุ่น: 羅砂) คาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 พ่อของกาอาระมีความสามารถใช้ทรายทองคำ ได้เลี้ยงอสูรไว้ในร่างของกาอาระ หวังว่าจะนำมาใช้เป็นอาวุธ แต่ภายหลังไม่สามารถควบคุมได้ จึงวางแผนจะฆ่ากาอาระ แต่ไม่สำเร็จ ถูกโอโรจิมารุสังหาร ในแผนการโค่นล้มโคโนะฮะ (ในภาค 1) ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4 และถูกจัดการโดยกาอาระ โดยเจ้าตัวภูมิใจที่กาอาระได้เป็นคาเงะต่อจากตนกับเป็นที่ยอมรับของหมู่บ้าน
จิโยะ (ญี่ปุ่น: チヨ) ( ย่าโจ ) ฉายา ย่าจิโยะที่เคารพ แม่เฒ่ามีความสามารถในด้านการควบคุมหุ่นกระบอก และการปรุงยาพิษ เป็นที่ปรึกษาของหมู่บ้านซึนะ อดีตมีความแค้นกับซึนาเดะ และฮาตาเคะ ซึคุโมะ พ่อของคาคาชิ จิโยะได้ร่วมทีมกับ ซากุระ คาคาชิ และ นารูโตะ ในภารกิจช่วยเหลลือกาอาระ และได้ช่วยชีวิตซากุระ จากการต่อสู้กับซาโซริ ทั้งยังแลกชีวิตตัวเองเพื่อชุบชีวิตของกาอาระ ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4
เอบิโซ (ญี่ปุ่น: エビゾウ) ฉายา ปู่เอบิโซที่เคารพ ผู้เฒ่าจากหมู่บ้านซึนะ เป็นที่ปรึกษาของซึนะ และเป็นน้องชายของจิโยะ
ปาคุระ (ญี่ปุ่น: パクラ) ฉายา ปาคุระแห่งคาถาแผดเผา หรือ วีรสตรีแห่งซึนะ เธอเป็นตัวละครเดียวในเรื่องที่สามารถใช้คาถาแผดเผา ซึ่งเป็นคาถาขีดจำกัดสายเลือด (ธาตุไฟและลม) เธอมีลูกศิษย์ที่ชื่อว่า มากิ เธอถูกลอบสังหารในการเดินทางไปที่แคว้นคิริ ปาคุระเป็น 1 ใน นินจาที่ถูกอัญเชิญมาด้วยคาถาสัมภเวสีคืนชีพ จนทำให้ปาคุระได้พบเจอกับ มากิ ลูกศิษย์ ของเธออีกครั้ง
มากิ (ญี่ปุ่น: マキ) หนึ่งในนินจาหญิงที่เข้าร่วมในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 เธอเป็นนินจาที่อยู่ในหน่วยผนึก มีม้วนผ้าเป็นอาวุธ รวมถึงใช้ในการผนึก
เอ (ญี่ปุ่น: エー) ไรคาเงะรุ่นที่ 3 เป็นพ่อของไรคาเงะรุ่นที่ 4 โดยไรคาเงะ รุ่น 3 เป็นผู้ใช้คาถาสายฟ้า เป็นผู้ที่มีความรวดเร็วและแข็งแกร่งมาก ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4 และถูกจัดการโดยนารูโตะ
เอ (ญี่ปุ่น: エー) ไรคาเงะรุ่นที่ 4 ฉายา จอมดื้อรั้น เป็นบุตรชายของไรคาเงะรุ่นที่ 3 และเป็นพี่น้องร่วมสาบานของ “บี” หรือคิลเลอร์บี ซึ่งเป็นพลังสถิตร่างแปดหาง โดยไรคาเงะ รุ่น 4 เป็นผู้ใช้คาถาสายฟ้าเป็นที่มีร่างกายแข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 5 คาเงะในยุคปัจจุบันและยังเป็นผู้ที่มีความรวดเร็วเป็นอันดับ 4 ในโลกนินจา
คิลเลอร์ บี (ญี่ปุ่น: キラービー) เป็นร่างสถิตย์แปดหาง และเป็นคู่หูของไรคาเงะรุ่นที่ 4 เป็นผู้ครองดาบหนังฉลามต่อจากคิซาเมะ มีนิสัยบ้าแร็ฟมากๆ เวลาต่อสู้มักร้องเพลงแร็ฟไปด้วย มีคำพูดติดปากคือ ไอบ้านี่ ไอบ้านั่น หรือในหนังสือการ์ตูนคือ ไอบ้าห้าร้อย ไอเวรตะไล แต่เป็นพลังสถิตย์ร่างคนเดียวที่ควบคุมสัตว์หางได้ และเป็นเพื่อนกับพลังสถิตย์ร่าง 9 หาง อุซึมากิ นารูโตะ
ดารุย (ญี่ปุ่น: ダルイ) เป็นมือขวาของไรคาเงะรุ่นที่ 4 และเป็นผู้มีขีดจำกัดทางสายเลือดที่ใช้คาถาพายุ (น้ำและสายฟ้า) ต่อมาได้เป็นไรคาเงะรุ่นที่ 5
ซี (ญี่ปุ่น: シー) เป็นผู้คุ้มกันไรคาเงะรุ่นที่ 4
โอโมอิ (ญี่ปุ่น: オモイ) ลูกศิษย์ของคิลเลอร์ บี ต่อมาได้เป็นผู้คุ้มกันไรคาเงะรุ่นที่ 5
คารุย (ญี่ปุ่น: カルイ) ลูกศิษย์ของคิลเลอร์ บี ปัจจุบันได้แต่งงานกับโจจิ มีลูกชื่อโจโจ
โฮซึกิ เก็นเงสึ (ญี่ปุ่น: 鬼灯幻月) มิซึคาเงะรุ่นที่ 2 เป็นผู้ใช้คาถาลวงตา เป็นนินจาที่สามารถใช้พลังได้ 4 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ไฟ และสายฟ้า โดยมีสัตว์อัญเชิญคือหอยกาบยักษ์ และเป็นคู่ปรับกับสึจิคาเงะ รุ่น 2 ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4 และถูกจัดการโดยกาอาระ
คาราตาจิ ยางุระ (ญี่ปุ่น: 枸橘やぐら) มิซึคาเงะรุ่นที่ 4 เป็นพลังสถิตร่างสามหาง โดยในยุคของมิซึคาเงะ รุ่นที่ 4 เป็นยุคที่โหดร้ายที่สุด โดยขนานนามว่า หมู่บ้านหมอกโลหิต เพราะมีโอบิโตะควบคุมอยู่เบื้องหลัง โดยยางุระถูกแสงอุษาสะกดแล้วเสียชีวิต
เทรุมิ เมย์ (ญี่ปุ่น: 照美メイ) มิซึคาเงะรุ่นที่ 5 ผู้มีขีดจำกัดทางสายเลือดที่ใช้คาถาเดือดพล่าน (ไฟและน้ำ) กับ คาถาหลอมละลาย (ไฟและดิน) เธอมีปมด้อยในเรื่องความโสด จะเห็นในเรื่องได้ว่า คำพูดเล็กๆน้อยๆ ก็พาเธอไปเรื่องความรักได้เช่นกัน
อาโอ (ญี่ปุ่น: 青) เป็นผู้คุ้มกันมิซึคาเงะรุ่นที่ 5
โจจูโร่ (ญี่ปุ่น: 長十郎) เป็นหนึ่งในกลุ่มเจ็ดดาบนินจาแห่งคิริที่ใช้ดาบปลากระเบน ต่อมาได้เป็นมิซึคาเงะรุ่นที่ 6
มิสึโนะ (ญี่ปุ่น: ミスノ) เป็นผู้คุ้มกันมิซึคาเงะรุ่นที่ 6
มู (ญี่ปุ่น: 無) สึจิคาเงะรุ่นที่ 2 ฉายา ไร้ตัวตน เป็นผู้ติดตามของสึจิคาเงะรุ่นที่ 1 และผู้มีขีดจำกัดทางสายเลือดแบบพิเศษที่สามารถควบรวมธาตุดิน ลม และไฟ เป็นผู้ใช้วิชานินจาคาถาธุลี แถมยังเป็นคนที่สามารถหลบเลี่ยงการถูกตรวจจับได้ โดยมูเป็นอาจารย์ของสึจิคาเงะ รุ่น 3 และเป็นคู่ปรับกับมิซึคาเงะ รุ่น 2 ถูกชุบชีวิตด้วยคาถาสัมพเวสีคืนชีพของคาบูโตะในช่วงสงครามนินจาครั้งที่ 4
โอโนกิ (ญี่ปุ่น: オオノキ) สึจิคาเงะรุ่นที่ 3 ฉายา โอโนกิผู้เหยียบเรือสองแคม ผู้มีสายเลือดคัดสรรที่สามารถควบรวมธาตุดิน ลม และไฟ เป็นผู้ใช้วิชานินจาคาถาธุลี โดยโอโนกิเป็นลูกศิษย์ของสึจิคาเงะ รุ่น 2 ที่สอนคาถาธุลีให้ ปัจจุบันได้เสียชีวิตแล้วในยุคโบรูโตะ
คุโรซึจิ (ญี่ปุ่น: 黒ツチ) เป็นหลานสาวของสึจิคาเงะรุ่นที่ 3 เป็นผู้มีขีดจำกัดทางสายเลือดที่ใช้คาถาหลอมละลาย (ไฟและดิน) ต่อมาได้เป็นสึจิคาเงะรุ่นที่ 4
อาคัตซึจิ (ญี่ปุ่น: 赤ツチ) เป็นผู้คุ้มกันสึจิคาเงะรุ่นที่ 3, 4
ทีมงู (蛇 อ่านว่า เฮบิ) ทีมเหยี่ยว (鷹 อ่านว่า ทากะ) หลังจากที่ ซาซึเกะจัดกาฆ่า โอโรจิมารุแล้ว ซาซึเกะ ได้มีการหาสมาชิกในทีม ประกอบด้วย ซุยเงสึ อดีตนินจาหมู่บ้านคิรินาคุเระ รุ่นน้องซาบุสะ ได้ใช้ดาบของซาบุสะ ซึ่งดาบนั้นจะสืบทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ได้รับการช่วยเหลือจากซาสึเกะจากห้องทดลองของโอโรจิมารุ จูโกะ นักโทษฐานลับทิศเหนือ สถานที่หลักในการทดลองของโอโรจิมารุ มาบำบัดเพื่อต้องการหยุดการกระหายที่จะฆ่า มีความสามารถแปลงสภาพเป็นคน โปรดของโอโรจิมารุ เป็นคู่ขาของคิมิมาโระ มีแค่คิมิมาโระที่สามารถหยุดจูโกะได้ ,คาริน เป็นนินจาลูกน้องโอโรจิมารุ ผู้คุมขังนักโทษ เป็นคนจงรักภักดีต่อโอโรจิมารุ โดยทุกคนเป็นขีดจำกัดสายเลือดหลังจากการชักชวนของซาสึเกะ เป้าหมายของทีมนี้ คือ ตามล่าหา อิทาจิ เพื่อฆ่าพอซาสึเกะทำสำเร็จได้ฟังความจริงจากโทบิ จึงใช้ชื่อทีมเหยี่ยวเป้าหมายใหม่คือทำลายโคโนฮะ เป้าหมายหลักคือ ฆ่าผู้อาวุโสในโคโนฮะเพื่อทราบความจริง แต่ได้รับภารกิจจากแสงอุษาคือล่าแปดหางพอหาได้ก็พักฟื้นให้หายดี จากนั้นไปโคโนฮะ แล้วแสงอุษามาบอกว่าภารกิจล้มเหลว กับดันโซเป็นโฮคาเงะ ทีมเหยี่ยวจึงไปงานประชุม 5 คาเงะเพื่อฆ่าดันโซ แต่ก็สู้กับพวกคาเงะจนซาสึเกะเจ็บหนัก ถูกโทบิช่วยไว้ คารินจึงพยายามรักษา ทางซุยเงสึกับจูโกะก็ปลอมตัวเป็นซามูไรก็ถูกจับ ทางซาสึเกะพอหายดีก็สู้กับดันโซแล้วถามเรื่องอิทาจิแล้วฆ่าทิ้ง พอทีม 7 รวมตัวกันโทบิพาซาสึเกะหนี คารินถูกทีม 7 จับไปโคโนฮะเพื่อให้ปากคำ ซาสึเกะจึงเปลี่ยนเนตรทันที แล้วพักฟื้น พอสงครามเริ่มขึ้น ซุยเงสึกับจูโกะก็แหกคุกกับไปรังลับของโอโรจิมารุที่เหลืออยู่ค้นพบคัมภีร์ลับ ทางซาสึเกะใช้พลังเนตรใหม่ฆ่าเซ็ตสึสีขาวตัวหลัก ไปสงครามกับถามเรื่องสงครามจากพวกเซ็ตสึสีขาว แล้วเจออิทาจิที่ถูกสัมปเวสีคืนชีพจึงตามเพื่อถามความจริงช่วยสู้กับคาบูโตะจนคลายคาถากับทราบความจริง แล้วซุยเงสึกับจูโกะมา ซาสึเกะจึงคืนชีพโอโรจิมารุ เพื่อไปเตรียมการเรียกโฮคาเงะทั้ง 4 ที่ตายไปออกมาเพื่อถามถึงเรื่องต่างๆ ซาสึเกะจึงเลือกไปสงครามเพื่อปกป้องสิ่งที่อิทาจิเหลือ แล้วคารินที่หนีออกมาก็ตามมาด้วย แล้วพอซาสึเกะถูกมาดาระแทงจนปางตายถูกคาบูโตะช่วยไว้ แล้วพอจบสงครามทีมเหยี่ยวสลายตัว โดยโอโรจิมารุนำสมาชิกทีมเหยี่ยวไปรังลับใหม่เพื่อการวิจัย ทางคาบูโตะก็กลับโคโนฮะเพื่อรับโทษกับทำหน้าที่ดูแลสถานรับเลี้ยงที่เติบโตมาสมัยเด็ก ทางซาสึเกะก็ออกเดินทางเพื่อรู้จักกับโลก
จูโกะ (ญี่ปุ่น: 重吾) ฉายา จูโกะผู้มีสองบุคลิก นักโทษฐานลับทิศเหนือ สถานที่หลักในการทดลองของโอโรจิมารุ มาบำบัดเพื่อต้องการหยุดการกระหายที่จะฆ่า มีความสามารถแปลงสภาพ เป็นต้นกำเนิดของอักขระสาป เคยช่วยชีวิตซาสึเกะตอนที่สู้กับคิลเลอร์บี แต่ตนเองก็กลับกลายเป็นเด็ก
โฮซึกิ ซุยเงสึ (ญี่ปุ่น: 鬼灯水月) เป็นน้องชายของ โฮซึกิ มันเงสึ ฉายา อสูรกายกลับชาติมาเกิดตัวที่สอง อดีตนินจาหมู่บ้านคิรินาคุเระ รุ่นน้องซาบุสะ ได้ใช้ดาบของซาบุสะ ซึ่งดาบนั้นจะสืบทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ได้รับการช่วยเหลือจากซาสึเกะจากห้องทดลองของโอโรจิมารุ และได้เข้าร่วมทีม "เหยี่ยว" ของซาสึเกะ เป้าหมายจัดการกับ อุจิวะ อิทาจิ ซุยเงสึจริงๆเกลียดทุกคนในกลุ่มของซาสึเกะ โดยเกลียดจูโกะมากสุด รองลงมาก็คาริน ตามด้วยซาสึเกะ ซุยเงสึเหมือนเป็นตัวถ่วงของทีมเหยี่ยว เพราะเป็นคนเหนื่อยง่าย และต้องมีน้ำระหว่างเดินทาง จึงมักถูกคารินเรียกว่า "กัปปะเดินดิน" และมีร่างกายเป็นน้ำ ชอบใช้วิชา ปืนน้ำ ของตระกูล โฮซึกิ
อุซึมากิ คาริน (ญี่ปุ่น: 香燐) เป็นนินจาลูกน้องโอโรจิมารุ ผู้คุมขังนักโทษ เป็นคนจงรักภักดีต่อโอโรจิมารุ เพราะก่อนหน้าที่เธอจะเข้ามาอยู่ในแคว้นโอโตะกับโอโรจิมารุ คารินอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังในแคว้นคุสะ ต่อมาแม่ของคาริน ก็ได้เสียชีวิตจากการถูกใช้งานในด้านการรักษาอย่างหนัก คารินจึงต้องมารับหน้าที่ต่อจากแม่ แต่สุดท้าย คารินก็ได้พบกับโอโรจิมารุและเข้าร่วมกับเขาในที่สุด หลังจากการชักชวนของซาสึเกะ ได้เข้าร่วมทีม"เหยียว" ของซาสึเกะ สามารถรับรู้จักระของผู้อื่นได้และสามารถรักษาบาดแผลคนอื่นได้ด้วยการกัดที่ร่างกายของคาริน คารินเคยชอบซาสึเกะมาก่อน แต่พอถูกซาสึเกะทำร้ายตอนสู้กับดันโซ ก็ครึ่งเกลียดครึ่งรักซาสึเกะ เป็นคนในตระกูลอุซึมากิ
ตระกูลนารา (奈良家, นะระเคะ) ตระกูลที่มีชื่อของวิชาควบคุมเงาของหมู่บ้านโคโนฮะ มีอาชีพเลี้ยงกวาง นำเขากวางมาทำยา ชิกา แปลว่า กวาง และมีคาถาที่สืบทอดกันมาคือ "คาถาเงาเลียนแบบ"
คำว่า นารา (奈良) มีที่มาจากชื่อของเมืองนารา
ตระกูลยามานากะ (山中家, ยะมะนะกะเคะ) ตระกูลที่มีวิชาการควบคุมร่างกายคนอื่นโดยการเข้าสิงหรือป่วนจิตให้ทำตามคำสั่งได้ของหมู่บ้านโคโนฮะ ด้วยความสามารถเหล่านี้จึงได้รับยกย่องให้เป็นหน่วยถอดรหัสแห่งหมู่บ้านโคโนฮะงาคุเระ ซึ่งมีหัวหน้าคือยามานากะ อิโนะอิจิ (พ่อของอิโนะนั่นเอง)
คำว่า ยะมะนะกะ (山中) มีความหมายว่า ท่ามกลางภูเขา
ตระกูลอาคิมิจิ (秋道一族, อะกิมิจิ อิจิโซกุ) ตระกูลหนึ่งในหมู่บ้านโคโนฮะ เป็น 1 ใน 4 ตระกูลชั้นนำแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ โดยในตระกูลมีความสามารถในการเปลี่ยนแคลอรีให้เป็นจักระได้
ชื่อ อะกิ (秋) แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งหมายถึงฤดูเก็บเกี่ยว และ มิจิ (道) หมายถึง ถนน
ตระกูลอินุซึกะ (犬塚家, อินึซึกะเกะ) ตระกูลที่ต่อสู้ร่วมกับสุนัขของหมู่บ้านโคโนฮะ
คำว่า อินึซึกะ (犬塚家) แปลว่าบ้านสุนัข
ตระกูลอะบุราเมะ ตระกูลผู้ใช้แมลงของหมู่บ้านโคโนฮะ เป็น 1 ใน 4 ตระกูลชั้นนำแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ คนที่เกิดในตระกูลจะทำสัญญากับแมลงให้ร่างกายตนเองเป็นรังให้แมลงและสามารถเรียกแมลงมาใช้งานได้รอบด้านแลกกับการให้แมลงกินจักระของตน ผู้ใหญ่ในตระกูลมักมีภาชนะพิเศษสำหรับกักเก็บแมลงเพิ่มขึ้น ตระกูลอะบุราเมะทุกคนจะใส่แว่นตาดำ (ว่ากันว่าคนตระกูลอะบุราเมะไม่มีดวงตา เบ้าตากลวงโบ๋เป็นทางออกให้แมลง)
คำว่า อะบุราเมะ (油女) มีความหมายว่า น้ำมันผู้หญิง
กลุ่มอุจิวะ (うちは一族, อุจิวะอิจิโซะกึ) หรือตระกูลอุจิวะ เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ตระกูลหนึ่งของหมู่บ้านโคโนฮะ เป็น 1 ใน 4 ตระกูลชั้นนำแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ เป็นตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจาก (โอซึซึกิ อินดรา) ลูกชายคนโตของเซียน6วิถีหรือ โอซึซึกิ ฮาโกโรโมะ ตระกูลอุจิวะเป็นผู้เชี่ยวชาญท่าไม้ตายเกี่ยวกับการใช้ไฟ และเป็นที่รู้จักกับนัยน์ตาพิเศษที่มีเฉพาะตระกูลอุจิวะเท่านั้นซึ่งก็คือ เนตรวงแหวน หลังจากที่คนในตระกูลอุจิวะถูกฆ่าล้างตระกูลโดย อุจิวะ อิทาจิ หนึ่งในผู้สืบสายเลือดของตระกูลอุจิวะ ซึ่งได้รับภารกิจมาจากหัวหน้าชั้นสูงของโคโนฮะ ผู้ที่รอดมาจากเหตุการณ์มีเพียงคนเดียวคือ อุจิวะ ซาสึเกะ ต้องการจะล้างแค้นให้ตระกูล
โดยแท้จริงตระกูลอุจิวะ เป็นตระกูลที่ถูกปีศาจสิง เพราะว่าไม่มีตระกูลไหนเก็บรักษาความรักได้มากเท่าตระกูลอุจิวะ ด้วยเหตุนั้นได้ผนึกสิ่งนั้นไป เมื่อคนในตระกูลอุจิวะได้รู้จักความรักเหมือนกับความรู้สึกที่ไม่อยากให้มี ได้ปลุกบางอย่างที่แข่งแกร่งกว่าตระกูลเซนจู ปัญหาที่ตามมาคือความรักกล้าแกร่งมากเกินไป จนทำให้คลั่ง เมื่ออุจิวะได้รู้ถึงความรักสูญเสียมันไป ความรักเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังที่กล้าแกร่งและเปลี่ยนคนนั้น เหมือนเป็นอาการบางอย่างเมื่ออุจิวะได้ทรมานหลังจางต้องสูญเสียคนรักหรือความสิ้นหวัง จักระพิเศษในสมองที่มีผลกับประสามตาก็จะแตกออกมาและทำให้ดวงตาเปลี่ยนไป คือดวงตาที่สะท้อนถึงความรู้สึก หรือ เนตรวงแหวน โดยเนตรวงแหวนเหมือนกับความู้สึกของคนที่จะทำให้คนนั้นแข่งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับความเกลียดชังในหัวใจ ในอุจิวะยังมีคนที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกเกือบทุกคนที่ได้พบกับความรู้สึกที่กล้าแกร่งได้ถูกความมืดมิดจับกุมและกลายเป็นปีศาจ ยิ่งมืดมิดมากเท่าไหร่เนตรก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้น มากจนรับมือไม่อยู่ ปัจจุบันมีคนในตระกูลที่เหลืออยู่ คือ อุจิวะ ซาสึเกะ , อุจิวะ ซากุระ , อุจิวะ ซาราดะ
ชื่อกลุ่มอุจิวะ (うちは) เป็นการเล่นคำกับคำว่า อุจิวะ (うちわ) ที่หมายถึง พัดกระดาษ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม โดยในสมัยญี่ปุ่นโบราณ พัดกระดาษมีใช้ประกอบในการตัดสินคดี และในการรบ ในปัจจุบันจะเห็นในการแข่งขันซูโม่ โดยกรรมการจะถือพัดกระดาษในการตัดสิน
ตระกูลฮิวงะ หรือ กลุ่มฮิวงะ (日向一族, ฮีวงะอิจิโซะกุ) หนึ่งในตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านโคโนฮะ เป็น 1 ใน 4 ตระกูลชั้นนำแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ โดยสืบเชื้อสายมาจาก โอซึซึกิ ฮามูระน้องชายของเซียน6วิถี เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นเป็นกลุ่มที่สืบทอดวิชาเนตรสีขาว โดยแบ่งแยกออกเป็นตระกูลหลักจะมีท่าน ฮิวงะ ฮิอาชิ ดูแลอยู่ และตระกูลสาขา ท่านฮิวงะ ฮิซาชิ ดูแลและยอมตายแทนพี่ชายและส่งศพไปให้แก่หมู่บ้านคุโมะ ทายาทของตระกูลสาขาก็คือ ฮิวงะ เนจิ จะถูกประทับอักขระปักษาในกรงซึ่งมีหน้าที่ต้องดูแลฮินาตะซึ่งเป็นตระกูลหลัก ในวันที่ทายาทตระกูลหลักก็คือ ฮิวงะ ฮินาตะ อายุได้ 3ปี สมาชิกตระกูลสาขาเป็นวิธีเพื่อป้องกันความลับของเนตรสีขาว ถ้าสมาชิกตระกูลสาขาทรยศตระกูลหลักหลักหรือถูกฆ่าในสงครามเพื่อการป้องกันไม่ให้ความสามารถเนตรสีขาวถูกศัตรูนำไปใช้ โดยที่อักขระจะกระตุ้นเพื่อทำลายความลับร่างเนื้อและดวงตาทั้งหมดเพื่อลดพลังเนตรสีขาวจนใช้ไม่ได้
คำว่า ฮิวงะ (日向) มีความหมายว่า สถานที่ที่มีแดด
ตระกูลคุรามะ เคยเป็นหนึ่งในตระกูลดังของหมู่บ้านโคโนฮะ โดยเป็นตระกูลที่เชี่ยวชาญคาถาลวงตา
ตระกูลเซนจู เป็นตระกูลที่มีความสามารถในการฟื้นฟูพลังแห่งชีวิต ต้นตระกูล เซนจูและ อุจิวะ คือเซียนเต๋าหรือเซียนหกวิถี โดยสืบเชื้อสายฝั่งลูกชายคนเล็กของเซียนเต๋าคือ โอซึซึกิ อาชูร่า ตระกูลของโฮคาเงะรุ่นที่ 1เซนจู ฮาชิรามะ รุ่น2 และรุ่นที่ 5 เซนจูซึนนาเดะ เคยต่อสู้กับอุจิวะ มาดาระมาครั้งหนึ่ง ซึ่งเป้าหมายของมาดาระตอนนั้นคือการเอาเซลส์ DNA ของรุ่นที่ 1 เพื่อปลูกถ่ายเพื่อให้มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูร่างกายรักษาอาการบาดเจ็บ
คำว่า เซนจู (千手) มีความหมายว่า พันมือ
ตระกูลอุซึมากิ โดยข้อมูลของตระกูลยังไม่แน่ชัดเป็นตระกูลที่มาจากหมู่บ้านน้ำวน ถนัดคาถาจำพวกสะกด,โซ่ผนึกสัตว์หาง ว่ากันว่าเป็นตระกูลที่มีจักระมหาศาล ส่วนใหญ่คนในตระกูลนี้จะเป็นร่างสถิตสัตว์หาง ปรากฏพบแล้วตั้งแต่ อุซึมากิ มิโตะภรรยาของท่านรุ่นที่ 1 และ อุซึมากิ คุชินะ แม่ของนารูโตะ จนมาถึง อุซึมากิ นารูโตะ, และ คนที่มาจากตระกูลอุซึมากิจะมีผมสีแดง มีความสามารถในการตรวจจับจักระ(คล้ายเรด้า) เหมือนจะพบอีกคนที่เปิดเผยข้อมูลตอนหลังคือ อุซึมากิ นางาโตะ (เพน หกวิถี) และเพิ่มเติมในเนื้อเรื่องคือคนที่อยู่ในเกาะที่ตอนที่ ไมโตะ ไก ถูกนกอัญเชิญจับไประหว่างที่ร่องเรืออยู่ แล้วอาโอบะได้ไปพบและได้ผนึกสัตย์อัญเชิญขั้นสุดท้ายจนเสียชีวิตไปด้วย ตระกูลอุซึมากิเป็นญาติห่างๆกับตระกูลเซ็นจู ปัจจุบันมีคนในตระกูลที่เหลืออยู่ คือ อุซึมากิ นารูโตะ , อุซึมากิ ฮินาตะ , อุซึมากิ โบรูโตะ , อุซึมากิ ฮิมาวาริ , คาริน
คำว่า อุซึมากิ (うずまき) มีความหมายว่า ขดเป็นเกลียว หรือ น้ำวน
ตระกูลซารุโทบิ ตระกูลของหมู่บ้านโคโนฮะ โดยมีคนในตระกูล คือ ซารุโทบิ ซาสึเกะ , ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น , ซารุโทบิ บิวาโกะ , ซารุโทบิ อาสึมะ , ซารุโทบิ โคโนฮะมารุ , ซารุโทบิ คุเรไน , ซารุโทบิ มิราอิ
ชื่อ ซารุ (猿) แปลว่า ลิง และ โทบิ (飛) แปลว่า การกระโดด
ตระกูลชิมูระ ตระกูลของหมู่บ้านโคโนฮะ โดยมีคนในตระกูล คือ ชิมูระ ดันโซ
ชื่อ ชิ (志) แปลว่า ความตั้งใจ และ มุระ (村) แปลว่า หมู่บ้าน
ตระกูลฮาตาเกะ ตระกูลของหมู่บ้านโคโนฮะ โดยมีคนในตระกูล คือ ฮาตาเกะ ซาคุโมะ , ฮาตาเกะ คาคาชิ
คำว่า ฮาตาเกะ (はたけ) มีความหมายว่า ไร่นา
ตระกูลลี ตระกูลของหมู่บ้านโคโนฮะ โดยมีคนในตระกูล คือ ร็อค ลี , เมทัล ลี
คำว่า ลี (リー) มีความหมายว่า ที่กำบัง
ตระกูลฟูมะ ตระกูลของหมู่บ้านโคโนฮะ และ หมู่บ้านโอโตะงาคุเระ โดยที่โคโนฮะทางตระกูลฟูมะได้รับสืบทอดหน้าที่ดูแลกรมตำรวจโคโนฮะแทนที่ตระกูลอุจิวะที่ล่มสลายไป
คำว่า ฟูมะ (ふうま) มีที่มาจากชื่อของดาวกระจายฟูมะ
ตระกูลคางูยะ ตระกูลขีดจำกัดสายเลือดที่ใช้กระดูกเป็นอาวุธ ชอบการต่อสู้จนถูกฆ่าตายจนเกือบหมด โดยมีคนในตระกูล คือ คิมิมาโร่
คำว่า คางูยะ (かぐや) มีที่มาจากชื่อของตำนานเจ้าหญิงคะงุยะ
ตระกูลคามิซึรุ ตระกูลผู้ใช้แมลงของหมู่บ้านอิวะงาคุเระ
คำว่า คามิซึรุ (上水流) มีความหมายว่า การไหลของน้ำ
ตระกูลสึจิคุโมะ ตระกูลในหมู่บ้านสึจิคุโมะที่มีวิชาลับต้องห้ามที่สามารถเผาไหม้หมู่บ้านได้
คำว่า สึจิคุโมะ (土蜘蛛) มีความหมายว่า ปีศาจแมงมุม
ตระกูลโอซึซึกิ ตระกูลโบราณที่สร้างโลกนินจาขึ้นมา เป็นตระกูลผู้ครอบครองขีดจำกัดสายเลือดหลายแบบ เช่น เนตรสีขาว, เนตรวงแหวน, เนตรสังสาระ, เนตรจุติ, คาถาไม้ เป็นตระกูลที่ลึกลับ โดยคนในตระกูลบางส่วนอาศัยอยู่บนดวงจันทร์ แต่ก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าแท้จริงแล้วต้นตระกูลโอซึซึกินั้นมาจากที่ใด
คำว่า โอซึซึกิ (大筒木) มีความหมายว่า ต้นไม้ใหญ่
ตระกูลโฮซึกิ ตระกูลของหมู่บ้านคิริงาคุเระ โดยมีคนในตระกูล คือ โฮซึกิ เก็นเงสึ , โฮซึกิ มันเงสึ , โฮซึกิ ซุยเงสึ
คำว่า โฮซึกิ (鬼灯) มีความหมายว่า ต้นโคมไฟจีน
ตระกูลโยซึกิ ตระกูลของหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ
คำว่า โยซึกิ (夜月) มีความหมายว่า ดวงจันทร์กลางคืน
ตระกูลชิโนะอิเกะ ตระกูลขีดจำกัดสายเลือดของหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ สามารถใช้เนตรโลหิตมังกรและเลือดเป็นอาวุธ
คำว่า ชิโนะอิเกะ (血之池) มีความหมายว่า บ่อเลือด
ตระกูลยูกิ ตระกูลขีดจำกัดสายเลือดของหมู่บ้านคิริงาคุเระ สามารถใช้คาถาน้ำแข็งได้ โดยมีคนในตระกูล คือ ฮาคุ
คำว่า ยูกิ (雪) มีความหมายว่า หิมะ
ตระกูลคาราตาจิ ตระกูลของหมู่บ้านคิริงาคุเระ โดยมีคนในตระกูล คือ คาราตาจิ ยางุระ
คำว่า คาราตาจิ (枸橘) มีความหมายว่า ส้มสามใบ
ตระกูลโฮชิงากิ ตระกูลของหมู่บ้านคิริงาคุเระ โดยมีคนในตระกูล คือ โฮชิงากิ คิซาเมะ
คำว่า โฮชิงากิ (干柿) มีความหมายว่า ลูกพลับ
ตระกูลฟุนาโตะ ตระกูลโจรสลัดของแคว้นแห่งน้ำ โดยมีคนในตระกูล คือ ฟุนาโตะ อะราอุมิ
คำว่า ฟุนาโตะ (舟戸) มีความหมายว่า พร้อมกับเรือ
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.