กะทู้ เป็นอำเภอหนึ่งในสามอำเภอของจังหวัดภูเก็ต
อำเภอกะทู้ | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Kathu |
คำขวัญ: ขุนเขาโอบล้อม เพียบพร้อมวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ ขบวนแห่กินผัก อนุรักษ์ประเพณี | |
แผนที่จังหวัดภูเก็ต เน้นอำเภอกะทู้ | |
พิกัด: 7°54′32″N 98°19′59″E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ภูเก็ต |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 67.09 ตร.กม. (25.90 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2565[1]) | |
• ทั้งหมด | 57,125 คน |
• ความหนาแน่น | 851.65 คน/ตร.กม. (2,205.8 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 83120, 83150 (เฉพาะตำบลป่าตองและตำบลกมลา) |
รหัสภูมิศาสตร์ | 8302 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอกะทู้ เลขที่ 51/16 ถนนวิชิตสงคราม ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต 83120 |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอกะทู้มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอถลาง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองภูเก็ต
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเมืองภูเก็ต
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับทะเลอันดามัน
ที่มาของชื่อ
อำเภอกะทู้สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า "กราบาตู" แปลว่า อ่าวหิน แล้วหดลงเป็น "กราตู" แล้วเป็น "กราทู" "กระทู" และ"กะทู" ตามลำดับ ในใบบอกเรื่องการปราบอั้งยี่ของหมื่นเสมอใจราช (พระยามนตรีสุริยวงศ์ ชื่น บุนนาค) พ.ศ. 2419 ก็เขียนว่า "กะทู" แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น กะทู้ เพื่อให้มีความหมายในภาษาไทย และคำนี้ก็อาจจะมาจากคำว่า "กราซาตู" แปลว่า อ่าวที่หนึ่ง ก็ได้
บ้างก็ว่าชื่อดังกล่าวมาจากภาษาจีนคำว่า ล่ายทู, ไล่ทู หรือไนทู[2]
ประวัติ
เมื่อศัตรูเข้าโจมตีเมืองถลางแตกในปี พ.ศ. 2352 พญาถลางเจ๊ะมะเจิมได้ย้ายเมืองถลางจากบ้านเคียน (ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง) มาตั้งที่ทำการอยู่ที่บ้านท่าเรือ (ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง) แล้ว บุตรชายคือพญาวิชิตสงคราม (แก้ว) ไปเป็นเจ้าเมืองภูเก็ตอยู่ที่บ้านเก็ตโฮ่ (ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้) พระยาวิชิตสงคราม (ทัด) ย้ายเมืองภูเก็ตไปตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งคาปากคลองบางใหญ่ เพื่อเป็นคลังแร่ดีบุกที่ขนย้ายมาจากเมืองภูเก็จที่เก็ตโฮ่และส่งไปต่างประเทศจากท่าเรือที่สะพานหิน เมืองภูเก็จที่เก็ตโฮ่เป็นลานแร่ดีบุกที่ต้องใช้กุลีจำนวนมากเพราะเหมืองแร่พัฒนาจากเหมืองบ่อไปเป็นเหมืองหาบ กุลีชาวจีนฮกเกี้ยนจึงเข้ามามากในสมัยรัชกาลที่ 4 - 5 เมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงปรับปรุงระบบราชการ ได้แบ่งเมืองภูเก็จไปเป็นอำเภอทุ่งคาและเมืองภูเก็จบ้านเก็ตโฮ่เป็นอำเภอกะทู้
ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2481 อำเภอนี้ถูกลดฐานะไปเป็นกิ่งอำเภอ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอเมืองภูเก็ต[3] ต่อมาจึงเลื่อนขั้นเป็นอำเภออีกครั้งในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2502[4]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีเหตุการณ์แก๊งอั้งยี่จีน 2 กลุ่มถูกฆ่าที่นี่ โดยแก๊งเมืองภูเก็ตล่อให้แก๊งกะทู้มากินที่นี่ แล้วใช้โอกาสนี้ยึดทรัพย์สินและเผาพวกเขาทั้งเป็น โดยมีคนถูกฆ่า 413 คนและมีผู้รอดชีวิตแค่คนเดียว ปัจจุบัน มีศาลเจ้าที่อุทิศแด่พวกเขาที่มีชื่อว่า ต่องย่องสู (จีน: 忠勇祠; พินอิน: zhōngyǒng cí)[5]
ประชากร
ประชากรในอำเภอกะทู้ มีหลายชาติพันธุ์ มีชาวจีนกลุ่มต่าง ๆ อาศัยอยู่จำนวนมาก ชาวจีนกวางตุ้ง ไหหลำ ฮกเกี้ยน เปอรานากัน (Peranakan) โดยส่วนมากเป็นชาวจีนฮกเกี้ยน และเปอรานากัน ที่มาปักหลักฐานอยู่เมื่อสมัยเหมืองแร่ดีบุก และยังมีชาวมอญ ที่อาศัยอยู่บริเวณป่าตองแต่มีจำนวนน้อยกว่าชาวจีน
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอกะทู้แบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน ได้แก่
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอกะทู้ประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลเมืองป่าตอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลป่าตองทั้งตำบล
- เทศบาลเมืองกะทู้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกะทู้ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกมลาทั้งตำบล
ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว
- ศาลเจ้ากะทู้ (ไลทูเต๊าบูเก๊ง) มีเลาเอี๋ยเป็นเทพประธานประจำศาลเจ้า เป็นศาลเจ้าแรกที่ประกอบพิธีการกินผัก (เจี๊ยะฉ่าย) มาก่อน 180 ปี
- น้ำตกกะทู้ ไหลจากเขาหว้าซึ่งเป็นควนเขาสูงอันดับที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต
- พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ เปิดในวันทำการราชการแสดงนิทรรศการการทำเหมืองแร่ เก็บถาวร 2010-08-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนเหมืองรู เหมืองปล่อง เหมืองแล่น เหมืองหาบ เหมืองสูบ-ฉีด เหมืองเรือขุด มีแร่ดีบุก โลหะดีบุก แทนทาลัม และวิถีชีวิตของชาวกะทู้
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.