สิบสามอาณานิคม

กลุ่มสิบสามอาณานิคมอเมริกาเหนือของบริเตนใหญ่ ปัจจุบันคือสหรัฐ (ค.ศ. 1607–1776) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สิบสามอาณานิคม

สิบสามอาณานิคม (อังกฤษ: Thirteen Colonies) เป็นกลุ่มอาณานิคมของบริเตนบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกในทวีปอเมริกาเหนือในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 เมื่อความคับค้องใจของชาวอาณานิคมที่มีต่อรัฐบาลบริเตนนำไปสู่การรวมตัวกันของอาณานิคมทั้ง 13 ใน ค.ศ. 1774 และสามารถขับไล่เจ้าอาณานิคมออกไปได้อย่างเป็นทางการเมื่อ ค.ศ. 1775 ตัวแทนจากสิบสามอาณานิคมร่วมจัดการประชุมสภาภาคพื้นทวีปครั้งที่สอง (Second Continental Congress) ณ เมืองฟิลาเดลเฟีย โดยที่ประชุมได้แต่งตั้งจอร์จ วอชิงตัน เป็นผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพภาคพื้นทวีป (Continental Army) เพื่อต่อสู้ในสงครามปฏิวัติอเมริกา และจากนั้นใน ค.ศ. 1776 สภาภาคพื้นทวีปจึงได้ออกคำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐอเมริกา การที่กองทัพภาคพื้นทวีปสามารถเอาชนะกองทัพอังกฤษได้ด้วยความช่วยเหลือฝรั่งเศส ทำให้สิบสามอาณานิคมได้รับอำนาจอธิปไตยในสนธิสัญญาปารีสที่ลงนามเมื่อ ค.ศ. 1783

ข้อมูลเบื้องต้น สิบสามอาณานิคม, สถานะ ...
สิบสามอาณานิคม

ค.ศ. 1607–1776
Thumb
Thumb
Thumb
สิบสามอาณานิคม (สีแดง) เมื่อ ค.ศ. 1775
เทียบกับพรมแดนสมัยใหม่
สถานะอาณานิคม
การปกครองระบบการจัดการอาณานิคม
พระมหากษัตริย์ 
 ค.ศ. 1607–1625
พระเจ้าเจมส์ที่ 1 และ 6 (พระองค์แรก)
 ค.ศ. 1760–1776
พระเจ้าจอร์จที่ 3 (พระองค์สุดท้าย)
ประวัติศาสตร์ 
 อาณานิคมโรอาโนก
ค.ศ. 1585
ค.ศ. 1607
 นิวอิงแลนด์
ค.ศ. 1620
 พระบรมราชานุญาตโรดไอแลนด์
ค.ศ. 1663
 มอบนิวเนเธอร์แลนด์ให้แก่อังกฤษ
ค.ศ. 1667
ค.ศ. 1713
 มณฑลจอร์เจีย
ค.ศ. 1732
ค.ศ. 1754–1763
 บทบัญญัติสันนิบาต
ค.ศ. 1774
ค.ศ. 1776
ค.ศ. 1783
ประชากร
 ค.ศ. 1625
1,980 คน[1]
 ค.ศ. 1775
2,400,000 คน[1]
ก่อนหน้า
ถัดไป
อเมริกาเหนือก่อนยุคอาณานิคม
นิวเนเธอร์แลนด์
สหอาณานิคม
ปิด

สิบสามอาณานิคมเป็นการรวมกันของกลุ่มอาณานิคมดั้งเดิม ได้แก่ อาณานิคมนิวอิงแลนด์ (นิวแฮมป์เชอร์ แมสซาชูเซตส์ โรดไอแลนด์ และคอนเนทิคัต) อาณานิคมตอนกลาง (นิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ เพนซิลเวเนีย และเดลาแวร์) และอาณานิคมตอนใต้ (แมริแลนด์ เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา เซาท์แคโรไลนา และจอร์เจีย)[2] อาณานิคมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของบริติชอเมริกา ซึ่งยังรวมถึงดินแดนในลัสฟลอริดัส (Las Floridas) แคริบเบียน และพื้นที่ประเทศแคนาดาในปัจจุบัน[3]

สิบสามอาณานิคมมีระบบการเมือง รัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่คล้ายคลึงกัน และแต่ละอาณานิคมจะอยู่ในการปกครองของชนอังกฤษโปรเตสแตนต์โดยส่วนใหญ่ อาณานิคมเวอร์จิเนียเป็นอาณานิคมแรก ซึ่งจัดตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1607 ณ เมืองเจมส์ทาวน์ อาณานิคมนิวอิงแลนด์ แมริแลนด์ และเพนซิลเวเนียนั้นจัดตั้งขึ้นด้วยแรงจูงใจจากความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางศาสนา ส่วนอาณานิคมอื่น ๆ ได้ก่อตั้งขึ้นจากจุดประสงค์ทางธุรกิจและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ สำหรับอาณานิคมตอนกลางก่อตั้งขึ้นบนพื้นที่อาณานิคมนิวเนเธอร์แลนด์เดิม

ในระหว่าง ค.ศ. 1625 ถึง ค.ศ. 1775 ประชากรในอาณานิคมเติบโตขึ้นจาก 2 พันคน เป็น 2.4 ล้านคน ส่งผลให้เกิดการขับไล่กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกัน ประชากรทั้งหมดนั้นรวมถึงบุคคลในระบบทาส ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องถูกกฎหมายในอาณานิคมทั้งหมด ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 รัฐบาลบริเตนได้ดำเนินนโยบายพาณิชยนิยมสำหรับการบริหารอาณานิคม เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรเท่านั้น

สิบสามอาณานิคมต่างมีระบบการปกครองตนเองในระดับสูงและการเลือกตั้งที่เข้มแข็ง[a] และสิ่งเหล่านี้ต่อต้านความต้องการของรัฐบาลลอนดอนในการควบคุมมากขึ้น ด้วยสงครามฝรั่งเศสและอินเดีย (ค.ศ. 1754–1763) ที่รบกับฝรั่งเศสและพันธมิตรอินเดียส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่างสหราชอาณาจักรและสิบสามอาณานิคมลุกลามเป็นวงกว้าง ในช่วงทศวรรษ 1750 อาณานิคมต่าง ๆ เริ่มร่วมมือกันแทนที่จะประสานโดยตรงกับรัฐบาลบริเตน จากความช่วยเหลือของหนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ ทำให้กิจกรรมและข้อกังวลระหว่างอาณานิคมเหล่านี้ได้รับการแบ่งปันและนำไปสู่การเรียกร้องให้คุ้มครองสิทธิในฐานะชาวอังกฤษของชาวอาณานิคม โดยเฉพาะหลักการ "ห้ามจัดเก็บภาษีหากไม่มีผู้แทน"

ความตึงเครียดกับรัฐบาลบริเตนในเรื่องการจัดเก็บภาษีและสิทธินำไปสู่การปฏิวัติอเมริกา ซึ่งอาณานิคมทั้งหมดร่วมมือกันจัดตั้งสภาภาคพื้นทวีปและกองทัพภาคพื้นทวีป และร่วมต่อสู้ในสงครามปฏิวัติอเมริกา (ค.ศ. 1775–1783) พร้อมด้วยความช่วยเหลือจากราชอาณาจักรฝรั่งเศส สาธารณรัฐดัตช์ และราชอาณาจักรสเปน[6]

เชิงอรรถ

  1. ไม่มีอาณานิคมใดมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั่วไป มีการจำกัดการออกเสียง ซึ่งให้เฉพาะบุรุษผู้มั่งคั่งที่เป็นอิสระ ซึ่งวัดจากจำนวนทรัพย์สินหรือขอบเขตของภาษีที่จ่าย การออกเสียงไม่นับรวมชนชั้นแรงงาน ผู้หญิง ทาส และชนพื้นเมืองอเมริกัน (ชาวอินเดีย)[4] ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละอาณานิคมมีการสอบทางศาสนาที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับในสหราชอาณาจักร ซึ่งใช้เกณฑ์สำหรับการมีส่วนร่วมในรัฐบาล[5]

อ้างอิง

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.