เจนนิเฟอร์ โลเปซ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจนนิเฟอร์ ลินน์ แอฟเฟล็ก (อังกฤษ: Jennifer Lynn Affleck) นามสกุลก่อนแต่งงานคือ โลเปซ (อังกฤษ: Lopez) เกิดวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 เป็นนักร้อง, นักแต่งเพลง, นักแสดงและนักธุรกิจชาวอเมริกัน เจ้าของเพลงดังอย่าง "If You Had My Love", "Jenny From The Block" , "I'm Real" และ "On The Floor " เป็นต้น ซึ่งผลงานอัลบั้มที่ผ่านมาของเธอทำยอดขายได้กว่า 80 ล้านก๊อบปี้ทั่วโลก และภาพยนตร์ที่รายได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์[1]
เจนนิเฟอร์ โลเปซ | |
---|---|
โลเปซใน ค.ศ. 2019 | |
เกิด | เจนนิเฟอร์ ลินน์ โลเปซ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 นครนิวยอร์ก สหรัฐ |
ชื่ออื่น |
|
อาชีพ |
|
ปีปฏิบัติงาน | ค.ศ. 1986–ปัจจุบัน |
คู่สมรส |
|
บุตร | 2 คน |
ญาติ | ลินดา โลเปซ (น้องสาว) |
อาชีพทางดนตรี | |
แนวเพลง | |
เครื่องดนตรี | เสียงร้อง |
ค่ายเพลง | |
เว็บไซต์ | jenniferlopez |
ลายมือชื่อ | |
เจนนิเฟอร์เกิดในครอบครัวชาวปวยร์โตรีโก เธอเป็นลูกสาวคนกลางในพี่น้องทั้งหมดสามคน โดยมีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ เลสลี โลเปซ (Leslie Lopez) และน้องสาวหนึ่งคนชื่อ ลินดา โลเปซ (Lynda Lopez) ปัจจุบันมีอาชีพเป็นนักข่าว เจนนิเฟอร์ได้เรียนร้องเพลงและเต้นรำตั้งแต่เธออายุเพียง 5 ปี ได้ตระเวนร่ำเรียนการเต้นไปทั่วนครนิวยอร์ก จนเมื่อเธออายุ 16 ปี เจนนิเฟอร์ได้หยุดการเรียนเต้นช่วงสั้น ๆ เพื่อไปแสดงภาพยนตร์เรื่อง "My Little Girl"
เธอได้ทำงานพาร์ทไทม์ ในสำนักงานกฎหมายแห่งหนี่ง ระหว่างนั้น เธอยังคงเรียนเต้นรำ และหารายได้ในการทำงานในผับตอนกลางคืน เธอเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเต้นในรายการโทรทัศน์ "In Living Color" หลังจากนั้นเธอก็ได้ปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอเพลง "That's the Way Love Goes" ของศิลปินสาวชื่อดัง เจเน็ต แจ็กสัน
เธอได้ก้าวสู่บทบาทการแสดงครั้งแรก โดยได้เป็นนักแสดงบนจอโทรทัศน์ครั้งแรก ในซีรีส์เรื่อง "South Central" และต่อมาเธอได้ปรากฏตัวอีกครั้งบนจอแก้วในบทบาทของเมลินดา โลเปซ (Melinda Lopez) ในซีรีส์เรื่อง "Second Chances" ในปี พ.ศ. 2536 ต่อมาก็แสดงในเรื่อง "Hotel Malibu" ในปี พ.ศ. 2538 เจนนิเฟอร์ได้ทะยานสู่จอเงินในบทบาทดารานำเป็นครั้งแรก ในเรื่อง "Money Train" ต่อมาเธอได้รับบทเป็น เซเลนา ในภาพยนตร์ชีวประวัติของดาราดัง “เซเลนา ควินตานิลลา เปเรซ” (Selena Quintanilla Perez) ในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เจนนิเฟอร์กลายเป็นนักแสดงเชื้อสายลาตินอเมริกาที่มีค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
ในปี พ.ศ. 2542 เจนนิเฟอร์ ได้เซ็นสัญญากับโซนี มิวสิก (Sony Music) ในการทำอัลบั้มแรกที่ชื่อว่า "On The 6" ซิงเกิลแรก "If You Had My Love" ได้พุ่งขึ้นสู่อันดับหนึ่งในบิลบอร์ดชาร์ต และได้เป็นอัลบั้มทองคำขาว ซึ่งมียอดขายหนึ่งล้านแผ่น และมีเพลง Top10 อย่าง "Waiting for Tonight"
อัลบั้มถัดมานี้มีชื่ออย่างเหมาะสมว่า “เจโล” (J. Lo) ซึ่งออกมาในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2544 เพลง "Love Don't Cost A Thing" ซิงเกิลแรกในอัลบั้มที่สองของเธอ ได้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งในสหราชอาณาจักร ส่วนตัวอัลบั้มอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์แรกที่วางขาย ตามด้วยซิงเกิล "Play" ส่วน 2 ซิงเกิลถัดมา "I'm Real" และ "Ain't It Funny" ได้ถูกรีมิกซ์ใหม่ โดย Murder Inc. ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาทั้ง 2 เพลง หลังจากนั้นไม่นานเธอได้ออกอัลบั้มรวมเพลงรีมิกซ์ที่ชื่อว่า “เจ ทู ธา แอล-โอ !” (J to tha L-O!) ได้ออกมาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ทบิลบอร์ดอัลบั้ม ถือเป็นอัลบั้มรีมิกซ์อัลบั้มแรกที่ขึ้นอันดับ 1 ได้
อัลบั้มที่ 3 "This Is Me...Then" ซึ่งออกซิงเกิลฮิตที่ชื่อว่า "Jenny From the Block" ไต่ชาร์ทสูงสุดที่อันดับ 3 เจนนิเฟอร์ได้มีความรักอย่างลึกซึ้งกับนักแสดงและผู้เขียนบทภาพยนตร์รางวัลออสการ์ เบน แอฟเฟล็ก โดยได้ปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ด้วย ซิงเกิลต่อมา "All I Have" ร่วมงานกับ LL Cool J ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาเป็นซิงเกิลที่ 4 ของเธอ ทางด้านการแสดงเธอได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง “จีลี่” (Gigli) กับเบน แอฟเฟล็กในปี พ.ศ. 2546 ทั้งสองได้หมั้นหมายกันในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 แต่การหมั้นหมายครั้งนี้ได้ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม พ.ศ. 2547
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2547 เจนนิเฟอร์ได้เข้าพิธีแต่งงานอย่างสายฟ้าแลบกับมาร์ก แอนโทนี และเริ่มงานของเธอใหม่อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น จึงเกิดผลงานในอัลบั้มที่สี่ที่ชื่อว่า "Rebirth" ซิงเกิลเปิดตัวของอัลบั้มนี้มีชื่อว่า "Get Right" ตามมาด้วยผลงานด้านภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น เรื่อง "Jersey Girl" ใน พ.ศ. 2546 และเรื่อง "Shall we Dance?" ใน พ.ศ. 2547 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เจนนิเฟอร์ และไมเคิล วาร์แทน ได้อยู่ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์แนวโรแมนติค คอมมิวดี เรื่อง "Monster-In-Law" ในลอสแอนเจลิส ทางด้านผลงานเพลงเธอได้ร่วมงานกับ LL Cool J ในเพลง "Control Myself" ขึ้นอันดับ 4 ในอเมริกา และ อันดับ 2 ในอังกฤษ นอกจากนั้นเธอยังได้ออกผลิตภัณฑ์น้ำหอม "Glow", "Stll" และ "Miami Glow" และเธอยังออกเสื้อผ้าในชื่อ "Sweetface"
ในปี พ.ศ. 2550 เธอได้ออกอัลบั้มภาษาสเปนเป็นครั้งแรกกับอัลบั้ม "Como Ama una Mujer" ที่สามารถขึ้นชาร์ท Billboard Latin Album Chart ที่อันดับ 1 และในปีเดียวกันเธอออกสตูดิโออัลบั้มภาษาอังกฤษอัลบั้มที่ 6 ที่ชื่อว่า "Brave" ในอัลบั้มนี้เจนนิเฟอร์ยังได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ฝีมือดีอย่าง J.R. Rotem, Ryan Tedder, Middi Mafia และ Bloodshy อีกด้วย โดยมีเพลง Do It Well เป็นซิงเกิลแรก[2]
ในปี พ.ศ. 2553 เธอมีผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ชื่อว่า "The Back-Up Plan" ซึ่งรับบทเป็น "โซอิ" ต่อมาเธอได้ออก ซิงเกิลชื่อว่า "Louboutins" ซึ่งเธอเปิดตัวเพลงนี้ที่งานประกาศรางวัล American Music Awards 2010 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีมากในโชว์ครั้งนี้ แต่เรื่องที่แฟนเพลงต้องสับสนก็คือ เธอได้หมดสัญญากับค่าย Sony Music และไม่มีการต่อสัญญา โดยได้กล่าวว่า "Jennifer had a wonderful relationship with the Sony Music Group, and they have shared many successes together, but the time was right to make a change that best serves the direction of her career as an actress and recording artist, she is grateful and appreciative to everyone at Sony for all that they accomplished together" และหลังจากนั้นเธอได้ย้ายมาอยู่กับค่าย Island Def Jam Records แต่อัลบั้มใหม่ของเธอที่ชื่อว่า "Love?" ก็ยังไม่ได้ยุบโครงการไป ซึ่งเธอได้บอกว่าจะมีอัลบั้มนี้แน่นอนและจะมีเพลงเพิ่มขึ้นกับบ้านหลังใหม่อีกด้วย โดยมีซิงเกิลแรกคือ On The Floor ที่กลายเป็นลายเซ็นของเธอในเวลาอต่อมาที่เป็นเแนวเพลง Hip-Hop Pop ทำให้เจนกลับมาให้ฐานะศิลปินที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกครั้ง และตามมาด้วยซิงเกิลที่ I'm into you และ Papi
โลเปซแต่งงานครั้งแรกกับ โอฮานิ โนอา (Ojani Noa) พนักงานเสิร์ฟและอดีตนายแบบหนุ่มชาวคิวบา เมื่อวันที่ 22 กุมพาพันธ์ ค.ศ. 1997 และหย่าร้างในวันที่ 1 มคราคม ค.ศ. 1998 เนื่องจากโนอาถูกห้ามไม่ให้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการแต่งงานของพวกเขา จึงต้องจดทะเบียนหย่ากัน เธอแต่งงานครั้งที่ 2 กับ คริส จัดด์ (Cris Judd) อดีตนักเต้นสำรองเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2000 และหย่าร้างในเดือนมิถุนายน 2002 เนื่องจากความไม่เห็นตรงกัน
หลังจากหย่ากับจัดด์แล้ว โลเปซมีความสัมพันธ์กับนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) ตั้งแต่กลางปี 2002 ถึงต้นปี 2004 ทั้งคู่เคยแสดงร่วมกันในภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอเมดีเรื่อง Gigli (2003)
โลเปซแต่งงานครั้งที่ 3 กับ มาร์ค แอนโทนี เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2004 และมีบุตรด้วยกัน 2 คนซึ่งเป็นฝาแฝดชายหญิงได้แก่ เอ็มมี และ แม็กซิลเลียน แอนโทนี (Emme & Maxillian Anthony) ซึ่งเกิดในเดือนกุมพาพันธ์ ค.ศ. 2008 และในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2011 ทั้งคู่ได้ประกาศแยกทางการ แอนโธนีฟ้องหย่าในเดือนเมษายน ค.ศ. 2012 และได้ข้อสรุปในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 โลเปซยังดูแลร่างกายเบื้องต้นของบุตรฝาแฝดทั้ง 2 คน โดยเธอจะให้เอ็มมี ลูกสาวของเธอแสดงคอนเสิร์ตในชั่วคราว
โลเปซมีความสัมพันธ์กับอดีตนักเบสบอล อเล็กซ์ ร็อดริเกซ ในเดือนกุมพาพันธ์ ค.ศ. 2017 ทั้งคู่ได้หมั้นการในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 แต่เลื่อนการแต่งงานไปสองครั้งเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 และเลิกกันในปีค.ศ. 2021 แต่ยังคงเป็นเพื่อนสนิทกัน
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2021 เธอกับแอฟเฟล็กได้คบหาอีกครั้ง หลายปีหลังจากเลิกราทั้งหมด 20 ปี เธอกับแอฟเฟล็กพูดถึงชีวิตของขวัญแห่งโอกาสครั้งที่สองระหว่างที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2022 โลเปซประกาศการต่อสู้กับชีวิตรักครั้งที่สอง 20 ปีหลังจากข้อเสนอครั้งแรก พวกเขาแต่งงานกันที่ลาสเวกัสเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 ซึ่งเป็นการแต่งงานครั้งที่ 4 ของเธอ ส่วนแอฟเฟล็กแต่งงานครั้งที่ 2 หลังจากหย่ากับ นักแสดงหญิง เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ เมื่อปีค.ศ. 2018 เดือนต่อมาพวกเขาจัดงานฉลองงานแต่งงานสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูง
โลเปซยังเป็นแฟนคลับฟุตบอลพันธุ์แท้และสนับสนุนให้กับ สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด ทีมฟุตบอลที่เธอชื่นชอบ
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.