อันเดรย์ เซียร์เกเยวิช อาร์ชาวิน (รัสเซีย: Андрей Сергеевич Аршавин, Andrei Sergeyevich Arshavin) อาร์ชาวินเป็นอดีตนักฟุตบอลชาวยูเครน ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอลในพรีเมียร์ลีก ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009 หลังจากเล่นให้กับเซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์กในรัสเซียนพรีเมียร์ลีก หลังจากหมดสัญญาในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2013 และกลับมาเซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์กอีกครั้ง อาร์ชาวินเป็นนักเตะที่เล่นได้ทั้งกองหน้าและกองกลาง
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | อันเดรย์ เซียร์เกเยวิช อาร์ชาวิน | ||
วันเกิด | 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1981 | ||
สถานที่เกิด | เลนินกราด, สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตรัสเซีย, สหภาพโซเวียต | ||
ส่วนสูง | 1.73 m (5 ft 8 in)[1] | ||
ตำแหน่ง | กองกลางตัวรุก,กองหน้าตัวต่ำ,ปีก | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1988–2000 | เซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1999–2000 | เซนิต-2 เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก | 56 | (7) |
1999–2009 | เซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก | 238 | (51) |
2009–2013 | อาร์เซนอล | 105 | (23) |
2012 | → เซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก (ยืมตัว) | 10 | (3) |
2013–2015 | เซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก | 35 | (3) |
2015–2016 | คูบาน คราสโนดาร์ | 8 | (0) |
2016–2018 | ไครัต | 84 | (24) |
รวม | 536 | (111) | |
ทีมชาติ‡ | |||
2001–2003 | ยูเครน อายุไม่เกิน 21 ปี | 9 | (1) |
2002–2012 | ยูเครน | 75 | (7) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2018 |
ประวัติ
อันเดรย์ อาร์ชาวินเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 ที่เมืองเลนินกราด สหภาพโซเวียต (ปัจจุบันคือเมืองเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก ประเทศรัสเซีย)
ฟุตบอลสโมสร
อาร์ชาวินเริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอล โดยเข้าศึกษาที่โรงเรียนสอนฟุตบอลสเมนา (Smena) ในปี พ.ศ. 2542 จากนั้นสโมสรฟุตบอลเซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์กได้เรียกตัวเข้าสู่สโมสรฟุตบอลเซนิตฟาร์ม ซึ่งเป็นทีมชุดสำรองของเซนิตเมื่อต้นปี พ.ศ. 2543 โดยลงสนามกับทีมชุดใหญ่เป็นนัดแรกในการแข่งขันฟุตบอลอินเตอร์โตโตคัพประจำฤดูกาลเดียวกันนั้น ที่ไปเยือนแบรดฟอร์ด ซึ่งเซนิตชนะ 3-0 และได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลด้วย
จากนั้น อาร์ชาวินเป็นแชมป์ร่วมกับเซนิตในรายการต่าง ๆ ดังนี้ รัสเซียพรีเมียร์ลีกคัพประจำฤดูกาล พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003), พรีเมียร์ลีกรัสเซียประจำฤดูกาล พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) และได้แชมป์ถึง 2 รายการ คือ ยูฟ่าคัพและรัสเซียซูเปอร์คัพในฤดูกาล พ.ศ. 2551 (ค.ศ. 2008) ทั้งนี้ ในการแข่งขันฟุตบอลรัสเซียพรีเมียร์ลีกฤดูกาล พ.ศ. 2550 ที่เซนิตคว้าแชมป์ อาร์ชาวินลงสนามเป็นผู้เล่น 11 คนแรก ทั้ง 30 นัด ทำได้ 10 ประตู และเป็นผู้ส่งบอลในการทำประตู (Assist) 11 ครั้ง
ต่อมา ในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน ดิค อัดโวคาท ผู้จัดการทีมเซนิต ประกาศว่า อาร์ชาวินต้องการย้ายสโมสร[2] จากนั้นก็มีข่าวตามมาว่าอาร์ชาวินไม่ยอมลงสนามช่วยเซนิต ในเกมรัสเซียนคัพ ที่เซนิตจะต้องบุกไปเยือนซีเบียร์ โนโวซีเบียรส์ และเซนิตแพ้ออกมาด้วยสกอร์ 0-1 ยิ่งทำให้กระแสการย้ายทีมของอาร์ชาวินเด่นชัดขึ้น จนกระทั่งมีสโมสรฟุตบอลหลายสโมสร ทั้ง บาร์เซโลนา[3], นิวคาสเซิลยูไนเต็ด[4], เชลซี[5], แมนเชสเตอร์ซิตี, อินเตอร์มิลาน[6], อาร์เซนอล และเอฟเวอร์ตัน[7] สนใจดึงตัวอาร์ชาวินมาร่วมทีม แต่สื่อมวลชนก็คาดหมายว่า บาร์ซาเป็นทีมที่ได้เปรียบมากที่สุด จากการที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า ตนชื่นชอบทีมนี้มาตั้งแต่เด็ก[8] แม้ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550 เขาจะยังให้ความสนใจข้อเสนอจากนิวคาสเซิล[9]ก็ตาม
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 อาร์ชาวินตกลงเงื่อนไขกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลได้สำเร็จ ได้รับหมายเลข 23 บนเสื้อ[10] โดยมีค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 825 ล้านบาท[11]
ในกลางเดือนเมษายน ปีเดียวกัน อาร์ชาวินสามารถแสดงให้เห็นถึงความเป็นสุดยอดกองหน้าระดับโลก ด้วยการยิงเพียงคนเดียวถึง 4 ลูก ในนัดที่อาร์เซนอลไปเยือนสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ ซึ่งผลการแข่งขันออกมาเสมอกัน 4-4[12]
แต่ต่อมาในฤดูกาล 2011-2012 อาร์ชาวินกลับมีฟอร์มการเล่นไม่ดีเหมือนอย่างที่เคย ทางอาร์เซนอลจึงตัดสินใจปล่อยตัวแบบยืมให้กลับไปยังสโมสรฟุตบอลเซนิตเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก อันเป็นต้นสังกัดเดิมจนจบฤดูกาล[13]
ฤดูกาล 2012-2013 อาร์ชาวิน แทบไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้อาร์เซนอลเลย และถูกปล่อยตัวออกจากทีมหลังหมดสัญญา ในเดือนมิถุนายน 2556 อาร์ชาวินจึงย้ายกลับมาเล่นให้กับเซนิต อีกครั้ง
ฟุตบอลทีมชาติ
อาร์ชาวินติดทีมชาติครั้งแรกในนัดที่ทีมชาติรัสเซียพบกับเบลารุส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) และทำประตูแรกได้ในนัดกระชับมิตรกับโรมาเนียเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) ทั้งนี้ อาร์ชาวินได้รับตำแหน่งกัปตันทีมครั้งแรกในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 (ยูโร 2008) รอบคัดเลือกกับเอสโตเนีย
กุส ฮิดดิงก์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติรัสเซีย ประกาศชื่ออาร์ชาวินให้เข้าร่วมฟุตบอลยูโร 2008 รอบ 16 ทีมสุดท้าย[14] แม้จะติดโทษห้ามแข่งขัน 2 นัด[15] แต่เมื่อได้ลงสนามเป็นนัดแรกในนัดสุดท้ายของรอบ 16 ทีมที่รัสเซียพบกับสวีเดน ก็เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยทีมให้เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งรัสเซียสามารถชนะเนเธอร์แลนด์ได้ 3-1 โดยอาร์ชาวินทำได้ 1 ประตู และส่งบอลให้ดมีตรี ตอร์บินสกี ยิงได้อีก 1 ประตู
ทั้งนี้ อาร์ชาวินยังได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำนัดแข่งขัน (แมนออฟเดอะแมตช์) ทั้งสองนัดด้วย แต่รัสเซียก็พ่ายให้กับสเปนในรอบรองชนะเลิศเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ก่อนที่สเปนจะขึ้นเป็นแชมป์ของทัวร์นาเมนต์นี้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม อาร์ชาวินยังได้รับตำแหน่งกองหน้าในทีมยอดเยี่ยมของยูโร 2008 ที่ยูฟ่าประกาศหลังจากจบการแข่งขันด้วย[16]
ในระหว่างการแข่งขันยูโร 2008 อาร์ชาวินได้รับคำชื่นชมถึงฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม จากบุคคลสำคัญในวงการฟุตบอลยุโรปหลายคน เช่น ฮิดดิงก์[17], อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล[18], ซีเนดีน ซีดาน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส[19][20], เซร์คีโอ ราโมส กองหลังทีมชาติสเปนของเรอัลมาดริด[21], แอนดี ร็อกซ์เบิร์ก ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของยูฟ่า[22] เป็นต้น
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.