Remove ads
นักฟุตบอลชาวสเปน จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อันเดร์ เอร์เรรา อากูเอรา (สเปน: Ander Herrera Agüera; เกิด 28 เมษายน ค.ศ. 1989) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับอัตเลติกเดบิลบาโอ สโมสรในลาลิกา และทีมชาติสเปน
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | อันเดร์ เอร์เรรา อากูเอรา | ||
วันเกิด | 14 สิงหาคม ค.ศ. 1989 | ||
สถานที่เกิด | บิลบาโอ สเปน | ||
ส่วนสูง | 1.82 เมตร (6 ฟุต 0 นิ้ว)[1] | ||
ตำแหน่ง | กองกลาง | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | อัตเลติกเดบิลบาโอ | ||
หมายเลข | 21 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
2001–2008 | เรอัลซาราโกซา | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2008–2009 | เรอัลซาราโกซา เบ | 10 | (2) |
2009–2011 | เรอัลซาราโกซา | 82 | (6) |
2011–2014 | อัตเลติกเดบิลบาโอ | 94 | (7) |
2014–2019 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 132 | (12) |
2019–2023 | ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง | 58 | (5) |
2022– | → อัตเลติกเดบิลบาโอ | 36 | (0) |
ทีมชาติ‡ | |||
2009 | สเปน อายุไม่เกิน 20 ปี | 10 | (3) |
2009–2011 | สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี | 15 | (4) |
2012 | สเปน อายุไม่เกิน 23 ปี | 5 | (0) |
2016–2017 | สเปน | 2 | (0) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16:17, 29 สิงหาคม ค.ศ. 2022 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 21:56, 28 มีนาคม ค.ศ. 2017 (UTC) |
ชีวิตการค้าแข้งในวงการฟุตบอลสเปนของเอร์เรรา เริ่มต้นจากเรอัลซาราโกซา โดยเขาลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ไป 41 นัด และช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลาลิกา ในปี 2009
สองปีต่อมาเอร์เรราย้ายไปค้าแข้งให้กับอัตเลติกเดบิลบาโอ ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดด้วยค่าตัวตามการรายงานอยู่ที่ 6.6 ล้านปอนด์ กับสามประสานในแดนกลางที่ทรงประสิทธิภาพประกอบด้วยโอสการ์ เด มาร์โกส และอันเดร์ อิตูร์รัสเป เอร์เรรากลายเป็นกุญแจสำคัญของทีม และสร้างชื่อในวงการฟุตบอลสเปนกับยุโรปอย่างรวดเร็ว อันที่จริงแล้ว ในฤดูกาลแรกของเขากับบิลบาโอ (2011/2012) ภายใต้ผลงานอันยอดเยี่ยมของมาร์เซโล บิเอลซา ที่เป็นผู้จัดการทีม ต้นสังกัดของเขาคว้ารองแชมป์ยูโรปาลีกและโกปาเดลเรย์ไปครอบครอง อัตเลติกเดบิลบาโอโค่นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตกรอบในเส้นทางการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันยูโรปาลีก โดยเอาชนะได้ทั้งเกมเหย้าและเยือนเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 เอร์เรราเป็นดาวเด่นที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ให้กับทีมที่ทรงพลังของบิเอลซ่า ซึ่งลงเล่นทั้งหมด 86 นาที พร้อมแอสซิสต์ให้เด มาร์โกสยิงหนึ่งลูก หลังได้ประจักษ์ความพ่ายแพ้ครั้งที่สองในการแข่งขันที่ซานมาเมส จนอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ในเวลานั้นต้องออกมายอมรับว่า อัตเลติกเดบิลบาโอเป็นทีมที่ขยันแข็งแกร่งกว่าทุก ๆ ทีมที่เคยเห็นในยุโรป
ในปี ค.ศ. 2014 สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ซื้อเอร์เรรามาด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์จากอัตเลติกเดบิลบาโอ เขาได้ลงสนามให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดบ้างและต้องตกเป็นตัวสำรองบ้าง แต่หลังจากที่เอร์เรราจับจังหวะการเล่นได้ในช่วงปีใหม่ เขาก็ไม่เคยมองย้อนกลับหลังอีกเลย เอร์เรรามีจุดเด่นในเรื่องความคิดอันรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างชาญฉลาด เช่นเดียวกับการจ่ายบอล เขายังคงเป็นสินทรัพย์ล้ำค่าในเกมรับ โดยกล้าที่จะเข้าปะทะ แต่ก็ฉลาดมากพอสำหรับการดักบอลในจังหวะสำคัญ
การขึ้นเกมรุกคือสิ่งที่น่าประทับใจของเอร์เรราในฤดูกาลแรก โดยยิงไป 8 ประตู รวมถึงลูกวอลเลย์ตามน้ำในเกมเอฟเอคัพกับโยวิล เขาได้ลงสนามตลอดช่วงสามเดือนหลังสุดของฤดูกาล และเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทัพปีศาจแดงจบอันดับสี่ คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ลีกในซีซั่น 2015/2016 เขายังเป็นคนยิงประตูในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลซึ่งเสมอกับอาร์เซนอล 1-1 ถือเป็นฟันเฟืองเครื่องจักรยูไนเต็ดอย่างแท้จริง
ในฤดูกาลที่สองกับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เอร์เรราแสดงให้เห็นสัญญาณการเป็นนักฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และปรับตัวเข้ากับรูปแบบการเล่นที่เน้นใช้ร่างกาย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเล่นที่ประเทศอังกฤษ
แม้เขาจะได้ลงสนามอย่างไม่ต่อเนื่อง แต่เขาก็ยังสามารถออกเริ่มต้น 27 นัด ในทุก ๆ รายการการแข่งขัน บวกกับตัวสำรองอีก 14 เกม เขายิงไป 5 ประตู รวมทั้งหนึ่งในเกมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของฤดูกาล ซึ่งบุกเอาชนะเอฟเวอร์ตันเมื่อเดือนตุลาคม นอกจากการยิงประตูที่สองให้กับทัพปีศาจแดง ณ สนามกูดิสันพาร์กแล้วเขายังผ่านบอลให้เวย์น รูนีย์ยิงลูกที่สาม และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในนัดดังกล่าว
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าจดจำของกองกลางชาวสเปนคือการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น ซึ่งยูไนเต็ดคว้าชัยเหนืออาร์เซนอล 3-2 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด โดยเขาเป็นผู้ยิงประตูชัยจากนอกกรอบเขตโทษ เอร์เรราใส่สกอร์ในเกมชนะลิเวอร์พูล (3-1, ในบ้าน), กลึบบรึคเคอ กาเฟ ในแชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือก (4-0, เยือน) และมิดยึลลันในยูโรปาลีก (5-1, ในบ้าน) นอกจากนี้เอร์เรรายังได้แอสซิสต์อีก 2 ประตูสุดสำคัญในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกำลังตามหลังเวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-0 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ จนกระทั่งได้ประตูตีเสมอจากอ็องตอนี มาร์ซียาล การประสานงานของคู่ขาสเปน-ฝรั่งเศส ได้ผลอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศกับเอฟเวอร์ตัน
แม้เขาจะเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกส่งลงสนามในรอบชิงชนะเลิศ เขายังได้รับเหรียญรางวัลและให้สัมภาษณ์เผยว่ "นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งเคยเกิดขึ้นในอาชีพการค้าแข้งของผม" อย่างไรก็แล้วแต่ ฤดูกาลที่สามของกองกลางเลือดกระทิงดุกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งก็คือฤดูกาล 2016/2017 ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดจนถึงปัจจุบัน เขาได้รับการลงคะแนนให้เป็นผู้เล่นแห่งปีเซอร์แมตต์ บัสบี โดยลงประจำการในตำแหน่งกองกลางตัวพักบอลเป็นส่วนใหญ่ ฟอร์มที่โดดเด่นที่สุดเกิดขึ้นในการแข่งขันกับทีมว่าที่ผู้ชนะเลิศอย่างเชลซี จากการตามประกบเอแดน อาซาร์อยู่หมัด แอสซิสต์ให้มาร์คัส แรชฟอร์ดหลุดไปยิง และเป็นคนทำประตูลูกที่สอง หากจะกล่าวถึงเรื่องการถูกเรียกติดไปรับใช้ทีมชาติ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากราฟชีวิตของเอร์เรรานั้นกำลังรุ่ง
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | ลีกคัพ | ยุโรป | อื่น ๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
เรอัลซาราโกซา เบ | 2008–09 | Tercera División | 10 | 2 | — | — | — | — | 10 | 2 | ||||
เรอัลซาราโกซา | 2008–09 | เซกุนดาดิบิซิออน | 19 | 2 | 0 | 0 | — | — | — | 19 | 2 | |||
2009–10 | ลาลิกา | 30 | 2 | 2 | 0 | — | — | — | 32 | 2 | ||||
2010–11 | ลาลิกา | 33 | 2 | 2 | 0 | — | — | — | 35 | 2 | ||||
รวม | 82 | 6 | 4 | 0 | — | — | — | 86 | 6 | |||||
อัตเลติกเดบิลบาโอ | 2011–12 | ลาลิกา | 32 | 1 | 9 | 2 | — | 13 | 1 | — | 54 | 4 | ||
2012–13 | ลาลิกา | 29 | 1 | 2 | 0 | — | 4 | 1 | — | 35 | 2 | |||
2013–14 | ลาลิกา | 33 | 5 | 6 | 0 | — | — | — | 39 | 5 | ||||
รวม | 94 | 7 | 17 | 2 | — | 17 | 2 | — | 128 | 11 | ||||
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 2014–15 | พรีเมียร์ลีก | 26 | 6 | 5 | 2 | 0 | 0 | — | — | 31 | 8 | ||
2015–16 | พรีเมียร์ลีก | 27 | 3 | 6 | 0 | 1 | 0 | 7 | 2 | — | 41 | 5 | ||
2016–17 | พรีเมียร์ลีก | 31 | 1 | 3 | 0 | 6 | 1 | 9 | 0 | 1 | 0 | 50 | 2 | |
2017–18 | พรีเมียร์ลีก | 26 | 0 | 4 | 2 | 2 | 0 | 6 | 0 | 1 | 0 | 39 | 2 | |
2018–19 | พรีเมียร์ลีก | 22 | 2 | 3 | 1 | 1 | 0 | 2 | 0 | — | 28 | 3 | ||
รวม | 132 | 12 | 21 | 5 | 10 | 1 | 24 | 2 | 2 | 0 | 189 | 20 | ||
รวมทั้งหมด | 318 | 27 | 42 | 7 | 10 | 1 | 41 | 4 | 2 | 0 | 413 | 39 |
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
สเปน
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.